ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 179 พบหน้า
“เธออยู่เฉยๆ ไม่อย่างนั้นมีดของฉันคงจะอยู่ไม่สุขแน่” มีดที่อยู่ในมือของเจ้าแผลเป็นจ่ออยู่ที่ลำคอของถังโจวโจว หากถังโจวโจวขยับตัวแค่เพียงนิดเดียว ลำคอขาวราวหิมะนั้นคงจะเกิดรอยเลือดขึ้นเป็นแน่
ถังโจวโจวพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ฉันยังรักตัวเองอยู่ ฉันจะเชื่อฟังพวกนายเป็นอย่างดี ขอแค่พวกนายปล่อยฉันไปตามตกลง” และเมื่อถังโจวโจวเห็นว่าพวกเขายังไม่ได้ลงมือทำอะไร เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจพวกเขา
ผู้คนในโลกล้วนมีความทุกข์ทรมานเป็นของตัวเอง และเธอก็พยายามหาหนทางให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างดีภายใต้ความสามารถของเธอ หลังจากการหยั่งเชิงเมื่อครู่นี้ ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่าเจ้าแผลเป็นและพวกพ้องไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเธอพอมีทางรอด
ลั่วอิงถูกชายคนหนึ่งอุ้มไปที่ประตูใหญ่ ถังโจวโจวมองตามเธอไปอย่างไม่วางตา ส่วนลั่วอิงก็ยังคงผล็อยหลับอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าด้วยแววตาที่ถังโจวโจวมองมานั้นสื่อถึงความรู้สึกในใจรุนแรงมากเกินไปหรือเปล่า เธอจึงพยายามเปิดตาขึ้น พร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “แม่โจวโจว…”
ถังโจวโจวเข้าใจในสิ่งที่เธอคิด จึงส่งยิ้มไปให้เธอ “ลั่วอิงเด็กดี อีกเดี๋ยวหนูก็จะได้กลับบ้านแล้วนะ แม่โจวโจวไม่ผิดสัญญาแน่นอน แม่จะอยู่ข้างๆ หนูเอง”
เมื่อได้ยินคำสัญญาของถังโจวโจว ในที่สุดลั่วอิงก็ผล็อยหลับไปอย่างวางใจ เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นถูกสุมไว้ด้วยกองไฟ แต่เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเอ่ยขออะไรได้ เจ้าตัวเล็กอย่างเธอเข้าใจดี ไม่ว่าเธอจะเอ่ยขออะไรออกไป เธอจะต้องรู้ว่ามันจะไม่สร้างความลำบากให้แก่ถังโจวโจว
“นี่! เบามือหน่อยสิ ลูกสาวฉันยังไม่หายดีนะ!” ถังโจวโจวกลัวว่าสัมผัสหยาบกระด้างของชายเหล่านี้จะทำให้ลั่วอิงรู้สึกไม่สบายตัว
เมื่อคนที่อุ้มลั่วอิงอยู่หวนนึกถึงเงินที่ถังโจวโจวรับประกันว่าจะให้ เขาก็ไม่ได้หัวเราะเยาะความกังวลของถังโจวโจว เขาค่อยๆ หมุนมือด้านล่างและให้ลั่วอิงพิงอยู่บนอกเขา และเมื่อถังโจวโจวเห็นเช่นนั้น เธอก็วางใจที่หนักอึ้งของเธอลง
ลั่วเซ่าเชินและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านนอกโรงงานเห็นว่าประตูใหญ่ถูกเปิดออกแล้ว จากนั้นก็มีใครบางคนเดินออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะอุ้มเด็กตัวเล็กๆ มาด้วย ลั่วเซ่าเชินเพ่งมองอย่างใจเต้น แล้วเขาก็พบว่านั่นคือลั่วอิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวขาออกไปด้านหน้า แต่แล้วก็ต้องชะงักไป
“อย่าขยับ! ไม่อย่างนั้นผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าภรรยาและลูกของคุณจะปลอดภัย” ลั่วเซ่าเชินหยุดเท้าที่จะก้าวออกไปข้างหน้าในทันที ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจับจ้องไปที่ชายคนที่อุ้มลั่วอิงออกมา
เขาเว้นระยะห่างจากลั่วเซ่าเชินสิบเมตรและกวาดตามองตำรวจที่อยู่โดยรอบ ก่อนจะพูดออกมาว่า “ผอ. ลั่ว ถ้าคุณมีสัจจะ คุณก็บอกให้ตำรวจพวกนี้กลับไปซะ!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างลั่วเซ่าเชินรีบเอ่ยเตือนเขาในทันที “ผอ. ครับ คุณอย่าไปหลงเชื่อคำพูดของคนพวกนั้น ถึงตอนนั้นชีวิตของคุณผู้หญิงกับคุณหนูอาจจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้”
เขาไม่รู้ว่าลั่วเซ่าเชินได้ยินในสิ่งที่เขาพูดไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงค่อนข้างร้อนใจ ผู้การท่านกำชับลงมาว่า ครั้งนี้คุณผู้หญิงและคุณหนูแห่งลั่วกรุ๊ปถูกลักพาตัวไป ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร พวกเขาก็ต้องพาพวกเธอกลับมาให้ได้
“ผอ. ลั่วจะลังเลก็ไม่แปลก เพียงแต่ผมจะขอเตือนท่านเอาไว้สักอย่าง พี่ใหญ่ของเราไม่ได้มีเวลาให้ท่านผอ. ผลาญมากนัก เกรงว่าคุณผู้หญิงเองก็จะรอไม่ไหวเหมือนกัน”
“ได้ ผมจะบอกให้พวกเขากลับไป หากพวกคุณยอมปล่อยพวกเธอออกมา ผมก็จะให้พวกคุณทุกอย่างตามที่ต้องการ” ลั่วเซ่าเชินไม่เห็นถังโจวโจว เขาจึงมั่นใจว่าเธอถูกจับตัวไว้ด้านในอย่างแน่นอน หากด้านนอกเกิดการเคลื่อนไหว ชีวิตของถังโจวโจวก็ไม่อาจจะรักษาเอาไว้ได้
ลั่วเซ่าเชินไม่สามารถเอาเธอมาเสี่ยงได้ ลั่วอิงเองก็ยังอยู่ในมือของพวกเขา เขาเชื่อว่าเมื่อคนเหล่านี้อยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ พวกเขาจะไม่มานั่งเถียงกันเรื่องศีลธรรมหรอก
“ผู้กำกับหลี่ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ แต่ตอนนี้ภรรยาและลูกของผมยังอยู่ในกำมือของพวกเขา ผมคงต้องขอให้พวกคุณกลับไปก่อน เมื่อพวกเธอปลอดภัย ผมจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไปให้ที่โรงพัก”
เดิมทีผู้กำกับหลี่ก็ไม่อยากล่าถอยออกไป แต่ลั่วเซ่าเชินอธิบายออกมาหมดแล้ว หากเขายังสั่งให้คนของเขาตรึงกำลังอยู่ที่นี่ ก็จะดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจความปลอดภัยของถังโจวโจวและลั่วอิง “ท่านผอ. ครับ ถ้าให้ลูกน้องผมล่าถอยออกไป แม้แต่ความปลอดภัยของคุณก็ไม่อาจรับประกันได้”
“ไม่เป็นไรครับ ผู้กำกับหลี่ หากพวกคุณไม่ถอย ผมเชื่อว่าคนพวกนั้นก็จะไม่มีทางปล่อยพวกเธอออกมาอย่างแน่นอนเหมือนกัน” ลั่วเซ่าเชินเห็นทางสว่าง เพียงแค่เติมเต็มความต้องการของพวกเขา แค่นี้ถังโจวโจวและลั่วอิงก็จะกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย เขาแค่กลัวว่าคนเหล่านี้จะขายจิตวิญญาณให้กับคนอื่น ก็เลยพุ่งเป้ามาที่เขา
เมื่อผู้กำกับหลี่เห็นว่าลั่วเซ่าเชินตัดสินใจแล้ว เขาก็จำต้องส่งสัญญาณมือ ครู่หนึ่งเสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้น ตำรวจทั้งหมดได้ล่าถอยออกไปนอกพื้นที่แล้ว ดังนั้นในที่นี้จึงมีแค่เพียงลั่วเซ่าเชินและชายชุดดำอีกจำนวนหนึ่ง
“ผอ. ลั่ว ตามผมมา” ลูกน้องส่งลั่วอิงให้กับลั่วเซ่าเชิน จากนั้นก็ทำท่าผายมือเชิญเขา
เมื่อลั่วเซ่าเชินรับลั่วอิงมา เขาก็พบว่าร่างกายของเธอนั้นร้อนระอุ “ลั่วอิง ลูกรักของพ่อ เป็นอะไรไป” เขาเรียกลั่วอิงเท่าไรก็ไม่ตื่น ลั่วเซ่าเชินอังฝ่ามือลงบนหน้าผากของเธอ แล้วเขาก็พบว่าอุณหภูมิของร่างกายลั่วอิงนั้นสูงจนน่าตกใจ
“หวังหวา รีบพาคุณหนูไปส่งโรงพยาบาล เรื่องทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ท่านผอ. ครับ แต่ว่า…”
“นี่คือคำสั่ง!” ลั่วเซ่าเชินกำชับเสียงเข้ม หวังหวาจึงทำได้แค่เพียงก้มหน้าลง “ครับ ท่านผอ. หากทางนี้มีปัญหาอะไร ท่านโทรหาผมได้เลยนะครับ ผมจะส่งคนมาที่นี่ทันที”
หวังหวารับลั่วอิงมาอุ้มไว้อย่างเบามือ เขาวางเธอไว้บนรถ ก่อนจะขับรถออกไปจากสถานที่อันห่างไกลจากตัวเมืองแห่งนี้ และเมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นว่าลั่วอิงปลอดภัยแล้ว เขาก็ก้าวเดินเข้าไปในโรงงาน
บอดี้การ์ดเดินตามหลังเขามาติดๆ ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็พบว่ามีชายที่มีแผลเป็นและพวกพ้องอีกจำนวนหนึ่งกำลังยืนรอเขาอยู่ด้านใน ถังโจวโจวยืนอยู่ด้านหน้าของชายที่มีแผลเป็น เธอถูกมัดไว้ด้วยเชือก ถังโจวโจวบุ่มบ่ามมากเกินไป เมื่อเธอได้เห็นลั่วเซ่าเชิน เธอก็ก้าวขาออกไปด้านหน้า แต่เธอก็ต้องชะงักลงเมื่อลั่วเซ่าเชินเอ่ยห้าม
ลั่วเซ่าเชินรีบพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “โจวโจว คุณยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ผมมาแล้ว วางใจได้”
ถังโจวโจวพยักหน้าอย่างสุดชีวิต เธอรู้ว่าเธอหุนหันพลันแล่น แต่อะไรที่เกี่ยวข้องกับลั่วอิง แม้รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องหลอกลวง เธอก็จะยอมทุกอย่าง แลกกับความเป็นไปได้แค่เสี้ยวเดียว
“พวกคุณต้องการอะไร ตอนนี้สามารถตั้งเงื่อนไขมาได้เลย” ลั่วเซ่าเชินมองไปยังคนที่เป็นหัวหน้า และเมื่อเจ้าแผลเป็นเห็นว่าลั่วเซ่าเชินไม่กลัวเขาเลยสักนิด เขาก็แอบนับถือผู้ชายคนนี้อยู่ในใจ
“ผอ. ลั่ว เรามันแค่คนหาเช้ากินค่ำ คุณแค่เตรียมเงินสิบล้านหยวนไว้ให้เรา จากนั้นก็ปล่อยให้เราออกไปอย่างปลอดภัย เท่านี้คุณผู้หญิงก็สามารถกลับไปหาคุณได้แล้ว” เจ้าแผลเป็นพูดออกมาอย่างง่ายดาย
‘เขาต้องการสิบล้านหยวน!’ ถังโจวโจวสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกหนึ่ง
เจ้าแผลเป็นรีบก้มหน้าลงกระซิบกับถังโจวโจว “หรือคุณผู้หญิงลั่วคิดว่าตัวเองไม่มีค่ามากพอสำหรับเงินก้อนนี้”
เขาทำท่าราวกับต้องการจะเอามีดแทงคอเธอจริงๆ ถังโจวโจวรีบส่ายหน้า “เปล่าหรอก เปล่า” เธอแค่ตกใจก็เท่านั้น
ลั่วเซ่าเชินไม่มัวเสียเวลาคิด “โอเค ผมรับปาก ขอแค่คุณปล่อยเธอ” เงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ขอเพียงแค่ถังโจวโจวและลั่วอิงปลอดภัย ไม่ว่าจะให้เขาจ่ายสักเท่าไร เขาก็ยอม
เจ้าแผลเป็นลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าลั่วเซ่าเชินยอมรับปากง่ายๆ แบบนี้ เรียกต่ำไปหรือเปล่านะ? แต่เจ้าแผลเป็นก็ตั้งสติกลับมาได้ “ผอ. ลั่ว รีบสั่งให้คนของคุณโอนเงินเข้าไปในบัญชีพวกนี้ บัญชีละล้านหยวน ส่วนที่เหลือก็ขอเป็นเงินสด ผมต้องได้เห็นเงินนั่นภายในหนึ่งชั่วโมง”
เจ้าแผลเป็นสั่งให้ลูกน้องเอากระดาษแผ่นหนึ่งมาส่งให้เขา บนนั้นเขียนเลขบัญชีเอาไว้เจ็ดบัญชี ลั่วเซ่าเชินรีบต่อสายหาลูซี่ เขากำชับให้เธอส่งคนไปโอนเงินในทันที ลูซี่ไม่ได้ถามอะไรมาก เธอลงมือทำมันเดี๋ยวนั้นเลย
หลังจากลูซี่จัดการตามคำสั่งของลั่วเซ่าเชินแล้ว เธอก็รีบโทรกลับมาในทันที จากนั้นลั่วเซ่าเชินก็สั่งให้เธอเตรียมเงินสดเอาไว้สามล้านหยวนและมาส่งที่นี่เร็วที่สุด
“โอนเงินเข้าไปในบัญชีแล้ว คุณลองตรวจสอบดูได้” เจ้าแผลเป็นมองไปยังชายหนุ่มที่สวมแว่นที่ยืนอยู่ข้างเขา และเมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้าเบาๆ สีหน้าและท่าทางของเจ้าแผลเป็นก็ไม่ได้เย็นเยียบเหมือนก่อนหน้านี้
“ผอ. ลั่วจัดการเรื่องนี้ได้รวดเร็วทันใจเหลือเกิน ขอแค่ได้เห็นเงินส่วนที่เหลือ และผอ. ก็ต้องรับปากว่าจะไม่เอาเรื่อง แค่นี้คุณผู้หญิงก็สามารถกลับไปกับคุณได้อย่างปลอดแล้ว”
ลั่วเซ่าเชินมองเจ้าแผลเป็นอย่างเฉยเมย “ตอนนี้เงินส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือของคุณแล้ว ให้ผมคุยกับภรรยาของผมสักหน่อยจะได้ไหม”
ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเจ้าแผลเป็นมองดูนายของมันด้วยสายตาไม่ไว้ใจลั่วเซ่าเชิน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรกับคำขอกะทันหันของลั่วเซ่าเชิน แต่หลังจากเจ้าแผลเป็นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตอบตกลง “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญท่านผอ. แต่คนของท่านจะต้องออกไปข้างนอก”
“พวกนายออกไปก่อน” ลั่วเซ่าเชินหันไปพูดกับเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง เหล่าบอดี้การ์ดลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมออกไปในที่สุด
เมื่อเจ้าแผลเป็นเห็นว่าในนี้มีแต่คนของเขา เขาก็ผลักถังโจวโจวเข้าไปหาลั่วเซ่าเชิน นอกจากนี้เขายังสั่งให้คนปิดประตูใหญ่และเฝ้าเอาไว้ด้วย
ถังโจวโจวถูกมัดเอาไว้ เธอจึงไม่สามารถพยุงตัวเองเอาไว้ได้ เธอเซล้มลงไปด้านหน้า โชคดีที่ลั่วเซ่าเชินรับเธอไว้ได้ทัน “โจวโจว คุณบาดเจ็บตรงไหนไหม”
ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าถึงแม้ใบหน้าของถังโจวโจวจะซีดเผือด แต่เขาก็ยังดูออกว่าสติสัมปชัญญะของเธอยังคงแจ่มใสอยู่ เธอน่าจะไม่ได้ถูกบีบบังคับอะไรมาก
“เซ่าเชิน ฉันไม่เป็นไร ลั่วอิงล่ะคะ” เมื่อลั่วเซ่าเชินจับประคองถังโจวโจวจนยืนได้มั่นคงแล้ว คนแรกที่เธอเป็นห่วงก็คือลั่วอิง
“ปลอดภัยดี ผมให้หวังหวาพาลั่วอิงไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว ลูกจะต้องไม่เป็นอะไร” ลั่วเซ่าเชินรีบปลอบใจถังโจวโจว เดิมทีลั่วเซ่าเชินอยากจะแก้มัดให้ถังโจวโจว แต่ถังโจวโจวปฏิเสธ
“เซ่าเชิน ไม่เป็นไร คุณเองก็เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรฉัน แต่ฉันว่าต้องมีใครสักคนที่บงการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง”
“เอาเถอะ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งเป็นห่วงเรื่องนั้น รอให้ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
แน่นอนว่าลั่วเซ่าเชินเองก็รู้ว่ามีคนบงการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง เพราะดูจากท่าทางของชายที่มีแผลเป็นแล้ว เขาน่าจะไม่ใช่คนชั่วร้าย เพราะเขามีท่าทีลังเลใจอยู่ตลอดเรื่องจะปล่อยหรือไม่ปล่อยตัวประกันไป และนั่นคือวิธีที่ทำให้ลั่วเซ่าเชินหาจุดอ่อนของเขาเจอ
เจ้าแผลเป็นไม่ได้ส่งคนมาคอยจับตาดูพวกเขาไว้ ลั่วเซ่าเชินพูดคุยกับถังโจวโจวแค่สองสามคำ จากนั้นเขาก็กอดเธอเอาไว้และรอให้ลูซี่ส่งคนนำเงินสดมาให้
ประมาณหนึ่งชั่วโมงให้หลัง ด้านนอกก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นมา เจ้าแผลเป็นสะบัดหน้าสั่งให้ลูกน้องคนหนึ่งออกไปสังเกตการณ์
ลูกน้องคนนั้นกลับมารายงาน “นาย คนส่งเงินมาแล้ว เป็นผู้หญิงแต่งตัวทะมัดทะแมง”
เมื่อถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินได้ยินดังนั้น พวกเขาก็รู้ว่าลูซี่มาถึงแล้ว ลั่วเซ่าเชินจึงรีบพูดว่า “เธอคือเลขาฯ ของผมเอง ลูซี่ พวกคุณส่งคนออกไปรับเงินได้เลย จากนั้นผมจะทิ้งรถตู้ไว้ให้พวกคุณ แบบนี้พวกคุณคงจะวางใจได้แล้วใช่ไหม”
เจ้าแผลเป็นเห็นว่าลั่วเซ่าเชินไม่ได้เล่นตุกติกอะไร ความจริงแล้วเขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ หากลั่วเซ่าเชินอยากจะคิดบัญชีกับเขาขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้ และนอกจากนี้คนที่บ้านก็กำลังรอให้พวกเขากลับไป “เอายังไงดีครับนาย จะทำตามที่เขาบอกไหม”
ลูกน้องรู้สึกว่าคำพูดของลั่วเซ่าเชินน่าสนใจมาก แต่เขาก็กังวลใจว่าถ้าลั่วเซ่าเชินย้อนกลับมาเอาเรื่องเขาในภายหลังล่ะ จะทำอย่างไร