ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 226 ลั่วเซ่าเชินพูดกับถังโจวโจว / ตอนที่ 227 วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
- Home
- ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ
- ตอนที่ 226 ลั่วเซ่าเชินพูดกับถังโจวโจว / ตอนที่ 227 วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
ตอนที่ 226 ลั่วเซ่าเชินพูดกับถังโจวโจว
“โจวโจว พวกเราขึ้นไปคุยกันข้างบนเถอะ” ลั่วเซ่าเชินไม่แม้แต่จะมองหน้าถังโจวโจว น้ำเสียงของเขาเคร่งเครียด ทำให้ถังโจวโจวยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่คิด
“เซ่าเชิน…”
“มีเรื่องอะไรไว้ค่อยไปคุยกันที่ห้องหนังสือเถอะ” เมื่อลั่วเซ่าเชินพูดจบแล้วก็ตรงขึ้นข้างบนทันที ถังโจวโจวจึงทำได้เพียงเดินตามเขาขึ้นไป
ปึง! ลั่วเซ่าเชินปิดประตูห้อง ถังโจวโจวมองไปรอบห้องหนังสือขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลลั่ว เธอไม่เคยเข้ามาในห้องนี้เลย สถานที่นี้ไม่เหมือนบ้านหลังเล็กๆ ของพวกเขา คงเพราะคุณพ่อลั่วใช้ทำงานมานาน ด้านในจึงให้ความรู้สึกเหมือนห้องที่มีอายุยาวนานมากแล้ว
ลั่วเซ่าเชินมาใช้ห้องนี้ไม่บ่อยนัก บนชั้นนี้ยังมีห้องหนังสือเล็กๆ อีกห้องหนึ่ง นั่นถึงจะเป็นห้องที่ลั่วเซ่าเชินใช้เป็นประจำ และวันนี้เขาพาถังโจวโจวมาที่นี่ เพราะลั่วเซ่าเชินอยากฟังคำอธิบาย
“โจวโจว คุณเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยได้ไหม” ลั่วเซ่าเชินได้ยินเมิ่งชิงซีอธิบายมาแล้ว พอเข้าใจเรื่องราวบ้างแล้ว แต่เขายังอยากรู้ว่าถังโจวโจวจะอธิบายกับเขาว่าอย่างไร
ในตอนนี้เขารู้สึกคลางแคลงใจต่อเธอ ใครก็ตามที่ได้เห็นแม่ของตัวเองนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น โดยที่ภรรยายังยืนตัวสั่นอยู่ใกล้ๆ ท่าทางเหมือนคนตกใจ ย่อมต้องอดไม่ได้ที่จะสงสัยเธอ
เมิ่งชิงซีพูดปกป้องถังโจวโจวอยู่ตลอด แต่คำพูดปกป้องของเธอ ยิ่งทำให้ถังโจวโจวดูแย่ลง เมิ่งชิงซีพูดไม่หยุดว่าถังโจวโจวไม่ได้ตั้งใจ แต่หลักฐานอยู่ตรงหน้า แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เท่ากับถังโจวโจวมีส่วนผิดในเรื่องนี้ด้วย
“เซ่าเชิน ตอนนี้คุณกำลังสงสัยฉันใช่ไหม แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง” ถังโจวโจวอยากจะอธิบาย แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี ทุกคนคิดกันไปแล้วว่าเธอเป็นคนผลักคุณแม่ลั่วลงมา เธอไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้น แต่ตอนนี้ใครจะไปอยากได้ยินเธอพูดแบบนี้
“แล้วคุณแม่ตกลงมาได้ยังไง โจวโจว เมิ่งชิงซีบอกว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ ผมก็เชื่ออย่างนั้นว่าคุณไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน แต่ตอนนี้คุณแม่นอนเจ็บหนักอยู่ที่โรงพยาบาล ยังไงผมก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้กับเธอ”
ถังโจวโจวค้นพบเรื่องหนึ่งว่า ความเย็นชาและเคร่งขรึมของลั่วเซ่าเชินที่ปรากฏต่อหน้าเธอในตอนนี้ มันเป็นการกระทำอันโหดร้ายเดียวกันที่เธอเคยเห็นเขาใช้กับผู้หญิงคนอื่น แต่วันนี้เขากลับใช้กับเธอเสียงเอง มันช่างน่าเศร้าจริงๆ
“เซ่าเชิน ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง เรื่องที่คุณแม่ตกบันได ฉันไม่รู้จริงๆ ตอนนั้นฉันทะเลาะกับคุณเมิ่งอยู่ จากนั้นฉันแค่คิดอยากจะสะบัดมือเธอออกไป แต่ใครจะรู้…”
“ใครจะรู้ว่ากลับผลักคุณแม่ลงไป” ลั่วเซ่าเชินช่วยถังโจวโจวพูดจนจบ “ถังโจวโจว คุณไม่รู้เลยจริงๆ เหรอว่าคุณแม่ยืนอยู่ข้างหลังคุณตลอด”
ถังโจวโจวส่ายหน้า ปากพึมพำเบาๆ “ฉันไม่รู้จริงๆ… ไม่รู้จริงๆ…” ถ้าตอนนั้นเธอรู้ว่าคุณแม่ลั่วอยู่ข้างหลังเธอ แล้วจะถูกผลักลงไปข้างล่างเพราะการกระทำของเธอ เธอจะยอมปล่อยให้เมิ่งชิงซีบีบแขนเธอจนเจ็บโดยไม่สะบัดมือแม้แต่น้อยเลย
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่บนความไม่รู้ของเธอ ที่ทำให้คุณแม่ลั่วถูกผลักตกบันได ถังโจวโจวพยายามปลอบตัวเอง เสียงสะอื้นดังขึ้นในบ้าน ถังโจวโจวไม่อยากจะโต้เถียงเรื่องนี้อีก เพราะสุดท้ายไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้เธอก็ผิด
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ยอมรับ แต่ตอนนี้เรื่องที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือ อาการคุณแม่ลั่วเป็นอย่างไรบ้าง “เซ่าเชิน ตอนนี้คุณแม่…” ถังโจวโจวมองลั่วเซ่าเชินที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ไม่รู้ว่าคำถามนี้ของเธอจะมีคำตอบเช่นไร
ตอนที่ 227 วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้
“ยังไม่ฟื้น คุณพ่อกำลังเฝ้าอยู่” ลั่วเซ่าเชินปวดหัวมาก คุณพ่อลั่วต้องการให้เขาจัดการเรื่องนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรจริงๆ
ถังโจวโจวไม่ได้ตั้งใจ แล้วเขาจะจัดการอะไรได้ แต่ลั่วเซ่าเชินรู้ชัดแน่นอนว่าคุณพ่อลั่วต้องการผลลัพธ์อย่างไร
เป็นที่รู้กันดีว่า พวกเขาต้องการให้ถังโจวโจวออกจากบ้านลั่วมาโดยตลอด เพียงแต่เพราะเขาคือตัวแปรที่คอยเจรจาต่อรองมาตลอด แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ นี่จะเป็นข้ออ้างที่ดีมาก
แค่ลั่วเซ่าเชินคิดว่าถังโจวโจวจะต้องแยกจากเขา ในใจเขาก็เจ็บปวด เขารับเรื่องนี้ไม่ได้ ถังโจวโจวเป็นของเขา เป็นของเขามาตลอด ใครก็ไม่สามารถแยกเธอไปจากเขาได้
“โจวโจว ช่วงนี้คุณกลับไปอยู่บ้านสักพักหนึ่งก่อนได้ไหม…” หลังจากลั่วเซ่าเชินคิดอยู่นาน เขาก็คิดได้หนึ่งวิธี ขอเพียงคุณแม่ลั่วไม่เป็นไร ถึงเวลานั้นค่อยร้องขออีกครั้ง บางทีถังโจวโจวอาจจะผ่านมันไปได้อย่างง่ายดายก็เป็นได้
ตอนนี้ถังโจวโจวเหมือนเป็นตะปู เป็นเนื้อร้าย ในสายตาคุณพ่อลั่ว ลั่วเซ่าเชินทำได้แค่ให้เธอกลับไปอยู่บ้านตัวเองก่อน รอให้เรื่องราวนี้ผ่านไปสักพักแล้วค่อยกลับมา
ถังโจวโจวก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ฉันควรจะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ “เซ่าเชิน เรื่องนี้คุณตัดสินใจแล้วหรือคะว่า…”
“ผมเอง… โจวโจว คุณก็รู้ ตอนนี้คุณแม่ยังไม่ฟื้น และคุณพ่อก็โกรธมาก ถ้าให้คุณอยู่ที่นี่ คุณต้องมาทนฟังคำพูดที่ไม่ดี คุณจะไม่สบายใจเปล่าๆ” ลั่วเซ่าเชินอธิบายกับถังโจวโจว แต่คำอธิบายของเขากลับทำให้ถังโจวโจวยิ่งปวดใจ
คุณพ่อลั่วยังอยู่ที่โรงพยาบาล คุณแม่ลั่วก็ยังไม่ฟื้น หากตอนนี้เขาพาเธอออกไป ไม่เท่ากับให้เมิ่งชิงซีเข้ามาแทนที่หรอกหรือ
“…ได้ค่ะ ฉันรู้แล้ว” ถังโจวโจวทำได้เพียงแค่ยินยอม นอกจากเห็นด้วยกับเขาแล้ว เธอก็ไม่รู้วิธีอื่นใดอีก เธอได้แต่ตำหนิตัวเอง ไม่…เธอจะไม่ร้องไห้ออกมาง่ายๆ เด็ดขาด เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของเธอ ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว นอกจากต้องยอมรับความจริงอยู่เงียบๆ
“เซ่าเชิน ให้ฉันไปเยี่ยมคุณแม่ได้ไหมคะ” ในใจถังโจวโจวยังไม่รู้สึกวางใจ เธออยากไปดูคุณแม่ลั่วด้วยตัวเองว่าคุณแม่ลั่วปลอดภัย
“โจวโจว ช่วงนี้คุณอย่าเพิ่งไปพบคุณแม่เลยนะ เอาอย่างนี้ดีไหม เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว ผมจะให้หวังหวามารับคุณพาไปเก็บของที่บ้าน แล้วค่อยไปส่งคุณที่บ้านคุณพ่อคุณแม่”
“ค่ะ อย่างนั้นก็ได้” เมื่อถังโจวโจวพูดจบ ห้องหนังสือก็ตกอยู่ในความเงียบ ถังโจวโจวได้ยินเสียงฝีเท้าของลั่วเซ่าเชินเดินออกจากห้องไป เธอก้มหน้าลง ในที่สุดน้ำตาที่กลั้นไว้ก็อดทนไม่ไหว ไหลออกมาไม่หยุด
ประตูห้องถูกปิดลง น้ำตาหยดลงพื้นทีละหยดๆ ซึมไปกับพรมพื้นห้อง “ฮือๆ…” ถังโจวโจวกัดริมฝีปาก มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ ในห้อง ถ้าไม่มีใครเข้ามาก็จะไม่มีใครรู้ว่าเธอร้องไห้
ลั่วเซ่าเชินลงไปชั้นล่าง คำพูดที่เพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ก็ทำให้ใจของเขาเจ็บปวด เพื่อที่จะได้อยู่กับถังโจวโจวในระยะยาว ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่อดทนแยกจากกันสักพัก เขาเชื่อว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็จะรีบพาถังโจวโจวกลับมาโดยเร็ว
ถังโจวโจวร้องไห้อยู่พักหนึ่ง เธอเช็ดน้ำตา พลางดูหน้าตัวเองผ่านกล้องโทรศัพท์มือถือ ยังมองออกอยู่ว่าเธอร้องไห้มา เธอลังเลว่าเธอควรจะอยู่ในห้องหนังสือต่อไปก่อน หรือว่าควรออกไปแล้วดี?
เมิ่งชิงซีน่าจะกินข้าวเป็นเพื่อนลั่วเซ่าเชินอยู่ เธอออกไปแบบนี้จะกลายเป็นเหมือนบุคคลที่สามหรือเปล่า ความคิดนี้ก็ทำให้ถังโจวโจวรู้สึกเสียใจขึ้นมาอีก
เมิ่งชิงซีเห็นลั่วเซ่าเชินลงมา ก็เรียกแม่นมจ้าวทันที “แม่นมจ้าว รีบไปยกอาหารออกมาให้เซ่าเชินเร็ว เซ่าเชินคะ โจวโจวล่ะ”