ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 252 โทรศัพท์หาแม่โจวโจว / ตอนที่ 253 ในเงามืด
ตอนที่ 252 โทรศัพท์หาแม่โจวโจว
“ไม่ต้องร้องค่ะๆ คุณหนู ผู้หญิงนิสัยไม่ดีคือใครคะ” ตอนที่ลั่วอิงพูดถึงผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้น สีหน้าดูรังเกียจเธอมาก ป้าหลิวจึงสงสัยเป็นพิเศษ
“ผู้หญิงนิสัยไม่ดีก็คือผู้หญิงนิสัยไม่ดี ป้าหลิวคะ หนูหิวข้าวมากเลยค่ะ” ลั่วอิงพูดจบ ท้องก็ร้องขึ้นมาทันที ป้าหลิวจึงหลุดหัวเราะออกมา
“ดูเหมือนว่าคุณหนูจะหิวมากแล้วจริงๆ เดี๋ยวป้าจะรีบไปทำของกินมาให้เลยค่ะ ตอนนี้กินคุกกี้รองท้องไปก่อนนะคะ”
ลั่วอิงเห็นป้าหลิวเข้าไปในครัว ความอึดอัดใจของเธอยังคงไม่จางหายไป เธอคิดถึงถังโจวโจวขึ้นมา แล้วเธอก็วิ่งไปที่โทรศัพท์ทันที เธอกดเลขทั้งหมดที่จำได้ลงไป ตื๊ดๆๆ…
รออยู่นานกว่าถังโจวโจวจะรับสาย “ฮัลโหล ป้าหลิว มีเรื่องอะไรหรือคะ” ถังโจวโจวเห็นเบอร์ที่บ้านโทรมา เธอจึงคิดว่าป้าหลิวโทรหาเธอ
“แม่โจวโจวขา…” ลั่วอิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ร้องไห้ใส่โทรศัพท์เสียแล้ว
ถังโจวโจวร้อนรนใจขึ้นมาทันที “ลั่วอิง อย่าร้องไห้นะ แม่โจวโจวอยู่นี่ อย่าร้องค่ะ”
ถังโจวโจวไม่คิดว่าลั่วอิงจะโทรมา เธอไม่ได้ไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วหรอกหรือ ทำไมถึงกลับมาแล้ว ถังโจวโจวหันไปมองนาฬิกา
คุณแม่ถังและคุณพ่อถังเห็นถังโจวโจวเดินไปที่ระเบียง เมื่อครู่เหมือนจะได้ยินเธอเรียกชื่อลั่วอิง จึงตามไปถามถังโจวโจว “โจวโจว ลั่วอิงโทรมาเหรอ”
“แม่คะ อีกเดี๋ยวค่อยคุยนะคะ” ถังโจวโจวไม่อยากให้คุณแม่ถังพูดสายกับลั่วอิงตอนนี้ ไม่อย่างนั้นความลับของเธออาจจะถูกเปิดเผยได้
ถังโจวโจวเปลี่ยนไปแอบคุยที่ห้องของตัวเอง เธอล็อกประตูก่อนจะหันมาคุยกับลั่วอิงในสาย “อย่าร้องนะคะ ลั่วอิง ถ้าลั่วอิงยังร้อง แม่โจวโจวจะไม่รักแล้วนะ”
“หนูไม่ร้องแล้วค่ะ แม่โจวโจวขา วันนี้หนูคุยเรื่องคุณแม่กับคุณย่า แต่คุณย่ากลับต่อว่าหนู” ลั่วอิงเล่าอย่างเจ็บปวดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้
ถังโจวโจวได้ยินอย่างนั้น ก็เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดตอบ “ลั่วอิง แม่โจวโจวบอกหนูแล้วไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไมหนูยังไม่เชื่อฟังแม่อีกว่าคุณย่าอาจจะอารมณ์ไม่ดีเอาได้ ในเมื่อคุณย่าไม่อยากได้ยินชื่อของแม่โจวโจว ต่อไปหนูก็อย่าพูดถึงแม่โจวโจวต่อหน้าคุณย่าอีกนะคะ”
จากคำบอกเล่าของลั่วอิง ถังโจวโจวสามารถเข้าใจได้ว่าตอนนี้คุณแม่ลั่วเกลียดเธอมาก ถังโจวโจวกุมหน้าผากตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้เธอไม่กล้าไปเยี่ยมคุณแม่ลั่วที่โรงพยาบาล และลั่วเซ่าเชินก็บอกอยู่หลายครั้งว่ายังไม่ให้เธอไป
“แต่ว่าแม่โจวโจวขา…”
“ลั่วอิง แม่โจวโจวพูดจริงนะคะ ที่แม่พูดก็เพื่อหนูทั้งนั้นนะ”
เสียงของถังโจวโจวเริ่มดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอกลัวว่าลั่วอิงจะไม่เชื่อฟัง เพราะสิ่งที่ลั่วอิงทำไม่ต่างจากยั่วโมโหคุณแม่ลั่วเลย ที่ผ่านมาลั่วอิงถูกเลี้ยงดูแบบตามใจมาโดยตลอด คุณแม่ลั่วเองก็แทบไม่เคยปฏิเสธลั่วอิงเลย แต่ถังโจวโจวรู้ว่าต้องพูดกับลั่วอิงอย่างไร แบบไหนลั่วอิงถึงจะเชื่อฟัง
“แม่โจวโจว คุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านได้ไหมคะ ไม่ต้องให้คุณย่ารู้ก็ได้ …ต่อไปพวกเราก็ไปเยี่ยมคุณย่าให้น้อยลง แบบนี้คุณย่าก็จะไม่โมโหแล้ว” ลั่วอิงพูดออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องที่จัดการได้ง่ายมาก ถังโจวโจวก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธออย่างไรดี
เดิมถังโจวโจวก็ไม่ใช่คนที่ชอบคิดอะไรมากมาย แต่คนเรายิ่งโตขึ้นก็ยิ่งพบแต่ความผิดหวัง ซึ่งลั่วอิงยังเด็กนัก
“ลั่วอิงเด็กดี แล้วตอนนี้คุณพ่อกลับมาบ้านหรือยังคะ” ถังโจวโจวไม่อยากพูดเรื่องนี้กับลั่วอิงอีก ดังนั้นจึงจำต้องเปลี่ยนเรื่องไป อและยากให้เธอลืมเรื่องที่คุณแม่ลั่วทำให้เธอเสียใจด้วย
“ยังไม่มาเลยค่ะ” ลั่วอิงเล่นกับนิ้วตัวเอง ในบ้านเงียบเหงามาก ไม่มีแม่โจวโจว ไม่มีคุณพ่อ เธอไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเลย
ตอนที่ 253 ในเงามืด
“แม่โจวโจวขา พรุ่งนี้มารับหนูหลังเลิกเรียนได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ” เมื่อลั่วอิงได้ยินอย่างนี้ เธอก็นั่งลงอย่างสบายใจทันที ไม่คิดว่าวันนี้แม่โจวโจวจะตอบรับเธอเร็วอย่างนี้เลย
“คุณหนู มากินข้าวได้แล้วค่ะ”
“นี่ลูกยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ” ถังโจวโจวได้ยินเสียงป้าหลิวผ่านสายโทรศัพท์ เธอไม่รู้ว่าลั่วอิงยังไม่ได้กินอะไรเลย แล้วนี่เธอยังมาคุยกับลั่วอิงอยู่ได้ตั้งนาน ไม่รู้ว่าตอนนี้ท้องของลั่วอิงจะหิวสักแค่ไหนแล้ว
“แม่โจวโจว หนูไปกินข้าวก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้คุณแม่อย่าลืมมารับหนูนะ” ลั่วอิงกระโดดลงจากโซฟา
ถังโจวโจวเองก็ไม่อยากรั้งเธอไว้ “รีบกินเถอะค่ะ แล้วพรุ่งนี้แม่จะไป”
หลังจากวางสาย ลั่วอิงก็เดินไปที่โต๊ะอาหาร ป้าหลิวยกจานอาหารออกมา สีหน้าของลั่วอิงก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากแล้ว “คุณหนู มีอะไรทำให้ดีใจถึงขนาดนี้หรือคะ” เมื่อครู่นี้ลั่วอิงยังอารมณ์เสียอยู่เลยไม่ใช่หรือ
“ไม่บอกค่ะ” ลั่วอิงส่ายหน้าเบาๆ ทำให้ป้าหลิวหัวเราะ
“ได้ค่ะได้ ป้าหลิวไม่ถามแล้ว รีบกินข้าวเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นมันจะเย็นหมด” คุณหนูก็หัดมีความลับของตัวเองแล้วหรือนี่
ลั่วอิงตักอาหารเข้าปาก เธอหิวมากจริงๆ ตอนนี้ถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเชินต่างก็ไม่อยู่บ้านกันเลย ไม่ว่าเธอจะหันไปมองทางไหน ก็ไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย
วันถัดมา ถังโจวโจวรักษาสัญญา เธอมารอลั่วอิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลได้สักพักหนึ่งแล้ว
คุณครูมาส่งลั่วอิงที่หน้าประตู เมื่อเธอเห็นว่าถังโจวโจวยืนรออยู่ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที “แม่โจวโจวขา แม่ไม่ได้โกหกหนูจริงๆ ด้วย”
“ระวังล้มค่ะ” ถังโจวโจวถูกลั่วอิงโถมตัวเข้าใส่ ถ้าหากพากันล้มลงไป อาจจะเจ็บกันทั้งสองคน
สองแม่ลูกหัวเราะให้กัน ขณะนั้นซอกเล็กๆ แห่งหนึ่งในโรงเรียนอนุบาล มีเงาคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้น ดวงตาจ้องมองไปยังทิศทางของพวกเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นลั่วอิงชัดๆ ดวงตาคู่นั้นพลันปรากฏแววตาที่น่ากลัว
ถังโจวโจวไม่ได้สังเกตเห็นเลย เธอจูงมือของลั่วอิงพาเดินออกไป ทั้งสองคนจูงมือกันเดินทางไปบ้านถัง ในเมื่อมารับลั่วอิงหลังเลิกเรียนก็ย่อมต้องพาไปเจอคุณตาคุณยาย ไว้กินข้าวด้วยกันเสร็จแล้วค่อยให้ลั่วเซ่าเชินไปรับ และตัวเธอเองก็จะได้เจอเขาด้วย
“วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้างคะ” ถังโจวโจวจูงลั่วอิงเดินไปยังป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด ลั่วอิงสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ อยู่ด้านหลัง เด็กน้อยพูดคุยกับคุณแม่เสียงเจื้อยแจ้ว ผู้คนโดยรอบต่างมองมาที่สองแม่ลูกด้วยแววตามีความสุขระคนอิจฉา
‘ทำไมเราถึงไม่มีภรรยาที่ดีแบบนี้บ้างนะ’
‘ทำไมฉันถึงไม่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้บ้างนะ’
จู่ๆ ถังโจวโจวก็หันหลังกลับไปดู แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอรู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดมากเกินไป เธอหันไปมองรอบๆ อีกครั้ง ทางที่เดินมาเหลือแต่เธอกับลั่วอิงแล้ว ถังโจวโจวจึงแทบจะกึ่งลากลั่วอิงให้เดินตาม เธอต้องพาลั่วอิงเดินเร็วขึ้นอีกหน่อย
“แม่โจวโจวขา ทำไมต้องเดินเร็วขนาดนี้ด้วยล่ะคะ” จู่ๆ ถังโจวโจวก็เพิ่มความเร็ว ลั่วอิงขาสั้นเท่านี้ จึงเดินตามเธอไม่ทัน ถังโจวโจวได้ยินอย่างนั้นก็ผ่อนให้ช้าลงทันที
“เปล่าจ้ะ แม่อาจจะคิดอะไรเพลินไป” ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองพวกเธออยู่ แต่พอหันไปมองแล้วก็ไม่มีใคร ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เธอไปรับลั่วอิงมาจากโรงเรียนแล้ว และมันก็ยังไม่หายไป
ความรู้สึกนี้ทำให้ถังโจวโจวใจเสียมาก แต่เมื่อพวกเธอขึ้นรถประจำทางไปแล้ว ความรู้สึกนั้นก็หายไป ถังโจวโจวถอนหายใจโล่งอก
คนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดจับจ้องถังโจวโจวและลั่วอิงมาตลอดทาง เมื่อถังโจวโจวห่างออกไปจากสายตา ช่วงขณะหนึ่งก็ร้อนรนอยากเร่งตามไป แต่ก็กลัวว่าถังโจวโจวจะจับได้