ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 396 ถังโจวโจวฟื้นแล้ว / ตอนที่ 397 เปลี่ยนชื่อเรียก
ตอนที่ 396 ถังโจวโจวฟื้นแล้ว
ลั่วเซ่าเซินแอบสั่งการตนเองในใจ หายใจเข้าลึกๆ ไม่กี่ครั้ง อารมณ์ความรู้สึกก็ไม่ได้ตื่นเต้นอย่างตอนแรกอีกแล้ว เพียงแต่ว่าการรอคอยภายในใจยังคงอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่ง
เขาดูเวลา เห็นว่าเพิ่งจะตีห้า ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกอยากนอนเลย เพียงแค่อยากให้เสี่ยวอวี่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาให้เร็วขึ้นเท่านั้น
ถังโจวโจวรับไม่ได้ที่สีหน้าแข็งทื่อของเขาคอยมองไปยังปากประตูตลอดเวลา ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย พวกเสี่ยวอวี่ไม่มีทางมาหรอกน่า มองไปก็เท่านั้น สู้ฉวยโอกาสพักผ่อนในตอนนี้ให้มากสักหน่อย รักษาสติ อารมณ์และจิตใจเอาไว้ ปรากฏตัวต่อหน้าลูกด้วยอารมณ์อิ่มเอิ่บ
“เซ่าเซิน คุณพักผ่อนเถอะนะ ฉันจะเฝ้าคุณเอง” คราวนี้ลั่วเซ่าเซินวางความคิดไว้ที่ถังโจวโจว มองเธอหลับตาลง ใบหน้าของเขาก็เอ่อล้นด้วยรอยยิ้มอันอ่อนละมุน โจวโจวซื่อบื้อ ต่อให้ลูกชายสำคัญแค่ไหน แต่ก็ไม่สำคัญไปมากกว่าคุณหรอก
ลั่วเซ่าเซินสงบสติอารมณ์ลงได้ จึงไม่ได้เร่งเร้าอย่างเช่นก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรเขาก็จะได้เจอเสี่ยวอวี่อยู่ดี ต่อไปพวกเขายังมีเวลาอีกมาก เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวหลับไปจริงๆ แล้ว ลั่วเซ่าเซินก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที เขานอนลงบนเตียงผู้ป่วย มือของเขายังคงกุมมือของเธอเอาไว้ แล้วหลับลงไปง่ายๆ อย่างนั้น
เวลาแปดโมงเช้า เสิ่นหลานอีพาลั่วอิงกับเสี่ยวอวี่มายังห้องพักผู้ป่วย พวกเขาไม่ได้รับข่าวที่หู่พั่วฟื้นแล้ว ดังนั้นตอนที่เข้ามาแล้วเห็นลั่วเซ่าซินนอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยก็คิดว่าเขาคงเหนื่อยมากเกินไป ทนไม่ไหวถึงได้หลับไป จึงไม่ได้ปลุกเขาขึ้นมา
ลั่วเซ่าเซินไม่ได้หลับสนิทเท่าไรนัก พอได้ยินเสียงเปิดประตูเขาก็รีบลุกขึ้นมา เมื่อมองไปก็พบว่าพวกเธอมากันแล้ว “คุณแม่ มากันแล้วหรือครับ”
เดิมทีเสิ่นหลานอียังอยากให้ลั่วอิงกับโอวหยางหงเงียบลงหน่อย ใครจะรู้ว่าแค่หันหลังลั่วเซ่าเซินก็ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว “เซ่าเซิน ทำไมตื่นแล้วล่ะจ๊ะ? จะนอนต่ออีกหน่อยไหม”
“แม่ครับ ไม่นอนแล้ว ผมนอนพอแล้วครับ” เสิ่นหลานอีคิดว่าตัวเองฟังผิดไปเสียอีก ทว่าพอได้ยินลั่วเซ่าเซินเรียกเธอว่าแม่อีกครั้ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้เปลี่ยนคำเรียกล่ะ?
“เซ่าเซิน นี่เธอ?” เสิ่นหลานอีเองก็ไม่สะดวกที่จะถามเหตุผลเขาตรงๆ ลั่วเซ่าเซินก็รู้ตัวในทันที รู้ว่าเสิ่นหลานอีแปลกใจว่าทำไมเขาถึงเรียกเธอว่าแม่ เมื่อคิดถึงสีหน้าของพวกเสิ่นหลานอีที่อีกประเดี๋ยวจะได้ฟังข่าว ตอนนี้ในใจก็ยินดีอยู่ไม่น้อย
เสิ่นหลานอีอุ้มเสี่ยวอวี่เอาไว้ มองหู่พั่วที่ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ ลั่วอิงแอบอิงลงในอ้อมกอดของคุณพ่อ “พ่อคะ เมื่อไหร่คุณแม่โจวโจวจะฟื้นเหรอคะ”
ลั่วอิงไม่อยากเห็นถังโจวโจวนอนไร้ชีวิตชีวาอยู่บนเตียงผู้ป่วยอีกต่อไป นี่ทำให้เธอเสียใจเอามากๆ รู้สึกว่าถังโจวโจวช่างอยู่ห่างไกลเหลือเกิน
“ลูกรัก คุณแม่โจวโจวฟื้นขึ้นมาแล้วล่ะ” ลั่วเซ่าเซินค่อนข้างอดรนทนไม่ไหวที่จะแบ่งปันข่าวดีนี้ให้กับพวกเสิ่นหลานอีฟัง
ลั่วอิงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อ “แต่ว่าคุณแม่โจวโจวยังไม่ลืมตาเลยนี่คะ ทำไมคุณพ่อถึงได้บอกว่าคุณแม่ฟื้นแล้วล่ะคะ?”
“หู่พั่วฟื้นแล้วเหรอ?” เสิ่นหลานอีกับโอวหยางหงถามเป็นเสียงเดียวกัน
“แม่ครับ โอวหยาง เธอฟื้นแล้วครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้เพิ่งจะหลับไปอีกก็เท่านั้น” ลั่วเซ่าเซินเอ่ยด้วยความดีใจ
ได้ยินว่าตอนนี้ถังโจวโจวเพียงแค่หลับไปเท่านั้น เสิ่นหลานอีกับโอวหยางหงก็วางใจลง “แม่ครับ ผมจะให้พ่อบ้านส่งของกินมาให้ที่นี่ ประเดี๋ยวหู่พั่วตื่นแล้วเธอจะต้องอยากกินอะไรแน่ ลูกแมวกินจุอย่างเธอ ชอบกินของดีๆ เป็นที่สุด”
ลั่วเซ่าเซินรู้สึกว่าหู่พั่วสองพยางค์นี้ช่างขวางหูขวางตายิ่งนัก ถังโจวโจวเป็นถังโจวโจวตลอดมา ไม่เคยเปลี่ยนไป แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่รีบ รอให้เธอตื่นขึ้นมาก่อน แล้วค่อยบอกกับพวกเสิ่นหลานอีกก็ยังได้ ถึงตอนนั้นเขาจะไม่มีทางให้เธอใช้ชื่อหู่พั่วอีกเป็นอันขาด
สายตาของลั่วเซ่าเซินทอดลงที่ร่างของเสี่ยวอวี่ เสี่ยวอวี่ถูกเสิ่นหลานอีอุ้มอยู่ในอ้อมแขน ทว่าดวงตาของเขากลับมองตรงไปยังถังโจวโจว อย่างกับรู้ว่าแม่ของเขากำลังพักผ่อน ไม่เอะอะ ไม่งอแง เพียงแต่ดวงตาไม่อาจมองไปที่อื่นได้
ไม่ว่าเสิ่นหลานอีจะเปลี่ยนที่หรือว่าเปลี่ยนทิศทาง ดวงตาของเขาก็ไม่ละสายตาไปจากเตียงผู้ป่วยของถังโจวโจว ลั่วเซ่าเซินเห็นใบหน้าของเสี่ยวอวี่ ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่เคยสังเกตเลยนะ?
ดวงตาคู่นั้นคล้ายคลึงกับดวงตาของเขามากๆ และก็ใบหน้านั่นด้วย ตอนนี้ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนกับเขามาก ลั่วเซ่าเซินรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตัวเองช่างโง่เขลาเสียเหลือเกิน แม้แต่จุดนี้ก็ไม่ทันได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ
ตอนที่ 397 เปลี่ยนชื่อเรียก
ในฝันของถังโจวโจวได้รับสายตาอันร้อนแรง ทำให้เธอไม่อาจถลำเข้าไปข้างใน เธอกะพริบตาสองครั้ง ราวกับว่าได้ยินเสียงของแม่กับโอวหยางหงจึงลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นว่าเสิ่นหลานอีกำลังอุ้มเสี่ยวอวี่นั่งอยู่ที่ข้างเตียงผู้ป่วย
วินาทีแรกที่เสิ่นหลานอีเห็นว่าเธอตื่นแล้วก็รีบลุกขึ้นถามทันที “หู่พั่ว ลูกหายแล้วเหรอจ๊ะ ยังไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า”
เธออุ้มเสี่ยวอวี่เอาไว้ ไม่สะดวกตรวจดูอาการของถังโจวโจวด้วยตัวเอง ทว่าในดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความเป็นห่วงเป็นใยส่งมายังสายตาของถังโจวโจว ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ มีแม่นี่ก็ช่างดีเสียจริง!
แต่เป็นเพราะเพิ่งตื่นนอน เสียงของถังโจวโจวก็เลยค่อนข้างแหบแห้งอยู่บ้าง เธอรู้สึกว่าลำคอของตนเองแห้งผาก “แม่คะ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ลูกรัก คิดถึงแม่หรือเปล่าจ๊ะ”
เสี่ยวอวี่เห็นว่าเธอตื่นขึ้นแล้ว ก็เอื้อมมือออกไปข้างหน้า ร้องไม่หยุดว่า “หม่าม๊า หม่าม๊า…” อยากให้ถังโจวโจวอุ้มเขา
เสิ่นหลานอีรีบกล่อมเขาไว้ “เสี่ยวอวี่เด็กดี ตอนนี้ร่างกายแม่ของหนูยังไม่แข็งแรง อุ้มหนูไม่ได้ ยายจะอุ้มหนูเอง เป็นเด็กดีนะจ๊ะ!”
อย่างกับว่าเสี่ยวอวี่เข้าใจในสิ่งที่เสิ่นหลานอีพูดมาทั้งหมด เขาพาดตัวอยู่เงียบๆ เช่นนั้นจริงๆ เสียด้วย เพียงแต่ว่าดวงตายังคงจ้องมองไปยังทิศทางที่ถังโจวโจวอยู่
ลั่วเซ่าเซินเห็นว่าเธอตื่นแล้วก็รีบไปรินน้ำมาให้ ลั่วอิงเข้ามาแทนตำแหน่งของลั่วเซ่าเซิน “คุณแม่โจวโจว หนูเป็นห่วงคุณแม่มากๆ เลยค่ะ ในที่สุดคุณแม่ก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว”
ได้เห็นถังโจวโจวเกิดเรื่องขึ้นต่อหน้าต่อตา เมื่อวานลั่วอิงก็ฝันร้ายอยู่ตลอด ฝันเห็นถังโจวโจวนอนเปื้อนเลือดไปทั้งตัวอยู่ตรงหน้าเธอ นี่ทำให้ใจดวงน้อยๆ ของลั่วอิงรับไม่ไหว เมื่อวานเธอนอนอยู่กับเสิ่นหลานอี ทำให้โอวหยางเลี่ยรู้สึกเซ็งอยู่ระยะหนึ่ง
เมื่อคืนเสิ่นหลานอีเป็นห่วงลั่วอิงกับเสี่ยวอวี่มาก กลัวว่าใจดวงน้อยๆ ของเด็กๆ จะมีบาดแผล หากตอนกลางคืนฝันร้ายขึ้นมาก็คงไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นจึงไล่โอวหยางเลี่ยไปนอนที่ห้องนอนแขก ส่วนตนเองพาเด็กทั้งสองมานอนที่ห้องนอนใหญ่
“ตอนนี้แม่ตื่นแล้วนะ ลั่วอิงไม่ต้องเป็นกังวลแล้วนะจ๊ะ อีกไม่นานแม่ก็จะหายดีแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะออกจากโรงพยาบาลไปอยู่เป็นเพื่อนลั่วอิงได้แล้วนะ” ถังโจวโจวมองลั่วอิงที่เติบโตขึ้น ก่อนหน้านี้เธอไม่มีความทรงจำของเมื่อก่อน ความรู้สึกที่มีให้ลั่วอิงจึงไม่ได้อบอวนถึงขนาดนี้
แม้ว่าจะชินกับการเติบโตขึ้นของลั่วอิงแล้ว ส่วนสูงเพิ่มขึ้น ใบหน้าก็ยาวขึ้นนิดหน่อย เปรียบเทียบกับตอนที่เธอห้าขวบก็โตขึ้นไม่น้อยเลย
ถังโจวโจวรู้สึกราวกับว่าตัวเองหลับฝันไปตื่นหนึ่ง ลั่วอิงก็โตขึ้นแล้ว อยากใช้มือลูบปลอบที่ใบหน้าของลั่วอิง ทว่าร่างกายของเธอไม่ยินยอมให้ทำอย่างนั้น
เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวมีความคิดจะขยับตัว ลั่วเซ่าเซินก็รีบหยุดเธอเอาไว้ “รีบนอนลงเร็วเข้า ผมจะขยับเตียงเข้ามาให้ คุณยังคิดถึงสุขภาพอยู่บ้างหรือเปล่า?”
รอจนกระทั่งลั่วเซ่าเซินเคลื่อนเตียงเข้ามา ป้อนน้ำให้เธอครึ่งแก้ว โอวหยางหงถึงได้เดินขึ้นมาหา “พี่สาว ตอนนี้พี่คงหิวแล้วใช่หรือไหม อีกเดี๋ยวพ่อบ้านจะเอาข้าวมาส่งให้นะ”
“หงเอ๋อร์ ทำให้เธอต้องเป็นห่วงเลยสินะ” เธอมองโอวหยางหงด้วยดวงตาแดงก่ำ รู้ว่าเมื่อวานทำให้เขาเป็นกังวลมาทั้งวัน คราวนี้เป็นความไม่ระมัดระวังของเธอเอง ทุกคนถึงได้เป็นกังวลกันนานขนาดนี้
“หู่พั่ว พี่พูดอะไรของพี่กัน! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ ต่อไปอย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ”
“ต่อไปอย่าเรียกเธอว่าหู่พั่วอีกเลยนะ โจวโจวฟื้นความจำกลับมาแล้ว ตอนนี้เธอคือถังโจวโจว เป็นภรรยาของผม อย่าเรียกชื่อหู่พั่วนี่อีกเลยนะ”
ตอนนี้ในที่สุดลั่วเซ่าเซินก็มีสิทธิ์พูดประโยคนี้ออกมาเสียที ถังโจวโจวจำเรื่องเก่าๆ ได้แล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา เขาไม่ต้องกังวลว่าเธอจะวิ่งหนีหรือจากเขาไปไหนอีก
“หู่พั่ว ลูกจำได้แล้วเหรอ?!” เสิ่นหลานอีตกใจระคนยินดี ไม่คิดว่าลูกสาวของตนจะฟื้นฟูความทรงจำได้รวดเร็วขนาดนี้ มิน่าล่ะเมื่อกี้เธอถึงได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป รู้สึกว่าสายตาของถังโจวโจวเปลี่ยนแปลงไป
โอวหยางหงเองก็คิดไม่ถึงว่าถังโจวโจวจะฟื้นคืนความจำได้จากอุบัติเหตุครั้งนี้ เห็นลั่วเซ่าเซินท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง โอวหยางหงก็อยากประทับความทรงจำไว้ที่ใบหน้าของเขาเหลือเกิน เขาออกหน้าเสียขนาดนี้ ต่อให้หู่พั่วฟื้นคืนความจำแล้ว หู่พั่วก็ยังเป็นหู่พั่วของพวกเขาอยู่ดี
“หู่พั่วเป็นชื่อที่ผมตั้งใจมอบให้พี่สาว ส่วนถังโจวโจวก็เป็นถังโจวโจวที่คุณรู้จัก คุณเรียกเธออย่างนั้นไม่ได้ แต่ว่าจะห้ามให้เราทำเหมือนคุณไม่ได้เหมือนกัน” โอวหยางหงตอบโต้ลั่วเซ่าเซินกลับไปอย่างไม่ออมมือ
ลั่วเซ่าเซินอยากโต้เถียง ทว่าเขาก็พูดไม่ออก สิ่งที่โอวหยางหงพูดออกมาเป็นเรื่องจริง เขาจะห้ามให้พวกเขาเปลี่ยนมาเรียกเธอว่าถังโจวโจวตามแต่ใจของเขาไม่ได้