ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 400 เบี่ยงเบนความสนใจ / ตอนที่ 401 กลับประเทศ
ตอนที่ 400 เบี่ยงเบนความสนใจ
ถังโจวโจวพยายามทำให้บรรยากาศทุกอย่างผ่อนคลายลง ทำให้ไม่ได้ดูโศกเศร้าถึงขนาดนั้น เธอรู้ว่าลุงโอวหยางกำลังจ้องมองเธออยู่อีกฝั่งหนึ่งอย่างเอาเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่เสิ่นหลานอีร้องไห้ฟุบลงบนบ่าของเธออย่างนั้น เขาก็ดูเหมือนอยากจะแย่งตัวเธอกลับไปทันทีเพื่อปลอบใจ
ถังโจวโจวอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำในใจ ลุงโอวหยาง ถึงฉันจะรู้ว่าคุณรักแม่ของฉันมาก แต่ว่าคุณจะโกรธเคืองแล้วไปลงที่คนอื่นไม่ได้นะ!
แต่ว่าถังโจวโจวก็ชินแล้ว มีครั้งไหนบ้างที่เกิดเรื่องกับเสิ่นหลานอีแล้วโอวหยางเลี่ยจะไม่พาลไปถึงคนอื่น ในสายตาเขาคนอื่นก็ทำผิดเสมอ ส่วนคนที่ได้รับหายนะก็มีแต่โอวหยางหง ถังโจวโจวเจอเรื่องอย่างนี้อยู่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่ว่านี่ก็ทำให้เธอหวาดกลัวได้แล้ว
“แม่คะ แม่ดูลุงโอวหยางสิคะ ถ้าแม่ยังไม่ปล่อยหนูอีก หนูต้องแย่แน่ๆ เลยนะคะ” ถังโจวโจวแอบกระซิบเข้าที่ข้างหูของเสิ่นหลานอี ทำเอาสายตาของเสิ่นหลานอีมองทอดไปทางฝั่งโอวหยางเลี่ยอย่างช่วยไม่ได้
ร่างกายของโอวหยางเลี่ยชะงักไปในทันที ภรรยาของเขามองมาแล้ว เขาพลันมีท่าทีกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาขึ้นมา เสิ่นหลานอีค่อยๆ คลายมือออกจากร่างกายของถังโจวโจว หลังจากที่เธอก่อเรื่องไปเมื่อสักครู่ ความรู้สึกเศร้าเสียใจที่มีแต่เดิมก็หายลงไปมากแล้ว
“โจวโจว ดูแลตัวเองให้ดีนะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็ต้องบอกแม่นะ แม่จะช่วยออกหน้าให้ลูกเอง” เธอกลัวว่าถังโจวโจวกลับไปคราวนี้แล้วจะพบเข้ากับเมิ่งไหวเซิน เมื่อถึงเวลานั้นหากเกิดเรื่องไม่ดีเข้าจะก็เป็นความผิดของเธอ
เธอรู้สึกว่าตัวเองติดค้างเด็กคนนี้มาตลอด ใครจะรู้ว่าเด็กคนนี้กลับไม่โกรธแค้นเธอเลย เพียงแต่กลัวว่าถึงเวลาไปเจอหน้าพ่อของเธอเข้าแล้วเธอรู้สึกลำบากใจจะทำอย่างไร?
เพราะความสัมพันธ์กับเธอกับโอวหยางเลี่ย เสิ่นหลานอีถึงไม่รู้ว่าตอนนี้เมิ่งไหวเซินเป็นอย่างไรบ้าง ทว่าเสิ่นหลานอียังจำได้รางๆ ว่า ตระกูลเมิ่งเรืองอำนาจขนาดไหน คิดว่าเวลานี้ก็คงไม่ต่างกัน ถ้าโจวโจวไม่มีใครคอยประคับประคองอยู่ข้างหลัง เธอจะสู้กับตระกูลเมิ่งได้อย่างไร
เสิ่นหลานอีนี่ก็ช่างคิดมากเสียจริง ถังโจวโจวไม่เคยเห็นพ่อของเธออยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าคำพูดนี้ไม่ค่อยถูกต้องนัก ควรจะบอกว่าถังโจวโจวไม่เคยคิดถึงพ่อของเธอมาก่อนต่างหากล่ะ
เธอจำได้ว่า คราวก่อนเมิ่งชิงซีมีเรื่องทะเลาะกับเธอ ตอนนั้นสายตาที่เมิ่งไหวเซินมองมาที่เธอก็อย่างกับว่าเธอเป็นเด็กไม่เอาไหน อย่างกับว่าเธอทำอะไรผิดไป ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้เธอ เธอเชื่อว่าพ่อแบบนี้ไม่ใช่พ่อแบบที่เธอต้องการ
“แม่คะ พวกเราไปแล้วนะคะ” ลั่วเซ่าเซินกลับมาแล้ว ถังโจวโจวให้เสี่ยวอวี่กับลั่วอิงบอกลาพวกเสิ่นหลานอี ทุกคนผ่านการตรวจสอบแล้วเข้าไปยังหน้าเกท เสิ่นหลานอีจ้องอยู่อย่างไม่ลดละ ต่อให้ถังโจวโจวจะไม่ได้มองกลับมาเลยก็ตามที
“โจวโจว ลูกต้องมีความสุขนะ” ไม่ว่าแม่คนไหนก็ไม่วางใจให้ลูกสาวของตัวเองไปอยู่ที่อื่นทั้งนั้น โดยเฉพาะเสิ่นหลานอีกับถังโจวโจวที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นปีๆ นี่มันนานเท่าไหร่กันเชียว ก็ถึงเวลาจะต้องจากกันอีกแล้ว
“แม่ครับ อย่ากังวลไปเลยนะครับ อีกไม่นานผมก็จะไปประเทศ M ถึงเวลานั้นเราก็ไปเยี่ยมพวกเขาได้” โอวหยางหงปลอบใจแม่ของเขาเบาๆ นั่นทำให้ใจของเสิ่นหลานอีรู้สึกดีขึ้นบ้าง
เครื่องบินมุ่งหน้าทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและกลุ่มเมฆ พวกถังโจวโจวก็ทิ้งตัวลงบนเบาะผู้โดยสารบนเครื่องบิน เสี่ยวอวี่หลับไปนานแล้ว เขายังเด็ก ไม่รู้เลยว่าการจากไปครั้งนี้ยากนักที่จะได้กลับมาพบกับพวกเสิ่นหลานอีกครั้ง
แตกต่างกับลั่วอิง เธออายุเจ็ดขวบแล้ว รู้ดีว่ากลับไปคราวนี้จะไม่ได้เจอกับคุณยายอีก เมื่อสักครู่นี้ตอนบอกลากับพวกเสิ่นหลานอี เธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่หลบอยู่ด้านหลัง ไม่ให้ใครรู้ก็เท่านั้น
ตอนนี้ถังโจวโจวลูบหัวของลั่วอิง “ลูกรัก เวียนหัวหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลนะ อีกไม่นานคุณแม่โจวโจวกับพ่อของลูกก็จะพาลูกกลับมาเยี่ยมคุณยายอีก อีกอย่างพวกเราก็ไม่ได้เจอกับคุณตากับคุณยายฝั่งนี้มานานแล้ว ลูกไม่คิดถึงพวกเขาเหรอ?”
ถังโจวโจวรู้สึกว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ เป็นไปดังคาด เมื่อพูดถึงคุณตาคุณยาย ท่าทีของลั่วอิงก็ดีขึ้นมาในทันที “คุณแม่โจวโจว หนูต้องคิดถึงพวกเขาแน่นอนอยู่แล้วค่ะ” จะว่าไป ลั่วอิงก็ไม่ได้เจอคุณตากับคุณยายมานานมากแล้ว
ก่อนหน้านี้ไม่ทันรู้สึกตัว ตอนนี้พอถังโจวโจวพูดถึงขึ้นมา เมล็ดพันธุ์แห่งความคิดถึงก็ราวกับถูกปลูกลงไป เพียงรอให้ดอกไม้ผลิบาน เธอก็รอคอยวันพรุ่งนี้ที่จะได้เจอคุณตากับคุณยาย
“หลับตาลงก่อนนะ หลับไปตื่นเดียวก็ถึงแล้ว ถึงเวลานั้นพอหนูพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว คุณแม่โจวโจวจะพาลูกไปเจอพวกเขาเอง”
ตอนที่ 401 กลับประเทศ
ถังโจวโจวเองก็คิดถึงเพื่อนๆ ที่ประเทศ M อยู่เหมือนกัน เธอไม่ได้เจอกับหลินเหยามานานมากแล้ว ระหว่างที่รักษาตัวก็ได้โทรศัพท์ไปหาเธออยู่เหมือนกัน ทางฝั่งหลินเหยาตกใจร้องเสียงดัง พูดออกมาทันทีเลยว่าจะบินมาเยี่ยมเธอ แต่ถูกถังโจวโจวขัดเอาไว้ก่อน
อีกไม่นานเธอก็จะกลับไปแล้ว เรื่องอะไรจะต้องให้หลินเหยาลำบากบินมาหากันล่ะ
พระอาทิตย์ลอยเด่นยู่บนท้องฟ้า ฤดูร้อนคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ คนสนิทสองคนรออยู่ในกลุ่มคนที่มารับคนลงจากเครื่องบิน และในเวลานี้เองหญิงสาวหน้าตาสะสวยสวมกางเกงสีดำขาสั้นจู๋กับเสื้อยืดสีขาวก็พุ่งตัวออกมาจากประตูสนามบินมุ่งไปยังโถงใหญ่
ปากพร่ำพูดอยู่ว่า “สายแล้วๆ…” ดูเหมือนว่าเธอเองก็จะไปรับใครสักคนหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าโอ้เอ้อยู่ระหว่างทางหรือว่าอะไรกันแน่ ทำให้มาช้าไปหน่อย
ผู้หญิงคนนี้คือหลินเหยา เธอถามวันกลับประเทศของถังโจวโจวมานานแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเมื่อสักครู่ถนนเส้นที่จะมาที่นี่จะรถติด ทำให้เธอต้องรีบตะบึงมาอย่างบ้าคลั่ง กลัวว่าจะมาไม่ทันเวลา ถึงตอนนั้นถังโจวโจวจะต้องบ่นเธอไม่หยุดแน่ๆ
เมื่อเห็นหวังหวากับลูซี่ เธอถึงได้วางใจขึ้นมาบ้าง “พวกโจวโจวยังไม่ออกมาใช่ไหม?”
“ยังเลยครับ” เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ ในที่สุดหลินเหยาก็ก้มตัวลงหายใจเข้าลึกๆ ได้เสียที เธอดูเวลา ก็เห็นว่าได้เวลาแล้วนี่นา ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ?
หลินเหยาเขย่งปลายเท้า ยื่นหน้าออกไป ตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมงเช้า ในสนามบินเปิดแอร์ ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเหมือนอย่างข้างนอก อุณหภูมิด้านนอกค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกี้ระหว่างที่หลินเหยาวิ่งปรี่มาก็รู้สึกว่าเหงื่อบนร่างกายเหนอะหนะไปหมด ไม่สบายตัวเลยสักนิด
“ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ?” พอพูดคำนี้ออกมา หลินเหยาก็มองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอสวมกางเกงขายาวสีเขียวสด รองเท้าส้นเตารีดสีขาว อุ้มตุ๊กตาตัวจ้ำม่ำอยู่ในอ้อมแขน
“โจวโจว ทางนี้! ทางนี้!” คนอื่นๆ เองก็รับญาติของตัวเองกลับไป ในที่สุดหลินเหยาก็เห็นถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเซินแล้ว เธอโบกมืออย่างรีบร้อนให้พวกเขา กลัวว่าพวกเขาจะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนี้
เพียงแค่ถังโจวโจวก้าวเดินออกจากประตูก็เห็นเข้ากับหลินเหยาทันที หลินเหยาดูสะดุดตาเป็นที่สุดในบรรดาฝูงชน นอกเสียจากว่าถังโจวโจวจะตาบอด ถึงจะมองไม่เห็นเธอ มีเพียงหลินเหยาคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกว่าถังโจวโจวไม่รู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น
เดิมทีหลินเหยาอยากกอดเธอสักยกใหญ่ แต่เพิ่งจะยื่นมือออกไปก็นึกขึ้นได้ว่าในอ้อมแขนของถังโจวโจวยังมีเจ้าตัวเล็กที่ขวางทางอยู่ จึงทำได้เพียงยื่นมือออกไปอย่างจนใจ
“นี่คือลูกบุญธรรมของฉันเหรอเนี่ย รีบมาให้แม่บุญธรรมอุ้มเร็วเข้า!” หลินเหยายื่นมือเตรียมตัวแย่งตัวเสี่ยวอวี่มา จะรู้ได้อย่างไรว่าพอเสี่ยวอวี่เห็นท่าทางของเธอก็รีบหลบไปด้านหลังทันที ถังโจวโจวยิ้มพลางเอ่ย “เหยาเหยา ดูเหมือนว่าลูกชายของฉันจะไม่อยากให้เธออุ้มนะจ๊ะ”
“ชิ เสี่ยวอวี่ มีคนตั้งมากมายอยากกอดกับแม่บุญธรรม แม่บุญธรรมก็ยังไม่ให้กอดเลยนะ” หลินเหยาทำสีหน้ากระเง้ากระงอด น่าเสียดายที่เสี่ยวอวี่มองไม่เห็นเลยสักนิด สีหน้าเมื่อสักครู่เปล่าประโยชน์เสียแล้ว
“ท่านประธาน ภรรยาท่านประธาน” รอจนกระทั่งถังโจวโจวและหลินเหยารำลึกอดีตกันเรียบร้อยแล้ว หวังหวากับลูซี่ถึงได้รับของที่เธอและลั่วเซ่าเซินเอากลับมาไปไว้ที่พวกเขา
“ผู้ช่วยหวัง ลูซี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ!” ถังโจวโจวเห็นคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันนาน ในใจยินดีเป็นที่สุด เธอไม่ได้เจอคนเหล่านี้มาเป็นเวลาสองปีแล้ว
“เอาล่ะ อีกเดี๋ยวขึ้นรถแล้วค่อยคุยกัน ตอนนี้ออกไปกันก่อนเถอะ” ลั่วเซ่าเซินเห็นเสี่ยวอวี่กับลั่วอิงต่างดูอ่อนเพลีย ผู้ใหญ่อย่างพวกเขาก็พอจะทนได้อีกหน่อย เพียงแต่ว่าเด็กๆ ยังเล็กเกินไป ต้องรีบพากลับบ้านไปพักผ่อน
คนทั้งหมดพากันออกมาจากสนามบิน หวังหวานำของขึ้นรถก่อน คราวนี้เขากับลูซี่ขับรถมาคนละคัน ลั่วเซ่าเซินพาลั่วอิงไปนั่งรถอีกคันหนึ่ง ส่วนรถอีกคันมีถังโจวโจว หลินเหยาและเสี่ยวอวี่
รถทั้งสองคันแล่นไปข้างหน้า พอขึ้นรถแล้ว หลินเหยาเห็นถังโจวโจวกล่อมให้เสี่ยวอวี่ง่วงนอน จู่ๆ ก็ถอนใจด้วยความใจหาย “โจวโจว เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอเป็นแม่คนแล้วสิ”
“เหยาเหยา สองปีมานี้เธอไม่เจอใครที่ถูกใจบ้างเลยเหรอ?” ตอนนี้ถังโจวโจวเป็นห่วงเรื่องความรักของหลินเหยามากกว่า เธอไม่อยู่ตั้งสองปี หรือว่าหลินเหยาไม่มีเจอใครที่ถูกใจบ้างเลย? จะทำลายครึ่งชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเองเพื่อผู้ชายห่วยๆ คนนั้นจริงๆ น่ะเหรอ?
“ความจริงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหรอกนะ เพียงแต่ว่าเพราะสาเหตุบางอย่างพวกเราก็เลยไม่ได้คบกัน แต่เธอเชื่อเถอะ ในที่สุดพวกเราก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน ถึงเวลาแล้วฉันจะบอกเธอเอง” หลินเหยาแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากพูดออกมาตอนนี้