Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 167
กระแสแห่งความหวาดกลัว
เนื่องจากการโจมตีของอาวุธลับในระรอกแรกนั้นมุ่งเป้าไปที่เกี้ยว จวินโม่เซี่ยจึงเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าเขาคือเป้าหมายของการโจมตีนี้ และตอนนี้ ด้านบนของเกี้ยวได้ถูกทำลายเป็นชิ้นๆแล้วเขามั่นใจว่าเหล่ามือสังหารกำลังเฝ้าดูการตอบโต้ของเขาอยู่ หากมือสังหารเหล่านั้นรู้ว่าเป้าหมายของเขาตายแล้ว เขามั่นใจว่าคนเหล่านั้นจะหันหลังและจากไป โดดยไม่เปิดเผิยตัวออกมา !
“ เอาละ เราจะไปยังมุมที่ห่างไปสิบฟุตนั่น และจากนั้นเราจะใช้เส้นทางนั้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังที่พักสกุลจวิน ”
จวินฮู หัวหน้าองครักษ์กระซิบคำสั่งของเขาในทันที
“ ดี ! ตอนนี้เจ้าฟังคำสั่งข้า เจ้าต้องไม่ต่อต้านข้า ! ไม่เช่นนั้น เจ้าจะถูกถอดถอนออกจากกองกำลังของสกุลจวิน เข้าใจไหม ?! ”
แม้ว่าเสียงของจวินโม่เซี่ยจะเบามาก ความจริงจังของคำสั่งของเขาก็สามารถรับรู้ได้จากโทนเสียง
องครักษ์ทั้งแปดงุนงงกับคำสั่งของเขา แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้เถียง และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
จวินโม่เซี่ยสามารถมองเห็นว่าอาวุธลับส่วนใหญ่นั้นมันเปล่งประกายสีทองเข้มออกมา ในขณะที่มีอีกห้าหกอย่างที่มีแสงสีเขียว แจ่ที่น่าแปลกใจคือจำนวนของอาวุธที่เปล่งแสงสีทองนั้นมีมากกว่าแสงสีเขียวถึงสามเท่า !
ใครกันที่พยายามสังหารข้า ? ผู้ใดที่สามารถจ่ายในราคาแพงขนาดนี้ได้ ?
จวินโม่เซี่ยอดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้
แม้แต่ผู้ลอบสังหารองค์หญิง ก็ยังแข็งแกร่งได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคนเหล่านี้ ! ข้าเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าองค์หญิงแล้วอย่างนั้นหรือ ?
“ เจ้าจะต้องทิ้งเกี้ยวไปเดี๋ยวนี้ และพวกเจ้าทั้งหมดต้องวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต ข้าคือเป้าหมายของพวกนั้น ! เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า ข้าจะหาทางหนี หลังจากที่พวกเจ้าไปแล้ว ! ”
จวินโม่เซี่ยชี้แนะอย่างสงบนิ่ง
จวินฮูพยักหน้า ขณะที่เขาเพ่งมองไปยังเจ้านายของเขาอย่างว่างเปล่า
เราจะต้องไม่ทิ้งนายน้อยไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร …
“ นี่คือความรับผิดชอบเดียวของพวกเรา ! พวกเราจะไม่ทิ้งท่าน นายน้อย … เราจะปกป้องท่านจนตัวตาย ! เราไม่สามารถทำตามคำสั่งของนายน้อยได้ ! ”
“ ไร้สาระ ! ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า และตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจะต้องฟังทุกคำที่ข้าพูด ! ตอนนี้ทำตามที่ข้าสั่งซะ ! ”
จวินโม่เซี่ยตอบกลับไปด้วยความอดทน
“ เห็นได้ชัดจากการโจมตี พวกเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก ดังนั้นแม้เจ้าจะอยู่ต่อสู้ที่นี่เจ้าก็ทำอะไรได้ไม่มาก นอกจากนี้ หากเจ้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าก็จะมาเป็นภาระของข้า ! เจ้าออกไปจากที่นี่ซะ แล้วข้าก็จะออกไปจากที่นี่ได้อย่างง่ายดาย ! ”
“ หากเป็นเช่นนั้น พวกเราจะไปรอนายน้อยข้างหน้า ! และพวกเราจะพยายามเรียกร้องความสนใจให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ! ”
จวินฮูไม่ลั้งเลแม้แต่น้อยในขณะที่เขาตัดสินใจ
หากนายน้อยตาย ข้าจะไม่รอคำตัดสินทางทหาร .. ข้าจะเอามีดเสียคอหอย และฆ่าตัวตายทันที
หลังจากเขาออกคำสั่งคนเหล่านั้น พวกเขาทั้งแปดก็วิ่งหนี้ไปในทันที
“ ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร หรือใครคือผู้นำของเจ้า … เมื่อเจ้ามาเพื่อสังหารข้าพวกเจ้าก็ควรที่จะเตรียมเผชิญกับสิ่งที่จะตามมา ! ”
ขณะที่จวินโม่เซี่ยเห็นองครักษ์ทั้งแปดไปถุงมุมมถนน ก็มีประกายที่หายไปอย่างเนิ่นนานปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
“ วันนี้คงจะหลีเหลี่ยงที่จะปิดบังตัวตนในอดีตของข้าไม่ได้แล้วสินะ ! … ถ้าอย่างนั้น … มันคงจะถึงเวลาที่ต้องสังหารแล้ว ! ”
รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปราฏกขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่ร่างของเขาจมลึกลงไปในเก้าอี้ ราวกับเกล็ดหิมะภายใต้แสงแดดฤดูร้อน ร่างของเขาหายเข้าไปในพื้นดินด้านล่างโดยไร้ร่องรอย ทำให้เกี้ยวนั่นว่างเปล่า ….
การเคลื่อนที่ขององครักษ์นั้นทำให้มือสังหารสัลสน ! พวกเขาได้ใช้เวลาสืบมาหลายวัน และติดสินบนเหล่าพ่อค้าเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของจวินโม่เซี่ย พวกเขามั่นใจอย่างมากว่าจวินโม่เซี่นั่งอยู่ในเกี้ยว !
แต่เหตุใดเหล่าองครักษ์จึงท้องเกี้ยว ? พวกเขากำลังทำให้พวกเราไขว้เขวหรือ ?
แต่นั่นมันไม่มีเหตุผลเลย เอ๋ พวกเขาไม่แม้แต่จะมองเข้าในในเกี้ยวเพื่อดูว่าเจ้านายของเขยังอยู่หรือตายไปแล้ว … พวกเขาแค่หนี ! องครักษ์เหล่านี้ขาดความรับผิดชอบเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ? แต่แหล่งข่าวของข้ามั่นใจว่าองครักษ์เหล่านั้นซื้อสัตย์กับสกุลจวินอย่างมาก และกลัวที่จะใช้ชีวิตของพวกเขาเพื่อปกป้องเจ้านาย !
นี่มันช่างประหลาดจริงๆ ! หรือว่าเกี้ยวนั่น … จะว่างเปล่า … จริงๆ ?
ไม่มันเป็นไปไม่ได้ ! ความสูงของเกี้ยวนั่นสูงพอที่จะบอกได้ว่ามีคนอยู่ในนั้น ! เพราะฉนั้นต้องมีใครบางคนอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน !
แต่มันจะต้องมีเหตุผลว่าเหตุใพวกเขาถึงทิ้งเกี้ยวแล้วหนีไป !
แม้ว่าในหัวของเขาจะเต็มไปด้วยความคิดที่เป็นไปได้มากมาย แต่ผู้นำมือสังหารก็แจกจ่ายคำสั่งของเขาออกไปในทันที
“ สองกลุ่ม ไปหยุดองครักษ์ทั้งแปดนั่น แต่ห้ามสังหารพวกเขาจนหมด จะต้องจับมาอย่างน้อยหนึ่งคน ! อีกหนึ่งกลุ่มจะตามข้ามา และเราจะไปสังหารเจ้าชั่วนั่นด้วยตัวเอง ! ”
มีเงามากมายปรากฏออกมาจากความมืดรอบๆพื้นที่นั้น และมุ่งหน้าไปยังทางที่องครักษ์ทั้งแปดอย่างรวดเร็ว มือสังหารส่วนหนึ่ง ที่ดักอยู่ในเส้นทางที่พวกเขาใช้หนี ก็เริ่มต่อสู้กับพวกเขา
มือสังหารจำนวนหนึ่งออกมาจากที่ซ่อนของเขาเกือบจะพร้อมกัน และแยกออกเป็นสี่กลุ่มขณะที่พวกเขาล้อมรอบเกี้ยวไว้ พวกเขารีบปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดที่อาจจะเป็นทางหนีออกจากเกี้ยวได้ ในขณะที่กระบี่ของพวกเขาเปล่งประกายและสะท้อนหน้ากากของพวกเขา
“ ลูกชายสกุลจวิน เจ้าออกมาได้แล้ว … ไม่มีที่ให้เจ้าหนีแล้ว มันจึงไม่มีค่าอะไรหากเจ้าพยายามต่อสู้ ”
ผู้นำมือสังหารพูดช้าๆด้วยนำ้เสียงที่เย็นชาขณะที่เขาชักกระบี่สีทองของเขาออกมา
“ เจ้ายังอยู่ที่นั่น ข้ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็น ! หากเจ้าไม่ออกมา ข้าจะเผาเกี้ยวเจ้าซะ ! ”
ประกายแห่งความสุขบนความโชคร้ายของผู้อื่นนั้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เผยให้เห็นว่าเขามีความสุขกับการกระทำที่โหดร้ายนี้
ชายผู้นั้นทวนซ้ำ แต่ก็ได้ยินเพียงแต่เสียงการต่อสู้ที่ดังมาจากฝั่งที่องครักษ์ทั้งแปด และกลุ่มทั้งสองของเขา แม้ว่าองครักษ์ทั้งแปดนั้นจะมีจำนวนน้อยกว่า และมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับฝั่งตรงข้าม พวกเขาก็ยังกล้าที่จะดึงดูดความสนใจไปที่พวกเขามากเท่าที่เป็นไปได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ต้อสู้เพื่อให้ตัวเองรอด แต่เป็นความกล้าหาญที่จะต่อสู้เพื่อนายน้อยของพวกเขา !
ระหว่างการต่อสู้ที่ป่าเถื่อน มีธงรูปดอกไม้พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า !
“ นี่คือสัญญาณลับขอความช่วยเหลือของสกุลจวิน ! ”
ผู้นำมือสังหารรู่จักสัญญาณลับของพวกเขา และรู้ว่าพวกเขาจะต้องพบกับปัญหาหากพวกเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่าง ดังนั้น เขาจึงสบัดมือและออกคำสั่งอย่างไร้ความปราณี
“ เผาซะ ! ”
คบไฟหกอันถูกจุดขึ้น และจ่อไปยังผ้าบนเกี้ยว และโครงสร้างที่เป็นไม้ไผ่ และด้วยลมที่พัดมา ทำให้โหมลุกไปทั่วเกี้ยว ในขณะที่ใบหน้าของผู้วางเพลิงนั้นกำลังมีหัวเราะอย่างมีความสุข และพวกเขาคิดว่าจวินโม่เซี่ยจะดิ้นรนออกมาอย่างไร้ทางสู้
อย่างไรก็ตาม เสียงหัวเราะของพวกเขาก็ต้องหยุดลง
พวกเขาประหลาดใจเมื่อรู้ตัวว่าได้ยินแต่เสียงของไฟที่แผดเผาโครงสร้างของเกี้ยว แต่ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องของจวินโม่เซี่ย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ได้กลิ่น แค่กลิ่นของสิ่งของที่กำลังไหม้ และไม่ได้กลิ่นของศพแต่อย่างใด …
อ๋า เกิดอะไรขึ้น ?
เจ้าชั่วนั่นไม่ได้อยู่ในเกี้ยวจริงๆหรือ ?
ชายสองคนสบัดโซ่ที่ซ่อนเอาไว้ในปลอกแขนของเขาออกไป และตรงไปยังเกี้ยว ผ่าโครงสร้างของเกี้ยวที่ถูกไฟไหม้ให้เปิดออก !
ไม่มีแม้แต่ร่องรอย !
“ ลี่ฉีวู เกิดอะไรขึ้น ? ”
เสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล ร่างของหญิงสาวที่สวยและสง่างาม กำลังเฝ้ามองมาจากที่ห่างไกลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ พวกเราถูกหลอก ! ”
ผู้นำ ลี่ฉีวูกล่าวขึ้นพร้อมกับมีกระกายแสงสีเงิน ซึ่งสุกสว่างท่ามกลางหมู่เมฆทมึน และตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องคำราม
สายฝนร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์เบื่องบน
ในจุดนี้ องครักษ์ทั้งแปดของสกุลจวินยังคงยืนหยัดต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่าพวกเขาถึงสองเท่า และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมแพ้ แต่เห็นได้ชัดจากความเร็วที่พวกเขาได้ใช้พลังปราณไป เลือดของพวกเขาก็เริ่มไหลผ่านท้องถนนของเมืองในไม่ช้า ความจริง หากคนเหล่านี้เลือกที่จะหนีไป พวกเขาบางคนจะสามารถหนีไปได้ … อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงต่อสู้ต่อไป ด้วยความตั้งใจจะดึงดูดความสนใจผู้ที่โจมตีเจ้านายของพวกเขา !
“ เฮ้ เป็นอย่างไรบ้าง ? ”
ร่างที่ดูเหมือนผีปรากฏขึ้นด้านหลังชายใส่หน้ากากคนหนึ่ง ชายผู้นั้นหันกลับไป … และพบเพียงว่า มีนิ้วเรียวๆสองนิ้วแทงเข้าไปยังคอหอยของเขา ปั๊ก … ดวงตาของเขาแข็งไปด้วยความตกตะลึงในขณะที่มือของเขากระตุก และเท้าของเขาก้าวถอยไปพร้อมกับร่างของเขาที่ล้มลง
ซึ่งร่างที่ปรากฏขึ้นนี้ดูซีดจาง มือสังหารคนอื่นจึงไม่สามารถมองเห็นมันได้ ทั้งหมดที่เขาเห็นคนือ เพื่อนของเขาล้มลงไป และไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของเขาจึงล้มไปบนพื้นอย่างไร้เหตุผล
“ เจ้าทำอะไร ? ”
เขาถามขณะที่ยื่นมือออกไปเพื่อคว้าเพื่อนของเขา
ขณะที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับศพของเพื่อนที่ตายแล้ว เพื่อนของเขาอีกสิบห้าคนร้องขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ ระวัง … ”
แต่พวกเขาช้าเกินไป ชายผู้นั้นรู้สึกว่ามีมือที่เยือกเย็นมาจับคอเขาไว้ ขณะที่หูของเขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างหัก …. ชายผู้นั้น งุนงงเมื่อพบว่าตัวเขากำลังเพ่งมองก้นของตัวเองอยู่ !
เกิดอะไรขึ้น ? ตอนแรกข้าก็มองตรงไปอยู่ แล้วเหตุใดข้าถึงเห็นก้นตัวเอง …
ขณะที่เขายังคงคิดอยู่ ร่างของเขาก็ร่วงลงไปบนพื้นในขณะที่ดวงตาอันไร้วิญญาณของเขายังคงมองก้นของเขาต่อไป !
ชายผู้นี้นับโชคดีอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่าความจริงแล้ว เขาได้ตายไปอย่างไม่เจ็บปวด และเห็นเพียงแต่ก้นของเขาในช่วงเวลาสุดท้าย …
อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆของเขาก็ไม่ได้โชคดีอย่างนั้น !
แสงของฟ้าผ่ายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสายฝนที่ร่วงหล่น !
ในขณะที่แสงเปล่งประกายขึ้นในท้องฟ้า ทุกๆคนได้รับประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัว ร่างที่เบาบางปรากฏขึ้นระหว่างมือสังหารสี่คน ราวกับผี … ไม่มีใครเห็นว่าร่างนั้นมาจากที่ใด … ไม่มีใครได้ยินเสียงของมัน …
เขาเป็นพระเจ้า … หรือปิศาจ ?
ราวกับปิศาจในฝันร้าย พวกเขาสามารถมองเห็นมันได้ แต่จับต้องไม่ได้ ปิศาจตนนั้นกระชากชีวิตของเขาไปอย่างรวดเร็ว … พวกเขา ยืนเฉยๆยอมรับโชคชะตาอย่างหมดหนทาง !
Translate by iHaveNoName