Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 177
“ ดี เอาละ เจ้าควรจะไปพักบ้าง ”
จวินวูอี้เพ่งมองไปยังจวินโม่เซี่ยและกวนเซียงฮั่น
“ ไม่ต้องกังวล ท้องฟ้ายังไม่ถล่ม และหากมันจะเกิดขึ้น น้าของเจ้าจะอยู่ดูแลเจ้าที่นี่ ! ”
เซียงฮั่นยังคงสะอื้น ในขระที่ดวงตาของจวินโม่เซี่ยยังคงมีประกายแห่งความตื่นเต้น ทันใดนั้น ปากของเขาก็โค้งเป็นรอยยิ้มที่ดูวิกลจริต ราวกับว่าเขาได้พบกับช่วงจังหวะแห่งการะบรรลุ เขามองไปยังจวินวูอี้ช้าๆและพูด
“ ข้าจะออกไปข้างนอก ! ”
จวินโม่เซี่ยรีบหันไปก่อนที่พวกเขาจะตอบสนอง และหายเข้าไปในพายุฝนด้านนอก
ฝนยังคงตกหนักอยู่ด้านนอก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในเร็วๆนี้
ท้องฟ้านั้นยังคงมืดมิด
แม้สีหน้าของจวินวูอี้จะสงบและตั้งมั่น ดวงตาของเขาก็ยังคงจมลึกไปกับความคิด
เซียงฮั่นยืนอยู่โถงทานอาหารอย่างเงียบๆ ในขณะที่นางยืนมองออกไปยังสายฝนเบื้องนอกอย่างเย็นชาและไร้ความรู้สึกใดๆ เม็ดฝนร่วงลงมาประทบพื้นและแตกกระจาย และมีละอองฝนบางส่วนกระเต็นมาโดนใบหน้าและร่างกายของนาง ทำให้รู้สึกหนาวเย็นอย่างแปลกประหลาด …
… บ้านสกุลลี่ …
“ วันนี้มีการพยายายามเอาชีวิตจวินโม่เซี่ยใช่ไหม ? ”
ลี่โย่วหลานกำลังใส่หน้ากากอยู่ แต่ประกายในแววตาของเขานั้นสว่างชัดมากพอที่จะสื่อให้รู้ว่าเขานั้นสนใจในเหตุการณ์นี้
“ เขาตายไหม ? ”
“ ไม่ ”
ชายที่ผอมแห้งในชุดสีดำตอบกลับมา
“ มีคนลึกลับปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ และสังหารมือสังหารไปจำนวนหนึ่ง ชายผู้นี้ทรงพลังอย่างมาก และทำให้มือสังหารต้องล่าถอยไป ”
“ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังการพยายามเอาชีวิตจวินโม่เซี่ย ? ”
ลี่โย่วหลานไม่สนใจการดำเนินชีวิตของจวินโม่เซี่ยมากนัก เนื่องจากเขาถือว่า จวินโม่เซี่ยนั้นไม่มีความสำคัญมากพอที่จะเทียบกับเขา อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่า ชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นั้นสำคัญกับสกุลจวินและผู้ที่ติดตามสกุล
“ ยังไม่ชัดเจน ”
ชายในชุดดำก้มหัว
“ อย่างนั้น ไปสืบมา ”
เสียงตะโกนอันเย็นชาของลี่โย่วหลานนั้น ทำให้ชายผู้นั้นตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าของลี่โย่วหลานนั้นเสียงรูปไปเนื่องจากเขาได้รับอุบัติเหตุในตอนนั้น ซึ่งทำให้เขาอยู่แต่ในบ้าน อารมณ์ของเขานั้นเพิ่มมากขึ้นและคาดเดาไม่ได้ ในแต่ละวันที่ผ่านไป ซึ่งทำให้คนรับใช้ของเขานั้นหวาดกลัวมากขึ้น
ลี่โย่วหลานเดินเข้าไปในห้องนอน เอามือแนบกำแพงและผลัก มีเสียงกลไกที่กำลังหมุนดังขึ้น และจากนั้น กำแพงก็เปิดเป็นช่องประตู ชั้นของหินนำทางลงไปยังใต้ดินเบื้องล่าง และจากนั้นบรรไดก็เลื่อนขึ้นมา ทำให้ดูเหมือนว่ายังมีอีกช่องทางที่เข้าไปยังห้องนี้ได้
ลี่โย่วหลานเดินลงไปบรรไดไปช้าๆ และไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงของฝนดังขึ้นมา ราวกับว่าเขาได้ขึ้นมาบนพื้นอีกครั้ง ไม่นานนัก ร่างของลี่โย่วหลานก็ได้ปรากฏขึ้นมาช้าๆในลานบ้านขนาดเล็กที่เป็นความลับ
“ น้องลี่ ! ”
ที่ลานบ้านนี้มีคนอยู่ราวๆสิบคน ทั้งหมดใส่ชุดสีขาว คนแรกที่พูดขึ้นมานั้นคือชายวัยกลางคน อายุราวๆสี่สิบปีหากเทียบกับหน้าตา เขาตัวสูง ร่างกายกำยำ และดวงตาที่เรียวของเขาแสดงออกถึงามเฉยเมย ราวกับว่าเขาถือว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือกว่าผู้ใด หญิงสาวที่บอบบางอายุราวสามสิบปียืนอยู่ด้านหลังของเขา ในขณะที่ชายและหญิงที่เหลืออยู่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเขา คนเหล่านี้ได้ช่วยเหลือลี่โย่วหลานอยู่อย่างเงียบๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และกลายมาเป็นคนรู้จักของเขา
“ พี่ลี่ ! ”
ลี่โย่วหลานกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ
“ ยังไม่มีข่าวเกียวกับแกนเชวียนเลย แต่ข้าได้ส่งเครือข่ายคนของข้าออกไปแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงไม่ควรจะพลาดรายละเอียดต่างๆไป หากมาข่าวใดๆเกี่ยวกับสมบัติชิ้นนี้ มั่นใจได้ว่าพวกเราจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รู้ ! แต่ก็มีข่าวลือที่พวกเราจะต้องสนใจ … ว่ากันว่า เมืองพายุหิมะขาวมายังเทียนเชียงแล้ว พร้อมกำลกองกำลังอื่นๆ อาจจะบอกได้ว่า มีเทพเชวียนอย่างน้อยสี่คนอยู่ในเมืองเทียนเชียงในตอนนี้ พร้อมกับสวรรค์เชวียนอีกจำนวนมาก ซึ่งทำให้สถานการณ์ไม่มั่นคง เมื่อมีข่าวใดๆที่เกี่ยวกับแกนเชวียน กลุ่มคนเหล่านี้จะเริ่มต่อสู้กันเอง … และพวกเราอาจจะไม่ได้มีโอกาสที่ดีในการจะได้เป็นผู้ชนะ … ! ”
“ พวกเราอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับกลุ่มอื่นๆ แต่พวกเรามีสวรรค์เชวียนหกคน และยอดฝีมือปฐพีเชวียนสี่คน ข้าเชื่อว่าหากพวกเราคว้ามันมาได้ก่อนคนอื่นๆ พวกเราก็จะรีบหนีไปอย่างเร็วที่สุด หากเป็นเช่นนั้น แม้แต่ยุ่นเบ้ยเฉินก็ไม่อาจจะขัดขวางพวกเราได้ ”
ชายวัยกลางคนตอบกลับมาอย่างชัดเจน
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนั้น น้องลี่ ”
“ ขอรับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่าน พี่ลี่ ”
ลี่โย่วหลานยิ้มและพูด
“ ข้ารู้สึกมาตลอดว่าการระเบิดของปะการังหยกนั่นมีอะไรบางอย่างแปลกๆ และก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง เจ้าสามารถที่จะสอดส่องหอมณีวิจิตร และคนที่เกียวข้องได้หรือไม่ ? ”
ชายร่างผอมยิ้มและพูด
“ น้องลี่ คนที่เกี่ยวข้องที่เจ้าพูดถึงคือใคร ? ปราณเชวียนของข้าอาจจะไม่สูงไปกว่าพี่น้องทั้งหกของข้า แต่เมื่อต้องสะกดรอยผู้คน ข้ามั่นใจว่า แม้แต่พี่น้องของข้าก็ไม่สามารถเก่งเกินกว่าข้าได้ ! ”
ชายผู้นี้เป็นคนที่ผอมกว่าคนอื่นๆ แต่เขาเป็นตักสะกดรอยที่คล่องแคล่ว และเขาสามารถรวบรวมข้อมูลได้เกือบทุกอย่าง
“ ยังมีคนที่เกี่ยวข้องนอกจากหอมณีวิจิตรตคือ ถังหยวนและจวินโม่เซี่ย ทั้งคู่อยู่ในที่พักสกุลจวินในตอนนี้ ถังหยวนกำลังบาดเจ็บ ดังนั้นเจ้าจะต้องให้ความสนใจกับจวินโม่เซี่ยไปก่อน … ข้ารู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับเด็กคนนั้น ”
แม้แต่หน้ากาของลี่โย่วหลานก็ไม่สามารถปกปิดสีหน้าของเขาไว้ได้
“ อย่างไรก็ตาม ที่ที่พวกเขาอยู่นั้นมีการคุ้มกันที่แน่นหนา และพวกเจ้าจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เจ้าจะต้องไม่ทำให้มีการแตกตื่น ท่านพี่ ”
“ อย่าได้กังวลไป ชายผู้นี้สามารถที่จะสะกดรอยอะไรก็ตามได้ แม้ว่าข้าจะไม่สามารถทำได้ เป็นเป็นสุดยอดในเคล็ดนี้ ”
ชายวัยกลางคนยิมขณะที่เขา มองไปยังสหายของเขาอย่างดุร้าย
ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังของชายวัยกลางคนหัวเราะ
“ ยังไม่สามารถยอมรับความทรงจำในอดีตได้อีกหรือ ? ”
ชายผู้นั้นพึมพัมสองครั้งจากนั้นเขาก็พูด
“ อะไรที่ยากที่จะทนกับมัน ? ข้าถูกหลอกด้วยข้อมูลปลอม และต้องสุดท้ายจะต้องหลบไปใน … นั่นเป็นเพียงเหตุผลที่ข้าหลงกลในเวลานั้น …. ”
คนทั้งหมดหัวเราะขึ้นมา แม้แต่ลี่โย่วหลานก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ และจากนั้นเขาก็พูด
“ หากเจ้าไม่สามารถที่จะสะกดรอยได้ ข้าเชื่อว่าไม่มีผู้ใดสามารถทำได้แล้ว ข้าไว้ใจท่านอย่างมากท่านพี่ ”
ทั่วทั้งห้องเงียบลงในขณะที่ระฆังขนาดเล็กที่มุมห้องดังขึ้นอย่างกระทันหัน
ใบหน้าของลี่โย่วหลานเปลี่ยนสีไปในทันที
แต่ … ระฆังนี้ต่อเข้ากับห้องใหญ่ มันไม่ควรจะดักนอกเสียจากว่ามีบางอย่างที่เร่งด่วนมาก ! เกิดอะไรขึ้น ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ … หรือมีบางอย่างที่คนของข้าไม่สามารถรับมือได้ ?
“ ท่านพี่ โปรดนั่งรอก่อน ในระหว่างที่ข้าออกไปดู … แม้แต่ข้าก็ไม่คาดว่าจะมีเรื่องอะไรในวันที่ฝนกระหน่ำนี้ ”
ลี่โย่วหลานพูดขึ้นมาดน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะธรรมดา
“ ไม่จำเป็นต้องมากพิธีน้องชาย พวกเราเข้าใจหากเจ้ามีเรื่องอื่นต้องจัดการ ”
ชายวัยกลางคนตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ลี่โย่วหลานเดินออกไปอย่างช้าๆ และทันใดนนั้นก็พุ่งเข้ามา เขาพูดขึ้นอย่าลังเลก่อนที่ทุกคนจะพูดอะไรขึ้นมา
“ มีปราณของแกนเชวียนปรากฏขึ้นในทางทิศตะวันตกของเมือง ขาวนี้ได้รับการยืนยัน และยอดฝีมือเชวียนขั้นสูงจำนวนมากถูกเรียกให้ไปรวมตัวกัน ทางทิศตะวันตกของเมืองในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่นี้ ! ”
คนเหล่านี้รู้เสมอว่าลี่โย่วหลานนั้นเป็นคนที่สงบนิ่งและสง่างาม นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเขาทำตัวเช่นนี้และพูดด้วยความเร่งรีบ ในตลอดห้าปีที่รู้จักเขามา !
คนทั้งสิบลุกขึ้นมาพร้อมๆกัน ! ชายวัยกลางคนสะบัดมือ
“ ทั้งหมดออกไป ทางตะวันตก ! ”
ร่างทั้งสิบพุ่งเข้าไปในสายลมและสายฝนอย่างรวดเร็ว แสงของปราณเชวียนของพวกเขาเปล่ปงระกายขึ้นในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่จะพาพวกเขาไปสู่เป้าหมาย และไม่นานประกายแสงของพวกเขาก็ได้หายไปกับสายฝน
ลี่โย่วหลานยังคงยืนเพ่งมองไปยังท้องฟ้าพี่พร่ามัว ไม่สามารถที่จะเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความเศร้าที่เกิดขึ้นในหัวใจของเขา
… พื้นที่ทางทิศตะวันตกของเมือง …
นายน้อยจวินกำลังนั่งอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆที่ โกโรโกโส และพุพัง พร้อมด้วยหน้ากาที่อยู่บนใบหน้าของเขา แกนเชวียนวางอยู่บนโต๊ะเล็กๆตรงหน้าเขาอย่างเงียบๆ
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่แกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุด แต่เป็นแกนเชวียนขั้นหกที่จวินวูอี้ได้เตรียมการไว้ให้เขาก่อนหน้านี้ แม้ว่ามันจะเป็นของหายากและเป็นสิ่งของที่ล้ำค่า อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมที่สกุลของเขาจะหามาได้
คำพูดของมือสังหารจวินและคำมั่นที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของสกุลจวินก่อนนี้นั้นอาจจะเกิดขึ้นมาด้วยอารมณ์ แต่สัญชาตญาณของเขานั้นเตือนให้เขาได้รู้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า แม้ว่ามือสังหารจวินนั้นจะกล้าหาญ แต่เมื่อต้องเผชิญกับพลังอำนาจของกองกำลังเช่นเขตซือฮั่นนั้น แม้แต่หัวใจของเขาก็อดที่จะเต้นรัวราวกับกลองไม่ได้
จากเรื่องราวทั้งหมดนั้น ลี่จื้อเทียนเป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสอง และผู้ที่มั่นใจในฝีมือของตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนั้นเป็นอะไรที่โง่มาก !
แต่เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับความคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย ดังนั้นแทนที่จะคิดถึงเรื่องที่ไร้ความหมายเช่นนี้ จวินโม่เซี่ยจึงง่วนอยู่กับการหาทางแก้ไขน่าจะดีกว่า !
จวินโม่เซี่ยรู้ดีว่าการที่ขั่วโมโห เมืองพายุหิมะขาวหรือเขตซื่อฮั่นนั้นแย่พออยู่แล้ว แต่ในตอนนี้ พวกเขาจะต้องรับมือกับพวกเขาพร้อมๆกัน !
ตอนนี้มันคือเรื่องของความเป็นตาย !
ด้วยความเลือดร้อนของจวินโม่เซี่ย เขาไม่อาจทนต่อความอับอายในเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถรับมือกับกองกำลังทั้งสองได้
เนื่องจากข้าไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้ ข้าจะต้องใช้กลอุบาย ! อย่างไรก็ตาม ข้าใช้แผนการที่ถูกต้องใช่ไหม ?
เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถรับมือทั้งสองฝั่งได้ด้วยวิธีการทั่วไป และแม้ว่าเขาได้ลองพิจารณากลยุทธ์มากมาย ภาพรวมของมันก็ยังคลุมเครือเนื่องจากเขาไม่สามารถวางแผนเหล่านั้นได้ …
ในขณะที่เขาได้ทำการศึกษาแกนเชวียน จวินโม่เซี่ยก็ได้รู้ว่าเคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ไม่สามารถที่จะจำลองปราณของแกนเชวียนได้ ! เห็นได้ชัดว่า จวินโม่เซี่ยได้ว่ากลยุทธ์นี้ตั้งแต่นั้นมา
จวินโม่เซี่ยได้ทำการทดลองหลายครั้งหลังจากที่เขาได้รับแกนเชวียนระดับหกมา และสุดท้ายก็ได้รู้ว่า ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะระบุระดับขั้นที่แท้จริงของแกนเชวียนได้ เมื่อรูปลักษณ์ภายนอกของมันได้เปลี่ยนไป และดูเหมือนว่ามันเป็นความลึกลับของแกนเชวียน แม้แต่ปราณถายในของมันก็ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากเคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์นั้นได้ปกปิดมันไว้แล้ว
จวินโม่เซี่ยอยากจะรอให้สถานการณ์มั่นคงเล็กน้อย และจนกว่าสุขภาพของถังหยวนจะฟื้นฟูมากพอที่จะทำตามแผนการของเขา และเขาจะใช้วิธีการนี้เพื่อหาผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เรื่องของเขตซือฮั่นนั้นทำให้เขาเปลี่ยนใจ
มือสังหารจวินตัดสินใจที่จะเริ่มกระบวนการโดยเร็ว !
เขาไม่มีเวลาที่จะมารีรอแล้ว !
จวินโม่เซี่ยจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของน้าและปู่ของเขา หากพวกเขาจะสร้างความมั่นคงเพื่อปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาเอง !
หาก เมืองพายุหิมะขาวเพียงลำพังสามารถสร้างความทุกข์ทรมาณแก่สกุลจวินนับสิบปีได้ ในขณะที่แกล้งหยอกจวินวูอี้ได้ในเวลาเดียวกัน ในเวลาเดียวกันนั้น ความกดดันขากเขตซือฮั่นก็ทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นอันตราย !