Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 178
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกถึงจำนวนของยอดฝีมือเชวียนระดับสูงที่เดินทางมายังเมืองเทียนเชียงในขณะนี้ ความจริง มีข่าวลือว่า สองในแปดปรมาจารย์นั้นอยู่ในเมืองเทียนเชียงแล้ว มันจึงเป็นการยากอย่างมากที่จะบอกถึงจำนวนของยอดฝีมือเทพเชวียนที่กำลังแย่งชิงสมบัติชิ้นนี้อยู่ !
แม้ว่าความบ้าคลั่งนี้กำลังเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีความสับสนมากมายในเมือง เมื่อแกนเชีวยนปรากฏขึ้น จวินโม่เซี่ยวางแผนที่จะใช้ความสับสนนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ! หรือบางที เขาได้ว่าแผนจะใช่สถานการณ์นี้เพื่อทำให้ศัตรูอ่อนแอ !
ตั้งแต่ที่มือสังหารจวินได้ทำการตัดสินใจ เขาหลับตาและทำจิตให้ว่าง จากนั้น เขาก็ยื่นมือไปยังแกนเชวียน และกระตุ้นเจดีย์หงษ์จวินเขาสัมผัสถึงความเย็นของแกนเชวียน พลังปราณที่รุนแรงพุ่งไปตามเส้นลมปราณของเขาในทันที และค่อยๆหลั่งไหลเข้าไปสู่แกนเชวียน
ปราณเชวียนของจวินโม่เซี่ยนั้นไม่มากพอที่จะสร้างกลิ่นไอที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งมันเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องใช้เจดีย์หงษ์จวินช่วย !
แสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากแกนเชวียนที่เดิมทีนั้นเป็นสีดำ และส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง พลังปราณที่รุงแรงไหลออกมาจากแกนเชวียน และพุ่งออกไปทุกทิศทางในทันที และเริ่มกระจายออกไปนอกห้อง
“ อะไรสามารถที่จะปลดปล่อยพลังปราณที่รุนแรงขนาดนี้ได้ ? ”
ชายผมขาวสามคน ผู้ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในหอมณีวิจิตร ลืมตาขึ้นมา ในขณะที่ชายที่อยู่ตรงกลางพูดออกมาเสียงดัง
“ แกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุด ! ”
ชายทั้งสามพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน และจากนั้นก็มองหน้ากันเพื่อยืนยันความสงสัย
“ ไป ! ”
ผู้อาวุโสทั้งสามพูดขึ้นมาพร้อมกัน และจากนั้นก็พุ่งตัวออกไปโดยไม่ลังเล พวกเขาพุ่งตรงขึ้นไปยังหลังคาของหอมณีวิจิตร ช่างโชคดีต่อโครงสร้างของอาคาร ที่พวกเขานั่งอยู่ในห้องที่สูงที่สุดของตึก
ฟ้าร้องและฝ่าผ่าเกิดขึ้นเต็มไปทั่วท้องฟ้า ในขณะที่สายฝนยังคงกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง !
ผู้อาวุโสสามหลับตาเพื่อสัมผัสถึงพลังปราณนั้นให้ดีขึ้น และจากนั้นก็ตะโกนขึ้น
“ แกนเชวียนอยู่ในส่วนตะวันตกของเมือง ! ”
ผู้อาวุโสอีกสองคนมองไปยังทิศตะวันตกทันที และเพ่งมองไปที่พายุฝนซึ่งกำลังปกคลุมในส่วนตะวันตกของเมืองเทียนเชียงอยู่
“ ไป ! ”
ร่างทั้งสามของพวกเขาพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย และค่อยๆหายเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยพายุ ทิ้งรูขนาดใหญ่บนหลังคาของอาคารไว้เบื้อหลังพวกเขา โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่า น้ำฝนเริ่มจะหลั่งไหลเข้าไปในสู่รูขนาดใหญ่นั้น …
มีร่างอีกสี่ร่างปรากฏขึ้นในห้องไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป ชายสามคนและผู้หญิง ผู้หญิงเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา
“ ฮี่ ฮี่ ดูเหมือนจะมีเรื่องสนุก เราพลาดมันไปได้อย่างไรกัน ? ตามพวกเขาไป ”
เห็นได้ชัดจากท่าทางที่นางตามพวกเขาไป ซึ่งหมายความว่านางไม่กลัวการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ชายสามคนมองหน้ากัน ยิ้ม และรีบตามนางไป ชายสองคนนั้นเหาะไปใกล้ๆกัน อย่างไรก็ตาม ชายคนที่สามเว้นระยะห่างของตัวเองไว้เพื่อเหตุผลบางอย่าง
ชายหกคนถูกส่งให้ไปประจำที่ ที่พำนักซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจัดงานของราชสำนักในส่วนทางใต้ของเมือง ชายที่สูง ผอม และใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่นปรากฏตัวขึ้นตรงประตู จากนั้นชายทั้งหกก็เข้าแถว โดยที่พวกเขาทั้งหกนั้นเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน แต่ผู้ชายที่ผอมนี้ไม่เปิดเผยถึงระดับปราณเชวียนของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าปราณเชวียนของเขานั้นอยู่ในระดับที่สูงข้าข้าทาสบริวาร
เขากระซิบเบาๆ
“ ไป ! ”
ชายทั้งเจ็ดเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นขบวน !
ในเวลาเดียวกัน ประตูห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกของที่พำนักนี้เปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับเสียงเบียดเสียด และมีเสียงดังขึ้นช้าๆพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ พี่ฉี นี่มิใช่สิ่งที่ท่านรอคอยอยู่หรือ ? ท่านไม่ต้องการจะคว้ามันมาหรือ ?! ”
ผู้พูดนั้นเป็นชายในชุดสีขาว ผู้ที่เดินจากห้องผ่านสายฝนเข้ามา ดูเหมือนว่าเขาไม่กลัวแม้แต่น้อยเลยว่าชุดของเขาจะเปียกฝน เขาเดินผ่านสวนที่สวยงามที่อยู่ด้านนอกซึ่งมันงดงามอย่างมาก ดูราวกับดอกไม้นั้นยืนต้นขึ้นมาและเคลื่อนที่ไปทั่วสวน
ชายผู้นี้คือ ที่ปรึกษาราชสำนักแห่งอาณาจักรยูถัง เฟ้ยเมิงเฉิน !
“ เฟ้ยเมิงเฉิน ! ”
ชายในชุดสีขาวยิ้ม และพูด
“ ไม่มีผู้ใดหยุดท่านได้ ท่านสามารถไปตราบเท่าที่ท่านกลัวตาย ! ”
เฟ้ยเมิงเฉินมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และหัวเราะ
“ พี่ฉี ผู้อื่นอาจจะมองว่าท่านเป็นหนึ่งในแปดปรมาจารย์ แต่มันก็ควรจะชัดเจนแล้วว่าข้ายังอยู่ที่นี่ ! ”
ผู้ที่เฟ้ยเมิงเฉินกำลังพูดด้วยนั้นคือหนึ่งในแปดปรมาจารย์ ฉีเฉียงเซี่ยวแห่งอาณาจักรเฉินซี !
ฉีเฉียงเซี่ยวยิ้มขณะที่ยืนขึ้น และจากนั้นเขาเดินเข้าไปในสายฝน พุ่งขึ้นไปในอากาศ และลอยตัวอยู่กลางอากาศ จากนั้นเขาก็หมุนตัวไปทางตะวันตก และเหาะออกไปอย่างรวดเร็ว เฟ้ยเมิงเฉินหัวเราะ และไล่ตามเขาไป คนอื่นๆตามหลังสองคนนี้ไปด้วยความเร็วสูงสุด !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหัวเราะขณะที่กลืนสุราไปอึกใหญ่
“ สุราที่น่าอัศจรรย์ ! เป็นสุราที่น่าอัศจรรย์จริงๆ ! ”
เขาและองค์ชายยังคงรวมตัวกันอยู่ที่โรงเตี้ยมของผู้เฒ้าซ้ง และตัดสินใจที่จะกลับในขณะที่ฝนตกหนักลงมา
เขาไม่ได้ชอบอยู่กับคน
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกอึดอัด จากทั้งหมดนั้น เขาก็ได้ดื่มด่ำกับสุราที่ดีที่สุดที่เขาเคยรู้จัก ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาประหลาดใจ และทำตัวดั่งสายน้ำไหล เดิมทีแล้วเขามีความสุขกับการดื่มสุราเพียงลำพัง !
พวกเขาดื่มสุราสองเหยือกที่จวินโม่เซี่ยได้นำมาแล้ว และตอนนี้กำลังจะดื่มสุราของผู้เฒ่าซ้ง สุราที่เดิมทีทำให้พวกเขาเมาเพียงแค่ได้กลิ่น ตอนนี้มันทำให้รู้สึกสากคอเมื่อเทียบกับของจวินโม่เซี่ย ราวกับแมลงวันที่ติดอยู่กับขี้ผึ้ง !
แม้ว่าบ้านขององค์ชายหยางฮ่วยน้งจะไม่ไกลจากที่นี่ เขาก็ยังไม่อยากกลับจนกว่าสุราจะหมดซึ่งมันหมายความว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะกินมันจนหมดเพียงคนเดียว
ข้าไม่ปล่อยให้เขาดื่มสุรานี่จนหมดไปเพียงคนเดียวหรอก … แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในแปดปรมาจารย์ของโลก …
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้เฒ่าซ้งอดที่จะรู้สึกโศกเศร้าไม่ได้ในขณะที่เขาเฝ้ามองคนเหล่านี้มีความสุข
นี่คือสุราของอาจารย์ของข้า และข้าได้เตรียมตัวเพื่อศึกษามัน … และตอนนี้คนเหล่านั้นก็ดื่มมันไปหมดแล้ว ….
อย่างไรก็ตาม ความโศกเศร้าและรำคาญนั้นเป็นส่วนหนึ่งจากความจริงที่ว่าพวกเขาดื่มสุราของอาจารย์ของเขาหมดแล้ว และความจริงที่ว่าพวกเขากำลังจะดื่มสุราที่พวกเขาไม่เลือกให้หมด และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาดื่มมันด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ …
ชายผู้หนึ่งคือพี่น้องขององค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักร และอีกคนหนึ่งเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่ยังมีชีวิตอยู่ … แต่พวกเขานั้นไม่ต่างอะไรจากคนเลวในสายตาของเขาในตอนนี้ !
ทันใดนนั้น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็เบิกตากว้างในขณะที่เขากระทืบเท้า ทำให้ชายทั้งสองตกตะลึง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น และหัวเราะ
“ สุดท้ายข้าก็ได้พบเจอโอกาสที่ดี ! ”
จากนั้น เขาก็พุ่งตัวไปโดยที่ไม่เอ่ยคำลา และหายเข้าไปในสายฝนด้านนอก
ในฐานะยอดฝีมือสวรรค์เชวียน ซ้งฉางก็สามารถสัมผัสได้ถึง พลังปราณที่แปรปรวนซึ่งปะปนมาในภายุได้เช่นเดียวกัน ดวงตาที่เคลื่อนไหวไปมาเผยให้เห็นว่าเขาก็ต้องการที่จะออกไป แจ่เขาก็ถอนหายใน ก้มหัว ยกจอกสุราขึ้นมาและดื่มมันลงไปเพื่อปลอบประโลม
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา การเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงแกนเชวียนนั้น จะทำให้เขาได้ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว ความตาย !
ซ้งฉางล้มเลิกความคิดที่จะแย่งชิงแกนเชวียนในทันทีหลังจากที่สัมผัสความแข็งแกร่งที่น่ากลัวได้จากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ซึ่งมันไหลออกมาสู่อากาศในตอนที่เขาพุ่งออกไป ซึ่งเขารู้ว่าการเข้าร่วมการต่อสู้นี้เป็นเพียงแค่การฆ่าตัวตาย
“ เกิดอะไรขึ้น ? ”
องค์ชายสับสนจากการรีบออกไปด้วยท่าทีที่แปลกประหลาดของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จนเขาอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
“ ดูเหมือนว่า แกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุดที่ร่ำลือกันนั้นปรากฏออกมาแล้ว ”
ซ้งฉางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ มีเพียงแค่แกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุดเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยพลังปราณเช่นนี้ได้ ! ลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่ของปลอม ”
“ แกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุด ! ”
องค์ชายอ้าอากค้าง
“ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหายตัวไปเมื่อผัมผัสถึงมันได้ ! นั่นหมายความว่าเขาจะเข้าร่วมการแข่งขึ้นเพื่อแย่งชิงมัน ? ”
“ เขามุ่งหน้าไปทิศทางนั้น อย่าไรก็ตาม เขาอาจจะไม่ได้สนใจในแกนเชวียน และอาจจะมองหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม ด้วยธรรมชาติของเขา ข้าไม่คิดว่าเขาจะสนใจในตัวของวัตถุมากนัก ”
ซ้งฉางโก่งคอของเขาด้วยความเศร้า
“ เนื่อจากความรุนแรงของการแย่งชิงนี้ ข้าไม่สามารถทำอะไรในการต่อสู้ได้เลย ”
องค์ชายสามารถสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าในน้ำเสียงของเพื่อนของเขาได้อย่างชัดเจน
ซ้งฉางฝึกฝนมาตลอดชีวิตของเขา แต่ตอนนี้ สมรภูมิที่ยอดเยี่ยมนี้ได้มาเกิดขึ้นใกล้ๆ เขาเองก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นส่วนหนึ่ง …
….. มีการเคลื่อนไหวมายังที่นี่จากทั้งสี่ทิศพร้อมๆกัน
มีร่างสามร่างของสามคนแรก ตามมาด้วยหกคนต่อมา และผู้อาวุโสทั้งเก้าจากเมืองพายุหิมะขาวมุ่งหน้ามาจากทางเหนือ !
มือสังหารสิบคนจากสกุลลี่นั้นมุ่งหน้ามาจากทางตะวันออก !
ฉีฉางเซี่ยว และเฝ้ยเมิงเฉินนั้นนำยอดฝีมือสวรรค์เชวียนหกหรือเจ็ดคนที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดมาจากทางใต้ของเมือง !
ทางตะวันตก เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมุ่งหน้าฝ่าสามฝนมาราวกับเหยี่ยว ในขณะที่ชุดสีดำของเขาส่งเสียง แฉะๆ ขณะที่เขาพุ่งฝ่าสายลมมาด้วยความเร็วแสง !
พวกเขาทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกัน กระท่อมหลังเล็ก .. ที่เป็นแหล่งที่มาของพลังปราณของแกนเชวียน !
ผู้คนสามารถมองเห็นแสงสีน้ำตาลและทองพุ่งผ่านท้องฟ้าของเมืองเทียนเชียงได้ พวกเขาเข้าใกล้กระท่อมหลังเล็กด้วยความเร็วราวกับผี
“ มันโง่มากจริงๆที่เอาแกนเชวียนออกมาในวันที่ฝนตกเช่นนี้ คนผู้นี้เขารู้หรือไม่ว่าอากาศที่เต็มไปด้วยฝนนี้จะเป็นเหตุให้มันลมปราณของแกนเชวียนรุงแรงขึ้น ? … หรือนี่จะเป็นกับดัก ? ”
แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสี่จากเมืองพายุหิมะขาว จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด แต่พวกเขาก็ยังสามารถพูดคุยกันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
“ อย่างน้อย ข่าวลือเรื่องแกนเชวียนนั้นก็เป็นเรื่องจริง ! กลิ่นอายเช่นนี้มาจากแกนเชวียนขั้นเก้าสูงสุดเท่านั้น นี่มิใช่ของปลอม ! สำหรับโอกาสที่นี่จะเป็นกับดัก ข้าเองไม่สามารถบอกได้ ”
ใบหน้าของผู้อาวุโสหกสะท้อนถึงความมั่นใจ
“ พวกเราสัมผัสได้ถึงพลังปราณของ ผู้ทรงพลังได้ที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา หรือจะเป็นการกระทำของเขา ? ”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสเก้านั้นแฝงไปด้วยร่องรอยแห่งความกลัว หัวใจของเขายังสั่นไหว เมื่อคิดว่าต้องเผชิญหน้ากับอำนาจที่ลึกลับ !
“ พี่สาม ผู้ทรงพลังนั่นยังคงทำให้ข้าสับสน และข้าไม่รู้ว่าพวกเราจะสามารถหนีออกมาจาก …. ”
ผู้อาวุโสเก้ายังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค เขาก็พบว่าตัวเองถูกขัดโดยผู้อาวุโสสาม
“ อย่าได้พูดเช่นนั้น ! ”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสสามนั้นเห็นได้ชัดว่าถึงความกังวลของเขา
“ ขอรับ ขอรับ ”
ผู้อาวุโสเก้าตบปากรับคำในทันที
“ จากความปราถนาของเรา ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะผิดพลาด ”
ชายทั้งสามเพิ่มความเร็วขึ้นมาทันทีในขณะที่ผู้อาวุโสสามพูดจบ
ทันใดนนั้น ผู้อาวุโสทั้งสามก็เพ่งมองไปทางใต้ ผู้อาวุโสสามเลิกคิ้วและพูด
“ แกนเชวียนนี่ดึงดูดคู่แข่งมามากมาย ! แม้แต่ ฉีฉางเซียว และเฟ้ยเมิงเฉินก็อยู่ที่นี่ ! เจ้าทั้งสองไปขัดขวางพวกเขา เดี๋ยวข้าจะไปเอาแกนเชวียนนี้มาด้วยมือของข้าเอง ! ”