Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 183
เจ้าเด็กนั่นไม่ไม่มีอะไรเลย ! หากข้าจัดการเขาด้วยตัวเอง ข้าก็จะยื่นมือออกไปและคว้าเอาแกนเชวียนมา … และจากนั้นข้าก็สามารถกลับไปยังเมืองพายุหิมะขาวได้อย่างง่ายดาย !
ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าข้ายอมให้เจ้าเด็กนี่หลอกข้าได้ !
ข้ารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ … การเปลี่ยนสีปราณเชวียนเช่นนั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระ … ข้าโดนหลอกได้อย่างไรกัน ?
ข้ามันโง่เง่าที่สุดในโลก ! แม่ง ! แม่งเอ้ย …
ในขณะที่ผู้อาวุโสสามกำลังง่วงอยู่กับการสำนึกผิดและแก้ไขความผิดพลาดนั้น ยอดฝีมือคนอื่นๆนั้นเพ่งมองไปยังเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวด้วยความหงุดหงิด กลัวว่าเขาจะหนีไปและด้วยความแข็งแกร่งของเขาทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถที่จะไล่ตามเขาได้ทัน แม้แต่ฉีฉางเซี่ยว !
ฉีฉางเซี่ยวคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด และจากนั้นเข้าจึงกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับมังกร
“ นกเหยี่ยว ! เจ้าต้องการจะต่อสู้กับข้าใช่ไหม ? มาสู้กัน ! ”
สายฝนเริ่มกระจายออกไปจากร่างเนื่องจากความรุนแรงของปราณเชวียนของเขา และเริ่มไปปะทะเข้ากับหน้าของคนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหัวเราะดังลั่นในขณะที่เขาเก็บแกนเชวียนเข้าไปในเสื้อ
“ ดี มาเลย ! ”
เขากางแขนออกไปราวกับเหยี่ยวและร่างของเขาก็เริ่มลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า !
สองยอดปรมาจารย์เทพเชวียนยอมที่จะเผชิญหน้ากัน !
เฟ้ยเมองเฉิน ผู้อาวุโสทั้งสามจากเหมือนพายุหิมะขาว ผู้ช่วยของฉีฉางเซี่ยวและศิษย์ทั้งสิบของลีวูเบ้ยกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมๆกัน และพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วราวกับผี พวกเขาทุกคนมุ่งหน้าไปยังที่เดียวกัน เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหัวเราะขณะที่คำรามออกมา
“ ชักจะสนุกแล้วสิ !”
เขาไม่รอช้า ปั้ง เสียงของปรารเชวียนที่พุ่งออกมาจากตัวของเขาดังขึ้น และส่งให้ทุกคนแตกกระจายและลอยออกไป เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวยังคงอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง … พร้อมที่จะต่อสู้ !
.. ที่พักสกุลจวิน ..
ในใจของกวนเซียงฮั่นนั้นเต็มไปด้วยความคิด ขณะที่ทางเดินตรงไปยังลานบ้านของนาง เหตุการณืในวันนี้เป็นเหมือนกับความฝันลมๆแล้งๆสำหรับนาง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังและโดดเดี่ยวในช่วงเวลาหนึ่ง และในเวลาต่อมานางก็รู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ
แม้ว่าพ่อของข้าจะละทิ้งข้าในเวลาที่ข้าต้องการ แต่ข้าก็ยังมีน้าที่ดี และน้องเขยที่น่าประหลาดใจ เหตุใดข้าถึงกลัวอะไรมากมาย ? เหมือนกับที่จวินโม่เซี่ยพูด … การมีชีวิตที่น่าอับอายนั้นไร้ความหมาย !
เขตซือฮั่นนั้นไม่สามารถเอาชนะได้จริงๆหรือ ? แม้ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะล้มลงได้ … พวกเขาก็ทำได้แค่สังหารพวกเรา … และข้าก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความซับซ้อนของโลกในเวลาที่ข้าตาย แล้วเหตุใดข้าถึงต้องกลัวความตาย !?
“ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขามีความกล้าหาญเช่นนั้น เข้าได้พิสูจน์แล้วว่าเขานั้นเป็นบุตรชายที่แท้จริงของสกุลจวิน ! และเขาได้พิสูจน์แล้วว่าเขานั้นเป็นน้องของโม่โย่ หากโม่โย่อยู่ที่นี่ในวันนี้ … เขาจะเลือกอย่างเดียวกันนี้ไหม ? ใช่ แน่นอน … ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนั้นเลย ”
หัวใจของเซียงฮั่นไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อคิดถึงโม่โย่และใช้มันเพื่อ … ความเจ็บปวดในหัวใจของนางนั้นดูเหมือนจะเล็กน้อย … ช่างน้อยนิดมากในตอนนี้ …
นางกำลังเดินก้มหัว และไม่รู้ว่านางกำลังจะเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
มีร่างใหญ่ๆยืนอยู่ตรงประตูลานบ้านตรงหน้าของนาง
ชายผู้นี้คือพ่อแท้ๆของนาง กวนดุงหลิว !
ชุดของกวนดุงหลิวนั้นเปียกและหนักเนื่องจากเขายืนอยู่กลางฝนมาสักพักแล้ว แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเยือกเย็น ดวงตาที่โศกเศร้าของเขานั้นก็มากพอที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดที่อยู่ในหัวใจ ในขณะที่เขามองไปยังลูกสาว แต่เขาไม่สามารถที่จะพูดอะไรกับนางได้
เซียงฮั่นเพ่งมองกลับมาที่เขาอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรดี ดังนั้น พ่อลูกคู่นึ้จึงยืนอยู่นิ่งๆกลางสายฝน ติดอยู่ในโลกที่แปลกประหลาดและไร้คำพูดที่สิ้นหวังของตัวเอง
มีฟ้าแลปสว่างขึ้นมาในลานบ้านในชั่วเซี่ยววินาที เผยให้เห็นถึงร่องรอยแห่งความเศร้าและกังวลบนใบหน้าของกวนดุงหลิว
ทันใดนนั้น กวนเซียงฮั่นย้อนนึกถึงวันเก่าๆในวัยเด็กของนาง และตอนนี้ พ่อของนางก็กังวลถึงความเป็นอยู่ของนาง ทันใดนนั้นนางก็ใจอ่อนลง สีหน้าที่เยือกเย็นของนางได้ละลายหายไปในทันทีขณะที่นางอ้าปากและกระซิบ
“ ท่านพ่อ … ”
“ เซียงฮั่น เจ้าจะตำหนิพ่อของเจ้าไหม ? ”
กวนดุงหลิวมองผ่านสายฝนซึ่งตกลงมากระทบหัวของเขาไปยังลูกสาว
เซียงฮั่นสายหัวขณะที่ความรู้สึกที่ว่างเปล่าปกคลุมหัวใจของนาง
“ ข้าไม่ตำหนิท่า ท่าพ่อ ”
นางพูดพึมพัม
“ ท่านเป็นพ่อของข้า แต่ก่อนหน้านี้ … ท่านคือหัวหน้าสกุลกวน และในฐานะของหัวสกุล ท่านก็จำเป็นต้องแบกเอาภาระและชะตากรรมของคนนั้นพันเอาไว้บนบ่า ข้าเข้าใจปัญหาของท่าน ท่านพ่อ … ”
กวนดุงหลิวถอนหายใจ จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เผยถึงความเจ็บปวดในดวงตาของเขา
“ เซียงฮั่น พ่อของเข้ารู้สึกเสียใจกับเจ้าจริงๆ อย่างไรก็ตาม หากข้าสามารถย้อนเวลาไปได้ และ …. ข้า …. ข้า …. ”
แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของกวนดุงหลิวนั้นแสดงถึงความพยายามอย่างชัดเจนในใจของเขา ในขณะที่สุดท้ายเขาก็พูดจนจบ
“ …. ข้าจะเลือกเหมือนเดิม ! เนื่องจากข้าเป็นหัวหน้าสกุล … ข้าอาจจะเป็นพ่อที่ไม่ดีของเจ้า แต่ข้า … ”
กวนเซียงฮั่นพยักหน้า
“ … อย่าพูดเช่นนั้น … อย่า …. ”
ทันใดนั้นนางตระหนักได้ว่าพ่อของนางนั้นกำลังเปียกฝน และรีบพูดขึ้นมา
“ ท่านพ่อ ไปคุยกันข้างในเถิด ”
“ ไม่ คุยกันที่นี่เลย … กลางสายฝนนี้ อย่างน้อยมันก็ทำให้ข้าก็รู้สึกสุขุม … ข้ามีเรื่องมากมายที่จะต้องพูด แต่ข้าไม่รู้ว่าข้าจะสามารถพูดมันออกมาได้หรือไม่หากเข้าไปข้างใน ! ”
กวนดุงหลิวยิ้มเล็กน้อย
“ เกี่ยวกับเขตซือฮั่นและเรื่องทั้งหมดนี้ … แม้มันอาจจะยังไม่มีอะไรในตอนนี้ แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ข้าคิดว่าเจ้าควรจะรู้ไว้ …. ”
กวนเวียงฮั่นถอนหายใจ และพูด
“ โปรดบอกข้าเถิด ท่านพ่อ … ”
“ ในตอนที่พวกเราได้รับข้อเสนอจากเขตซือฮั่น ผู้อาวุโสสองสามคน แนะนำให้ข้ารับข้อเสนอนั้นในทันที ”
กวนดุงหลิวหลับตาอย่างเจ็บปวดและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่สามารถที่จะทนมองสีหน้าอันซีดเผือกของลูกสาวได้อีกต่อไป
“ พวกเราไม่มีความสามารถพอที่จะยั่วยุเขตซือฮั่น แต่หากเจ้าแต่งงานกับ ลี่ถังหยวน สกุลของเราก็จะสามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาได้ และสามารถที่จะไต่ขึ้นไปได้สูงกว่านี้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้สกุลได้รับอันตราย แต่มันจะเป็นผลดีที่สุดสหรับสกุลของเรา …. ”
กวนเซียงฮั่นกัดปากเบาๆ และคำรามทางจมูกในขณะที่นางเริ่มโมโหมากขึ้น สีหน้าของนางกลับมาเยือกเย็นเช่นเดิม
“ ตอนนี้มีสองความเห็นที่ต่างกันในบ้านของเรา เซียงโบนั้นทะเยอทะยานอยู่เสมอ และต้องการที่จะปกครองดินแดนทางใต้ทั้งหมด และดังนั้น เขาจึงมาเร่งเร้าข้าให้เห็นด้วย ”
เสียงของกวนดุงหลิวนุ่มนวลขึ้น
“ เซียงยี่และแม้ของเจ้านั้น ยืนกรานที่จะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น แม่ของเจ้า … แม้ของเจ้าร้องไห้ทุกวันตั้งแต่นั้น … ”
ร่างอันบอบบางของเซียงฮั่นเริ่มสั่น และน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาจากดวงตาของนางในขณะที่ไหล่ของนางตกลงไป
“ หลังจากนั้น เขตซือฮั่นก็ได้ส่งเงื่อนไขเพิ่มมาอีกสี่ข้อ ”
กวนดุงหลิวเหม่อมองไปไกล
“ พวกเขาบอกว่า หากเจ้าจะแต่งงานเข้ามาในสกุลของพวกเขา เจ้าจะไม่ได้รับชื่อว่าเป็นเมียเอก แต่เจ้าจะได้รับการดูแลในระดับเดียวกัน เซียงโบเข้าพบกับ ลี่จือเทียนเพื่อต่อต้านข้อเสนอนนี้ แต่เขาปฏิเสธ ! ”
ความเร็วในการพูดของเขานั้นมองพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ใจ
“ หลังจากนั้น เซียงโบ เซียงยี่ และข้าได้เดินทางมายังเมืองเทียนเชียงเพื่อคุยกับเจ้า … ”
“ ข้าไม่รู้ว่าข้าเป็นอะไรในสายตาของสกุล … เป็นสินค้า ? หรืออาจจะเป็นข้อต่อรอง ? อะไรบางอย่างที่พวกเขาสามารถใช้ข้าแลกเปลี่ยนกับการเติบโตของสกุล ? นั่นคือสิ่งที่ข้าเป็นหรือ ?! ”
เซียงฮั่นยิ้มอย่างหดหู่
“ ข้ามิใช่สิ่งของที่เมื่อสองสกุลตัดสินใจที่จะแลกเปลี่ยนกัน ! แม้ว่าข้าจะไม่รู้ถึงความกล้าหาญของโม่โย่ก็ตาม และข้าไม่รู้ว่าจะทำให้เขาต้องอับอายหรือละอายใจหรือไม่ แต่ข้าก็ยังมิใช่สิงของ เพราะการตัดสินใจนี้คือสิ่งที่สกุลสร้างขึ้น และข้าก็ไม่ได้เลือกอะไรเลย หลังจากที่ข้าได้พบเขาสามครั้ง ข้าก็ได้รูว่าเขาคือคนที่สูงส่งอย่างมาก และข้าเริ่มชอบคนเช่นนี้ และข้านั้นพอใจอย่างมากกับสกุลที่ตัดสินใจเช่นนี้ และข้ารู้สึกขอบคุณอย่างมากที่ท่านได้จัดเตรียมการแต่งงานนี้ …. ”
ดูเหมือนว่ากวนดุงหลิวจะรู้ถึงสิ่งที่นางจะพูด ดังนั้นเขาถึงก้มหัวลง
“ แต่หลังจากนั้น เมื่อโม่โย่ตายเพื่อบ้านเมือง … เขาตายในฐานะวีรบุรุษ ! และใช่ ข้าต้องใช้ชีวิตด้วยการเป็นหม้าย ! และแม้ว่าข้าจะใช้ชีวิตอย่างหญิงหม้าย และแม้ว่าข้าจะเตรียมการที่จะโน้มน้าวท่านและท่านแม่ในเรื่องนั้น รวมถึงผู้อาวุโสท้ังหลายในสกุล ในตอนนั้น ผู้อาวุโสก็เต็มใจที่จะให้ข้าได้ใช้ชีวิตอย่างหญิงหม้ายในสกุลจวิน ! ด้วยเหตุผลที่สกุลกวนจะไม่ต้องสูญเสียการสนุบสนุนจากสกุลจวิน ! ในฐานะของลูกสาวสกุลกวน ข้าจึงถูกใช้เพื่อลุงทุน ! ”
กวนเซียงฮั่นหัวเราะอย่างเยาะเย้ย
“ ในเวลานั้น แม้ว่าพวกเขาจะบังคับข้าให้ทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่ใช่สิ่งของ เพราะข้าก็ต้องการจะทำเช่นนั้น … แต่ข้าได้ทำอย่างนั้นเพราะสามีในความทรงจำของข้า ในทางตรงกันข้าม สกุลของข้าก็ใช้ข้าเป็นของเพื่อการต่อรอง … เครื่องมือที่จะคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ของสองสกุล ! ข้าไม่เคยรู้สึกละอายเลยตลอดชีวิตของข้า ! ”
“ น่าอับอาย ! ความฝันที่สวยงามของเด็กหญิงตัวน้อยๆได้แตกละเอียด แต่แม้ว่านางจะเป็นหม้าย นางก็ยังถูกสกุลใช้เป็นสินค้า ! ”
“ ท่านพ่อ ในฐานะตัวท่านเอง กี่ครั้งที่สกุลกวนใช้อิทธิพลและความช่วยเหลือของสกุลจวินในการควบคุมดูแลธุรกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ?! และตอนนี้ลมนั้นก็โต้กลับมาหาเรา และสกุลเหล่านั้น ทรงอำนาจยิ่งกว่าสกุลจวิน ผู้อาวุโสของสกุลกวนก็เห็นด้วยที่จะกลืนน้ำลายของตัวเองอย่างนั้นหรือ ? และตอนนี้พวกเขาขอให้ข้าแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือ ?! ”
“ ท่านพ่อ นี่มันเป็นเหตุผลแบบใหนกัน ? การบังคับให้ข้าแต่งงานครั้งเดียวมันยังไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาหรือ ? ข้ามิใช่ลูกสาวหรือ ? และยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็เป็นสะใภ้ของผู้มีบุญคุณกับพวกเขา ! และตอนนี้ พวกเขาต้องการที่จะขายลูกสาวของผู้มีบุญคุณของพวกเขาอย่างนั้นหรือ ? ”