Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 186
ฉีฉางเซี่ยวยังคงมองไปยังเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหวังว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอ แต่ชายผู้นั้นกลับหันกลับมาโดยไม่พูดอะไร และ ปัง ปัง ปัง บุกเข้าไปในวงที่ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะขาวกำลังยืนอยู่ จากนั้น ร่างของเขาก็พุ่งไปหาเฟ้ยเมิงเฉิน และฟาดไปที่เขาสามครั้งติดต่อกัน จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปหา ศิษย์ของลีวูเบ้ยที่เหลืออยู่ก่อนที่เฟ้ยเมิงเฉินจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาตบหน้าคนทั้งเก้า และจากนั้นก็ไปฟาดใส่ผู้ช่วยสวรรค์เชวียนทั้งหกของฉีฉางเซี่ยว …
ในเพียงเสี้ยววินาที เทพเชวียนที่เสียสติได้พิสูจน์พลังของเขาด้วยการโจมตียอดฝีมือเกือบยี่สิบคน !
เห็นได้ชัดจากการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ว่าเหตุใดขาถึงสามารถสังหารพี่หกของศิษย์ทั้งสิบของลี่วูเบ้ยได้ ความเร็วและความคล่องแคล่วของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นไม่มีผู้ใดเทียบเท่า !
จวินโม่เซี่ยปรบมือให้แก่ฝีมือของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวในใจ จากสถานที่ลับที่เขาหลบซ่อนตัวอยู่ แม้ว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะทำลายแผนการของเขาทั้งหมด และทำให้นายน้อยจวินโกรธ แต่เขาก็มิใช่คนที่จะไม่สนใจความสามารถของคนอื่น !
เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวที่ก้าวร้าวและรุนแรงของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้น ทำให้ทุกคนที่นี่ขุ่นเคือง และกระตุ้นอารมณ์ของพวกเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย ในที่สุด คนอื่นๆก็พยายามที่จะเข้าใจแผนการที่ชั่วร้ายนี้ ในขณะที่คนที่บ้าคลั่งนี้พยายามที่จะชิงข้อได้ปรียบ !
ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ ไม่ใช่เพราะแกนเชวียน แต่เพราะความโกรธและพวกเขาจะเอาคืนเขา ไม่ใช่เพื่อความโกรธแค้น แต่เพื่อแกนเชวียน ! สีหน้าของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเริ่มตื่นเต้นมากขึ้น ขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเพมืองพายุหิมะพุ่งเข้ามาหาเขา และเขากางแขนออกไปในขณะที่หัวเราะ และคำราม เตรียมที่จะเผชิญหน้ากับเขา !
มีร่างเงาอีกร่างปรากฏขึ้น และฉีฉางเซี่ยวเข้าร่วมวงต่อสู้ โดยมือข้างหนึ่งนั้นต่อสู้อยู่กับเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและอีกข้างหนึ่งนั้นโจมตีใส่ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะ และจากนั้นทั้งห้าคนก็เริ่มหมุนไปเป็นวงกลม โดยแยกเป็นสามฝ่ายโดยที่แต่ละฝ่ายต้องต่อสู้กับศัตรูจากทั้งสองฝั่งไปพร้อมๆกัน
ฉีฉางเซี่ยวพบว่าแต่ละฝ่ายนั้นสามารถที่จะต้องสู้กับเขาได้ และหากเขาสามารถที่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอ่อนแอลงได้ เขาก็จะสามารถใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อต่อสู้ได้อย่างน่าพอใจ !
“ ฮ่าฮ่า น่าสนใจ ! ”
เฟ้ยเมิงเฉินหัวเราะขณะที่เขาพุ่งตรงไปและเข้าร่วมการต่อสู้ของยอดฝีมือเทพเชวียน ต่อยเข้าใส่หลังของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและเตะเข้าไปที่เอวของฉีฉางเซี่ยวเพื่อประกาศการมาถึงของเขา
เฟ้ยเมิงเฉินนั้นเป็นที่ปรึกษาแห่งอาณาจักรยูถัง และฉลาดพอที่จะสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าในกรณีที่ฉีฉางเซี่ยวทำให้ทั้งสองฝ่ายอ่อนแอลง เขาจะสามารถที่จะพลิกสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเขาเองนั้นอ่อนแอกว่าผู้อาวุโสทุกคนแห่งเมืองพายุหิมะ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำได้คือการสมดุลย์พลังในการต่อสู้ โดยการสมดุลย์ทั้งสามฝ่าย ดังนั้นการต่อสู้นี้จะดำเนินไปได้นานตราบเท่าที่จะเป็นไปได้ !
เทพเชวียนทั้งหก หมุนไปรอบๆกลางอากาศราวกับลูกบอล …
นอกจากผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะแล้ว คนอื่นๆก็จะต้องเผชิญกับการโจมตีจากสามด้านพร้อมๆกันเนื่องจากพวกเขาถูกศัตรูล้อมรอบเอาไว้จาก ข้างหน้า ข้างขวา ซ้าย และข้างหลัง ดวงตาของทุกคนมองไปรอบๆเพื่อปัดป้องการโจมตีที่เขามา ….
เทพเชวียนทั้งหกนั้นพยายามที่จะควบคุมขอบเขตการต่อสู้ของพวกเขาให้แคบ เพราะหากปราณเชวียนนั้นหลุดกระจายออกไป มันจะจบลงด้วยการที่พวกเขาทำลายเมืองทั้งเมือง แม้แต่ฉีฉางเซี่ยวก็ไม่เว้น แม้ว่าฉีฉางเซี่ยวจะวางแผนต่อต้านทุกคนก่อนหน้านี้ เขาก็ยังไม่ต้องการให้ชีวิตของยอดฝีมือสวรรค์เชวียนทั้งหกนั้นมีค่าน้อยไปกว่าแกนเชวียน อย่างไรก็ตาม ขณะที่การต่อสู้นั้นรุนแรงมากขึ้น การควบคุมของพวกเขาก็เริ่มเสื่อมถอยลง
มีเงาร่างกระพริบขณะที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพุ่งขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าในระหว่างการต่อสู้ของทุกคน และจากนั้นก็พุ่งกลับเข้ามาในวงล้อมพร้อมกับหัวเราะลั่น
การเคลื่อนที่เช่นนี้ทำให้ชัดเจนว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคนอื่นๆ แม้แต่ฉีฉางเซี่ยว เนื่องจากความเร็วที่แสนพิเศษของเขา เขาสามารถที่จะถอนตัวจากการต่อสู้นี้ได้ตลอดเวลา !
ลี่เจียนฮ้งและพี่น้องของเขากำลังง่วงอยู่กับการดูการต่อสู้ แต่ในตอนที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็มีเงาอีกร่างหนึ่งกระพริบขึ้นด้านข้างพวกเขา ทำให้พวกเขาสะดุ้งตกใจ ร่างนี้ตบลงไปที่หน้าของเขา และจากนั้นก็หายไปราวกับสายลม ปล่อยให้เหยื่อโกรธ !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพุ่งขึ้นไปบนฟ้า และใครกันที่โจมตีข้าในตอนนี้ ?
เพื่อนของเขาหันไปมองผู้นำของพวกเขา ลีเจียนฮ้งล้มลงไปที่พื้น พยายามที่จะคว้าแขนเพื่อนของเขาเพื่อพยุงตัว เมื่อรู้ว่าเพื่อนของเขาโดนลอบโจมตี
เดิมทีแล้ว พวกเขารู้สึกว่าการลอบโจมตีนี้จะต้องมาจากสวรรค์เชวียนทั้งหกจากอาณาจักรเฉินซีเนื่องจากมีแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นในตอนที่เกิดการโจมตี ในขณะที่เชื่อว่าพี่น้องของเขาถูกยอดฝีมือทั้งหกจากเฉินซีโจมตี พวกเขาจึงพุ่งเขาไปหาชายทั้งหกด้วยความโกรธ กลุ่มของลีเจียนฮ้งนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าการยืนเฉยๆอาจจะต้องมีการสูญเสียชีวิต ทั้งหมดที่พวกเขาเชื่อคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียนทั้งหกนี้เป็นอันตรายและจากนั้นพวกเขาจึงชักกระบี่ออกมาโดยไม่ลังเลและมุ่งหน้าเขาสู่การต่อสู้ !
เห็นได้ชัดว่าการตบหน้าของลีเจียนฮ้งนั้นเกิดจากการกระทำของจวินโม่เซี่ย !
นายน้อยจวินได้ใช้เคล็ดอิสระหยินหยาง และหนีลงไปใต้พื้นดินพร้อมฝนที่ตก บวกกับเขาได้ปล่อยแสงสีฟ้าเพื่อเบี่ยงแบนความสนใจ และเนื่องจากสวรรค์ยังไม่ได้สั่งให้ฝนหยุดตก จวินโม่เซี่ยจึงสามารถหนีไปได้โดยไม่มีผู้ใดตรวจพบ !
เห็นได้ชัดว่าลีเจียนฮ้งนั้นไม่รู้ถึงความจริงนี้ และพุ่งออกไปด้วยความโกรธเนื่องจากเขาโดนตบหน้า
ดังนั้นจวินโม่เซี่ยจึงก่อให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างสองกลุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ได้
เนื่องจากแผนการของจวินโม่เซี่ยไม่ได้เป็นไปตามที่วางเอาไว้ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อไปที่จะทำ คือการก่อให้เกิดความสับสน และเพิ่มมันให้มากขึ้น จะต้องมีคนตายจำนวนมาก และมากขึ้น ศัตรูของเขาก็จะอ่อนแอลง …
อย่างแรก ทั้งสองกลุ่มต้องการที่จะสงวนพลังงานของพวกเขาไว้เพื่อทำให้แผนการในการขโมยแกนเชวียนของพวกเขาหลังจากนี้สะดวกขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขาก็พุ่งเข้าใส่กันราวกับคนบ้า
เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูดังไปทั่วท้องฟ้าท่ามกลางความหายนะ และการประดาบจะเป็นจุดแรกที่ทำให้เกิดการนองเลือด !
“ อาาาาาาาาาา ! ”
แม้ว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นจะเร็วที่สุดท่ามกลางคนเหล่านี้น แต่เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด และแม้ว่าเขาจะสนุกกับการต่อสู้มากกว่าคนอื่นๆ เขาก็ยังเป็นคนหนึ่งภายใต้แรงกดดันมหาศาล ….
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวคำรามอย่างรวดเร็ว และกางมือออกขณะที่ปราณเชวียนระดับเทพเชวียนสูงสุดของเขากระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
ฉีฉางเซี่ยวตัวสั่นด้วยความกลัวชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเขาก็ทำตัวแข็ง และปล่อยปราณเชวียนของเขาออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว
เฟ้ยเมิงเฉินและผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะเหาะออกมาในทันที ! ความแข็งแกร่งที่ต่างกันของคนทั้งหกนี้เห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้
ปราณอันทรงพลังทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ ก่อให้เกิดเสียงที่ดังแสบแก้วหูและรุนแรง และดูเหมือนว่าพื้นที่ตรงนั้นจะถูกสะกดให้หยุดนิ่ง สายฝนหยุดจากการร่วงลงมา และเริ่มลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแทน ทำให้เกิดภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
สิ่งก่อสร้างในรัศมียี่สิบเมตรถล่มลงแทบจะทันที หญ้าและพุ่มไม้ทั้งหมดถอนรากถอนโคนลอยขึ้นมา ในขณะที่ต้นไม้แตกออกเป็นสองส่วน และลอยออกไปทั่วทุกทิศทาง
ความรุนแรงที่เกิดจากการปะทะกันนี้ทำให้ทุกคนมองหน้ากัน แม้แต่สองปรมาจารย์เทพเชวียนสูงสุดก็มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง !
เพราะการทำลายล้างนี้ตามมาด้วยเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดอย่างมาก …
ต้นไม้ที่กำลังจะขาดออกจากกันต้นหนึ่งพูดบางอย่างออกมาอย่างชัดเจนก่อนที่มันจะแยกออกจากกัน สองคำที่ออกมาจากต้นไม้นั้น ทรงพลังและก้องกังวล
“ แม่งเอ้ย ! ”
ต้นไม้นั้นพูดได้หรือ ?
และจากนั้นต้นไม้ก็พูดอีกประโยคขึ้นมา
“ ต่อสู้กันไปหากเจ้าต้องการ แต่ทำไมเจ้าต้องมาทำร้ายต้นไม้อย่างข้าด้วย ? ”
“ นี่คือเสียงของชายหน้ากากดำลึกลับ ! ”
ผู้อาวุโสสามโพล่งออกมา
ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้ นี่มิใช่เรื่องอัศจรรย์ … มันคือเขา !
แม้ว่าฉีฉางเซี่ยวและเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะรู้สึกประหลาดเกี่ยวกับการค้นพบใหม่นี้ พวกเขาทั้งสองก็เหาะออกมาพร้อมๆกัน และะทุบต้นไม้นั้นจนกลายเป็นผุยผง !
แต่พวกเขาก็ผิดหวังกับต้นไม่พูดได้นี้ …
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะได้ยินต้นไม้พูด แต่ก็ไม่มีผู้ใดอยู่ในนั้น !
สองยอดฝีมือมองหน้ากัน ละอายถึงฝีมือของพวกเขา ทั้งสองร่วมมือกัน … และก็ยังมีคนที่สามารถหลบหนีไปได้ !
จวินโม่เซี่ยกำลังหลบซ่อนอยู่ในต้นไม้อย่างสบายใจ และวิเคราะห์ข้อดีและข้อผิดพลาดของการกระทำของเขา ประโยชน์ที่เขารู้สึกว่าจะได้รับจากสถานการณ์นี้มันทำให้เขามีความสุข แต่ทันใดนั้นต้นไม้ก็แตกออกเป็นสองส่วน …
ขนาดของลำต้นของต้นไม้นั้นมันใหญ่พอที่จะซ่อนร่างของเขาได้ทั้งหมด ดังนั้นพลังที่ทำให้มันหักนั้นก็มากพอที่จะทำให้กระดูกสันหลังของเขาบาดเจ็บ เขาพยายามที่จะไม่ร้องออกมา แต่เขาไม่สามารถที่จะทนต่อการทารุณนั้นได้
และเขาได้รู้ความผิดพลาดในทันทีหลังจากที่เขาสาปแช่งออกไป และจากนั้นเขาพยายามที่จะเสเสร้งด้วยประโยคที่เขาพูดตามหลังออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะที่รู้ว่ามันเป็นการเปิดเผยตัวตนของเขา เขาก็มุดลงไปในพื้นดินอย่างรวดเร็ว …
สองยอดฝีมือเทพเชวียนนั้นรู้สึกถึงความว่างเปล่านในท้องของพวกเขาทันที
ตอนนี้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและฉีฉางเซี่ยวมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่สับสน และตามมาด้วยผู้อาวุโสทั้งสามแห่งเมืองพายุหิมะ พวกเขาเริ่มมองหน้ากัน พยายามคิดว่า กลเด็กเล่นนี้สามารถที่จะหลอกพวกเขาทั้งหมดได้เลยหรือ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเอาแกนเชวียนออกมาจากกระเป๋าและตะโกน
“ ของสิ่งนี้ ข้าไม่ต้องการมัน ! ”
เขามือสั่นขณะที่โยนแกนเชวียนตรงไปยังเฟ้ยเมิงเฉิน
เฟ้ยเมิงเฉินยอมรับความจริงที่ว่าเขาจะไม่ได้แกนเชวียนนั้นแล้ว และดีใจอย่างมากที่ตระหนักได้ว่าตอนนี้แกนเชวียนได้ตกมายังมือของเขาด้วยโชคชะตาที่บิดเบี้ยว เขาก้าวออกไปเพื่อที่จะคว้าเอาแกนเชวียนมา แต่ทันใดนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเหยียบใบไม้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากการเคลื่อนที่ของใครบางคน …