Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 206
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหันไปทางอื่น และไม่มีวี่แววที่จะหันมองกลับมาเลย ยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงว่า เขาต้องการที่จะหักคอชายหน้ากากดำทิ้ง
“ การต่อสู้แบบนกที่โง่เง่านั่นทำให้เขามันทำให้เขาฝังใจ ! เขาอาจจะออกไปข้างนอกทุกๆวันเพื่อที่จะมองหากุ้งที่เขาสามารถต่อสู้ด้วยได้ และคิดว่าเขาจะช่วยให้มันกลายเป็นปรมจารย์ในวันใดวันหนึ่ง ? ”
ดูเหมือนว่าชายหน้ากากดำจะคิดออกมาเสียงดัง
“ มันเป็นเพียงแค่ชุดกระบวนท่าสิบเจ็ดกระบวน … และการเคลื่อนไหวมันยังไม่สอดคล้องกัน ช่างน่าเศร้า น่าอายอะไรเช่นนี้ เขายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นหนึ่งในแปดยอดปรมาจารย์อีก ! บางคนคงจะต้องให้เขาตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองสักหน่อย ! ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหันมาเมื่อได้ยินคำนี้ และมองไปที่ด้านหลังของชายใส่หน้ากากด้วยแววตาที่มีร่องรอยแห่งความประหลาดใจ
“ เจ้า เจ้า เจ้าพูดอะไรออกมา ? ”
“ ข้าพูดอะไรออกมางั้นหรือ ? ข้าเพิ่งบอกว่าทั้งหมดนั่นมันผิด ! ”
ชายหน้ากากดำกรอกตา
“ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าที่เจ้าเรียกว่า ท้วงท่าการต่อสู้นั้นจะสามารถสรุปผลการประลองยุทธ์ที่แตกต่างกันไปนับร้อยแบบได้อย่างที่นกทำ ? ที่เจ้ายังคิดมันไม่ออก เพราะว่าเจ้านั้นขาดความรู้ การต่อสู้ของอินทรีย์ของเจ้านั้นมันคล้ายกับการบินต่อสู้ ไม่น่าประหลาดใจเลยที่เจ้าไม่สามารถที่จะสร้างพลังที่แท้จริงจากมันได้ ! และเจ้าเองก็ยังพึงพอใจกับเคล็ดที่โง่เขลาเช่นนี้อีกหนะหรือ ? มันเป็นแค่เรื่องน่าอาย .. และน่าขัน ! ”
ตอนนี้ แม้ว่าน้ำเสียงของชายหน้ากากดำนั้นจะฟังดูไม่น่าพึงพอใจนัก และต่ำช้าลงกว่าตอนแรก แต่ ทุกคำที่เขาพูดออกมานั้นได้กระทบเข้ากับหูของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและทำให้เขาต้องกลับมาพิจารณาตัวเองใหม่ สำหรับผลลัพธ์นั้น แทนที่เขาจะดื้อรั้นและมีอารมณ์ เขากลับรู้สึกเหมือนมีใครบางคนดึงเขาลงจากสรวงสวรรค์และปาเขาลงไปบนพื้นพร้อมกับเสียง ตุ๊บ
“ โปรดชี้แนะข้าด้วย ! ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพูดออกมาอย่างสุภาพ สิ่งที่เขากำลังคิดนั้น
เขาสามารถที่จะชี้ปมด้อยของข้าได้ในทันที แสดงว่าเขาจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากจริงไหม ? เขาจะต้องเป็นใครบางคนที่อาวุโสกว่าข้า ! ในจุดนี้เหมือนทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยววางตัวตนและความหยิ่งทะนงของเขาลง
“ อย่างแรกเจ้าจะต้องใจเย็น เมื่อข้าช่วยชีวิตเขาเสร็จ ข้าจะแสดงเคล็ดลับเล็กน้อยให้เจ้าดู และดูว่ามันจะคุ้มค่ากับเวลาของข้าหรือไม่ ”
ชายหน้ากากดำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต่างออกไป
“ ขอรับ ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหันหน้าไป นั่ลงบนพื้น และครุ่นคิดไตร่ตรองในทันที
ชายหน้ากากดำนั่งยองๆลงไปบนพื้นอย่างช้าๆ เขาพึมพัมอย่างผ่อนคลาย และจากนั้นก็จับข้อมือของไเฉินเฟิงอีกครั้ง
แปดยอดปรมาจารย์ ว้าว ! ผู้ใดจะกล้าไปสั่งสอนรูปแบบการต่อสู้ของเขา ? อืมมมม ! ข้าทำได้ ! และเมื่อข้าฝึกฝนเขาสำเร็จ ข้าจะได้รับความเคารพจากเขา ! ข้าเป็นสุดยอดปรมาจารย์ ! ข้าคือที่สุด !
เห็นได้ชัดว่าชายหน้ากากดำนั้นคือนายน้อยจวิน จวินโม่เซี่ย !
อาจจะบอกได้ว่า การบาดเจ็บของไฮเฉินเฟิงนั้นรุนแรงยิ่งนัก และไม่สามารถรักษาได้เลยในโลกนี้โดยไม่ได้รับยากที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ด้วยเคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ที่เขามีอยู่ มันเป็นสิ่งที่จวินโม่เซี่ยสามารถรักษาได้ได้ เนื่องจากการบางเจ็บนี้ไม่ได้รุนแรงเท่ากับการบาดเจ็บของจวินโม่เซี่ย อย่างไรก็ตาม การบาดเจ็บนี้ยังสดใหม่ ดังนั้นนายน้อยจวินจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า งานเช่นนี้ไม่มีผู้ใดสามารถทำได้นอกจากจวินโม่เซี่ย ดังนั้นไฮเฉินเฟิงจะต้องตายอย่างแน่นอน !
จวินโม่เซี่ยเริ่มทำให้เจดีย์หงษ์จวินเคลื่อนไหว และลมปราณที่มีพลังอย่างน่าเกรงขามพุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างของเขา จากนั้นเขาจึงส่งลมปราณนี้ไปยังฝ่ามือ และใส่มันเข้าไปในเส้นลมปราณของไฮเฉินเฟิง มันเริ่มซ่อมแซมกระดูกที่แตกหักทีละนิด จากนั้นเริ่มเชื่อต่อเส้นลมปราณของเขา และค่อยๆซ่อมแซมจุดดันเถียนของเขา ….
สีหน้าของไฮเฉินเฟิงที่ดูซีดเผือกเหมือนคนตายก่อนหน้านี้ ค่อยๆมีสีเลือดฝาดขึ้นมา ในขณะที่ร่างของเขาเริ่มขยับทีละนิด และเขาเริ่มร้องออกมาเสียงดัง ตอนแรกเขาสามารถที่จะลืมตาได้อย่างแล้วเท่านั้น ไฮเฉินเฟิงมองไปยังชายที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากด้วยความขอบคุณ
การขอบคุณนี้ไม่ใช่เพราะการช่วยชีวิตเขา แต่เพราะการดูถูกเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ซึ่งมันทำให้ไฮเฉินเฟิงพอใจ ! ในตอนที่เขาใกล้ตาย คำดูถูกเหล่านั้นเป็นเพียงกรรมตามสนองที่เขาคิดว่าเขาไม่สามารถจะทำได้ !
แต่โชคดี ที่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ชีวิตของเขาจะต้องจบลง !
ปราณที่น่าเกรงขามนี้ค่อยๆเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณของเขา จนทั่วทั้งร่าง ซึ่งก่อนหน้านี้มันหยุดทำงานไปแล้ว แต่ในตอนนี้มันกลับถูกเติมเต็มไปด้วยพลังงาน ! ไฮเฉินเฟิงรู้ดีว่าพลังเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่อาจารย์ของเขาจะสามารถเรียกออกมาได้ !
ช่างน่าอัศจรรย์ !
ดวงตาของไฮเฉินเฟิงมองไปยังใบหน้าของจวินโม่เซี่ยอย่างไม่หวั่นเกรง และความขอบคุณในแววตาของเขา เริ่มเปลี่ยนไปเป็นความเลื่อมใส และศัทธา !
คนผู้นี้เป็นใครกัน ? เขาเป็นคนลึกลับ แต่มีฝีมือที่ก้าวหน้าไปขนาดนี้ เขาจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหันไปในตอนที่ไฮเฉินเฟิงร้องออกมา และทันใดนั้นเขาพบว่าตัวเองมังไปยังภาพที่น่าตกตะลึง
ศิษย์น้องของเขาที่ได้ทำลายจุดดันเถียนไปจากการพลีชีพ และการบาดเจ็บของเขานั้นก็ได้ไปถึงจุดที่ไม่มีผู้ใดหรือยาชนิดใหนในดินแดนเชวียนๆจะสามารถรักษาให้เขากลับมาสมบูรณ์ได้แล้ว ! อย่างไรก็ตาม ไฮเฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้าของเขายังหายใจได้อย่างมั่นคงกว่าก่อนหน้านี้ และแม้ว่าการบาดเจ็บของเขาจะรุนแรงอย่างมา แต่มันไม่เป็นอันตรายกับชีวิตของเขาอีกต่อไปแล้ว ! อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการรักษาการบาดเจ็บเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดคิดว่ามันจะสามารถทำได้ ในสภาวะเช่นนี้
มันปรากฏได้อย่างชัดเจนต่อสายตาของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จากปราณที่กระจายตัวอยุ่ในอากาศในตอนนี้ ว่าชายหน้ากากดำผู้นี้ คือคนที่เหนือกว่าทุกคนที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเคยเจอ หรือได้ยินมา ! แม้ว่าเขาจะเป็หนึ่งในแปดยอดปรมาจารย์ของโลกนี้ เขาก็อดที่จะแจ๊บปากตัวเองเสียงดังเพื่อแสดงความหิวกระหายไม่ได้
โชคดีที่ข้าไม่โจมตีชายผู้นี้ในตอนที่ข้าโมโหก่อนหน้านี้ มิเช่นนั้นข้าคงจะนอนกองอยู่บนพื้นข้างๆไฮเฉินเฟิงไปแล้ว ! ครั้งนี้ข้างช่างโชคดีจริงๆ !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ชายผู้ที่รู้กันดีกว่ามีความกล้าหาญ และหุนหันอย่างมาก กลับต้องเหงื่อตกในเวลานี้
มันช่างไม่น่าเชื่อ ! แม้แต่ยุ่นเบ้ยเฉินจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าชายผู้นี้ได้หรือไม่ ?
เนื่องจากความคิดนี้เกิดขึ้นในหัวของเขา เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเริ่มวาดภาพเปรียบเทียบระหว่างชายทั้งสอง และเกือบจะอุทานออกมาเมื่อการวิเคราะห์ของเขาสิ้นสุดลง
เขาสามารถวินิจฉัยความแข็งแกร่งของยุ่นเบ้ยเฉินได้อย่างชัดเจน ในตอนที่เขาได้พบกับชายผู้นั้นเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ยังไม่แม้แต่จะอยู่ในระดับเดียวกับชายผู้นี้ ! หากความแข็งแกร่งของยุ่นเบ้ยเฉินเป็นดั่งสายน้ำที่หลั่งไหล ความแข็งแกร่งของชายหน้ากากดำนี้ก็เป็นดั่งท้องทะเล !
ข้าคิดว่าแม้ว่ายุ่นเบ้ยเฉินจะพัฒนาไปไกลตั้งแต่ตอนที่ขาได้พบกับเขาเมื่อครั้งก่อน เขาก็ยังเทียบกับชายผู้นี้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว !
เม็ดเหงื่อที่เยือกเย็นเริ่มไหลลงมาจากหน้าผากของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวแล้วในตอนนี้
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวกำลังเพ่งมองไปอย่างตกตะลึง ในขณะที่ไฮเฉินเฟิงเพ่งมองไปอย่างสำนึกในบุญคุณ แต่ไม่มีใครรู้ว่าจวินโม่เซี่ย ที่กำลังเป็นจุดสนใจอยู่ในตอนนี้ค่อยๆเลือนหายไปแล้วในช่วงเวลาที่สำคัญนี้
แม้ว่าจวินโม่เซี่ยตั้งใจจะปลดปล่อยปราณจากเจดีย์หงษ์จวินออกมาเพียงเล็กน้อยเมื่อรักษาการบาดเจ็บของไฮเฉินเฟิง ไม่นานนัก พายุแห่งลมปราณก็เริ่มพุ่งไปตามเส้นลมปราณของเขา ซึ่งตามมาด้วยเสียงก้องกังวาลราวกับเสียงที่อยู่ในหัวของเขา และความคิดของเขาก็เริ่มสับสนและงุงงง ทันใดนั้น ดูเหมือนว่านายน้อยจวินกำลังใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ติดอยู่กับความว่างเปล่าและ … อยู่อย่างโดดเดี่ยว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ ทำให้หัวใจของเขารู้สึกถึงความโดดเดี่ยว
ในขณะที่ลมปราณจำนวนมากไหลไปตามเส้นลมปราณของเขา และดูเหมือน่าเส้นลมปราณของเขาจะเก็บซ่อนทะเลลมปราณที่ปั่นป่วนเอาไว้ ซึ่งลื่นแต่ละลูกนั้นรุนแรง และอันตรายกว่าเมื่อก่อน !
จากเดิมที ที่จวินโม่เซี่ยโศกเศร้ากับโชคชะตาของเขา !
ข้ารู้สึกคาดหวังกับช่วงงเวลานี้มานาน และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้ มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โชคร้าย เมื่อข้าใกล้จะทำงานใหญ่สำเร็จ ….
สถานการณ์ที่อยู่ในจิตใจของเขาเร็วขึ้นพร้อมกับเวลาที่ผ่านไป ในขณะที่เจดีย์หงษ์จวินพร้อมที่จะบ้าคลั่ง และเริ่มเปล่งประกายแสงมากมายออกมาในสมองของเขา !
และแรงดึงดูดที่รุนแรงนี้ได้ดึงสติของจวินโม่เซี่ยเข้าไป และความรุนแรงของมัน ทำให้จวินโม่เซี่ยสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขาจะต้องหลบออกไปจากสถานที่นี้ก่อน
ไฮเฉินเฟิงประหลาดใจอย่างมากเมื่อพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และอดที่จะกระอักเลือดออกมาไม่ได้ ในขณะที่จวินโม่เซี่ยตกตะลึงจนพูดไม่ออก
จวินโม่เซี่ยพยายามฝืนตัวเองขณะที่เขาพูดอย่างช้าๆ
“ ข้าได้ประคับประคองอาการของเขาไว้แล้ว ไม่มีอะไรเป็นอันตรายกับชีวิตของเขาอีกแล้ว แต่ข้าต้องให้เขาผ่านขั้นตอนอีกมากมายก่อนที่เขาจะหายสนิท อย่างไรก็ตาม ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปจัดการ และข้าจะต้องไปจากที่นี่ในทันที ”
“ นี่ … ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเลิกคิ้ว ไม่สามารถคิดถึงขั้นต่อไปของเขาได้
“ นกเหยี่ยว เจ้าจะต้องพาเขาไปยังที่พักสกุลจวินในเมืองเทียนเชียงทันที ที่นั่น เจ้าจะพบกับศิษย์ของข้า นายน้อยสาม จวินโม่เซี่ย เขาจะช่วยให้ไฮเฉินเฟิงฟื้นฟูจากการบาดเจ็บนี้ ข้าได้ถ่ายทอดความรู้ในการรักษาชายผู้นี้ไว้หมดแล้ว และงานนี้ควรจะเป็นงานที่ง่ายดายสำหรับเขา ! เด็กผู้นี้ควรจะฟื้นฟูสุขภาพได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน ! ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพยักหน้า
“ สำหรับเจ้า ข้าได้สอนกระบวนท่าบางส่วนให้แก่จวินโม่เซี่ย ซึ่งมันคล้ายคลึงกับสิ่งที่เจ้ากำลังพยายามสร้าง หากเจ้าต้องการที่จะทำให้กระบวนท่าของเจ้าสมบูรณ์ เจ้าจะต้องไปหาเขา นอกจากนี้ ข้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนเจ้า ว่าอารมณ์ของเขานั้นไม่ได้อ่อนโยนเช่นชายแก่ผู้นี้ และหากเจ้าต้องการที่จะเรียนรู้การเคลื่อนไหวจากเขา เจ้าจะต้องอดทนต่อการดูถูดเหยียดหยามให้ได้ ! ”
จวินโม่เซี่ยรีบจบการแนะนำเนื่องจากเขารู้สึกว่า ช่วงเวลาที่เขาจะบรรลุนั้นใกล้เข้ามามากแล้ว !
“ จงจำไว้ อย่าได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างผู้เฒ่าผู้นี้ และสกุลจวินแม้แต่นิดเดียว ! ”
เขาตั้งใจจะไม่เตือนพวกเขา และพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ เนื่องจากเขารู้ว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านเจตจำนงของเขา
“ จวินโม่เซี่ย ? ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพึมพัม และมองขึ้นไปอีกครั้ง แต่พบว่าชายลึกลับผู้นี้ได้หายไปแล้ว …
“ เร็วอย่างน่างอัศจรรย์ ! ”
เวลานี้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอดที่จะร้องออกมาด้วยความกลัวไม่ได้
เขาพูดถึงสกุลจวินก่อนที่เขาจะไป … เอ่อ ข้าคิดว่าข้าต้องรีบไปที่นั่นทันที
เขายกร่างของไฮเฉินเฟิงด้วยมือข้างเดียว และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ เด็กน้อย เจ้าจะต้องไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กับใครก็ตาม เข้าใจไหม ? หากมีใครรู้เรื่องนี้ ข้าจะถลกหนังของเขาด้วยตัวข้าเอง !! ”
แม้ว่าร่างของไฮเฉินเฟิงจะอ่อนแอราวกับคนตาย เขาก็ยังฝืนใจพูดออกมา
“ ข้าจะไม่พูดเรื่องปรมาจารย์ลึกลับกับผู้ใด ”
“ เจ้าหมายความว่าอย่างไร ? ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหยุดอยู่กับที่ในทันที ในขณะที่ผมของเขาลอยขึ้นมาด้วยแรงของลม
“ เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าจะพูดเรื่องการต่อสู้ของเรางั้นหรือ ? ”
“ ข้าไม่แน่ใจ ”
ไฮเฉินเฟิง พึมพัม และดูเหมือนว่าหัวใจของเขาจะปิดบังความดูถูกศิษย์พี่ของเขาเอาไว้
อย่างแรกเจ้าไล่บี้คนที่อ่อนแอกว่าเจ้า และเจ้ายังกล้าที่จะมาสั่งให้ข้าหุบปากในเรื่องนี้อีกหรือ ? เกิดอะไรขึ้นกับความกล้าหาญของเจ้าต่อหน้าปรมาจารย์ลึกลับผู้นั้นละ ?!
“ เจ้าจะต้องไม่พูดเรื่องอะไรเลย ! ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวตอบกลับมาอย่างรุนแรง
“ หากเจ้าบอกคนอื่นๆว่า เจ้าทำร้ายข้า มันจะทำให้เกิดความสงสัยมากมาย และหากเจ้าบอกว่าข้าช่วยเจ้าหลังจากที่เจ้าทำลายจุดดันเถียนของตัวเอง ผู้คนก็จะมีคำถามขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีแล้วหากเรื่องของการต่อสู้นี้เปิดเผิยขึ้นมา ผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือเจ้าไว้จะถูกเปิดเผยต่อโลก และให้ข้าบอกกับเจ้าอีกครั้ง แม้ว่าอาจารย์ของเจ้าและข้าร่วมมือกันก็ไม่สามารถที่จะยั่วยุชายผู้นี้ได้ ฮืมมม เจ้าประเมินสถานการณ์ของเจ้า และตัดสินใจเอา ”
เมื่อคนที่มีความสามารถเช่นเดียวผู้โดดเดี่ยวพูดขึ้นมาว่า
“ แม้แต่อาจารย์ของเจ้าและข้ารวามมือกัน ก็ไม่สามารถที่จะยั่วยุชายผู้นี้ได้ ”
เห็นได้ชัดว่า ความหวาดกลัวและตกตะลึงต่อความสามรถของจวินโม่เซี่ยได้ฝังตรึงลงไปในใจของเขาแล้ว !
Translate by iHaveNoName