Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 208
ตอนนี้มีร่างสองร่างของจวินโม่เซี่ยอยู่ในเจดีย์หงษ์จวิน ร่างหนึ่งเป็นร่างจริง และอีกร่างคือร่างมายาจิต
มีพลังที่ไม่อาจต้านทานผลักทั้งสองร่างเข้าหากัน ไม่นานร่างทั้งสองก็ผสานและกลายเป็นหนึ่ง
เตาแห่งโชคลาภ เริ่มส่งเสียงดังก้องกังวาลอีกครั้ง และจากนั้นมันปลดปล่อยแสงออกมาเป็นวงรอบเตา และหายไป
ทันใดนนั้น จวินโม่เซี่ยจึงตระหนักได้ว่าข้อมือของเขานั้นถูกตัด และมีเลือดไหลออกมาราวกับน้ำพุ อย่างไรก็ตาม แทนที่มันจะไหลลงไปบนพื้น มันกลับพุ่งเข้าไปที่เตา !
เปลวไฟหลากหลายสีที่เริ่มแผ่วมเบา เริ่มลุกโชยขึ้นมาอีกครั้ง และไม่นานมันได้ห้อมล้อมเตาทั้งหมดด้วยเปลวเพลิงขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยไม่รู้สึกถึงความร้อนจากกองเพลิงมหึมานี้ แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ใกล้มากก็ตามที
เปลวเพลิงแห่งปฐมภูมิ !
คำนี้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาทันที และจากนั้น มีแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากเตาแห่งโชคลาภ และเข้าไปในร่างของจวินโม่เซี่ยในทันที นายน้อยจวินสัมผัสได้ในทันทีว่าบาดแผลที่ข้อมืองของเขานั้นหายไปอย่างรวดเร็ว และไม่รู้สึกเลยว่าร่างกายของเขาจะกระอักกระอ่วมเนื่องจากเสียเลือดไปจำนวนมาก เหมือนเขาไม่รู้เลยว่า ข้อมือของเขาเพิ่งจะถูกตัดไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
เปลวไฟหลากสีหยุดเผาไหม้ไปอีกครั้ง และทั่วทั้งห้องก็เงียบลงในทันที ทำให้บรรยากาศในห้องนั้นเป็นเหมือนกับ บรรยากาศตอนที่เขาเข้ามายังชั้นสองครั้งแรก
เตาสามขายังคงตั้งนิ่งและเงียบสงบอยู่ตรงหลางห้อง
เปลวไฟหลากสีเผาไหม้อยู่อย่างแผ่วเบา แต่แต่เปลวไฟนี้ดูเหมือนว่ามันจะเผาไหม้ต่อไปจนนิจนิรันด์
หนังสือยังคงตั้งอยู่อย่างเงียบเฉียบด้านข้างเตา
จวินโม่เซี่ยเพ่งมองไปรอบๆด้วยดวงตาที่เบิกกว้าเป็นเวลานาน ขณะที่กำลังเชื่อว่าเขาอยู่ในความฝัน และทันใดนั้นก็หยิกขาตัวเอง แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บจากการหยิก ก็ดูเหมือนว่าเขายังคงตกตะลึงอยู่กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ….
ร่างของข้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน ?
เป็นเวลานานที่เขายังไม่เชื่อในส่ิงที่ตาเขาเห็น และหยิกตัวเองอยู่หลายครั้ง เขาหยิกตัวเองแรงมากจนดูเหมือนว่าเขาจะฉีกเนื้อตัวเองออกมา แต่ความเจ็บปวดที่รุนแรงก็ทำให้เขาได้รู้ว่า
เจ็บจริงๆ ! ดูเหมือนว่าร่างของเขาเข้ามาอยู่ในเจดีย์หงษ์วินจริงๆ !
นั่นหมายความว่าข้าจะเข้ามาที่ในได้ตลอดเวลาที่ข้าต้องการอย่างนั้นหรือ ? จวินโม่เซี่ยยังคงรู้สึกมึนงง ราวกับสวรรค์ได้โยนพายเนื้อลงมาใส่หัวของเขา และเขาไม่มีที่ให้หลบเลย
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้นายน้อยจวินยังคงรู้สึกมีความสุขอย่างแปลกประหลาด !
เขาไม่ได้พบความสุขในที่ร่ม หรือภายในน้ำพุที่สุกไสว แต่แค่ในเจดีย์หงษ์จวิน …
เขา เขา …
“ เลือดกลายเป็นข้อพิสูจน์ ปัญญาของจิตวิญญาณจะเป็นเครื่องป้องกัน และจิตวิญญาณจะเปลี่ยนเป็นความแข็งแกร่ง เปลวแห่งปฐมภูมิ ทำให้ทุกอย่างนี้ดำเนินไปในโลก เตาแห่งโชคลาภ กลายเป็นผู้สร้างที่สุดวิเศษ ! ”
คำเหล่านี้เกิดขึ้นในหัวของจวินโม่เซี่ยในทันที นายน้อยจวินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือร่างของเขา เตาแห่งโชคลาภที่ดูโบราณ และเปลวแห่งปฐมภูมินี้เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดจนไม่อาจแยกจากกันได้
จวินโม่เซี่ยเดินไปสองก้าว และเอนตัวไปหาหนังสือสีทอง
ในตอนที่มือของเขาสัมผัสกับมัน หนังสือได้เพิ่มจำนวนขึ้นมามากมาย ล้อมรอบเตาแห่งโชคลาภ และหายเข้าไปในพื้นที่ระหว่างคิ้วของจวินโม่เซี่ย เหมือนกัน รูปภาพและข้อความก่อนหน้านี้
ตำหรับยา แผนโบราณ !
คำที่ดูโบราณนั้นหมุนไปรอบๆความคิดของจวินโม่เซี่ยอยู่สักครู่ และจากนั้นก็ถูกแทนทีด้วยตัวอักษรและรูปภาพมามายที่บรรยายถึงวิธีการเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้ในการปรุงยามากมาย นอกจกานี้ยังมีขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างส่วนประกอบของวัตถุดิบ เมื่อเคล็ดต่างๆหมุนวนอยู่รอบหัวของเขาอีก พวกมันก็เปลี่ยนเป็นคำสองคำแรกอีกครั้ง
“ ข้าเข้าใจ ”
จวินโม่เซี่ยพึมพัมสองคำนี้ในขณะที่เขาอ่านหัวอักษรที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
ตอนนี้ข้าเข้าใจจริงๆแล้ว !
หัวใจของมือสังหารกระโดดโลดเต้นด้ยความตื่นเต้น แต่ความสงบของมือสังหารได้บังคับความตื่นเต้นในหัวใจของเขา และทำให้ตัวเองสงบลง ในเวลาเดียวกัน เขาตระหนักได้ถึงบางอย่างที่น่าประหลาดใจและน่าปลื้มใจอย่างมาก ปราณที่เคลื่อนที่อยู่ในเส้นลมปราณของเขา ได้เปลี่ยนสีไปให้เมือนกับสีของปราณจากเจดีย์หงษ์จวิน และตอนนี้ มันค่อยๆเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณของเขาด้วยท่าทีที่เหมือนกับหมอกควัน !
กระบวนการเช่นนี้ช่างน่าอัศจรรย์ !
แน่นอนว่า เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์นั้นต้องการในสิ่งที่ยาก แต่เมื่อข้าฝึกฝนและชำนาญในเคล็ดนั้น มันก็จะมอบรางวัลที่ดีกลับคืนมา !
จวินโม่เซี่ยประมาณเอาว่า ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้อยู่ในขั้นเชีวยนทองสูงสุด เขาได้พัฒนาจาก เชวียนเงินสูงสุดไปยังเชวียนทองก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มันคงที่อยู่ในขั้นเชวียนทอง และก้าวล้ำขึ้นไปยังขั้นสูงสุด !
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงหกวินาที !
จะต้องบอกว่า จวินโม่เซี่ยเพิ่งมาถึงโลกนี้เมื่อสองเดือนก่อนเท่านั้น !
เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอย่างมากในโลกนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องมาอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าขอทาน !
สกุลและชีวิตของเขา ประสบปัญหาที่ร้ายแรง !
ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาเปรียบได้กับมดในโลกนี้ !
หากจวินโม่เซี่ยคนเดิมยังอยู่ในโลกนี้ เขาคงจะยอมแพ้ต่อจุดจบของเขาไปอย่างง่ายดาย
ความจริง หากไม่มีความช่วยเหลือจากเจดีย์หงษ์จวิน ตอนนี้จวินโม่เซี่ยคนใหม่ก็คงจะตายไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ! เขาเชื่อใจในความลึกลับที่นำพาเขาจากสถานการณ์ที่อันตรายไปยังความปลอดภัยเสมอ !
แต่กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความแข็งแกร่งของเขาก็ก้าวหน้าไปไม่เพียงพอ !
ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขานั้นไปถึงขั้นเชวียนเงินสูวสุดเมือสองเดือนก่อน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ! อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งระดับเชวียนเงินนั้นก็ยังไม่มากพอที่จะอยู่อย่างปลอดภัยในโลกนี้
อาจจะบอกได้ว่า ในจุดนั้นชีวิตของเขายังอยู่ในอันตราย และเขาก็ยังยับยั้งมันได้ในกรณีที่สถานการณ์เปลี่ยนไปจากความตั้งใจของเขา !
ดังนั้นเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เขาได้รับเคล็ดอิสระหยินหยาง และนายน้อยจวินก็ได้ค้นพบเส้นทางที่จะใช้ปกป้องชีวิตของเขาได้ ! ยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดนี้ทำให้เขามีวิธีที่จะปกป้องตัวเองเมื่อมีอันตรายได้ !
แต่กระนั้น มั้นก็ยังคงไม่เพียงพอ ! มันไม่ใช่นิสัยของจวินโม่เซี่ยที่จะรีรอ ! ดังนั้น เขาจึงต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง และเอาออกมาใช้ได้ในยามที่เขาต้องการ !
จวินโม่เซี่ยไม่เคยเป็นหนี้บุณคุณผู้ใด ไม่เคยขอให้ใครช่วย หรือปล่อยให้ใครรังแกเขา ด้วยนิสัยเช่นนี้ !
หากเจ้าขโมยจากข้า ข้าก็จะเอาคืนเจ้า หากเจ้าทำให้ข้าขายหน้า ข้าจะทำให้เจ้าต้องอับอายกว่าเป็นร้อยเท่า หากเจ้าทำให้สกุลของข้าต้องเจ็บปวด ข้าจะสังหารคนในสกุลของเจ้าทั้งหมด และหากเจ้าหลอกลวงข้า ข้าจะจดจำมันไปชั่วนิรันด์
การทรยศคือสิ่งที่ไม่อาจจะทนได้ !
การทรยศเป็นปิศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในสายตาของจวินโม่เซี่ย !
แม้ว่าร่มเงานั้นจะไม่เท่ากับขนาดของโลก แต่นี่คือสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงเขาเข้ากับระดับคุณธรรมของสกุล !
หากเจ้ากล้าที่จะทำอันตรายข้าแม้เพียงเส้นผม ข้าจะตัดแขนเจ้า ! และใครก็ตามที่กล้าทำร้ายข้า ข้าจะทำลายสกุลของมันทั้งสุดล !
ไม่สำคัญว่าเป็นใคร ! พวกเขาจะได้รับการปฏบัติเช่นเดียวกัน !
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งตามสถานภาพนั้นมิใช่ทุกสิ่ง ความแข็งแกร่งทางร่างกายนั้นจะตัดสินทุกอย่างในตอนท้าย หากผู้ใดแข็งแกร่งเพียงแค่สถานภาพ ผู้นั้นก็จะได้พบกับเส้นทางไปสู้หายนะ !
ดังนั้น จวินโม่เซี่ยจึงมองหาทางที่จะเปิดชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวินให้เร็วที่สุดตราบเท่าที่เป็นไปได้ และจากนั้นก็ชั้น สาม สี่ และ …. ชั้นที่เก้า !
เขารู้ว่าเจดีย์หงษ์จวินนั้นเป็นการสนับสนุนเดียวที่เขามีอยู่ในโลกใบนี้ !
ประโยชน์ของอำนาจเงินนั้นสามารถหายไปได้ราวกับหมอกควัน แม้แต่สกุลของเขาก็อาจจะไม่มั่นใจได้ว่า ที่พวกเขาอยู่รอดในตอนนี้ได้เพราะอำนาจเงินเพียงอย่างเดียว
อย่างแรก ปัญหาที่ยืดเยื้อกับเมืองพายุหิมะขาวนับสิบปี และตอนนี้ก็มีปัยหาของคฤหัสน์ฉือฮั่น ที่ทำให้น้ายน้อยจวินต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ! ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละสกุลในเมืองเทียนเชียงก็ไล่หลังมาทุกวัน ในขณะที่การแย่งชิงอำนาจเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทำให้สถานการณ์ของเขาเป็นอันตรายมากขึ้น !
ไม่มีใครรู้ถึงแรงกดดันที่จวินโม่เซี่ยรู้สึก แม้ว่าเขาจะไม่เคยแสดงมันออกมา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รู้สึกถึงมัน
แต่แล้ว ในตอนนี้เขาได้เปิดชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวินได้แล้ว แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขายังคงต้อยต่ำ แต่สุดท้ายเขาก็ได้พบข้อได้ปรียบที่เป็นจริง !
เขารู้ว่าแค่เพียงความแข็งแกร่งระดับเชวียนทองของเขานั้นยังไม่เพียงพอ ! ความจริงแล้ว มันห่างไกลจากคำว่าเพียงพอนัก ! อย่างไรก็ตาม ! ….
ด้วยการช่วยเหลือจากเตาแห่งโชคลาภ และตำรายาแผนโบราณ ตอนนี้จวินโม่เซี่ยจึงสามารถสร้างทหารที่ไว้ใจได้และซื้อสัตย์ของสกุลได้ภายในระยะเวลาไม่นาน
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาได้อย่างรวดเร็ว !
แล้ว เมื่อเวลามาถึง จวินโม่เซี่ยก็จะสามารถเปิดเผยเขี้ยวเล็บของเขาให้ทั้งโลกได้เห็น !
ทันใดนั้นจวินโม่เซี่ยก็ได้เห็นลมลอยตัวขึ้นตรงหน้าของเขา
เหล่ามหาอำนาจของโลกนี้ ในที่สุด ข้า จวินโม่เซี่ยก็ได้พบกับสิ่งสำคัญที่ใช้เผชิยหน้ากับเจ้าได้ !
ทันใดนนั้น นายน้อยจวินก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่ในพื้นสีดำ ดูเหมือนว่าจะไม่รู้เลยว่าเขาออกมาจากเจดียืหงษ์จวินเมื่อใหร่ ขณะที่ความคิดที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและไฮเฉินเฟิงมุ่งหน้าไปที่บ้านของเขาเกิดขึ้นในหัว เขาก็พบว่ามันคือสถานการณ์ฉุกเฉิน และรีบออกมาจากใต้ดิน
แสดงแดด !
ดูเหมือนว่าจวินโม่เซี่ยจะยืนอยู่บนพื้นไม่ไหว ขณะที่เขาหรี่ตาเพราะแสงแดด
ความแข็งแกร่งของเขาก้าวหน้าไปอย่างมากภายในเวลาอันสั้น ! มันจึงเป็นปกติที่เขาจะตื่นเต้นอย่างมาก ในความจริงเขารู้สึกพึงพอใจ ราวกับขอทานที่ถูกรางวัล ! แม้จะรู้ว่าเขาจะต้องเก็บมันเป็นความลับ หัวใจของเขาก็ยังปราถนาที่จะโอ้อวดความแข็งแกร่งใหม่นี้สักเล็กน้อย และทำให้เขาอดที่จะรวบรวมพลังของเขาไม่ได้
ในขณะที่เขาตื่นเต้น นายน้อยจวินไม่รู้เลยว่าตรงที่เขายืนอยู่ในตอนนี้นั้นเคยเป็นป่ามาก่อน …
“ อ้า !!!! …. ”
เสียงกรีดร้องแหวกผ่านอากาศมา และตามมาด้วยเสียงสาปแช่งด้วยความโกรธและไม่พอใจ
“ คนเลว ! เขากล้า … กลางแจ้ง …. ”
จวินโม่เซี่ยหันไปและรู้ว่ามีสองคนยืนอยู่ห่างจากเขาไปราวสิบเมตร ชายหนุมและหญิงสาว ผมของหญิงสาวประบ่า และยาวลงมาตามชุดสีขาวของนาง นางมีรูปร่างที่งดงาม และกำลังจะหันไปในขณะที่นางกระทืบเท้าไปด้วย ดูเหมือนว่ามือของนางจะยกขึ้นมาปิดตา
คนที่ยืนถัดจากนางคือชายหนุ่มที่หล่อเหลา แต่จมูกที่โค้งงอราวกับอินทรีย์ และสีหน้าที่มีอารมณ์ของเขา แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นอารมณ์ไม่ดีในตอนนี้ มือซ้าของขาชี้มาที่จวินโม่เซี่ย ในขณะที่มือขวาของเขาควานหาด้ามกระบี่
“ เจ้าเจ้ากล้าที่จะมาทำเช่นนี้อย่างโจ่งแจ้ง ! นายน้อยผู้นี้มิอาจจะอดทนได้ ! ข้าจะไปสั่งสอนเจ้า ! ”
“ สั่งสอนอะไร ? ข้าไม่เข้าใจ ? ”
จวินโม่เซี่ยอดที่จะสงสัยไม่ได้
สองคนนี้มีจิตใจไม่ปกติหรือย่างไร ? ข้ากำลังยืนอยู่จรงนี้ และเจ้าก็มาสาปแช่งข้า ? เจ้าจะมาตัดสินว่าข้านั้นอันธพาลจากรูปลักษณ์ภายนอกของข้าไม่ได้นะ ? เจ้ามาหาเรื่องทะเลาะวิวาทสินะ !
ยากมากที่จวินโม่เซี่ยจะใส่ใจคำพูดของคนอื่น แต่ก็พบว่าตัวเขาเองเดินไปข้างหน้า
หญิงสาวแอบากงนิ้วของนางออกเพื่อแอบมองจวินโม่เซี่ย และรุ้เพียงแต่ว่าเขากำลังเดินเข้ามาใกล้ๆนาง และอดที่จะรู้สึกเขิลอายและโกรธไปในเวลาเดียวกันไม่ได้ ดังนั้นนางจึงร้องออกมาด้วยความกังวล
“ เจ้า เจ้า เจ้า มันคนไร้ยางอาย … อย่าเข้ามาใกล้ข้า ! ข้านั้นทรงอำนาจ … อย่ามาใกล้ข้านะ …. ”
น้ำเสียงของนางดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ! เนื่องจากนางได้เห็นผู้ชายแก้ผ้าเป็นครั้งแรก ทำให้นางรู้สึกแปลกประหลาดอยู่ภายใน และแม้ว่านางจะรู้ว่านางมองไปที่เขาไม่ได้ แต่ก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ และพบว่าตัวเองแอบมองชายแก้ผ้าที่อยู่ตรงหน้านางผ่านช่องเล็กระหว่างนิ้วของนางอยู่ ….
Translate by iHaveNoName