Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 213
ขณะที่เขาก้าวเดินเข้าไปสู่ลานเล็กๆ แม้แต่ผู้มีประสบการณ์เช่นเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเองก็ยังมิอาจห้ามตนเองจากการตกตะลึงได้ … ก้อนเนื้อขนาดใหญ่กำลังวิ่งไปในลานบ้านเล็กๆ และมันต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่สุดท้ายแล้วเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะปักใจในความจริง ก้อนเนื้อนี่ดูละม้ายคล้าย … คน ! ของสิ่งนี้เป็นคนจริงๆ !
พระเจ้า !
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมิอาจหักห้ามใจไม่ตำหนิชายผู้นั้นในใจได้ ข้าได้ยินมามากมายว่าชีวิตของนายน้อยเหล่านั้นช่างสะดวกสะบาย แต่เขาสามารถปล่อยให้ตัวเองกินมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร
มันมากเกินไปแล้ว !
อาการบาดเจ็บของถังหยวนมิได้รุนแรงนักเมื่อเขาได้รับการรักษาอย่างพิถีพิถันจากนายน้อยจวิน และหลายวันที่ผ่านมาเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถล้มตัวนอนลงได้เลย เนื่องจากความอยากอาหารของเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวตั้งแต่การรักษาของจวินโม่เซี่ยเริ่มขึ้น
นอกจากนี้ แม้แต่เสื้อผ้าเสื้อผ่อนตัวเก่าของเขาก็คับเกินไปแล้วในตอนนี้ …
หน้าท้องของถังหยวนที่ห้อยย้อยลงมาถุงเข่าในช่วงก่อนหน้านี้ กลับหย่อนยานลงมาจนเกือบจะถึงเท้าของเขาแล้ว ถังหยวน สัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ใหญ่โตเมื่อตระหนักได้ถึงสถานภาพของหน้าท้องของเขา และหลังจากนั้นเขาจึงเริ่มวิตกกังวล
ข้าต้องการจะลดน้ำหนัก !
นิสัยเดิมทีของนายน้อยถังนั้นจะเป็นกังวลอย่างมากในเรื่องอนาคตของชีวิตความสัมพันธ์
ข้าจะมีความสัมพันธ์ได้อย่างไรหากข้าไม่ลดน้ำหนัก ? ข้าจะไร้ประโยชน์ ผู้ชายอาจจะมีกระสุน แต่มันจะจะปล่อยออกไปไม่ได้หาก มีอะไรมาขัดขวางเยี่ยงนี้ อีกอย่าง หญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้นนั้นหาได้ชอบชายอ้วนเช่นนี้ …
ผลที่เกิดขึ้นนั้นคือ ถังหยวนยกเลิกกิจธุระอื่นๆในวันนี้ทิ้งไป แล้วเขา ออกไปวิ่ง อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาฝึกฝนอย่างหนัก เขายิ่งเหนื่อยมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากความหิวกระหายที่เพิ่มขึ้นของเขา …
และจากนั้น … น้ำหนักของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ผลที่เกิดขึ้นนั้น ถังหยวนพบว่าตัวเขาเองตกอยู่ในวงเวียนที่โหดร้าย และยากที่จะหลุดพ้น
เดิมทีแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจากการตกตะลึงเมื่อได้พบเห็นก้อนเนื้อที่เหมือนกับมนุษย์กลิ้งไปตามลานบ้านได้ …. ถังหยวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เยือกเย็นไปทั่วทั้งร่าง ขณะที่ได้เผชิญหน้ากับชายในชุดสีดำ และอดที่จะหนาวสะท้านไปทั่วสันหลังไม่ได้เมื่อได้มองไปยังสีหน้าและแววตาของชายผู้นั้น
อารมณ์ของถังหยวนไม่ค่อยสู้ดีนัก และเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสีหน้าที่ละม้ายโลงศพนี้มันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงจ้องเขม็งกลับไปและตะโกน
” ผู้เฒ่า ท่านจ้องมองหาอะไร ? “
” เจ้าไม่เคยเห็น ชายผู้หล่อเหล่ามาก่อนหรืออย่างไร ? ”
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก่อตัวขึ้นเป็นความทุกข์ใจ
ในชีวิตนี้ข้าเคยได้พบปะกับชายผู้หล่อเหล่ามากอย่างแน่อท้ ความจริงแล้ว ข้าอาจได้เคยพบปะกับชายผู้ที่หล่อเหล่าที่สุดมาแล้ว … แต่ข้าเอง กลับหาได้เคยพบปะกับคนอ้วนที่บอกว่าตัวเองนั้นหล่อเหล่ามาก่อน
ข้าไม่ค่อยมั่นใจนักว่าเช่นเจ้านั้นเรียกได้ว่าหล่อเหลา แต่จากผิวหนังที่หน้าและร่างกายที่มีน้ำหนักเช่นเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้านั้นเหมาะสมที่จะบอกว่าอ้วน …
” ไม่เลย ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่รังเกียจจากการตำหนิของเขา เนื่องจาก ความหุนหันของนายน้อยจวินทำให้เขามีภูมิต่อการดุด่ามากแล้วก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาพบว่า ร่างที่อ้วนกลมของถังหยวนนั้นค่อนข้างดึงดูดสายตา
” พ่อหนุ่ม เจ้าหนักเท่าใหร่หรือ ? “
ถังหยวนยังคงวิ่งต่อไปด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม และละเลยต่อคำถามของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว
” หลีกทางไปเสีย นายน้อยผู้นี้ต้องการลดน้ำหนัก ! “
” และอย่าได้ถามคำถามใด เนื่องจากมันทำให้ข้าไขว้เขว ! ”
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถังหยวนไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของชายแก่ผู้นั้น หากมีผู้ใดบอกเขาว่าชายที่เขาตะโกนใส่นั้นคือ แปดยอดปรมาจารย์ ของโลกนี้ และรู้ถึงนิสัยอันโหดเหี้ยมของเขา … อาจจะคิดเดาได้ว่า ถังหยวนจะสามารถทำสำเร็จตามเป้าหมายของเขาได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน โดยเหงื่อของเขาที่ไหลออกมาจำนวนมากจะทำให้น้ำหนักของเขาลดหายไปนับกิโลกรัมแทน
” ดี เด็กน้อย นั่นดีแล้ว เมื่ออาวุโสผู้นี้เสร็จกิจธุระของเขาแล้ว ข้าจะชวยเหลือเจ้าในการลดน้ำหนัก เคล็ดลับของข้านั้นสามารถช่วยให้เจ้าผอมลงอย่างมาก ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเอ่ยขึ้นด้วยความปราถนาดี เมื่อถังหยวนได้ฟังดังนั้น เขาจึงกรอกตาละเลยความช่วยเหลือนี้
เจ้าคิดว่าการลดน้ำหนักนั้นง่ายมากนักหรือ ?
เจ้าคิดว่าข้ายังไม่เคยลองเคล็ดอันใดเลยหรือ ?
ไม่มีเส้นทางลัดสำหรับการลดนำหนัก !
” นี่ เจ้ากำลังอุ้มคนใกล้ตายอยู่ และเจ้าเองยังสนใจที่จะยืดเยื้อสนทนาอีกหรือ ? ”
จวินโม่เซี่ยตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน
” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ความใจเย็นของเจ้านั้นเหมาะควรในการเป็น แปดยอดปรมาจารย์ อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่น่านับถือ ! “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว คำรามกลับด้วยโทสะ
” แม้งเอ้ย ข้าหาได้โง่เง่าน่ะ ! ”
ท่าทีของ ถังหยวน เปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้รับฟังคำพูดที่เปลี่ยนไปนี้
” ใครนะ ? ชายผู้ที่ นายน้อยจวิน กำลังพูดถึงนั้นคือผู้ใดกัน ? เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แปดยอดปรมาจารย์ ? ”
ราวกับมีระเบิดปะทุขึ้นในหัวของ ถังหยวน เจ้าอ้วนถังโซเซไปหลายก้าว จากนั้นเขาหน้าซีด และร่วงลงไปบนพื้นด้วยเสียง ตุ๊ป พร้อมกับอ้าปากโหวเพื่อสูดอากาศเข้าไปให้มากขึ้น ในขณะที่ หัว แขน ขา และทั่วทั้งร่างของเขามีเหงื่อหลั่งไหลออกมาร่าวกับน้ำพุ แปดเปื้อนจนพื้นชุ่มฉ่ำไปด้วยเม็ดเหงื่อของเขา …
ข้า ข้า ข้า ข้า เพิ่งจะชี้นิ้วใส่ แปดยอดปรมาจารย์ และข้ายังสาปแช่งเขา …
หัวของถังหยวนเริ่มวิงเวียนเมื่อตระหนักได้ถึงความโหดร้ายของสถานการณ์ และไม่นานเขาพบว่าตัวเองนอนแผ่อยู่บนพื้น หาได้มีเรี่ยวแรงยืนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง … เนื่องด้วยความช่วยเหลือของเขาได้รับการปฏิเสธ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จึงอุ้มร่างที่ร่อแร่ของ ไฮ่เฉินเฟิง เข้าไปสู่ห้องโอสถ ตามคำสั่งของจวินโม่เซี่ย เมื่อไม่นานมานี้ นายน้อยจวิน มีคำสั่งให้ก่อสร้าง ห้องใหม่ขึ้นมาด้านหลังห้องนอนของเขาเพื่อใช้ในการรักษาทาการแพทย์ …
เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ นั้นก้าวหน้าเกินกว่าโลกแห่งตำหรับยาใดๆทะเทียบได้ ซึ่งเป็นเหตุให้การรับมือกับการบาดเจ็บภายใจของ ไฮ่เฉินเฟิง นั้นเป็นงานที่ง่ายดายอย่างมาก ความจริงแล้ว ไฮ่เฉินเฟิง นั้นสามารถพูดดุยอยู่ได้นานนับชั่วโมง
” เจ้าทำมันได้จริงๆหรือ ? สิ่งที่เจ้าสัญากับข้าก่อนหน้านี้ ? คู่ต่อสู้ของข้า คือหนึ่งใน แปดยอดปรมาจารย์ ของโลกนี้เชียว ! “
ไฮ่เฉินเฟิง ถาม
” เจ้ายังแคลงใจหรือ ? สิ่งที่เจ้าเห็นนั้นยังไม่มากพออีกหรือ ? ”
จวินโม่เซี่ย ตอบกลับไป
” อย่างน้อยในตอนนี้ข้าก็ยังคงพอมีหวัง ข้าได้เห็นฝีมือของอาจารย์เจ้า และ มันเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากสิ่งนอกเหนือธรรมชาติ ! ข้าอาจะคลางแคลงในตัวเจ้า แต่ข้าไม่เคยแคลงใจในความสามารถของอาจารย์เจ้า ! ”
” แล้ว ตอนนี้เจ้าประสงค์จะทำสิ่งใด ? ”
” ข้าตัดสินใจที่จะอยู่ ! “
ไฮ่เฉินเฟิง ตอบ
” แต่กระนั้น ข้าไม่มีที่ใหนให้ไป ข้าต้องการเพียงแค่เดินทางไปจากแผ่นดินใหญ่ เพื่อเพิ่มเสริมความแข็งแกร่ง แต่หากข้าสามารถทำเช่นนั้นที่นี่ได้ ทำไมข้าจึงต้องเดินทางไปทั่วโลกละ ? ”
” หากเจ้าเข้าร่วมกับข้าแล้ว เจ้าจะไม่สามารถออกไปเมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการเจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ? ”
จวินโม่เซี่ย ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
” นั่นเป็นเพียงเรื่องธรรมชาติ ! ”
ใบหน้าของ ไฮ่เฉินเฟิง เผยให้เห็นถึงการตัดสินใจ
” ในเมื่อข้าเข้าร่วมกับเจ้าแล้ว ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ ข้าจะติดตามเจ้าไปตามที่ข้าสัญญา และข้าจะไม่กลับคำ ตราบใดที่ข้าได้ในสิ่งที่ข้าได้รับปากไว้ “
” ดีมาก ! ”
จวินโม่เซี่ย ค่อยปล่อยปราณเข้าสู่ร่างของเขามากขึ้น
” ข้ามีคนเพียงน้อยนิด น้อยนิดอย่างมาก “
” ข้าเข้าใจ ! “
ไฮ่เฉินเฟิง สัมผัสได้ว่าเส้นลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังอย่างรวดเร็ว และสัมผัสได้ว่าส่วนสำคัญในร่างกายของเขาได้รับการฟื้นฟูอย่าวรวดเร็ว
” ข้าได้รับรู้ถึงสถาณการณ์ของสกุลจวินมาบ้าง “
” เป็นเรื่องที่ดี ! “
จวินโม่เซี่ยคำรามทางจมูกสองครั้ง
” ไฮ่เฉินเฟิง ข้าต้องการควบคุมพลังอำนาจใต้ดินของเมืองหลวง หลังจากที่ข้ารักษาเจ้าเป็นการสำเร็จ เจ้าจะต้องรับงานี้ไป เป้าหมายของข้าจะไม่สำเรจหากจ้าไม่สามารถทำงานนี้ได้ !”
” ไม่มีปัญหา ! ”
ไฮ่เฉินเฟิง ไม่กระพริบตาขณะที่เขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย สำหรับเขา ในฐานะ ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนสูงสุด แม้จะต้องต่อกรกับความแข็งแกร่งระดับจวินวูอี้นั้นมิใช่ปัญหา ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีอยู่ในมือ การสนับสนุนจากก๊กจินหยาง การจัดการกับโลกใต้ดินของเมืองหลวงนั้นง่ายดั่งการกลืนไก่ลงคอ
” เจ้าอาจะเข้าใจประสงค์ของข้าผิดไป ข้าต้องการกองกำลังนี้เพื่อสืบราชการลับ และจ้าไม่สามารถควบคุมมันได้ด้วยตัวข้าเอง ! กระนั้น เมื่อข้าต้องการจะควบคุมมัน ข้าจึงต้องการเจ้า ”
ใบหน้าของจวินโม่เซี่ยมีความลึกซึ้ง ในขณะที่แววตาของเขาโศกเศร้าเล็กน้อย
” ไม่สำคัญว่าอะไรจะเกิดขึ้น เจ้าจะต้องรับมือเรื่องทั้งหมดนั้นด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น จากเครือข่ายสายลับของข้า สกุลมูล่ง และ สกุลลี่ ได้ร่วมมือกับก๊กเหล่านี้จำนวนหนึ่งแล้ว และด้วยการรวมกันของพลังอำนาจเช่นนั้น บางก๊กเหล่าจึงสามารถสร้างความแข็งแกร่งขึ้นมาได้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาถึงมิได้อ่อนแอ่ดั่งก่อนหน้านี้ ! “
” ข้าเชื่อว่า พวกเขานั้นต้องมีคนที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเจ้าได้ ”
จวินโม่เซี่ยเสริม
” นั่นมิใช่ปัญหา ! “
ไฮ่เฉินเฟิงทำให้ จวินโม่เซี่ย มั่นใจ และเงียบลง สำหรับสิ่งที่เขาคิด
เข้จะต้องขอให้ ก๊กจินหยาง ช่วยเหลือ และเมื่อเขาดึง ก๊กจินหยาง เข้ามาร่วมด้วย ชื่อเสียงและพลังอำนาจ จึงมากพอสำหรับการกุมอำนาจโลกใต้ดินได้ทั้งเมือง จากทั้งหมดนี้ ก๊กจินหยาง เป็นก๊กใต้ดินที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองหลวง และ สามารถแผ่ขยายอำนาจออกไปได้อย่างง่ายดายหากเป็นที่ประสงค์
ไฮ่เฉินเฟิง มั่นใจว่าเขาและ จวินโม่เซี่ย สามารถทำทุกสิ่งให้สำเร็จได้ จากทั้งหมดนี้ พวกเขาทั้งสองจึงได้รับการสนับสนุนจากสกุลอันทรงพลังอย่างมาก ปรมาจารย์สีคราม เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และความแข็งแกร่งของอาจารย์ของจวินโม่เซี่ย ผู้ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งเกินกว่ายอดปรมาจารย์ทุกคนในโลกนี้ !
กองกำลังเช่นใดสามารถต่อกรกับ สมาคมที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ ? หากมันยากเกินรับมือ ข้าจะไปขอให้อาจารย์ช่วย และหลังจากเรื่องวันนี้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเองก็ติดหนี้บุญคุณจวินโม่เซี่ย และเขาจะไม่นิ่งงเฉยเป็นแน่หากมีการร้อขอความช่วยเหลือ แต่กระนั้น หากสถานการณ์ยังเกินรับมือ มันก็มิใช่ปัญหา หากอาจารย์ของจวินโม่เซี่ยออกมารับมือด้วยตัวเอง … ด้วยความคิดนี้ เห็นได้ชัดว่า ไฮ่เฉินเฟิง มั่นใจในสถานะของเขาอย่างมาก
” ข้าจะไม่แทรกแซงการตัดสินใจ และปฏิบติการของเจ้า ”
จวินโม่เซี่ยกล่าวขณะที่เขาหลับตาลงเบาๆ
” อย่างไรก็ตาม เจ้าเองจะต้องทำคำสั่งและมีความรับผิดชอบ ”
จวินโม่เซี่ย กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ไฮ่เฉินเฟิง พยักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง
” เมื่อข้าได้รับข่าวอันใด ข้าจะสื่อสารกับเจ้าตราบเท่าที่เป็นไปได้ อาจารย์ของข้า กำลังทำการปรุงโอสถเพื่อการเสริมสร้างปราณเชวียน และมันให้ผลได้อย่างดี ! เรื่องนั้นข้าสามารถรับรองกับเจ้าได้ ! เมื่อมันพร้อม เจ้าจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเจ้าได้ ! ”
จวินโม่เซี่ยยิ้ม
“ เจ้าจะไม่เสียใจที่ร่วมมือกับข้า ! ”
จวินโม่เซี่ยเพิ่งจะโยนไพ่ตายในการเจรจา
เดิมที่แล้ว นายน้อยจวินจะเรียกตัวเองว่านายท่าน
ดวงตาของ ไฮ่เฉินเฟิง เปล่งประกายระยิบ และไม่มานจึงเริ่มเผยถึงสีสันแห่งความตื่นเต้น
ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดผู้หนึ่งกำลังปรุงโอสถ แล้วสิ่งนั้นมันจะแย่ได้เช่นไร ?
ไฮ่เฉินเฟิง ห้ามมิให้ตัวเองยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมาไม่ได้ ขณะที่เขาเริ่มเพ้อฝันกับความแข็งแกร่งที่กำลังจะเพิ่มขึ้นในวันข้างหน้า จากนั้นจะไปไล่เตะ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว …
…. ….
ในที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ประตูห้องโอสถจึงเปิดออก และจวินโม่เซี่ยที่ดูอ่อนเพลียเดินออกมา
” คนผู้นั้น ? ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ถามด้วยความกังวล
จวินโม่เซี่ย ถอนหายใจและพยักหน้า
” เขาตายหรือไม่ ? ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวถามขณะที่ใบหน้าอันโศกเศร้าของเขาเผยถึงความสิ้นหวัง