Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 224
” ขอบคุณพี่มู่ ! ”
จวินวูอี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
” เจ้าคือ พี่เขยข้า จวินวูอี้ ? เจ้าช่างดูมีเหตุผลและเป็นผู้ใหญ่ ข้าได้ยินพี่สาวของข้าพูดถึงเจ้าทุกวัน ฮี่ฮี่ … ”
ฮั่นหยานเมิงเงยหน้าขึ้นมาขณะนางพยายามคาดเดาจวินวูอี้ และถาม
” พี่สาวของข้าคิดถึงเจ้าทั้งวี่วัน แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่ไปหานางบ้าง ? หากเจ้าไม่มีที่อยู่ของนางที่เมืองพายุหิมะขาว ข้าจะบอกเจ้าเดี๋ยวนี้ ”
ใบหน้าจวินวูอี้กระตุกด้วยเจ็บปวดขณะความทรงจำพุ่งพล่านเข้ามาหาเขา
” ข้าต้องการจะไปที่นั่น ! มานับสิบปีแล้ว … ไม่มีวันใดเลยที่ข้าไม่ประสงค์พบนาง… “
” โอ้ว .. ”
ฮั่นหยานเมิงพยักหน้าราวกับเข้าใจความหมาย แต่ไม่เป็นเช่นนั้น นางจึงถาม
” ไปมิได้เพราะขาของเจ้าอย่านั้นหรือ ? มีหมอดีมากมายที่เมืองพายุหิมะขาว และข้าจะแนะนำพวกเขาแก่เจ้า ! ”
” องค์หญิงน้อย มิใช่เพราะจวินวูอี้ไม่ต้องการจะไปที่นั้น มันเพราะความพิการของเขานั้นรุนแรง มิเช่นนั้นเขาคงจะไม่สามารถไปยังที่ใดใกล้เมืองพายุหิมะขาวได้ ”
มูซื้อทงถอนหายใจและอธิบาย
” ทำไมกัน ? ”
องค์หญิงน้อยถามด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง
” แม้แต่ข้ายังสามารถไปในที่ต่างๆที่ข้าต้องการได้เลย และเห็นได้ชัดว่าฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าข้ามาก ”
” เจ้าโง่ ! “
จวินโม่เซี่ยฮึดฮัด ขณะเขาไม่พยายามปิดบังความคิดของเขาได้ องค์หญิงน้อยคงจะมิได้ทำงานหนักเกินไป ? นางเพิ่งจะเรียกน้าของข้าว่าเป็นพี่ของนาง ช่างเลวและน่าสะอิดสะเอียน
” หลานของเจ้าช่างไร้มารยาท ! เขาไม่ควรเรียกข้าว่า ป้าหรือ ? ”
ฮั่นหยานเมิง แลบลิ้นขณะนางมองไปยังจวินโม่เซี่ย และหันกลับมามองจวินวูอี้และอธิบาย
” ข้าจะกลับไปบอกพี่สาวของข้าในเรื่องนี้ นางจักสังสอนเขาเมื่อนางมายังสกุลจวิน ! ต้องมีบางคนสั่งสอนเขาจริงๆเสยียแล้ว ! ”
” พี่สาวของเจ้า … จะมายังสกุลจวินอย่างนั้นหรือ ? ”
จวินวูอี้ตกตะลึงชั่วขณะหลังจากได้ยินประโยคนี้ และพบว่าหัวใจของเขาเต้นด้วยความสุข อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหัวใจของเขาจะมีความสุขในทันใด แต่ความข่มขื่นยังคงปรากฏร่องรอย ราวกับใครบางคนหย่อนเชอรี่ลงในกรด
” เอ เห็นได้ชัดว่านางอยากแต่งกับเจ้า ดังนั้นนางจึงต้องมายังสกุลจวินโดยปกติ เหตุผลเดียวที่พี่สาวของข้าฝึกฝนอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา เพราะนางต้องการแต่งกับเจ้า ! ”
ฮั่นหยานเมิง ผายมือขณะเผยสีหน้าที่ชัดเจน
” โอ้ว … “
ดวงตาของจวินวูอี้เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นขณะความตื่นเต้นในใจทำให้เขาไม่สามารถพูดตอบอะไรได้
สิบปีที่ต้องเหินห่าง สุดท้ายเขาจึงคนพบความคิดที่แท้จริงของนาง
นางยังคงถวิลหาข้า แต่ข้า …
” เจ้าจะบอกทุกเรื่องของพี่สาวเจ้าแก่ข้าได้หรือไม่ ? น้องเล็ก … ”
จวินวูอี้โน้มตัวไปข้างหน้าขณะดวงตาของเขาเผยถึงความกระหายใคร่รู้ที่อยู่ในใจอย่างชัดเจน
” แน่นอน มิใช่ปัญหา แต่ … ”
ฮั่นหยานเมิง เผยถึงความหยิ่งทะนงขณะนางชี้ไปยังจวินโม่เซี่ย
” ก่อนอื่น เจ้าต้องบอกให้เขาเรียกข้าว่า ป้า เขาคือหลานของเจ้า และเจ้าคือพี่เขยในอนาคตของข้า จึงทำให้ข้าเป็นน้าของเขา เขาควรเรียกข้าว่าท่านน้าถูกไหม ? ”
” นรก ! ”
จวินวูอี้ไม่มีเวลาตอบโต้ขณะเขาได้ยินคำสาปแช่งนี้ และหันไปมองหาจวินโม่เซี่ยด้วยเสียง ฟึดด …
เอาละ เจ้าเด็กนี่คิดจะเผาข้า และข้าสงสัยว่านางนั้นยากจะรับมือ แต่ข้าไม่เคยคิดว่านางจะแผดเผาข้าเร็วเช่นนี้ … เด็กสาวนี่ช่างน่าเหลือเชื่อ ข้านั้นแก่มากพอที่จะเป็นพ่อของเจ้า และเจ้ายังต้องการให้ข้าเรียกเจ้าว่าน้า ? นางเป็นเด็กสาวที่น่ารำคาญยิ่ง ข้าละรู้สึกอย่างจะสั่งสอนนางเสียจริง !
จวินโม่เซี่ย ตัดสินใจจะกลับไปยังลานบ้านของเขาเพื่อหลีกหนีเหตุที่จะทำให้เกิดโทสะ และตัดสินใจออกจากจวนสกุลจวินไปเสียเลย
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ยังคงอยู่ในจวนสกุลจวินอีกสักพัก ซึ่งหมายความว่าสกุลของเขาจะปลอดภัย
ดังนั้น มือสังหารจึงตัดสินใจทำบางสิ่งที่แตกต่างไปเพื่อแปลงเปลี่ยนอารมณ์ที่เศร้าหมองในตอนนี้ของเขา
จวินโม่เซี่ยคือผู้ที่มีลักษณะที่แข็งแกร่ง ฝึกฝนอย่างหนัก ดื้นรั้นเป็นที่สุด และมักจะทำตามความคิดของเขาเสมอ แต่ยังคงรักษาสัญญาไม่ว่าสิ่งในจะเกิดขึ้น นั่นคือคุณสมบัติที่ดีของเขา !
แต่กระนั้น บุคลิคของเขายังถูกควบคุมด้วยคุณสมบัติอื่นๆ ซึ่งเขาไม่สามารถอดกลั้นต่อความไม่พอใจได้ !
การกลั่นแกล้งของผู้อาวุโสหกก่อนหน้านี้ ทำให้จวินโม่เซี่ยมีโทสะ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะปลอดปล่อยมันใส่คนสกุลเซี่ยว !
คนเอาแต่ใจและ นิสัยข่มเห่งมักจะมีนิสัยชอบกลั่นแกล้ง แต่เจ้าต้องไม่กลั่นแกล่งข้า !
และหากเจ้าทำ ข้าจะตอบแทนเจ้าในเรื่องนั้นเป็นร้อยเท่า !
แม้นว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวได้สั่งสอนผนเรียนชิ้นใหญ่ให้แก่ ผู้อาวุโสหก แต่จวินโม่เซี่ยนั้นเป็นจอมโฉดในโลกที่แล้ว และมักจะมีความคิดที่แตกต่างเสมอ แม้นการลดโทษของ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นจะมีากเกินพอแล้วในสายตาของผู้คนจำนวนมาก … แต่ในสายตาของจวินโม่เซี่ยนั้นยังไม่เพียงพอ !
ความจริงแล้ว มันยังห่างไกลจากคำว่าเพียงพอนัก
จุดเริ่มต้นของปฏิปักษ์คือการล้างแค้นที่น่าโศกเศร้า !
จอมโฉดจักนิ่งเฉยได้อย่างไรหลังจากที่โดนรุกราณ ? แม้นว่าเขาจะแตกต่างและความแข็งแกร่งของเขาจะน้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม … หากแม้นว่าผู้ร้ายคือ ผู้ที่ทรงพลังที่สุดในโลก … จอมโฉดก็ยังคงเป็นจอมโฉด !
การกระทำของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั่นไม่เหมือนกับข้า ! เจ้าโจมตีข้า และข้าจะต้องเอาคือนเจ้าด้วยตัวเอง ! การปลดปล่อยโทสะด้วยมือของผู้อื่นนั้นมิใช่นิสัยของจอมโฉด !
และผลก็คือ จวินโม่เซี่ยตัดสินใจล้างแค้น ! ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ใช้โอกาสที่เหมาะสมในครั้งนี้ และออกไปจากสกุลจวินเนื่องจากไม่มีผู้ใดสงสัยในการจากไปขอเขา !
……
ผู้อาวุโสสาม และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ไปรวมตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง แม้ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นดูสงบและใจเย็น แต่ความสงสัยยังคงอัดแน่อยู่ในอกของพวกเขา
ความสงสัยของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นคือ
สกุลจวินนั้นเป็นสกุลที่ทรงพลังและมีอิทธิพลอย่างมาก แต่อาจจะจำกัดอยู่แค่ในอาณาจักรเทียนเชียง หากทั่วทั้งดินแดนแล้วนั้น พวกเขานั้นเป็นสกุลที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่ และเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถเทียบไปได้กับก๊กเหล่าที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ แต่เหตุใดสกุลเช่นนี้จึงจงใจยั่วยุ ก๊กที่ทรงพลังเช่นเมืองพายุหิมะขาว ?
ชัดเจนว่าเขาเข้าใจคำพูดของผู้อาวุโสหกซึ่งเป็นปกติของคนในระดับของเขา และและเข้าใจสิ่งนั้นด้วยคุณธรรมในการเป็นสมาชิกสกุลเซี่ยว เห็นได้ชัดว่าชายผู้นัน้ต้องยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นด้วยความเคารพต่อสกุลจวิน แต่กระนั้น เขาก็ยังไม่เขาใจว่า เหตุใดสกุลจวินจึงพยายามยั่วยุยอดฝีมือเทพเชวียนให้ทำเช่นนั้น … โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยอดฝีมือเทพเชวียนที่มีก๊กเหล่าอันทรงพลังเช่นเมืองพายุหิมะขาวหนุนหลังอยู่ !
ด้วยความคิดนี้ทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวสับสนอย่างมาก !
ผู้อาวุโสสามก็ยังคลางแคลงใจ
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว คือ แปดยอดปรมาจารย์ เหตุใดเขาจึงมาอยู่ในจวนสกุลจวิน ? ยิ่งไปกว่านั้น เหตุใดเขาจึงพยายามปกป้องสกุลจวินแม้นจักต้องรุกรานเมืองพายุหิมขาว ? เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว นั้นมิใช่คนที่สามารถเอาชนะได้โดยง่าย !
เหตุผลเบื้องหลังเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวและการคบหากับสกุลจวินนั้นยากยิ่งที่จะเข้าใจ !
และ มีหลายสิ่งอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ … หากสกุลจวิน และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวยังคงร่วมมือกัน สกุลจวินจะได้รับการปกป้องจากอันตราย อย่างอัตโนมัติ ความจริง ฮั่นหยานโย่ว และจวินวูอี้ สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางไปสู่ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขได้จากสถานการณ์ปัจจุบันด้วยน้ำและไป แม้ว่าพวกเขาจะต้องก้าวข้ามทะเลแห่งเลือด และซากศพเพื่อให้ได้มาก็ตาม … !
” ข้าขอถามได้ไหม เหตุใดท่านปรมาจารญ์จึงมาอยู่ที่นี่ ? “
ผู้อาวุโสสามสุภาพอย่างมากจนไม่มีผู้ดบอกได้ว่า คนที่เขาคุยด้วยนั้นคือคนที่เขาถือว่าเป็นศัตรู เนื่องจากชายผู้นี้เพิ่งโจมตี สมาชิกชั้นสู่แห่งเมืองพายุหิมะขาว
” ข้าถามเจ้าได้หรือไม่ ? เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ ? เมืองพายุหิมะขาว และ สกุลจวินเกี่ยวข้องกันอย่างไร ? เหตุใดน้องของเจ้าจึงไม่สนใจสถานะตัวเองและลดตัวลงไปทะเลาะกับเด็ก ?! “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว คำรามขณะถาม
” ท่านไม่รู้ถึงสาเหตุและผลกระทบของสถานการณ์นี้ ? ”
ผู้อาวุโสสสามเพ่งมองกลับทันที เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เขาไม่รู้หรือว่าเหตุใดพวกเรามาที่นี่ ?
” รู้อะไร ? เหตุใดข้าจึงต้องถามเจ้าอีก ? ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเริ่มรู้สึกกลวงภายใน และสัมผัสได้ว่าเขาได้กระทืบเท้าและพาตัวเองเข้าไปพบกับปัญหาบางอย่าง
หลังจากที่ตกอยู่ภายใต้ความประหลาดใจ ผู้อาวุโสสามค่อยๆเล่าถึงความเป็นจริงทั้งหมดซึ่งนำพาความขุ่นเคืองให้เกิดขึ้นระหว่าสกุลจวินและเมืองพายุหิมะขาวอย่างละเอียด แต่กระนั้น ชัดเจนว่าเขาได้ละเอาความขัดแย้งของเมืองพายุหิมะออกจากเรื่องเล่าของเขา
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวฟังเรื่องราวด้วยความสับสน
เขายืนอยู่อย่างงุนงงเป็นเวลานาน และกระทืบเท้าด้วยโทสะหลายครั้ง
แม่งเอ้ย มิแปลกใจเลยที่เจ้าเด็กนั้นพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ข้าอยู่กับสกุลจวินที่นี่ และคิดอย่างหนักเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้าสัญญาจะปกป้องสกุลจวินเป็นเวลาหนึ่งปี …
แรกเริ่มดูเหมือนว่าสกุลนี้จะได้รับการสั่งสอน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาลอบกัดข้า …
ข้าเป็นดั่ง หัวขโมยที่อยู่ในเรือโจรสลัด !
เจ้าปิศาจขายชาติตัวน้อย !
เขาลากข้าลงน้ำได้อย่างชาญฉลาด และข้า ตอนนี้ ข้าไม่มีตัวเลือกมากนัก !
จากทั้งหมดที่พูดมา เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ยังคงเป็น แปดยอดปรมาจารย์ และแม้นว่าคนสามัญจะเกรงกลัวเมืองพายุหิมะขาวเนื่องจากพวกเขามีฮั่นเฟิงฉือหนุนหลัง แต่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมิใช่คนเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหัวใจของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะไม่เกรงกลัวพวกเขา แต่เขายังคงโกรธเคืองจวินโม่เซี่ย
เจ้าปิศาจน้อยนั้นลอกให้ข้าทำในสิ่งที่เขาาต้องการ !
แต่เมื่อข้าคิดถึงมัน …. หากข้ารู้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจักตอบรับข้อเสนอของเขาอย่างไร … แม่ว่าข้าจักไม่เกรงต่อเมืองพายุหิมะขาวหรือ ฮั่นเฟิงฉือ แต่ข้าก็ไม่ต้องการยั่วยุปัญหาเช่นนี้ ….
หากว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวกลับคำพูด ทั้งโลกจะคิดว่าเขานั้นเกรงกลัว ฮั่นเฟิงฉือ เมื่อพบว่าตัวเองขี่เสืออยู่ เขาก็ไม่สามารถกระโดดออกมาได้แล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ปลอบตัวเอง
ข้าไม่เคยพบ ฮั่นเฟิงฉือ และเมืองพายุหิมะขาวที่เขาชื่นชอบ และสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อข้าต้องการฝ่ายตรงข้ามเพื่อฝึกฝน … เมืองพายุหิมะขาวมีพวกเขามากมาย ข้าจะต้องยกความดีความชอบให้กับเจ้าปิศาจน้อยนี่ ยิ่งไปกว่านั้น เขาจักไม่นิ่งเฉยและเฝ้ามองสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับสกุลของเขา … และสถานการณ์นี้จะช่วยให้ข้าได้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคต …
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เมืองพายุหิมะขาวนั้นมียอดฝีมือนับไม่ถ้วน และจะต้องมียอดฝีมือเทพเชวียนนับสิบ รวมถึงพวกแข็งแกร่งเป็นอันดับที่สามของดินแดน แม้แต่ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ก็อดที่จะรู้สึกเสียความมั่นใจมิได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังที่ทรงพลังเช่นนี้ได้
หากเมืองพายุหิมะขาวมิได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และมีเพียงแค่ คฤหัสน์ฉือฮั่น ข้าก็สามารถรับมือกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย เพราะความแข็งแกร่งของศัตรูของสกุลจวินนั้นมีจำกัด …
เขามองมาที่ตัวเองขณะมีความคิดอยู่ในหัว
หึ เมืองพายุหิมะขาว และ คฤหัสน์ฉือฮั่น นั้นมิเคยเข้ากันได้ดี แล้วเหตุใดพวกเขาจึงจะร่วมมือกับเพื่อต่อกรกับสกุลจวิน ? มีผู้ใดที่มีค่าพอจักทำให้กองกำลังที่บาดหมางกันร่วมมือกันได้ ? พวกเขามิเคยได้ร่วมมือ และหากเจ้าคิดไปทีละขั้น อาจารย์ลึกลับของเจ้า ปิศาจน้อยนั่นสามารถรับมือกับปัยหาของ ฮั่นเฟิงฉือ และ ลีจื้อเทียน ได้อย่างง่ายดาย … พวกนี้ยังไม่รู้เรื่องนี้สินะ … แต่ เป็นเช่นไรหาข้ามีความแข็งแกร่งเช่นนั้น ? …
” เรื่องนี้มิต้องพูดอันใดอีกแล้ว ”
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวคิดถึงความแข็งแกร็งและความรู้ของอาจารย์ของนายน้อยจวิน และหลุบเปลือกตาด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง
” ข้าอยู่ที่นี่กับสกุลจวิน ดังนั้นเจ้าจะต้องเจอกับข้าหากเจ้าต้องการมองหาปัญหาที่มากกว่านี้ ! ”
แม้นว่าผู้อาวุโสสามจะคลางแคลงเล็กน้อย เขาก็อดคิดถึงการคุกคามนี้ไม่ได้ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้ออย่างรีบเร่ง เขาถามอย่างระมัดระวัง
” ท่านอาจารย์เหยี่ยว ท่านพอรู้ว่ามีปรมาจารย์ผู้หาใครเปรียบมิได้อาศัยอยู่ในเมืองเทียนเชียงบ้างหรือไม่ ? ”