Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 241
เสียงแผ่วเบาดังจากชั้นบนของ หอชนชั้นสูง ที่มาของเสียงนั้นดูเหมือนห่างไกล แต่กลับใกล้ ราวกับเหล่านางอัปสรกำลังร้องรำอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก เสียงดนตรีฟังเลือนลาง ไม่มีผู้ใดที่สามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน แต่ความไม่ชัดเจนนี้ทำให้มันน่าลุ่มหลง
เสียงที่อ่อนโยนและสง่างามเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยากจะอธิบาย อย่างไรก็ตาม ทุกผู้ที่ได้รับบัตรเชิญเหล่านั้นต่างชื่นชมยินมีเมื่อได้สดับ มากยิ่ง จนมิได้คำนึงถึงผลลัพธ์ของการประมูลที่กำลังจะมาถึงว่าเป็นเช่นไร พวกเขาก็ยังถือว่ามันเป็นผลดีแล้ว แม้นพวกเขาจะมิได้สิ่งใดเลยก็ตาม
กระนั้น ยังมีผู้อื่นที่มิได้บัตรเชิญ แต่พวกเขายังยืนอยู่ท่ามกลางหมู่ชน คนเหล่านี้รู้สึกได้เพียงแต่ ระคายเคืองในหัวใจ พวกเขาเกลียดตัวเองที่มิได้รับบัตรเชิญหลังจากได้รับชมบรรยากาศที่สง่างามในสถานที่นี้ เนื่องจากมันหมายถึงว่าพวกเขามิอาจจะอยู่ได้
ข้าคงจะเสียดายภายหลัง … ข้าจักต้องได้รับบัตรเชิญแม้นมันจักมีราคาสักเพียงใดก็ตามแต่ …
ราคาของบัตรเชิญสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแสงอุทัยที่เจิดจ้ามากขึ้น จริงแล้ว ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นจนน่ากลัวยิ่ง เมื่อเทียบกับลมกรด เดิมทีเจ้าอ้วนถัง เป็นทุกข์ยิ่งจากเงินมากมายที่ใช้ในการสร้างบัตรเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เขายืนเพ่งมองฉากที่ได้รับการออกแบบโดยความวิริยะของนายน้อยจวินอย่างยินดี
เขาไม่ควรได้รับขนานนามว่าผู้เป็นเลิศทางการค้ากระนั้นหรือ ? ข้านั้นมองใกล้เกินไป !
เจ้าอ้วนถังเยาะเย้ยตัวเอง
จวินโม่เซี่ยนั่งอย่างสงบนิ่งท่ามกลางความวุ่นวายนี้ อย่างไรก็ตาม แม้แต่เขามิได้คาดว่าแผนการของเขาจะสามารถสร้างผลกระทบที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ได้ สิ่งเดียวที่อธิบายสิ่งนี้ได้คือ นครเทียนเชียงมีผู้มั่งคั่งมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคลั่งไคล้ในการเปรียบเทียบ …
ทิวากรส่องประกายเจิดจ้ากลางนภา
คำเชิญลดราคาของ หอชนชั้นสูง หมดลง และเหล่าผู้ที่ได้รับมันตั้งแต่แรกมาถึง ภายในหนึ่งส่วนสามชั่วยาม ถนนหลักเต็มไปด้วยรถม้าชั้นเลิศ รถม้าราคาสูงส่งมากมายจอดนิ่งข้างกัน ความจริง สามารถบอกได้ว่า พาหนะเหล่านี้มีราคาในตัวมันเอง เมื่อพูดเช่นนั้น เป็นการยากที่จะบอกว่า รถม้าคันใดหรูหราที่สุด ผู้ได้รับเชิญทั้งหมดใส่เครื่องเทียมลาดที่ดีที่สุดเพื่อ โอ้อวดอัตลักษณ์ของชนชั้นสูงของพวกเขา ความจริงพวกเขามิได้ใช้จ่ายมากมายไปกับอัญมณีที่แขวนอยู่บนรถม้า
ผู้ใดก็สามารถเงยหน้าขึ้นแลัคาดว่าจะพบกับผู้มั่งคั่งมากมาย !
เหมาะสมที่สุดที่ใช้ความอ้วนเพื่อเป็นอุปมาอธิบายถึงภูเขาทองคำที่เคลื่อนที่ได้ แม้นว่าพวกเขาจักต้องสูญเสียชิ้นเนื้อบ้าง แต่เพียงแค่ชิ้นเดียวนั้นสามารถค้ำจุนสกุลธรรมดาได้ตลอดชีิวิต
สองเด็กหนุ่มมีสมบัติผู้ดีในชุดคลุมขาวกำลังยืนอยู่หน้าประตูพร้อมด้วยสองหญิงงาม พวกเขาทั้งสี่ได้รับตำแหน่งให้เป็นคณะต้อนรับ พวกเขาตรวจสอบบัตรเชิญของแขกเหรื่อ และกวักมือเรียกในทันที ไม่นานจากนั้น มีเด็กหนุ่มเกราะขาวปรากฏตัวขึ้น และต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่นและพาเข้าไปด้านใน
แม้นว่าสามสกุลผู้ทรงอิทธิพลจะประทับตราลงบนบัตรเชิญ แต่ยังไม่มีคนในสกุลเหล่านั้นคนใดเผยตัวออกมา มีเพียงคนเหล่านี้ที่ต้อนรับแขกเหรื่อ อย่างไรก็ตาม แม้นว่าบัตรเชิญส่วนตัวจะได้รับการตรวจสอบก่อนจะอนุญาติให้พวกเขาเข้าไป แต่ไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่สุภาพแม้แต่น้อย แต่กลับกัน พวกเขารู้สึกได้รับเกียรติและภูมิใจ
สิ่งนี้สอดคล้องตามเหตุและผล มันจะทำให้ชื่อเสียงของสกุลทั้งสามลดลงอย่างมาก หากสมาชิกสกุลของพวกเขาออกมาต้อนรับแขกด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำเช่นนั้น
แขกทุกคนดูสงบและมีชีวิตชีวา โดยไม่ถือว่ามันจะเป็นพฤติกรรมที่แท้จริง หรือพวกเขาพยายามสร้างภาพลักษณ์ ขณะเดินเข้าด้านใน พวกเขาหันมามองกลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกโดยไม่ตั้งใจ ผู้คนเหล่านั้น ประกอบไปด้วยผู้ที่มิได้รับบัตรเชิญ เส้นเลือดของแขกที่ได้รับเชิญยอมแปรเปลี่ยนเป็นสีครามอย่างเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากกังวลขณะที่พวกเขารีบเดินผ่านฝูงชนเหล่านั้นไป พวกเขายอมรับถึงสิ่งนี้อย่างสงบ จากนั้นแขกเหรื่อเดินเข้าสู่ตัวอาคารอย่างสง่างาม และหายเข้าไปท่ามกลางหมู่บุปผาและพฤกษาที่เขียวชอุ่ม
ผู้ที่ได้รับบัตรเชิญทั้งหมด ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่คัดค้าน พวกเขาเคลื่อนที่เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่ละคนต่างทำตัวมีเกียรติ ยิ่งไปกว่านั้น มีหายผู้ที่เดิมทีไม่ยอมรับถึงเงื่อนไขนี้ แต่พวกเขายังคงปฏิบัติอย่างสุภาพเพื่อแสดงถึงน้ำใจ
แต่กระนั้น เหล่าขุนนางไม่ควรประพฤติตัวสูงส่งดอกหรือ ? เห็นได้ชัดว่าไม่มีสิ่งใดเกี่ยวพันกับพฤติกรรมในปัจจุบันของพกวเขา … ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทนกับชื่อที่พวกเขาได้รับสลักไว้ว่าเป็น ชนชั้นสูง
ภายในโถงราชวัง ใครบางคนหัวเราะลั่น มีเพียงหนึ่งที่สามารถหัวเราะเช่นนี้ได้ภายในเขตพระราชฐาน เห็นได้ชัดว่ามิใช่หนึ่งในสนมผู้งดงาม ความจริง แม้แต่ สมเด็จพระพันปีหลวง ก็ยังยึดมั่นในกริยามิอาจแสดงกริยาหัวเราะที่หยาบกร้านเช่นนี้ แม้แต่ องค์หญิง หรือ องค์ชาย ก็ยึดมั่นในกริยาและงดเว้นการแสดงถึงสิ่งเหล่านี้ แม้แต่ข้าราชสำนักก็มิอาจกล้า ! จงระลึกไว้ว่า ผู้ที่สามารถหัวเราะเช่นนี้ได้จักต้องมีความประจักชัด
องค์สมเด็จ มือองค์จักรพรรดิกกำชิ้นหมากรุกสีขาว เขาพึมพำกับตัวเองอย่างต่อเนื่องขณะหัวเราะลั่น
” ช่างเป็นกลวิธีที่งดงามยิ่ง ไม่ธรรมดาแต่สร้างสรรค์อย่างแท้จริง ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นเจ้าของแผนการที่งดงามนี้ ยากยิ่งจะจินตนาการว่าผู้ใดในนครเทียนเชียงของข้าจะสามารถสร้างเมฆในมือข้างหนึ่ง และฝนในมืออีกข้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ ฮี่ ฮี่ เป็นเลิศ เป็นเลิศ “
ผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขานั้น คือชายผู้มิอาจบอกอายุ เขาสวมชุดสีขาวดั่งหิมะ เขาสูงและตระหง่านแม้นจะกำลังนั่ง หลังและไหล่ของเขาผายออก เพียงแต่รูปลักษณ์ของเขา สามารถทำให้ผู้คนสั่นกลัวได้ ผมสีดำยาวตรงลงมาจากศรีษะของเขา และประลงตรงไหล่ก่อนกระจายลงไปด้านหลัง เคราสามแฉกงดงาม ห้อยยาวลงจากคาง อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย เดิมแท้แล้วใบหน้าของเขาอ่อนนุ่มดั่งหญิงสาว
ร่างเงาอันตระหง่านนั้นครุ่นคิดถี่ถ้วนขณะเพ่งมองยังกระดานหมากรุก
” การเคลื่อนไหวเหล่านี้วิจิตรอย่างแท้จริง สุราของคนผู้นั้นจักต้องอัศจรรย์ยิ่งนัก หากแม้นมันเป็นความลับสวรรค์และยากยิ่งจะค้นพบ … ราคาก็มิควรเกินกว่าหนึ่งหมื่นตำลึงเงินต่อเหยือก แย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ทำให้สกุลทรงอิทธิพลต่างแข่งขันกัน ความจริงแล้ว วิธีการนี้จะทำให้เขาสามารถขายสุราเหล่านั้นในราคาที่สูงหว่า หมื่นตำลึงเงินได้ เขาอาจจะคาดการเกินกว่าจำนวนนั้น เป็นแผลการที่ดีอย่างแท้จริง ! แต่พระองค์บอกว่า สร้างเมฆหมอกด้วยหนึ่งมือและอีกหนึ่งคือฝน คนผู้นี้ยังคงมิสามารถ “
” เช่นนั้นหรือ ? “
องค์จักพรรดิยิ้มด้วยความพึงพอใจจากนั้นต่อ
” ในความคิดเห็นข้า กระนั้น … เขาคือ “
” พระองค์หมายถึงสิ่งใด ? “
ชายเกราะขาวเพ่งมองกระดานหมากตั้งใจ แม้นเขาจะนั่งอยู่ต่อหน้าผู้ทรงอำนาจเช่นนี้ เขายังดูไม่มีท่าทีนอบน้อม
” คล้ายกับว่า วิธีการขายสุราเช่นนี้ช่างแยบยล และถือได้ว่ามีฝีมือช่ำชอง ยิ่งไปกว่านั้น มันสำคัญว่าสิ่งนี้เกินกว่าที่คนธรรมดาจะคิดคำนวนได้ อัศจรรย์โดดยแท้ “
องค์จักรรพดิลูบเคราเชื่องช้าขณะเอ่ยเคร่งขรึม
” ดูเหมือนเป็นเป็นการที่ง่ายดาย และอาจคิดว่าเกือบทุกผู้จะกระทำได้สำเร็จ แต่กระนั้น หากมันง่ายดาย แล้วเหตุใดทุกคนมิอาจทำได้ ? “
” ข้าจำต้องเข้าใจให้ดีกว่านี้ “
ชายสีขาวเริ่มแสดงความสนใจ เลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาเขาแสดงความอยากรู้อยากเห็น
” สำคัญที่ต้องเข้าใจถึงความรู้สึกของคนในขณะที่วางกฎเกณฑ์แผนการนี้ ผู้นั้นจักต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์และจุดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิทยาของหน่วยงานเก่าและหน่วยงานทรงอิทธิพล มันสำคัญว่าเขาจักต้องศึกษาเหล่านี้อย่างถี่ถ้วน โดยไม่พลาดถึงความจริงที่สำคัญที่สุด ! โดยไม่คำนึงว่าคนเหล่านั้นจักเป็น ขุนนาง ปุถุชน อันธพาล หรือ ขอทาน ผู้นั้นจักต้องเข้าใจจุดอ่อนทั้งหมดนี้ หากเพียงแค่หนึ่งเท่านั้นที่จะเข้าใจประเด็นนี้ เขาจะเข้าใจถึงความล้มเหลวของผู้คน ! จากนั้น ไม่ต้องคำนึงว่าเขาเป็นใคร … แม้แต่ผู้มีตำแหน่งในราชสำนักก็จะโค้งคำนับแก่เขา แต่กระนั้น ส่วนนี้เป็นเพียงแค่รากฐาน และการเริ่มต้นของแผนการ “
ดวงตาขององค์จักรพรรดิปะปนไปด้วยความกังวลและการชื่นชม
” ชัดเจนว่าชายผู้นี้มีพรสวรรค์ในการเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ ! “
องค์จักพรรดิเอ่ยข้อสรุปแรก
” อย่างที่สอง ข้าคาดว่า ผู้ที่ไปที่นั่นในวันนี้ไม่ประสงค์จะออกมามือเปล่า และพวกเขาจักต้องประมูลสุราอยู่ภายใน ! ดังนั้น แต่ละสกุลจะต้องไม่ออกมามือเปล่า .. แม้ว่าสุรานั่นจะไร้คุณภาพก็ตามที ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเปิดประมูลสุราในราคาที่สูงส่ง ด้วยเหตุนี้ จะไม่มีผู้ใดซื้อมาในราคาถูก ราคาจึงมิใช่สิ่งสำคัญ และพวกเขาจะไม่คิดให้ถี่ถ้วน หรือระมัดระวังการใช้จ่าย เพียงสิ่งเดียวที่เขาสนใจคือชื่อเสียง ! “
มุมพระโอษฐ์องค์จักรพรรดทรงแย้มขึ้นเล็กน้อย
” เพราะมีผู้คนมากมายที่มิได้บัตรเชิญรออยู่ภายนอก ผู้คนเหล่านั้นคงจะรอคอยที่เยาะเย้ยผู้ที่เรียกว่า ชนชั้นสูง มิใช่รึ ? ทุกผู้ที่ได้รับจดหมายเชิญ และไปยังการประมูลไม่ประสงค์จะพ่ายแพ้ พวกเขามิอาจทนเสียหน้าได้ ชายผู้นั้นคิดว่าข้าสามารถ กระทำการอย่างโจ่งแจ้งและไร้ซึ่งความกลัว เขาตกเอาเงินจากกระเป๋าของเหล่าสกุลที่แสดงตัวในวันนี้เข้ากระเป๋าตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น ทุกผู้คนจักตื่นเต้น พวกเขาจักมุ่งมั่นให้เป็นที่หนึ่ง และหวาดกลัวการถูกทิ้งท้าย ! ทั้งหมดนั่นเพราะพวกเขากลัวจะถูกผู้อื่นดูหมิ่น การใช้จ่ายเงินกว่า หมื่นตำลึงต่อหน้าเหล่าประชาเมืองหลวงนั้นจะเป็นการดีต่อชื่อเสียงของพวกเขา เป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะของพวกเขา … ตราบใดที่พวกเขาซื้อบางสิ่งอย่าง !
เหมาะสมแล้วที่ชายผู้นี้จะได้รับเงินเหล่านั้น ช่างเป็นโชคร้ายสำหรับผู้อื่น … “
องค์จักพรรดิสรุปครั้งที่สอง
ชายสีขาวผู้นั่งอยู่ตรงข้ามเขากำลังฟังด้วยท่าทางสงบเงียบ ใบหน้าของเขานิ่งเรียบไม่มีแม้แต่ร่องรอยตอบสนอง
” สาม เจ้าบันทึกรายชื่อในรายการเหล่านั้นไว้ หากเจ้ามองมันอย่างถี่ถ้วน เห็นได้ชัด แม้นว่ารายชื่อเหล่านั้นจักมีแต่สกุลใหญ่ๆในเมืองหลวง แต่ยังมีบางสิ่งที่น่าสนใจ รายการนี้ยังไม่สมบูรณ์ !
” ทุกธุรกิจการค้า ปกติแล้ว สกุลขุนนางผู้ร่ำรวยจะมีคู่แข่งเป็นของตัวเอง บ่อยครั้ง ที่คู่แข่งเหล่านั้นเป็นดั่งการจับคู่ที่ดีเพื่อให้กิจการยั่งยืน รายชื่อนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาสมดุล มิเช่นนั้นราคาจะตกลงและผู้ขายมิได้กำไร หรือ ราคาจักสูงขึ้นจนไม่มีผู้ใดสนใจ อย่างไรก็ตาม รายการของชายผู้นี้ ไม่ว่าจะเจตนาหรือกระไร จะทำลายความสมดุลที่ข้าสร้างสมมานานปี ! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่ปล่อยเงื่อนงำไว้แม้แต่น้อย ดังนั้น แม้ว่าข้าต้องการจะกล่าวหาผู้ใดสำหรับเรื่องนี้ ข้าก็ไม่รู้ว่าต้องกล่าวหากับผู้ใด ! “
ดวงตาของชายชุดขาวดูสับสนหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ชัดเจนว่าเขาไม่เข้าในใจสิ่งที่ได้ยินนั้น
” ฮี่ ฮี่ … “
องค์จักรพรรดิหัวเราะ
” ข้าจะอธิบายเป็นตัวอย่าง สกุลซุน สกุลมู่ และ สกุลโจว ต่างเป็นที่รู้จักกันดีใน ตลาดเกลือของเมืองหลวงทั้งสามเปรียบได้ดั่งเสาหลักทั้งสาม ในหมู่พวกเขาทั้งสาม สกุลโจวทรงอำนาจที่สุด กลยุทธ์ทำให้พวกเขาทรงอำนาจกว่าอีกสองสกุล เป็นที่ยอมรับว่า สกุลซุน และ สกุลมู่นั้นอ่อนแอกว่า แต่พวกเขาร่วมมือกันเพื่อต่อต้านอำนาจของสกุลโจว สกุลซุนและมู่ จึงเปรียบได้กับสมดุลอำนาจ รายการนี้มีสกุลโจว แต่หาได้มีอีกสองสกุลไม่ ในเมื่อความจริงทุกผู้รู้ว่าอีกสองสกุลนั่นร่ำรวยกว่าล้านในเมืองหลวง ตอนนี้ เหตุใดพวกเขาจึงมิได้รับบัตรเชิญ ? แต่กระนั้น ไม่มีผู้ใดกล่าวโทษผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หอชนชั้นสูง เนื่องจากเขาได้เชิญตัวแทนสูงสุดแห่งอุตสาหกรรมเกลือ คือสกุลโจว !
แผนการนี้ มีใช้ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อให้ได้กำไรจำนวนมา เพียงแค่เชิญตัวแทนของสกุลผู้ที่ทรงอำนาจเท่านั้น “
สีหน้าองค์จักรพรรดูเป็นกังวลมากขึ้น
” และใช้วิธีรการชวนเชื่อนี้เพื่อเติมเชื้อไประหว่างสกุลคู่แข่งทั้งสอง … ข้าเกรงว่าความขัดแย้งนั้นจักเพิ่มอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่นาน ! หนึ่งในสองสกุลที่เหลือ ที่ได้บัตรเชิญจักโอ้อวด ในขณะอีกผู้ที่มิได้…. จัดมีโทสะ พวกเขาจะรู้สึกดั่งถูกกวางออกไปนอกเส้นทาง และถือว่าต่ำต้อยกว่าชาชั้นสูง ทำให้เกิด … ความสับสนอลหม่านขึ้น !
” ทั้งหมดนี้เปิดเผยถึงบางสิ่ง คนผู้นี้เป็นปรมาจารย์แห่งกลยุทธ์อย่างแท้จริง ! “
องค์จักรพรรดิสรุปครั้งสาม