Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 275
” หากข้ามีผู้ช่วย ข้าจักเกรงกลัวสิ่งใด ? “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวหัวเราะชั่วร้าย เขาพ่นลมทางจมูก ขณะมือของเขากางเป็นกรงเล็บราวกับเหยี่ยว
” เล้ยวูเบ้ย การบำเพ็ญของเจ้าสูงส่งกว่าข้าเล็กน้อย ข้ายอมรับ แต่ การชนะการต่อสู้นั้นมิใช่เพียงแค่ปราณเชวียนเท่านั้น แต่ วันนี้เจ้าโชคดีเนื่องจากข้าได้สั่งสอนบทเรียนสำคัญกับเจ้า อาวุโสผู้นี้มาพร้อมกระบวนท่าพิเศษ กระบวนท่าของข้า จะทำให้ ปรมาจารย์ห้าต้องถอนคำพูด ! ฮ่า ฮ่า …. “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เริ่มเร่งความเร็ว และร่างของเขาดูผิดปกติขณะหัวเราะลั่น มันเริ่มผิดมนุษย์และกลายเป็นเงาร่างของนกที่น่าเกรงกลัว ทั่วทั้งโลกหล้าดูราวกำลังกรีดร้องขณะเขาเอากรงเล็บมาไขว้กัน กระบวนท่านี้ทำให้ก่อเกิดพายุที่รุนแรง กรงเล็บของเขาก่อเกิดเป็นตาข่ายอากาศที่ดูคล้ายจะเจาะไปทั่วทุกที่
หากนกตัวนี้ ควรจะเป็นเหยี่ยว จากนั้นปรากฏเป็นเงาร่างของเหยี่ยวที่กำลังโจมตี
เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร !
” กรงเล็บเหยี่ยวชั้นเลิศ ! “
เล้ยวูเบ้ยตะโกนสรรเสริญ เขามิเคยพบเจอสิ่งเช่นนี้มาก่อน กระบวนท่านี่ทำให้เขาสนใจ แม้แต่สมองของเขาหลงลืมการตอบโต้
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง …
เล้ยวูเบ้ย มิเคยเห็นวรยุทธที่อัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เขาไร้จุดอ่อน กรงเล็บของ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ก่อให้เกิดรอยสามรอยบนร่างของ เล้ยวูเบ้ย แต่ เล้ยวูเบ้ยหาได้ตกใจ … แม้นเขาจะมิได้เตรียมตัวเผชิญกับการโจมตีเช่นนี้ เขาล่าถอยเล็กน้อยใจเย็น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เห่าหอนขณะมีความได้เปรียบ จากนั้นเขาได้ปลดปล่อยกระบงนท่าที่สอง
มหาปรมาจารย์ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ได้เรียนรู้เพียงสองกระบวนท่าแรกใหน เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร เขามั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นผลของกระบวนท่าแรก ด้วยเหตุนี้ เขาตัดสินใจโจมตีด้วยกระบวนท่าที่สอง ในขณะที่เหล็กยังคงร้อนอยู่
” ปัง ! ปั้ง ! ปั้ง ! “
เสียงระเบิดดังขึ้นจากร่างของ เล้ยวูเบ้ย จากนั้น เขาคำรามดุร้าย และเริ่มรวบรวมลมปราณในร่าง ปราณเชวียนเริ่มพุ่งพล่านราวคลื่นยักษ์ เล้ยวูเบ้ย คือปรมาจารย์ลำดับที่ห้า เขามิอาจปล่อยให้ตัวเองตกจากลำดับนั้น ขณะที่ต่อสู้กับ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เขาไม่รอช้า ขณะปลดปล่อย องคุลีไร้รู้สึก
ก่อกำเนิดเสียงระเบิด และจากนั้นผงะถอยเนื่องแรงสะท้อน
เล้ยวูเบ้ยตกตะลึงยิ่ง เมื่อได้เห็นรอยฝีมือสีแดงโลหิตตรงหน้าอก จากนั้น เขาเงยขึ้น
” กระบวนท่ากรงเล็บเหยี่ยวอันนี่ทึ่งนี้มีชื่อว่าอันใด ? มีกีกระบวนท่ากัน ? “
ใบหน้าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แดงโลหิต หน้าอกของเขากระเพื่อมรวดเร็ว เขาตอบเยือกเย็น
” เคล็ดใหม่ของข้าเป็นเช่นไร ?! มันมีนามว่า เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร ! จากชื่อหมายความว่า มีเก้ากระบวน เจ้าชอบบทเรียนนี้หรือไม่ ? “
” เก้ากระบวน ? การเคลื่อนไหวที่น่าทึ่งนี้มีเก้ากระบวนท่า ? เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร ?! คู่ควรขนานนามเหยี่ยวอสูร “
เล้ยวูเบ้ยครวญหดหู่ จากนั้นเขาพยักหน้า
” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เจ้าไม่เหมือนเช่นแต่ก่อน ! อาวุโสผู้นี้ไม่ประสงค์เสียเวลาวันนี้ เช่นนั้นข้าจักปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนจนกว่าจะถึงเวล ฮึ่ม ! แต่ ข้าจักไปหาเจ้าเมื่อข้าต้องการ ! “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว หัวเราะเบิกบาน
” เจ้าสามารถมาหาพี่ผู้นี้ได้เมื่่อประสงค์ลิ้มรสฝีมือใหม่นี้ ! “
” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว พวกเราได้รับนามว่า แปดยอดปรมาจารย์ เช่นนั้นข้าขอเตือนเจ้า อยู่ให้ห่างจากสกุลจวิน “
เล่ยวูเบ่ยพ่นลมออกจามูก
” สกุลจวินทำให้สองผู้ทรงอำนาจขุ่นเคือง และตอนนี้ก็เพิ่มอาวุโสผู้นี้ไปด้วย ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการกับพวกเขา ! อาวุโสผู้นี้ไม่ประสงค์เห็นเจ้าที่นั่นเมื่อเขาทำลายล้างสกุลนั้น ! มิเช่นนั้น ข้าไม่สงสัยหากจะปล่อยเจ้าไป ! “
” ทำลายล้างสกุลจวิน ? เช่นไร ? “
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวพ่นลมทางจมูกเยือกเย็น
” เหตุใด เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจัดต้องฟังเรื่องไร้สารเช่นนี้ เมื่อเขาสามรถจัดการกับ เล้ยวูเบ้ย ได้โดยง่าย ? และเจ้าไม่จำเป็นต้องรี่รอในเรื่องนี้หากเจ้าสมารถต่อกรกับ เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร ได้ ! “
” เจ้าจักต้องเสียใจ ! เจ้าหุนหันเสมอมา ! “
เล้ยวูเบ้ยพ่นลมออกจมูกขณะคอตก จากนั้น ร่างของเขาลอยขึ้น และ หายไปรวดเร็ว เล้ยวูเบ้ยตัดสินใจกระทำบางสิ่งเมื่อเห็นความผิดปกติิ เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร ของ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แปลกประหลาดและมิอาจคาดเดา ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละท่วงท่าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน ท่วงท่านี้ทำให้เขารู้สึก ถึงรางร้าย เขาไม่มั่นใจว่าจะชนะเช่นแต่ก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ปรมาจารย์ผู้รั้งท้ายมีชื่อในเรื่องความเร็ว ดังนั้น จึงเป็นการยากที่ เล้ยวูเบ้ยจะหลบหนีหาก เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมีผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง
ด้วยเหตุนี้ เล้ยวูเบ้ย จึงตัดสินใจรวดเร็ว และ หลบหนีไป
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ไร้วาจาชั่วครู่ จากนั้นถอนหายใจ
” เอาละ รอดอย่างหวุดหวิด ! “
ด้วยคู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในอันดับที่ ห้าของ แปดยอดปรมาจารย์
ดูเหมือนว่าในการต่อสู้ กรงเล็บของทั้งคู่จักเท่าเทียม แต่ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวรู้ว่าเขาจักพ่าย
ยอมรับว่า เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร นั้นส่งผลได้ดี แต่ เขาจักอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย หากฝ่ายตรงข้ามเพิ่มกำลังขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป เขาใช้เคล็ดไปทั้งหมดแล้ว แต่ คู่ต่อสู้เพิ่งเริ่มใช้ องคุลีไร้รู้สึก กระบวนที่สอง ใน เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร เขาเพิ่งฝึกฝนได้ไม่นาน นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ลึกลับ ทั้งสอง ค้นหาทั่วทุกพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยของผู้สังเกตุการณ์แม้นเพียงเล็กน้อย ทั้งคู่จึงไร้ความสนใจในการสู้ต่อ
พวกเขาเกรงว่า ชาวประมงผู้นั้นจักฉวยโอกาสจับปลาทั้งสองที่ต่อสู้กัน และชาวประมงจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ความจริงนี้มิอาจป้องกัน ! หากทั้งสองประสบกับการบาดเจ็บที่รุนแรงระหว่างการต่อสู้ … บุคคลที่สามจะเข้ามาแทรกแซงและคว้าเอาชัยชนะไป
เขาสามารถโจมตีและสังหาร ยอดปรมาจารย์ได้ ! เขาจักทำสิ่งที่บ้าคลั่งเช่นนั้นได้อย่างไร ? คนลึกลับผู้นั้นคือใคร ?
ดังนั้น ทั้งสองจึงคิดในสิ่งเดียวกัน และยุติการต่อสู้
ข้าเกรงว่าจักต้องอับอายหากมิได้ฝึกเคล็กกรงเล็บ เหยี่ยวอสูรนี้ ความเข้าใจในกระบวนที่สองของข้าสำคัญยิ่ง … เล้ยวูเบ้ยแข็งแกร่งเกินกว่าข้ายิ่งนัก !
เขานั้นช่างคู่ควรนามขนาน ปรมาจารย์เลือดเย็นยิ่ง !
ข้าต้องขอบคุณผู้ที่ทำให้เกิดเสียงนั่น โดยไม่ต้องสนใจในเจตนาแฝงเร้นของเขา !
ดูเหมือนว่า เขาจักได้เรียนรู้เกี่ยวกับ เก้ากรงเล็บเหยี่ยวอสูร ได้มากยิ่งขึ้น จำเป็นที่เขาต้องช่ำชองในกระบวนที่น่านี้โดยไม่ล่าช้า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ถอนใจ และจากไปโดยเร็ว
คุณชายน้อยจวินจากไปแล้ว ก่อน ปรมาจารย์ทั้งสอง
จวินโม่เซี่ย เดือดด้วยโทสะในเวลานั้น
มือสังหารจวิน ฉุนเฉียว เล้ยวูเบ้ย ยิ่ง
ถูกแล้ว ! สกุลข้าสร้างความขัดข้องใจให้แก่สอง มหาอำนาจ ! แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้ใดจักเข้ามาเหยียบย่ำพวกเราได้ดั่งใจปรารถนา !
คำพูดที่ถูกต้องคือ
“สกุลจวินทำให้สองผู้ทรงพลังขุ่นเคือง และตอนนี้ก็เพิ่มอาวุโสผู้นี้ไปด้วย ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการกับพวกเขา ! อาวุโสผู้นี้ไม่ประสงค์เห็นเจ้าที่นั่นเมื่อเขาทำลายล้างสกุลนั้น ! มิเช่นนั้นข้าไม่สงสัยเลยว่าข้าจักปล่อยเจ้าไป ! “
เพียงคำพูดนั้นของ เล้ยวูเบ้ย ทำให้จวินโม่เซี่ยร้อนรุ่มด้วยเปลวเพลิง
นี่คือการข่มขู่ให้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ละทิ้งสกุลจวินอย่างชัดเจน
แม่เจ้าเอ๋ย ! ข้าหลอกล่อให้ ยอดปรมาจารย์ มาอยู่เคียงข้า และปกป้องข้า ! แล้วเกี่ยวอันใดกับเจ้า ปรมาจารย์ที่ห้า ! แม่เจ้า ! เจ้าเป็นเพียง อาจารย์ห้า และยังกล้างต่อกรกับข้า ? หากเป็น มหาปรมาจารย์ หยุนเป้ยเฉิน … เจ้าจักทำสิ่งใด ? ข้าจักสังหารเจ้า …. ในครั้งแรกที่ข้ามีโอกาส !
เหตุใดต้องรอโอกาส ? จัดการเสียเลย ! ดูสิ ผู้ใดจะจัดการผู้ใด !
จวินโม่เซี่ยเต็มเปี่ยมด้วยโทสะ เกลียดชังยิ่งจนเข้าไส้
แม่เจ้า ตาเฒ่า ! เจ้ามีศิษย์สิบคน และสี่คนตายไปแล้ว ! ดูเหมือนจักยังไม่เพียงพอ ! ข้าไม่สามารถจัดการกับเจ้า หรือ ศิษย์ สวรรค์เชวียน ของเจ้าในเวลานี้ได้ .. แต่ ข้าสามารถลอบสังหารศิษย์พิการของเจ้าได้ ! เจ้าคิดว่ามันเป็นการยากำหรับข้าหรือ ?
เจ้าเจ็บใจกับศิษย์ผู้ล่วงลับ ? เช่นนั้น คุณชายน้อยผู้นี้ จักทำให้หัวใจเจ้าต้องเจ็บปวดอีกครั้ง !
จวินโม่เซี่ยร้อนรนด้วยโทสะ
มิอาจกลั้น มิอาจกลั้นมิให้คิดถึง คำสั่งสอนของ บรรพบุรุษสกุลจวินได้
” การมีลูกมิได้ทำให้เจ้าเป็นชาย ! แต่มันคือ จิตวิญญาณที่ทรหดอันหาที่เปรียบไม่ได้ ! “
ดีละ ! ข้าจักส่งพวกเขาไปหาบรรพบุรุษ !
จวินโม่เซี่ย สาปแช่งด้วยโทสะ ขณะเขากระตุ้น เคล็ดอิสระหยินหยาง เต็มกำลัง เขามุ่งตรงไปในเมืองราวกับหมอกควัน เป้าหมายของเขาคือ จวนสกุลลี่
ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจักอยู่อันดับที่ ห้าหรือหก ในอันดับยอดปรมาจารย์ ! ข้าจักทำให้เจ้ากรีดร้องออกมาในวันนี้ ข้าจักทำให้เจ้าต้องเสียน้ำตา และกลายเป็นดั่งว่าว !
ความเร็วของเขารวดเร็วยิ่งเนื่องด้วยโทสะ …
เขาค้นหาทั่วจวนสกุลลี่ แต่ไม่พบผู้ใด
ไม่มีผู้ใดอาศัยในจวนสกุลลี่ ? น่าตกใจยิ่ง .. เกิดอันใดขึ้น ?
คุณชายน้อยจวินเกาหัวขณะค้นหาอยู่ในสถานที่อันว่างเปล่า ท้ายที่สุด เขากระทืบเท้าด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นแทรงลงไปยังพื้นดิน เขาเฝ้าฟังเสียงที่สะท้อนของห้องลับที่แอบซ่อนไว้ …
รอบที่หนึ่ง … รอบที่สอง … จนสุดท้าย…
เสียงแปลกประหลาดกระตุ้นความสนใจจวินโม่เซี่ย …
” … หน้าไม้ เอ็นสัตว์เชวียนสำคัญยิ่ง … ทุกสิ่งถูกตระเตรียมอย่างรอบคอบ … แต่สิ่งที่ดีคือ … “
คำพูดที่ดังไม่ต่อเนื่องเข้ามาในหูของจวินโม่เวี่ย เขาตื่นตัวทันที และติดตามต้นเสียงไปอย่างช้าๆและระมัดระวัง
ข้าวางแผนการเข้ายึด หน้าไม้เอ็นอสูรเชวียน แต่ ประหลาดใจที่พบผู้ที่สนใจเช่นเดียวกัน ? นี่คือประโยชน์ที่มิได้คาดการณ์ไว้ !
” เอ็นอสูรเชวียน และวัดสุที่ใช้ทำหน้าไม้นี้ชั้นเลิศยิ่ง ความตายของพวกเขาจักยิ่งใหญ่ แม้ปฐพีเชวียนก็ยากยิ่งหลบหลีก หากพวกเขาไม่ระวังตัว ! เป็นอาวุธสังหารที่หายาก ! น่าเสียตายที่เราต้องล้มเลิก “
ผู้ที่มีน้ำเสียงไพเราะถอนใจ
” เหตุใดพวกเราล้มเลิก ? ศิษย์น้องลี่ พวกเรามิอาจปล่อยพวกมันไปได้ง่ายๆ ! นี่คือโอกาสที่หาได้ยากสำหรับสกุลลี่ของเจ้า ! อาวุธนี้ทำเสร็จและพร้อมใช้งาน ! สิ่งเหล่านี้ทำขึ้นไม่สามัญ หน้าไม้เหล่านี้จะกลายเป็นอาวุธสังหารที่น่าเกรงกลัว ! เจ้าจักปล่อยให้โอกาสดีนี้หลุดลอยไป ? เหตุใดจึงทำเช่นนั้น ? “
อีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความกระวนกระวาย
ตอนนี้ จวินโม่เซี่ย สามารถได้ยินอย่างชัดเจน นี่คือเสียงของ ศิษย์พี่ใหญ่ เล่ยเจียนฮ้ง เขาพยายามชักจูงคนผู้หนึ่งอยู่
” พี่เล่ย ข้าจักไม่เห็นความสำคัญของ หน้าไม้นี้ได้เช่นไร ? “
เสียงตอบกำลับมาดั่งสนั่น สง่างาม และ สุภาพ จนสามารถจิตนาการได้ถึงความสง่าของผู้นี้ได้จากน้ำเสียง
จวินโม่เซี่ยได้ยิน ขณะเขาพูดต่อ
” ศิษย์พี่น้องสิบคนมายัง นครเทียนเชียงเพื่อช่วยโย่วหลาน แต่ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทน อาจารย์ ข้าเพียงได้รับความช่วยเหลือจาก อาจารย์ และเหล่าพี่น้อง น่าละอายใจยิ่ง ! และ ศิษย์พี่ทั้งสี่ได้จากไปสวรรค์ เนื่องด้วยเรื่องของข้า และศิษย์พี่อีกสามต้องพิการตลอดชีวิต น้องเล็กรู้สึกผิด … น้องผู้นี้ควรทำสิ่งใดต่อท่านพี่ ? หากเกิดเรื่องร้ายกับท่านพี่อีก … การกระทำของ ลี่โย่วหลาน จักมิต่างไปาก อสูรกระนั้นหรือ ? “
” ศิษย์น้องลี่ เหตุใดเจ้าถึงพูดราวกับพวกเราเป็นคนอื่นไกล ? พวกเราคือศิษย์พี่น้อง ! เรื่องของเจ้า คือเรื่องของเรา ! “
เล่ยเจียนฮ้ง ตอบกลับห่วงใย
” หากหน้าไม้นี้ตกสู่มือองค์ชายสอง … สวรรค์จะรู้สิ่งที่เจ้าโง่เขลาผู้นั้นจะทำหรือ ? สิ่งนี้จะกลายเป็นภัยอันยิ่งใหญ่ ! ไม่เพียงแต่สกุลจวินจักได้รับผลกระทบหาก องค์ชายทำสำเร็จ … สกุลลี่ของเจ้าก็จักได้รับผลกระทบเช่นกัน … พร้อมกับเกราะเหล็กแห่งองค์จักรพรรดิ์ ! เจ้ามองไม่เห็นสิ่งนี้ ? ศิษย์น้อง ! เรื่องนี้จักต้องลงมือเร่งด่วน ! เจ้าแน่วแน่เสมอมา เหตุใดเจ้าจึงอ่อนไหวในเวลาสำคัญเช่นนี้ ? “