Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 305
ความคิดของคุณชายน้อยจวินที่เดิมทีเต็มไปด้วยความสับสน จากนั้นเข้าจำได้ว่าให้ความช่วยเหลือไป ….
กวนเชียงฮั่นตื่นขึ้นช้าๆ นางรู้สึกร่างกายผ่อนคาย หญิงสาวรู้สึกราวกำลังพุ่งทยานขึ้นสู่ท้องนภา และอดกลั่นความสู้สึกปิติไม่ได้ นางได้บรรลุไปยังขั้นเชวียนทองแล้ว ! นั้นหมายความว่านางมีความแข็งแกร่งมากยิ่ง นางมิต้องการให้ผู้ใดปกป้องอีกต่อไป ตอนนี้มันไร้ประโยชน์
กวนเชียงฮั่นสกัดกั้นความรู้สึกสำราญที่พุ่งพล่านนั้นได้ยากยิ่ง นางตระหนักได้ว่าฝ่ามือที่วางอยู่บนหลัง และส่งผ่านพลังอันอบอุ่นก่อนหน้านี้ได้หยุดลงแล้ว ตอนนี้ … นางยังคงรู้สึกได้ว่าฝ่ามือนั้นยังอยู่บนหลังของนาง
มันเป็นมือที่ อบอุ่น และยิ่งใหญ่ !
ผู้ใดช่วยข้า ? จวินโม่เซี่ยผู้นั้นมิมีตะบะเพียงพอช่วยข้าได้
นางหันหน้าไปมองด้วยความอยากรู้ น่าประหลาดใจนัก นางพบจวินโม่เซี่ยนั่งขัดสมาธิอยู่หลังนาง … พร้อมดวงตาที่ปิดอยู่ มือของเขายื่นออกมา ฝ่ามือยังคงประทับอยู่บนหลังของนาง …
เป็นไปได้อย่างไรกัน ?
ใช่เขาจริงๆ !
ทันใดนนั้น นางรรู้สึกวินเวียนขึ้นทันที
ตั้งแต่เมื่อใหร่กันที่เจ้าเด็กเหลือขอผู้มีมีตะบะสูงส่งเช่นนี้ ? มันเป็นไปได้หรือ … ?
แต่เขายังคงสงบนิ่ง … เขาจำต้องใช้พลังมากมายเพื่อช่วยในการเพิ่มความแข็งแกร่งของข้า ใช่ไหม ? ไม่แปลกใจเลยที่เขายังไม่ลืมตา มันคงจักเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุด
แต่เมื่อนางคิดเช่นนี้ นางก็รู้สึกว่าฝ่ามือที่วางอยู่บนหลังของนางเคลื่อนไหม จากนั้น นางรู้ว่านิ้วทั้งห้าบิดไปมา ทันใดนนั้นเอง นางเริ่มรู้สึกจั๊กจี้
หรือเจ้าเด็กเหลือขอนี่นวดหลังข้า ?
มือของเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง …
นี่ … นี่ … นี่ … เขามิได้ลูบไล้หลังข้าหรือ ?
ร่างของกวนเชียงฮั่นแข็งทื่อขณะที่นางหันหน้าไปมอง ดวงตาของเด็กเหลือของผู้โชคร่ายยังคงปิดอยู่ แต่เขามีใบหน้าที่สุขสันต์ มุมปากของเขาบิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มอันหยาบคาย ราวกับใบหน้าที่เผยถึงตันหาในวิญญาณของเขา …
นี่เหมือนกับด้านที่หยาบคาของน้องเขบ แต่ … เขามิได้แกล้งทำเป็นชั่วช้า ?
อย่างไรกัน …
ฝ่ามือนั้นเคลื่อนไหวอีกครั้ง ครั่งนี้…. มันเคลื่อนไหวลงด้านล่าง …
กวนเซียงฮั่นจักปล่อยให้น้องเขยฉวยโอกาสจากนนางได้อย่างไรกัน ?
” เอ๊ะ ! “
นางอุทาน
” ตุบ ! ”
นางตบเขาโดยสัญชาตญาณ จากนั้น นางประทับเท้าอย่างหนักแน่น และเตะออกไป ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินอาย นางมิอาจพบหน้าผู้ใดได้อีก เช่นนั้น นางจึงปิดหน้าและวิ่งหนีไป
ความเร็วของคุณหนูเพิ่มขึ้นเนื่องด้วยการบำเพ็ญของนาง เงาร่างหายเข้าไปในห้อง หัวใจเต้นกระหน่ำราวเสียงกลอง นางมีโทสะ และอับอาย อับอายอย่างรุนแรง ใบหน้าของกวนเชียงฮั่นประหนึ่งผู้ที่เกลียดชัด นางกระทืบเท้าลงบนพื้น มิอาจกลั่นน้ำตามิให้ร่วงหล่นขณะที่นางนั่งอยู่ด้วยความงุนงง จากนั้น นางนอนลงบนเตียง และคลุมโปง เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากแม้นว่านางพยายามที่จักอดกลั้น
จวินโม่เซี่ยสามารถสัมผัสถึงความนุ่มนวลของผิวนางได้แม้ว่าฝ่ามือของเขาจักมิได้สัมผัสถึงมันโดยตรง ความคิดของเขากำลังมึนเมากับสิ่งนี้ ความจริง เขารู้สึกราวริมฝีปากแห้งผาก ดูเหมือนฝ่ามือของเขามีความคิดเป็นของตัวเอง ราวกับมันเคลื่อนที่ไปด้วยตัวของมันเอง …
ช่างนุ่มนวยิ่งนัก … มันคือสิ่งใดกัน ?
ความคิดของเขาติดอยู่กับการชื่นชม เขามิสนใจถึงการกระทำของร่างกาย เขารู้สึกราวกำลังล่องลอยอยู่ในสายลม ความจริงเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นอำมตะ
จากนั้น จวินโม่เซี่ยสะดุ้งด้วยความกลัวอย่างรวดเร็ว เขากำลังลืมตาขึ้นเมื่อ
” ตุ๊บ ”
เขารู้สึกถึงฝ่ามือที่ปะทะมาที่ใบหน้า เสียงตบนั้นดังอย่างชัดเจน ชัดเจนว่าเขามีโทสะในเรื่องนี้
อะไรกัน ?
เขากำลังจักตอบโต้เมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสที่รุนแรงที่ช่องท้อง เขาไม่มีเวลามากพอให้รู้สึกเจ็บปวดเนื่องจากเขาถูกส่งให้ลอยไปราวกับหมอกควัน เขาไถลไปสิบเมตรและชนเข้ากับแปลงดอกไม้
สิบเมตร ! คุณชายน้อยจวินมิได้กลับชาติมาเกิดเพื่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เขามิได้สูง หรือมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ร่างกายของเขานั้นเป็นผู้ที่สมส่วน น้ำหนักของเขาก็เช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุให้การเตะของหญิงสาวนั้นรุนแรงเพียงพอที่จักส่งเขาให้ลอยออกไปได้ !
นางมีพลังมากมายเช่นนี้ด้วยการกินยาหรือ ?
ยานี่ … เจ้ามิควรกินมันโดยไม่คิดไตร่ตรองก่อน ….
และด้วยโชคชะตา … มีหนาวแหลมคมมากมายในแปลงดอกไม้นั้น หนามแหลมคมจำนวนหนึ่งปักเข้าใส่หลังของคุณชายน้อยจวินโม่เซี่ย เขาเริ่มเจ็บปวดไปทุกหนแห่ง และความคิดทั้งหมดหายไปจากหัวของเขา กระโจมที่เคยเกิดขึ้นมาตรงเป้าของเขาได้หายไปแล้ว …
เขาคลานออกมาจากเแปลงดอกไม้ด้วยความงุนงง ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ คุณชายน้อยจวินพยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามิอาจกลั่นความกระวนกระวาย
ข้าเข้าใจว่ามือของข้าเคลื่อนไหวอย่างไม่มีคุณธรรม … และความคิดของข้านั้นผิดศีลธรรม … แต่ข้าพึ่งจะช่วยเจ้า ! แต่กลับได้ผลลัพธ์เช่นนั้น …
ข้าจักเอ่ยเช่นไร ? เจ้าตบตีข้าอย่างไร้จุดประสงค์ได้หรือ ? สิ่งนี้มันไร้เหตุผล ! แม้นว่า ข้าจักทำตัวไม่ดี ….
ยิ่งคุณชายน้อยจวินคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขายิ่งรู้ว่าเขานั้นผิด … และการตบและเตะนั้นเป็นการลงโทษที่เหมาะสม …
ข้ามิอาจอภัยการกระทำของข้าจากเหตุการณ์นี้ได้ !
มันมิน่าหดหู่หรอกหรือ ?
คุณชายน้อยจวิน เงียบไปครู่ใหญ่ เขามอบยาจำนวนหนึ่งให้ปู่ และน้าของเขา เพียงเพื่อให้พวกเขาฉีกเขาเป็นชิ้นๆ จากนั้นจวินโม่เซี่ยมอบยาแก่กวนเชียงฮั่น และช่วยนางเพิ่มพูนตะบะ เขาคิดว่าพี่สะใภ้ที่งดงามของเขาจักชื่นชม … หรืออย่างน้อยก็ทำตัวดีกับเขาหลังจากนั้น ผู้ใดจักคิดว่านางจักเตะเขาที่ท้องเป็นการตอบแทน ?
แต่โชคดีที่นางเตะเขาที่ท้อง จักเกิดอันใดหากนางเตะลงไปยังที่ต่ำกว่านั้น ? นางจักไม่ทำไข่เขาแตกหรือ ?
จวินโม่เซี่ยปาดเหงื่อและหนีไปแบบหางจุกตูด เขาตระหนักได้ว่าเขามิอาจไปยังป่าเถียรฟาได้หากโดนเตะเข้าที่ไข่ เช่นนั้น เขาจึงปิดระหว่างขาด้วยมือ และกระโดดออกจากลานบ้านของนาง
ชื่อเสียงอันเป็นตำนานของข้าจักพังทลาย …
คุณชายน้อยจวินออกคำสั่ง องครักษ์ผู้แข็งแกร่ง สองร้อยห้าสิบสี่ฝึกฝนอย่างแข็งขันที่ลานฝึกสกุลจวิน ไม้สำคัญว่ามันเป็นการฝึกฝนเพื่อเพิ่มทักษะหรือการฝึกฝนเพื่อป้องกัน หรือพวกเขากำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างร้อน ทุกผู้หยุดสิ่งเหล่านั้นทันที พวกเขารีบรวมกับเข้าเป็นสองกลุ่ม และมายืนตามคำสั่งของจวินโม่เซี่ย
ทั้งสองกลุ่มนั้นมีสีหน้าที่มีชีวิตชีวา
” จำได้ไหมในวันที่ข้าเริ่มต้นฝึกฝนเจ้า ข้าบอกเจ้าว่าข้าต้องการเจ้าเพียงสองกลุ่ม ทั้งสองกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด กลุ่มหนึ่งคือ ทำลายสวรรค์ และอีกกลุ่มคือ ดูดกลืนวิญญาณ และ ทั้งสองกลุ่มนี้มิเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาจักเป็นกำลังหลักในกองกำลังของข้า ! ทั้งสองกลุ่ม ทำลายสวรรค์ และดูดกลืนวิญญาณจักช่วยข้าเคลื่อนที่ผ่านได้ทุกดินแดน และ สมาชิกของทั้งสองกลุ่นนี้จักได้รับคัดเลือกจากผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้า และ ผู้ที่ถูกเลือกเหล่านั้นจักกลายเป็นฝันร้ายของทั้งโลก ! พวกเขาจักเป็นขุนศึกชั้นแนวหน้าของดินแดนนี้ ! เขาเขามิมีผู้ใดเทียบได้ ! ”
จวินโม่เซี่ยเดินไปด้านหน้าของเหล่าขุนศึกอย่างผ่อนคลาย มีแววตางที่คมชัด เขาเพ่งมองไปยังใบหน้าของทหารทุกผู้
ลมหายใจของทุกผู้หนักแน่น ดวงตาของทุกผู้เต็มไปด้วยความปรารถนา
เพื่อที่จักเป็นขุนศึกที่แข็งแกร่งที่สุด ! กลายเป็นฝันร้ายของศัตรู ! นี่คือความปรารถนาสูงสุดของพวกเขา
นี่คือสิ่งที่พวกเขาปรารถนามาทั้งชีวิต !
” ข้ายังบอกอีกว่า เจ้าจักคู่ควรกับมันหรือไม่ … ขึ้นอยู่กับพวกเจ้า ! ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพวกเจ้า ! ข้ามิรู้จักชื่อของพวกเจ้าจนถึงวันนี้ ! อย่างแรก เพราะข้าไม่สนใจจักต้องรู้ !! อย่างที่สอง .. เพราะเจ้ายังไม่สมควรได้รับการยอมรับจากข้า !
จวินโม่เซี่ยเอ่ยช้าลง การพูดที่ช้าลงของเขานั้นมีจังหวะที่ประหลาด ราวกับมีพลังที่กดลงที่ทั่งทั้งพื้นที่ ราวกับเวลากำลังช้าลง
” ข้าจักส่งภารกิจแรกของเจ้าให้หลังจากสี่วัน และ ผู้ที่รอดกลับมาจักได้เป็นสมาชิกของ กลุ่มทำลายสวรรค์และ กลุ่มดูดกลืนวิญญาณ ของข้า ! ตั้งแต่นั้น พวกเขาจักได้เดินไปบนเส้นทางแห่งพลัง และการสังหาร ! ชื่อของพวกเขาจักทำให้ทั่วทั้งดินแดนสั่นกลัว ! ”
จวินโม่เซี่ยเพ่งมงไปยังพวกเขา จากนั้น เขาพูดต่อดด้วยเสียงเบา
” แต่ ภารกิจนี้แตกต่างจากก่อนหน้า ข้าต้องการเพียงขุนศึกที่แข็งแกร่ง เช่นนั้น ภารกิจนี้จะเป็นการเสี่ยงตายอย่างมาก ข้าจักบอกเจ้าว่าภารกิจนี้อันตรายยิ่ง ! อัตราการตายสูงถึง เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ และ นั่นเป็นเพียงการประมาณการ ดังนั้น ทุกผู้ที่มิต้องการเข้าร่วม … เดินถอยหลังไป ทั้งสกุลและตัวข้า ไม่บังคับเจ้าเพื่อทำสิ่งนี้ เช่นนั้น เจ้าสามารถถอนตัวได้หากต้องการ ไม่ต้องละอายที่จักคิดถึงความปลอดภัยของตัวเจ้า ”
สายลมสาทรฤดูพัดเบา ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว ความจริง ไม่มีผู้ใดกระพริบตา
” นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จักถอนตัว เจ้ามิอาจหันกลับไปได้อีกแล้ว เป็นไปได้ที่ เข้าไปสิบ อาจจะตายทั้งสิบ พวกเขาจักจากไปตลอดการ ! นี่คือโอกาสสุดท้าย ! ”
จวินโม่เซี่ยประกาศไปอย่างเยือกเย็น
ไม่มีผู้ใดขยับแม้แต่น้อย
จวินโม่เซี่ยพยักหน้าแผ่วเบา จากนั้น เขาเอ่ยโหดเหี้ยม
” ผู้ที่ต้องการเข้าร่วม เดินมาข้างหน้า “
” ตึบ ! ”
บุรุษสองร้อยห้าสิบสี่ก้าวขึ้นหน้า พวกเขาออกแรงขณะก้าวขึ้นหน้า ความเป็นระเบียบ พละกำลัง การก้าวของพวกเขาทำให้พื้นสั่นสะเทือน
” ดีมาก ! เก้าในสิบอาจไม่รอบในภารกิจนี้ แต่ ตอนนี้เจ้ามิอาจเสียใจได้แล้ว พวกเขากล่าวว่าผู้ที่ก้าวหน้าแม้นมีปัญหา คือบุรุษเลือดเหล็ก ! ให้ข้าบอกเจ้าบางอย่าง …”
จวินโม่เซี่ยพึมพัมอย่างลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้านับร้อยในแววตา ทุกผู้ตื่นตัว และหลังตรง พวกเขาต้องการฟังวาจาของจวินโม่เซี่ยอย่างตั้งใจ
” การเดินทางของบุรุษมีเพียงเส้นทางเดียว ชื่อเสียง และ ความสง่างามไม่ว่าเป็นหรือตาย … แต่ไม่ถอย !
” เลือดของบุรุษที่แท้จริง ทำมาจากเหล็ก เขาจักไม่ลังเลเมื่อเจอกับอันตราย !
“น้ำตาของบุรุษที่แท้จริงนั้นล้ำค่านัก เขาจักไม่ถอยแม้นเมื่อเจอกับศัตรูมากมายเพียงลำพัง !
” กระดูกของเขาอาจหักได้ เลือดของเขาอาจไหลนอกงราวแม่น้ำ แต่ บุรุษแท้จริงจักยืนหยัด ไม่ถอย ! ”
” บทกวีของบุรุษที่แท้จริงนี้สามารถท่องได้เพียง บุรุษที่แท้จริงเท่านั้น ผู้ที่มิใช่บุรุษที่แท้จริง … มิอาจเข้าได้ได้ “
จวินโม่เซี่ยเอามือไพร่หลัง
” ข้าหวังว่าพี่น้องของข้าทุกคนจักกลายมาเป็น บุรุษที่แท้จริง สุภาพบุรุษ จงก้าวย่างเพื่อกลายเป็นบุรุษที่แท้จริง ! ติดตามข้าในขณะที่ข้ายึดครองโลกอย่างภูมิใจ ! ”
ทั่งหมดเงียบสนิท
สีหน้าของทุกคนดุดัน กวีแห่งบุรุษที่ให้เลือดของทุกคนเดือดพล่าน ราวกับทุกรูขุมขนประทุไปด้วยพละลกำลัง พร้อมดวงตาที่เปล่งประกาย
มันคือบทกวีที่ยอดเยี่ยม !
การเดินทางของบุรุษที่แท้จริงมีเพียงหนึ่ง ชื่อเสียง และ ความสง่างามไม่ว่าเป็นหรือตาย … แต่ไม่ถอย ! บุรุษสามารถเดินไปเพียงทิศทางเดียวเท่านั้นหากเป้าหมายของพวกเขาชัดเจน และ เขาจะเดินไปตามเส้นทางนั้นตลอดชีวิต บุรุษเช่นนี้มิเคยเสียใจ
เลือดของบุรุษที่แท้จริงนั้นทำจากเหล็ก เขาจักไม่ลังเลเมื่อเจอกับอันตราย ! นี่คือปกติวิสัยของบุรุษที่แท้จริง
น้ำตาของบุรุษที่แท้จริงนั้นล้ำค่า เขาจักไม่ถอยแม้นเมื่อเจอกับศัตรูมากมายเพียงลำพัง ! พระอาทิตย์อาจตก เมื่อสนามรบเต็มไปด้วยซากศพ และทะเลเลือด พันธมิตรอาจจากไป และบุรุษที่แท้จริงจักเผชิญหน้ากับศัตรูมากมายแม้นมีร้อยรอยบาดแผล มันจักเป็นฉากที่น่าเศร้า แต่ บุรุษที่แท้จริงจักล่าถอยได้อย่างไร ?
กระดูของเขาอาจถูกหัก เลือดของเขาอาจไหลนอกงราวแม่น้ำ แต่บุรุษที่แท้จริงจักยืนหยัด ไม่ถอย ! นั้นคือบุรุษที่แท้จริง !
ผู้นำกลุ่มทั้งสองนำกลุ่มของพวกเขาเดินผ่านด้านหน้าของจวินโม่เซี่ย พวกเขารับยา กำมือ และ เดินไป
บุรุษสองร้อยห้าสิสี่รับยาของพวกเขาเพียงชั่วอึดใจ จากนั้น พวกเขาจัดระเบียบตัวเอง
” ยาเหล่านี้เป็นสิ่งหายาก และเป็นตำนาน ! คุณชายน้อยผู้นี้ได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย และใช้เงินมากมายเพื่อปรุงยาเหล่านี้ และตอนนี้ พวกเจ้าแต่ละคนได้รับส่วนแบ่งในมือ ยาเหล่านี้จักเพิ่มพูนพลังปราณเชวียนของเขาเทียบเท่าสิบปี สุภาพบุรุษ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง ! ”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยด้วยทีท่าจริงจังขณะเขาเอามือไขว้หลัง
ทุกผู้ประหลาดใจ ผู้คนเคยได้ยินถึงตัวยาหากยากและล้ำค่ามากมายทั่วทั้งดินแดนเชวียนเชวียน ดั่งเช่น … โสมพันปี เห็ด และผักไผ่ … ยาเหล่านี้สามารถเพิ่มความก้าวหน้าของแต่ละคนใด แต่ มิเคยมีข่าวของยากที่สามารถเพิ่มปราณเชวียนได้มากมายเช่นนี้ และ คุณชายน้อยผู้นี้มิเพียงปรุ่งยาล้ำค่า .. แต่เขายังยังมอบมันให้แก่ผู้อื่น !
ทุกผู้ประทับใจกับสิ่งนี้
บุรุษมอบชีวิตไว้กับสหาย
และเข้าจักทำเช่นนั้นโดยไม่เอ่ยวาจา …
ผู้นำทั้งสองออกคำสั่ง และทั่งสองร้อยห้าสิบสี่ก็ทำตาม พวกเขาเรียงแถวแยกจากสหายสามเมตร จากนั้น พวกเขาเงยหน้า และกลืนยาสามเม็ดลงไป หลังจากนั้น พวกเขานั่งขัดสมาธิ และมุ่งสมาธิไปยังจุกดันเถียน เพื่อดูดกลืนปราณเชวียนจากยา
จวินโม่เซี่ยยืนตรงหน้าพวกเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม เขาซ่อนมีดบินไว้ในมือเพื่อป้องกันไว้ก่อน ตอนนี้เขาอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่เขาจำต้องระมัดระวังในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้
บุรุษมากกว่าสองร้อยพัฒนาการบำเพ็ญพร้อมกัน สิ่งนี้มิเคยเกิดขึ้นมาก่อน !
ดังนั้น จวินโม่เซี่ยจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
หอคอยตั้งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ฝึกฝน จวินวูอี้เฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นจากด้านข้าง เขายิ้มและพึมพัม
“ข้ารู้ว่าเจ้าเด็กเหลือของผู้นี้เก็บไว้กับตัวมากมาย และข้าถูก ! การเพิ่มความสามารถทหารสองร้อยห้าสิบสี่คนพร้อมๆกัน … เป็นสิ่งที่อัศจรรย์นัก ….”
ปู่จวินคำรามทาจมูก
” โม่เซี่ยควรใช้ยาเหล่านั้น แต่เขามิควรใช้มันอย่างขาดการพิจารณา สถานการณ์เลวร้ายสามารถเกิดขึ้นได้ หากข่าวของเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป คนธรรมดามิจำเป็นต้องซ่อนหลังกำแพง แต่ยาเหล่านี้สามารถทำให้สกุลจวินของข้าได้รับการสาปแช่งไปชั่วกัปช่วยกัน วูอี้ เราจักต้องระวังเป็นอย่างมา ! เป็นการดีที่จักฝังยาเหล่านี้ไว้ในดิน หากที่มาของพวกมันถูกเปิดโปง ! ข้าจักไม่ปล่อยให้สิ่งใดเกิดกับจวินโม่เซี่ย ! เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
” ข้าเข้าใจ ”
จวินวูอี้พยักหน้าล้ำลึก และเอ่ย
“ยาที่ล่อตาล่อใจนั้นสามารถทำให้สกุลจวินมีเคราะห์ร้าย พวกเรามิควรเสี่ยงหากมีวี่แววของปัญหา จักเป็นการดีที่จักทิ้งโอกาสนี้มากกว่ายอมเสี่ยง ”
” ดี ! ”
ปู่จวินมองไปยังหลานของเขา ความรักใคร่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เอ่ยต่อ
” เวลาในการใช้ยาเหล่านี้ก็ควรแม่นยำเช่นกัน และผู้ที่ได้รับผลจากมันมิควรรู้ว่ามันเกิดจากยา เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันจักเป็นเช่นไร ? “
จวินวูอี้พยักหน้าเบาๆ
” ร่างกายของข้าพิการมานับสิบปี แต่สมองข้ามิได้เสื่อมถอย ข้าบังเอิญพัฒนาวิธีการเพิ่มการบำเพ็ญของข้า ข้าแค่ขอให้เขาใช้วิธีเดียวกัน เพียงเท่านั้น ”
จวินจ้านเเทียนหรี่ตาลง
” แล้ว เจ้าทำให้ตัวเจ้าเสี่ยง ? “
คุณชายสามจวินยิ้มเงียบๆ และเยือกเย็น
” สบายใจได้ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าอันใดจักเกิดขึ้นต่อไป แต่ จักไม่มีผู้ใดมองไปที่ตัวจวินโม่เซี่ยในเรื่องนี้ ”
” เจ้าจำต้องระวังอย่างมาก ! ”
ปู่จวินพยักหน้า และไม่เอ่ยสิ่งใดต่อ จากนั้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงอันเยือกเย็น ในที่สุด เขาเอ่ยด้วยท่าทางสง่างาม
” ข้าต้องการข้อมูลของทั้งสองร้อยห้าสิบสี่คนนี้ ! ข้าต้องการรู้ถึงประสบการณ์ของพวกเขา และผู้ที่ติดต่อกับพวกเขา ข้าต้องการรู้ถึงเพื่อน สกุล และทุกผู้ที่พวกเขาอาจติดต่อด้วย เพื่อนบ้าน ..หรือคนรัก … แม้แต่โสเภณี่ที่พวกเขาอาจมีสัมพันธ์ ! เจ้าต้องกำจัดผู้ใดก็ตามที่ต้องสงสัย แม้นว่าการกระทำของเราจักไม่ยุติธรรม .. เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
” ขอรับ ! ”
จวินจ้านเทียนออกคำสั่งอย่างแน่วแน่และเข้มแข็ง ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นวาจาดั่งคำสั่งของทหาร โดยเฉพาะเมื่อเขาเอ่ยประโยคสุดท้าย
” แม้นว่าการกระทำของเราจักไร้ความยุติธรรม ”
เขาตัดสินใจออกคำสั่งสังหาร เช่นนั้น จวินวูอี้จึงเอ่ยตอยอย่างเข้มขรึมประหนึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับคำสั่ง จวินวูอี้เอ่ยตอบเพียงคำเดียว แต่ ทั้งสองเข้าใจว่า คำสั่งนี้เทียบเท่ากับระเบียบทางารทหาร !
จวินจ้านเเทียนรู้ว่าจักมีการเคลื่อนไหมเมื่อข่าวยาของจวินโม่เซี่ยถูกเผยแพร่ออกไป เขารู้ว่ามันอาจก่อให้เกิดการตื่นตัว และจากนำพาปัญหามาได้ เช่นนั้น ปู่จวินจึงวางแผนเพื่อจัดการกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เขาเสี่ยเพื่อความปลอดภัยของหลานชาย !
เช่นกันกับ คุณชายจวินสามที่เดิมพันทุกสิ่งเพื่อความปลอดภัยของหลานชาย เขาเสี่ยงแม้กระทั้งตัวเอง
ทหารที่รับยาเข้าไปกำลังแสดงปฏิกริยา
พวกเขาบางคนอยู่ในระดับเชวียนทอง พวกเขาสามารถดูดกลืนเชวยีนบริสุทธิได้อย่างง่ายดาย และ สามารถดูดกลืนมันได้อย่างเหมาะสม แต่ มากกว่า เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัส พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากขั้นเชวียนเงินของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จักอดทนต่อผลจากยา กล้ามเนื้อและเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างแข็งแกร่ง ผิวของพวกเขาเริ่มริบหรี่ด้วยเส้นแสง เนื่องจากปราณเชวียน เชวียนเงินปั่นป่วนอยู่ภายใน พวกเขาอยู่ในขั้นเชวียนเงิน แต่ร่างกายนั้นไม่แข็งแกร่ง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกเว้นเพียงต้องอดทนความเจ็บปวดแสนสาหัสจากปราณเชวียนบริสุทธิ์ที่ระเบิดออกมา
อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องพยุงตัวเองให้ผ่านการทดสอบนี้ พวกเขาจักได้เรียนรู้มากมายหากพวกเขาสามารถกระทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวเอง สิ่งนี้จักช่วยพวกเขาอย่างยิ่งในการก้าวหน้าในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจักมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น และได้ฝึกฝนวินัย
มีเพียงไม่กี่คนที่การบำเพ็ญนั้นอ่อนแก่กว่าผู้อื่น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ผิวของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีที่เหมือนเลือด ความจริง มันดูราวกับเลือดของพวกเขาซึมออกมา สีหน้าของพวกเขามืดมนและบิดเบี้ยว นั้นเพียงพอที่จักอธิบายถึงความเจ็บปวดมหาศาลที่พวกเขาได้รับ
ตะบะเชวียนมีขั้นต่างๆ และ ผู้คนต้องฝ่าด่านต่างๆเพื่อก้าวหน้า อย่างเช่น ยอดฝีมือเชวียนเงินจักบรรลุไปยังขึ้นเชวียนทอง และยอดฝีมือเชวียนทองจักบรรลุไปยังขั้นเชวียนหยกเป็นต้น การบรรลุต่างๆนั้นเป็นไปตามธรรมาชาติ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความแตกต่างในความแข็งแกร่งของคนสองคน แม้นว่าพวกเขาจักอยู่ในขั้นเดียวกัน อย่างเช่น ทหารส่วนใหญ่นี้อยู่ในขั้นเชวียนเงินในตอนนี้ แต่ การฝึกฝนของเขานั้นยังไม่ล้ำลึกนัก เช่นนั้น พวกเขาส่วนใหญ่ก็มิอาจเทียบกวนเชียงฮั่นได้
สกุลของกวนเชียงฮั่นนั้นมิได้ทรงพลัง แต่นางได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมตั้งแต่เด็ก ดังนั้น นางจึงสามารถบรรลุไปได้หลังจากที่ได้รับยาสามเม็ด ความจริง นางสามารถทำสำเร็จได้โดยไม่ต้องถึงพาความช่วยเหลือของจวินโม่เซี่ย นางเพียงแค่อ่อนแรง เท่านั้น
อย่างไรก็ตม ทหารที่แข็งแกร่งเหล่านี้แตกต่างจากนาง การฝึกฝนเชวียนของพวกเขายังไม่เพียงพอ จึงเป็นการยากสำหรับพวกเขาที่จักควบคุมการบำเพ็ญสิบปีอันล้ำค่า เนื่องจากพวกเขาไม่เหมือนกวนเชียงฮั่น ความจริง มีความเป็นไปได้ว่า พวกเขาอาจไม่เห็นการพัฒนาไปตลอดชีวิตหากพวกเขาล้มเหลวในการดูดกลืน การบำเพ็ญสิบปีอันล้ำค่านี้
โชคดี ที่พวกเขาได้ผ่านการฝึกฝนอันโหดร้ายของจวินโม่เซี่ย และ ความแน่วแน่นั้นเป็นเลิศเกินกว่าคนธรรมดา ดังนั้น พวกเขาจึงอดทนต่อความเจ็บปวดแม้นว่ามันมิอาจทนได้ ความจริงแล้ว ในหมู่พวกเขาไม่มีคนใดกรีดร้อง … หรือปลดปล่อยเสียงใดออกมาจากลำคอเลย แต่ พวกเขาขบฟัน และเสียงของการขบฟันนั้นดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ไม่มีแม้เพียงเสียงครวญครางที่เจ็บปวด มีเพียงเสียงขอบฟัน
เสียงของปู่จวินเริ่มสง่า ขณะที่เขาเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า
” ไม่คาดฝัน ทั้งสองร้อยสี่สิบห้าคนนั้นคือบุรุษเลือดเหล็กจริงๆ กระดูกของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมและแข็งแกร่ง พวกเขาทำให้หัวใจของอาวุโสผู้นี้เต้นแรง ! ”
จวินวูอี้ยิ้ม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม
ในที่สุด … แสงสีเงินที่ปส่องประกายรอบร่างของคนผู้หนึ่งเริ่มลดลง จากนั้นมันเปลี่ยนเป็นแสงสีทอง แสงสีทองเหล่านั้นอาจไม่เจิดจ้า แต่มันมั่นคง เขาได้ผ่านการทดสอบอันทารุณ และได้บรรลุไปยังขั้นเชวียนทอง
ตามมาด้วยคนที่สอง … คนที่สาม …
แสงสีทองกระพริบอย่างต่อเนื่องเมื่อมีหลายสิบคนบรรลุไปยังขั้นเชวียนทองไม่หยุดหย่อน พวกเขาพึงพอใจอย่างยิ่งหลังจากได้ผ่านการพัฒนาอันเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ยังไม่ยืนขึ้นในทันที พวกเขาหลับตา และยังคงหายใจเชื่องช้าต่อไป พวกเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากความอดทน พวกเขาไม่เคยรู้สึกแข็งแกร่งมามายเช่นนี้ พวกเขาเริ่มเคลื่อปราณเชวียนไปตามเส้นลมปราณอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้
ในขณะที่ แสงสีเงินยังคงกระพริบอย่างต่อเนื่อง ความจริง ความกระจ่างของพวกเขาจักเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทั่วทั้งลานฝึกของสกุลจวินเริ่มอาบไปด้วยแสดงสีเงินเนื่องจาก คนมากกว่าสองร้อยได้ปลอดปล่อยแสงสว่างออกมา แสงสว่างแหล่านี้เกือบทำให้คู่พ่อลูกบนหอคอยตาบอด
” เชวียนเงินคือผู้ที่อ่อนแอที่สุด พวกเขาส่วนใหญ่เป็นยอดฝีเมือเชวียนเงินสูงสุด ! พวกเขาบางคนได้ก้าวไปสู่เชวียนทอง และสี่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นอยู่ในขั้นเชวียนทองสูงสุด ! ”
ปู่จวินอ้าปากค้าง
” หากกองกำลังเหล่านี้ถูกส่งออกไปยังสนามรบ … ”
” พวกเขาจะไม่ถูกส่งไปยังสนามรบ พวกเขามิใช่ทหารธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ”
จวินวูอี้เอ่ยขึ้นไม่รีบร้อน
” พวกเขาจักต่อสู้เพื่อจวินโม่เซี่ยเท่านั้น และ การส่งพวกเขาไปสนามรบนั้นไร้ค่า ข้าไม่ยอมรับในการไร้ค่านั้น …
” โม่เซี่ยเคยเอ่ยว่า ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาคือยอดฝีมือปฐพีเชวียนสูงสุด ข้าคิดว่าเขาเพียงแค่ปากเก่ง .. แต่ตอนนี้ ข้าไม่คิดว่ามันจักเป็นไปไม่ได้ .. สามเดือนก่อน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาคือยอดฝีมืออันดับแปด สิ่งนี้น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง มันเป็นการขัดต่อลิขิตสวรรค์ !”
จวินวูอี้เอ่ยเชื่องช้า แสงแห่งความประหลาดใจปรากฏขึ้นในแวววตาของเขา
” ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาคือยอดฝีมือปฐพีเชวียนสูงสุด … ? นั่นมิได้หมายความว่า … พวกเรามียอดฝีมือสวรรค์เชวียนราวสองร้อย … ? แม้ นครพายุหิมะสีเงินและ คฤหัสน์ฉือฮั่น ก็มิอาจต่อต้านข้า … แม้ว่าพวกเขาจักจับมือกัน … พระเจ้า … ”
ปู่จวินยังคงเงียบ เขาลูบเครา และกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินวาจานี้ ความจริง เขาบังเอิญดึงเคราของเขาออาจากจำนวนหนึ่ง .. และไม่รู้ตัวเลย
นี่เป็นสิ่งที่น่าตกตะลึง !