Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 308
” แต่ ข้าต้องการไปกับเจ้า … ฮี่ ฮี่ … ติดตามเจ้าไปน่าจะสนุก เจ้ามิได้ชอบความสงบตามนิสัยอยู่แล้ว เช่นนั้นการเดินทางนี้จึงน่าตื่นเต้น มันจักสนุกอันใด หากข้าไปกับพี่ชายโง่เง่าทั้งสาม ? “
ตู่กู้เซี่ยวอี้ รู้ทันทีว่าเลห์เหลี่ยมของนางมิได้ผล เช่นนั้น นางจึงเข้าหาด้วยวิธีใหม่อย่างไร้ยางอาย
จวินโม่เซี่ยบอกได้อย่างชัดเจนว่าพี่ทั้งสามของนางคงจักปฏิเสธการคำขอร้องของนางเป็นแน่ เช่นนั้นนางจึงมาก่อความรำคาญแก่เขา
เหตุใดนางจึงมาหาข้า ?
” ข้าบอกเจ้าไปแล้ว มันจักไม่เป็นเช่นนั้น เจ้าจักมิได้เข้าร่วมการเดินทางนี้ ดังนั้นเจ้าลืมถึงการออกไปจากที่นี่เสีย ! ”
ราวกับหัวใจของจวินโม่เซี่ยทำมาจากหินและเหล็ก เขาจักไม่ยอมรับไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
” เจ้าจักต้องอยู่ที่บ้านกับพี่สะใภ้ข้า เจ้ามิอาจไปยังสถานที่เช่นนั้นได้ เป็นการยากที่จักดูแลเจ้าได้ เราจักไม่ออกไปนอกบ้าน ”
“ข้าไม่เข้าใจว่านางมากับข้าได้อย่างไร … อย่างไรก็ตาม นางจักไม่ติดตามข้าไปเนื่องจากข้าจะไปยังป่าเถียรฟา ”
น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น หลังของจวินโม่เซี่ยแข็งทื่อเนื่องจากได้ยินวาจาเหล่านั้น เขาหันไปมอง
นั่นมิใช่ กวนเซียงฮั่น ?
กวนเซียงฮั่นรู้สึกว่าบางอย่างผิดแปลกในเรื่องการเดินทัพไปยังป่าทางใต้ มีคนไม่มากนักที่รู้ถึงปัญหาของ มณฑลฉือฮั่น แต่ สกุลที่ทรงอิทธิพลทั้งหลายต่างรู้เรื่องนี้ เช่นเดียวกับราชวงศ์
และตอนนี้ พวกเขาบอกว่า จวินวูอี้ และ จวินโม่เซี่ยจักต้องไปยังสถานที่นั้น … เหตุใดพวกเขาต้องทำเช่นนั้น ?
จวินวูอี้เป็นผู้นำกองกำลังในการต่อสู้นี้ เช่นนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ เหตุใดจวินโม่เซี่ยจึงถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ? สิ่งนี้ ทำให้กวนเชียงฮั่นเป็นกังวล และ สิ่งที่น่างเป็นกังวลที่สุดคือ …
จักเกิดอันใดขึ้น หาก มณฑลฉือฮั่นใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างปัญหาแก่จวินวูอี้ และจวินโม่เซี่ย ? ทั้งหมดเป็นเพราะข้า .. ข้าควรทำอย่างไรดี ? นิสัยของหลาน และลุงคู่นี้จักทำให้สิ่งต่างๆแย่ลง
ทั้งสองมิได้แข็งแกร่งมากมาย เช่นนั้น พวกเขาจักจัดการขับ มณฑลฉือฮั่นได้อย่างไรกามีปัญหาเกิดขึ้น ? จักต้องมีข้อโต้แย้ง หากทั้งสองฝ่ายเอ่ยถึงชื่อข้า และ จวินโม่เซี่ย และ จวินโม่เซี่ย จักไม่กลับหลังเนื่องด้วยนิสัยของพวกเขา … เช่นนั้น มันจักจบลงอย่างไร ?
และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จวินโม่เซี่ยนั้นไม่เกรงกลัวสิ่งใด !
มีสิ่งใดที่เขาจักไม่ทำ ?
ดังนั้น กวนเซียงฮั่นจึงตัดสินใจว่านางจักต้องเดินทางไปด้วย นางต้องเดินทางไป … แม้นว่ามันจักหมายถึงความตายของนาง
ข้าสัญญาว่าข้าจักเดินทางเพียงลำพัง หากเจ้าปฏิเสธมิให้ข้าวร่วมด้วย !
ทุกผู้จักได้กลับมาอย่างปลอดภัย หากทุกสิ่งเป็นไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตาม กวนเซียงฮั่นจักใช้ตัวเองเพื่อต่อรองหากมีปัญหาเกิดขึ้น นางจักสังเวยตัวเองเพื่อให้ จวินโม่เซี่ยและจวินวูอี้กลับมาอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม นางจักไม่ปล่อยให้ ทั้งน้าและหลานรู้ถึงเจตนาของนาง หากพวกเขารู้เข้า .. พวกเขาจักหักขานางและทำให้ข้ามิสามารถไปได้ น้าสามของนางมิน่าจักทำสิ่งนี้ แต่ นางรู้ดีถึงนิสัยอันเลวทรามของน้องเขย นางรู้ว่าจวินโม่เซี่ยสามารถกักตัวนางไว้ได้
กวนเซียงฮั่นรู้ถึงจุดนี้เป็นอย่างดี
” วันนี้มีอันใดกัน หืม ! พี่สะใภ้ … พี่สะใภ้ของข้าเองเข้ามาทำให้เกิดความวุ่นวาย … เหตุใดพวกเจ้ามาหาข้า … ? ดูสิ ข้ามิอาจจัดการกับเรื่องนี้ได้ … ”
จวินโม่เซี่ยคว้าผมของเขา ราวกับเขากำลังจักกลายเป็นบ้า
“อย่ามาหาข้าหากเจ้าต้องการไปยังป่าเถียรฟา อย่างไรข้าก็จักบอกว่าไม่ … เช่นนั้นไปหาน้าสามเสีย ! ”
” เจ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นกิจธุระของเจ้า แต่ ไม่ว่าข้าจักไปหรือไม่ นั้นเรื่องของข้า ! ”
กวนเซียงฮั่นมองจวินโม่เซี่ยไม่รีบร้อน จากนั้น นางดึง ตู่กู้เซี่ยวอี้ และจากไปโดยไม่เอ่ยสิ่งใด อย่างไรก็ตาม ตู่กู้เซี่ยวอี้ มองจวินโม่เซี่ยอย่างคัดค้านในขณะที่นางจากไป
ความคิดที่อยู่เบื้องหลังกริยานางนั้นเรียบง่าย
ข้าจักทำตัวดีตราบใดที่เจ้าไม่เป็นปัญหาและรักข้า
ปากของจวินโม่เซี่ยกระตุกถี่
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จวินโม่เซี่ยและองครักษ์ของเขารวมตัวกัน และหายไปจากจวนสกุลจวิน
ค่ำคืนหลังจากนั้น …
ร่างสูงของปู่จวินยืงอย่างแข็งแกร่งในลานบ้านของเขา เขาเอ่ยบางสิ่งกับเงาร่างนับสิบที่อยู่ตรงหน้า จากนั้น เงาร่างเหล่านั้นแยกย้ายและหายไปจากลานบ้านอย่างไร้ร่องรอย
ปู่จวินถอนใจ และถามผู้เฒ่าผังผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
” พวกเขาจักไปถึงเมื่อใด … ? “
ผู้เฒ่าผังครุ่นคิดชั่วครู่และเอ่ยตอบ
“พรุ่งนี้ช่วงค่ำโดยประมาณ ”
” อืมม … ”
ผู้อาวุโสขมวดคิ้ว และเอ่ย
” ผู้เฒ่าผัง เตรียมหน้ากาและชุดดำ ”
ดวงตาของผู้เฒ่าผังเปล่งประกายความสุข
จวินวูอี้อยู่ภายในลานเล็กของเขา คุณชายสามคลี่ม้วนกระดาษในมืองของเขา เขาหัวเราะและพึมพัม
” พรุ่งนี้เย็น …”
ม่านราตรีเคลื่อนลง และกลับขึ้นไป แสงตะวันยามเช้าทองประกายสู่ท้องนภา อีกครั้ง ไม่นาน ก็ย่ำเย็น …
จันทราเคลื่อนสูงไม่นานหลังตะวันลาลับ เวลาผันผ่านชั่วอึดใจ โจววูจี้ลืมไปแล้วว่ากี่ครั้งที่เขาได้ขี่ม้าและหวดแซ่เพื่อเร่งมัน เป็นเวลาสองเช้าตั้งแต่เขาออกเรือและขึ้นฝั่งมา และเป็นเวลาสองวันที่เร่งรีบ
พวกเขาแทบจะไม่หยุดเลยตั้งแต่ออกจากทางใต้มา พวกเขาเดินทางมาเก้าวันแล้ว และ พวกเขาเร่งรีบตลอดวันคืน ผลมันเป็นที่ชัดเจน พวกเขาเดินทางได้เร็วกว่ากำหนดสองวัน สองวันเต็ม !
เป็นการง่ายที่จักจินตนาการถึงโชคร้ายที่พวกเขาหลีกเลี่ยงมาสองวันนี้
สิ่งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นเล็กน้อย ไร้สิ่งที่มิได้คาดการเกิดขึ้นเลยตลอดเก้าวันนี้ … ไม่ว่าจักเป็นการเดินทางทางบกหรือทางน้ำ พวกเขาเดินทางได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องยากที่เขาจักยอมรับได้ … ทุกสิ่งราบรื่นเกินไป
ทำให้ หัวใจของ โจววูจี้จึงไม่อาจผ่อนคลายได้ ในทางกลับกัน มันทำให้เขาระวังตัวมากขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ผิดปกติยิ่งนัก และ เขาประหลาดใจกับเคราะห์ร้ายต่างๆที่หายไป
ตั้งแต่เขาได้รับงานนี้ หัวหน้าสกุล โจววูจี้ พยายามเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและความหมายของมัน แต่ความเสียใจ … มันช้าเกินกว่าเขาจักเข้าใจ
เพราะการสร้างได้เริ่มขึ้นในเวลาที่เขาเข้าใจเรื่องนี้
องค์ชายสองขึ้นอยู่กับบางสิ่ง … !
อย่างไรก็ตาม องค์ชายประสงค์สิ่งใดถึงได้สร้างสิ่งนี้ ? และ ยิ่งกว่านั้น เหตุใดพระองค์จึงต้องการให้มันเป็นความลับ ?
โจววูจี้ตระหนักได้ว่า เขาได้ก้าวลงสู่เรือโจรสลัดขององค์ชายสองโดยไม่รู้ตัว และ ตอนนี้ มันยากที่จักลงแล้ว
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาได้รับงานนี้ สกุลของเขาก็ถูกผูกติดอยู่กับราชรถศึกขององค์ชาย และการสังหารจากหน้าไม้เหล่านั้น และ ยากยิ่งขึ้นที่จักออกจากสถานการณ์นี้หากเลือดขององค์ชายพระองค์อื่นๆหลั่งไหล
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้จักต่อต้าน
ทิ้งความจริงที่ว่า การสร้างสิ่งนี้ได้เริ่มขึ้น .. จักถอยได้อย่างไร ?
สกุลของเขามีอิทธิพลอยู่บ้าง แต่ มันไร้ค่าเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งขององค์ชายสอง เขากลัวว่าสกุลของเขาจักพินาศไปภายในครึ่งค่อนวัย หากเขาปฏิเสธงานนั้น พวกเขาจักหายไปจากโลก
ความเสี่ยงสู่งส่งแลกมาด้วยผลกำไรที่มากมาย ธุรกิจของเขาจักได้รับกำไรสามเท่าจากงานี้เพียงงานเดียว มันจักทำให้กิจการของเขาได้รับประโยชน์มากมาย ดังนั้น หากเขาแขวนชีวิตไว้กับงานนี้ … มันก็คุ้มที่จักเสี่ยง
ยิ่งกว่านั้น ทั้งหมดเป็นเรื่องทางการเมือง เช่นนั้น หากเขาสามารถทำให้โครงสร้างการเมืองแข็งแกร่งก็จะได้เป็นรางวัล …
โจววูจี้รู้สึกว่าเขากลืนแมลงวันเข้าไป แต่เขายังคงยิ้มอย่างสำนึก
แมลงวันรสชาติน่าขยะแขยงเมื่อมันเข้าปาก แต่ มันเป็นสิ่งที่บำรุงร่างกาย ท้ายที่สุด มันก็มีโปรตีนมากมาย
หน้าไม้เอ็นเชวียน ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นสระหว่างการก่อสร้าง หัวหน้าสกุลโจว โจววูจี้ ผ่อนคลายลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความเครียดของเขาเพิ่มขึ้นไม่นานหลังจากได้รับรู้สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน การเดินทางไปส่งหน้าไม้ที่นครหลวงคือการทดสองที่แท้จรงิ
ดังนั้น เขาจึงหยุดกิจราของสกุลชั่วคราว และรวบรวมผีมือทั้งหมดที่พวกเขามีเพื่อคุ้มกันหน้าไม้ไปยังนครหวลง แต่เขายังมิอาจรู้สึกผ่อนคลายได้ เช่นนั้น เขาจึงมองหากำลังที่มากขึ้น เขาจึงจ่ายเงินมากมาย เพื่อจ้างวานให้ผู้นำกองคาราวานการค้าทางใต้นำกองกำลังของเขาด้วยตัวเองเพื่อรับประกันความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม องค์ชายสองได้หยุดการดำเนินการเมื่อมันได้รับการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เขาส่งองครักษ์ชั้นยอดของเขาเพื่อคุ้มกันพวกมัน เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัย แต่เรื่องนี้ทำให้ โจววูจี้หวาดกลัว ดูเหมือนว่าการเตรียมการของเขานั้นเพียงพอ ความจริง เขาคิดว่ามันมากเกิดพอในการรับมือกับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม องค์ชายสองก็รู้สึกไม่สบายพระทัย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจังยิ่ง ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าสินค้าอาจได้รับการซุ่มโจมตีจากกองกำลังที่แข็งแกร่งได้ ความแข็งแกร่งของขบวนเดิมทีอาจไม่เพียงพอที่จักรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้
การใช้งานหน้าไม่นี้เริ่มชัดเจนขึ้นอย่างมาก แผนการของเขาจักล้มเหลวก่อนที่จะเริ่ม
ทุกฝีเท้าของม้าของเขา .. เป็นการก้าวย่างเข้าสู่การนองเลือด
โดยเฉพาะเมื่อเขาเข้าใกล้เทียนเชียงมากขึ้น
” ท่านพี่ พวกเราปลอดภัยมายาวนาน นครเทียนเชียงห่างไปอีกเพียงสองร้อยกิโลเมตรเบื้องหน้า หากมีผู้ใดขัดขวางพวกเรา … ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจักสามารถกระทำความผิดใหญ่หลวงในพื้นที่ใกล้นครหลวงเช่นนี้ได้ ! ”
ชายร่างสมส่วนบังคับม้ามาด้านข้าง โจววูจี้ เขากำลังยิ้ม และมองอย่างพึงพอใจ
“ดูเหมือนว่าพวกเราจักกังวลเกินเกตุ ข้าไม่คาดว่าสิ่งต่างๆจักดำเนินไปอย่างราบรื่น ดูเหมือนว่าการรักษาความลับขององค์ชายสองนั้นเป็นที่โดดเด่น ! ”
ชายร่างสมส่วนผู้นี้คือน้องชายของ โจววูจี้ โจววูเทียน เขาคือผู้หนึ่งในสกุลโจวที่รู้ว่าลูกค้าคือผู้ใด
” ข้าหวังเช่นนั้น ! ”
โจววูจี้ถอนใจขณะมองไปยังท้องฟ้ามืดมิด ทันใดนนั้น เขารู้สึกว่าสรวงสวรรค์สีเทานั้นแปรเปลี่ยนหลุมยักษ์ดำทมิฬ เขารู้สึกราวกับ หลุมดำนั้นจักดูดกลึนเขาและครอบครัวของเขาเข้าไป … และเขาไร้ความแข็งแกร่งที่จักต้านทาน
” เส้นทางเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ทุกผู้มีขวัญกำลังใจ และใช้พลังงานทั้งหมดที่เหลืออยู่ไปยังนครหลวงโดยเร็วที่สุดเพื่อส่งมอบสินค้า ความรับผิดชอบของเราจักจบลงที่นั้น และพวกเราจักได้พักผ่อน ”
โจววูจี้ถอนใจยาว เขาก้มหัวขณะพยายามกำจัดความมัวหมองและความคิดอันสับสนนั้น
” ขอรับ ! ”
โจววูเทียนตอบกลับ และถอนม้าลงหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาหยิบธงขนาดเล็กออกมาจากหน้าอก และโบกสองครั้งอย่างรวดเร็วในอากาศ ทั้งคาราวานที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว แต่ มันเริ่มเคลื่อนไปเร็วกว่าเดิม
เกิดเสียงกีบเท้าที่ก้าวถี่อย่างรวดเร็วในทันที ชายวัยกลางคนร่างสูงและแข็งแกร่งขี้ม้าสีแดงไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าอันเหนื่อยล้าของเขาดูร้อนรน
” นายท่านสกุลโจว ตอนนี้เราห่างจากนครหลวงไม่มากนัก พวกเราต้องเร่งรีบเช่นนี้หรือ ? พี่น้องเราหวาดกลัวและกระวนกระวายตลอดการเดินทางเนื่องจากพวกเราต้องเร่งรีบเดินทางมาตลอด พวกเราเหนื่อยอ่อน ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเส้นทางจักยากลำบากเพียงใดในเวลากลางคืน ทุกสิ่งอาจเปลี่ยนไปภายใต้แสงอันมืดมัวของท้องฟ้าค่ำคืน ข้าคาดว่าเราอาจหาสถานที่เพื่อตั้งค่ายสำหรับคืนนี้ จากนั้นพวกเราค่อยเริ่มเดินทางใหม่พรุ่งนี้ อย่างไรพวกเราก็เดินทางเร็วกว่ากำหนดสองวัน เช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเนื่องจากพวกเรามีเวลามากมายตอนกลางวันมิใช่หรือ ?
ผู้พูดคือ รองอุปนายก กองคาราวานการค้าทางใต้ เมิงเซี่ยวซ้ง