Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 312
” ข้าถามเจ้า เจ้าคือใคร ! เจ้ามิกล้าจักบอกชื่อเจ้ากับข้าหรือ ? “
เล่ยเจียนฮ้ง ตัวสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้าขณะเขาถามด้วยเสียงต่ำ เขามิใยดีกับการดูหมิ่นของฝั่งตรงข้ามดูถูกและถากถาง เขามิได้มองไปยังศพของสหายพี่น้องของเขาที่อยู่บนพื้นเบื่องล่าง
ศิษย์สาม ฟางเปียวฮ้งมองไปยังศพของศิษย์พี่ของเขา ทั่งร่างของนางสั่นสะท้าน และนางมิอาจเอ่ยสิ่งใดออกมาได้
ความกล้าในการต่อสู้ของนางหมดลง คนของ โจววูจี้สามารถหลุดพ้นจากอันตรายได้ ดังนั้น พวกเขาจึงดีใจยิ่ง ศัตรูของพวกเขามิได้ให้ความสนใจพวกเขาตั้งแต่คนผู้นั้นมาถึง คนผู้นี้มาถึงช้าเกินไปเพียงเล็กน้อย แต่พวกเขาก็มิได้สนใจนักในตอนนี้
มิสำคัญว่าเขาจักมาช้าหรือเร็ว … มันเป็นสิ่งดีตราบใดที่เขายังอยู่ มันมิใช่การรักษาชีวิตตัวเองหรอกหรือ ?
ทุกผู้หยุดลง แต่บรรยากาศโดยรอบสนามรบนั้นเริ่มหดหู่ยิ่งขึ้น
ทันใดนนั้น ชายในชุดแดงหัวเราะและยกมือขึ้น เกิดเสียง ” ฉึบ” ขึ้นจากปลอกแขนของเขา เสียงระเบิดที่คมชัดดังออกมาขณะที่ฝ่ามือของเขาปะทะกับอากาศบางๆ ชัดเจนว่ามันมิได้สัมผัสกับสิ่งใดในอากาศนั้น กระนั้น ดูเหมือนว่าเขาติดอยู่กับบางสิ่งบางอย่าง
เกิดเสียงหวีดหวิวขึ้นจากสายลม จากนั้น มีเงาเของผู้คนมากมายปรากฏขึ้นมารอบๆในทันใด
เปลวไฟสะท้อนร่างของผู้ที่มาถึง พวกมเขาอยู่ในชุดสีแดง พวกเขาแต่ละคนยืนนิ่งเงียบ อย่างไรก็ตาม ในดวงตาพวกเขามีประกายแห่งความน่าสะพรึง ราวกับหมาป่ากระหายเลือดที่รอคอยคำสั่ง
เงาของคนสองผู้ลอยอยู่ในอากาศ และมาอยู่ด้านข้างมือสังหารชุดแดง ร่างของพวกเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้าเข้มขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับ เล่ยเจียนฮ้ง และ ฟางเปียวฮ้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้มาใหม่แสดงให้เห็นทำให้คนของ เล่ยเจียนฮ้งตกตะลึง
มือสังหารทั้งสามเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน
หากมองไปรอบๆ … พวกเขาจักได้เห็นว่าผู้ที่มาใหม่นั้นร่างปกคลุมไปด้วยแสงสีน้ำตาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือปฐพีเชวียน ในหมู่พวกเขามีผู้ที่เป็นยอดฝีมือปฐพีเชวียนราวสิบคน ส่วนที่เหลือนั้นเปล่งประกายด้วยสีของหยกเชวียน ท่ามกลางพวกเขามียอดฝีมือหยกเชวียนราวสามหรือสี่สิบคน !
หัวใจของเล่ยเจียนฮ้งเยือกเย็นขึ้นในทันที
เย็นราวก้อนน้ำแข็ง …
พวกเราจักต่อสู้ในสงครามนี้ได้อย่างไร ?!
ความแข็งแกร่งของศัตรูนั้นล้ำหน้ากว่าพวกเรามากนัก ! และ ฝ่ายเรานั้นมีเพียง ศิษย์น้องสามและข้า !
” ชื่อข้าหรือ ? ฮ่าฮ่า ! พี่เล่ย ท่านก็มิได้เพิ่งรู้จักในโลกนี้ ข้าคือมือสังหารจาก หอกระบี่เลือด ข้าจักบอกชื่อข้ากับเจ้าได้อย่างไร ? ข้าอาจไม่สนใจพวกเจ้าทั้งสอง แต่ข้าจักมิสนใจ เล้ยวูเบ้ย ได้อย่างไร ? เขาคือ ยอดปรมาจารย์เล่ย ! หากถามว่า ข้ามีความกล้าหรือไม่ เจ้าสมารถถามศิษย์น้องสองของเจ้าได้ เขารับรู้มันได้อย่างชัดเจน ”
ชายชุดแดงเงยหน้าขึ้นและตอบ เล่ยเจียนฮ้ง
” ดีมาก ! คือหอกระบี่เลือดนี่เอง ข้าต้องจำเจ้าได้อย่างแน่นอน !”
เล่ยเจียนฮ้งชำเลืองมองพวกเขาด้วยความโศกเศร้าและขุนเคือง จากนั้นเขาหันไปและเอ่ย
” ศิษย์น้อง พวกเราควรไปแล้ว ”
” หยุด !”
ทันใดนั้นชายในชุดแดงตะโกนขึ้น
เล่ยเจียนฮ้งยั้งฝีเท้า
” เหตุใด ? อย่าบอกข้าว่าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถขัดขวางพวกเราได้ ? “
เล่ยเจียนฮ้งหัวเราะโศกเศร้า
” ความแข็งแกร่งของพวกเจ้านั้นเหนือกว่าเรานัก และพวกเราไม่เหมาะสมกับเจ้า แต่ เจ้าคิดว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งพอที่จักขัดขวางพวกเรา ? “
เล่ยเจียนฮ้ง เอ่ยความจริง ทั้งสองฝ่ายมีผู้นำเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียนผู้ทรงพลัง มิใช่เรื่องยากเลยสำหรับ หอกระบี่เลือดที่จักเอาชนะฝ่าย เล่ยเจียนฮ้งหากพวกเขาต้องการ แต่ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจักสามารุขัดขวาง เล่ยเจียนฮ้ง และ ฟางเปียวฮ้ง ทั้งสองผู้สามารถสร้างเส้นทางหลบหนีที่โชกเลือดได้ตราบใดที่พวกเขาต้องการจักไป
” ฮี่ฮี่ พี่เล่ย เข้าใจเจตนาที่ดีของน้องผู้นี้ผิดไป เจ้าคือผู้มีสายเลือดเดียวกับยอดปรมาจารย์เล่ยเพียงผู้เดียว พวกเรามิกล้ากระทำผิดเช่นนี้ได้ !”
ชายชุดแดงเอ่ยไม่รีบเร่ง
” แต่กระนั้น… ศพของศิษย์น้องเจ้า … เจ้าไม่คิดจักนำพาไปด้วยหรือ ? หรือเจ้าต้องการทิ้งเขาไว้ในที่รกร้างเช่นนี้ ? “
เล่ยเจียนฮ้งคำรามทางจมูกเยือกเย็น แต่ยังมิได้ยกศพขึ้นมา จากนั้นเขาลอยขึ้นในอากาศ และ ดึง ฟางเปียวฮ้งไปกับเขาด้วย เขามิเอ่ยสิ่งใดเลยในสถานการณ์นี้ กิ่งไม้ใกล้ๆสบัดไปมาสองสามครั้งขณะที่พวกเขาหายไปในท้องฟ้าราตรี
เล่ยเจียนฮ้งรู้ว่าการนำร่างของ เล่ยเจียนฮ้ง โจวเจียนหมิงมาด้วยนักเป็นภาระหนักอึ้ง ความจริง มันเป็นสิ่งที่จักขัดขวางพวกเขามิให้ออกมาได้ ชายชุดแดงเอ่ยวาจาเหล่านั้นด้วยความประสงค์ร้ายชัดเจน แต่มันสำคัญกับเขาและศิษน้องที่จักออกมาจากสถานที่นั้นเพื่อหลีกเลี้ยงเรื่องเลวร้าย
ศัตรูใหม่เกิดขึ้นแล้ว และไม่มีที่ให้หลบ ชายชุดแดงและสหายของพวกเขาจักใช้เคล็ดดับสูงเพื่อจับพวกเรา หากพวกเราพายามนำพาร่างของศิษย์น้องสอง มันจักต่างไปอย่างไรแม้นพ่อข้าเป็น ยอดปรมาจารย์เลือดเย็น ? ไม่มีผู้ใดเหลือรอดเพื่อเป็นพยานหากพวกเราทั้งสองตายที่นี่ และขุนศึกของสกุลลี่ก็ตกอยู่ในบ่วงเดียวกัน จากนััน หากพ่อข้าตัดสินใจล้างแค้น … เขาก็มิรู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด !
ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงพอจักสังหารพวกเราหากพวกเรารั้งรอ !
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วและจากไป
ฝ่ายตรงข้าม ไม่เห็นวี่แววว่าพวกเขาจะหยุด เช่นเดียวกับการตัดสินใจของ เล่ยเจียนฮ้ง เช่นนั้นจึงไม่มีพวกเขาคนใจพยายามจะหยุดพวกเขา
ทันใดนนั้น หมอกสีขาวเริ่มก่อตัวขึ้นท่ามกลางแสงมืดสลัวค่ำคืน มันปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ และเริ่มหนาทึบมากขึ้น ดูเหมือนเป็นการสร้างม่านป้องกันบางๆ
เช้าตรู่และราตรีมักจะมีหมอกหนาในป่าเขา เช่นนั้น จึงมิได้มีผู้ใดสนใจมันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ลมบริสุทธิ์พัดผ่านหุบเขาและต้นไม้ภายใต้ม่านหมอกนั้น ความสงบเยือกเย็นนี้ส่งผลต่อหัวใจทุกผู้คน และพวกเขามิอาจห้ามตัวเองมิให้สูดหายใจลึกขณะที่รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวานั้นได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขามิรู้เลยว่า จวินโม่เซี่ยได้ปีนลงมาจากต้นไม้ และถอนใจลึก
เขาตะโกนด้วยความโชคร้าย
น่าเสียดายยิ่งนัก ! เล่ยเจียนฮ้งและคนของเขาจากไปเร็วไปหน่อย เขาจักได้เห็นหากเขารั้งรออยู่อีกหน่อย น่าเสียดายที่ข้าต้องพยายามอย่างมาก และประสบกับความยากลำบากที่มิอาจเอ่ยออกมาได้เพื่อสร้าง ปิติสุคนธรสนี้ น่าเสียดาย พวกเขาสามารถหลบหนีจากกับดักนี้ไปได้
ปิติสุคนธรส มิควรจักใช้ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีปราณเชวียนที่น่ากลัวไหลเวียนอยู่ มีโอากาสที่มันจักถูกพัดไปโดยมิได้ส่งผลที่ดี
อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เริ่มนิ่งจนเขาสามารถใช้ไพ่ตายได้แล้ว ปิติสุคนธรส สร้างจากลมปราณของ เจดีย์หงษ์จวิน มันไร้รู้ร่างจนมิอาจมองเห็นได้ มันไร้ร่องรอยจนกลายเป็นความลี้ลับ
แต่ มันมีรสชาติเพียงนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม มันบริสุทธิ เยือกเย็น และ งดงาม ทุกผู้ที่ได้กลิ่นสดชื่น และความงดงามของม่านหมอกนี้จักสูญเสียความแข็งแกร่ง แม้แต่ยอดฝีมือปราณเชวียนก็พบว่าปราณเชวียนของเขาลดลงอย่างมาก ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียควาสามารถในการต่อสู้ หากพวกเขาสูดดมกลิ่นหอมนี้
นี่คือไพ่ตายใบสำคัญของจวินโม่เซี่ยในการภารกิจนี้
” เจ้า … ในที่สุดก็มา ”
ฉางชุ้นเซี่ยวได้รับบาดเจ็บมากมายตามร่างกาย เขากระเพกมาพร้อมผู้ที่ช่วยพยุงและทักทายผู้มาใหม่ โจววูจี้เดินเข้าไปใกล้ๆเขา เขามองไปยังชายชุดแดงด้วยสีหน้าหวาดกลัว แต่ผสมปนเปด้วยความรู้สึกขอบคุณอันมิอาจหาที่สุด
” เอ่อ พวกเรามีเหตุมิคาดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งทำให้มาถึงล่าช้าไปเล็กน้อย ”
ชายชุดแดงตอนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
” หน้าไม้อยู่ที่ใด ? ”
ฉางชุ้นเซี่ยว มองไปยัง โจววูจี้ เขาเข้าใจถึงท่าทางนั้น และมุ่งหน้าไปยังรถม้าพร้อมด้วยผู้ติดตาม อย่างไรก็ตาม เขามิได้หยุดที่รถม้านั้น แต่เขากลับเดินเลยไปยังม้าที่ผูกไว้กับรถม้า เขาเอาอานม้าลง จากนั้นเอาม้วนสายหนังใสออกมาจากส่วนล่างของร่างกายพวกมัก จากนั้นเขาดึงหนังที่บางและใสออกมา ทันใดนนั้น หน้าไม้ที่สุกใสน่าประทับใจร่วงลงมาจนเกิดเสีย แกร็ก
นี่คือจุดที่ โจววูจี้ ผู้กหน้าไม้เอาไว้ !
สิ่งนี้น่าประหลาดใจยิ่งนัก ความจริง มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยม
แม้นหากเจอขโมยที่ต้องการแย่งชิงมันไป พวกเขาจักเริ่มที่รถม้า และ พวกเขาจักมุ่งไปหายังที่อื่นหากรถม้าไม่มีสิ่งนี้อยู่ ผู้ใดจักสนใจสิ่งที่ดูเหมือนรถม้า ?
” มีหน้าไม้ทั้งหมด สามร้อยห้าสิบ เกินกว่าที่คาดไว้ถึงยี่สิบ พวกเรานำมันมาส่งทั้งหมด พิมพ์เขียวของมันถูกเผาทำลายแล้ว หน้าไม้ยี่สิบอันถูกผูกไว้กับม้าแต่ละตัว ม้าที่เหลือมีมัดของเกาทัณฑ์พิเศษมัดไว้ที่ท้อง เกาทัณฑ์นับรวมได้เจ็ดพัน และ นี่เป็นเพียงเกาทัณฑ์ชุดแรก ชุดที่สองกำลังถูกเตรียมการอย่างรวดเร็ว ”
โจววูจี้ก้มหัวด้วยความหวาดกลัว เขามิรู้ว่าเหตุใดเขาถึงรู้สึกว่าชายชุดแดง ผู้ที่มีกลิ่นไออันเยือกเย็นถึงดูขุนเคืองเขา
” ดีมาก ! เจ้าทำงานได้อย่างถูกต้อง ! ”
ชายชุดแดงรู้สึกพึงพอใจในตอนนี้
” สถานที่แห่งนี้จักช่วยให้เจ้าได้พักผ่อน และเจ้าจักได้รับรางวัล…”
” ขอบคุณมาก …”
โจววูจี้ดีใจยิ่งนัก เขาก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพและแสดงความขอบคุณ อย่างไรก็ตาม หัวของเขาร่วงลงบนพื้นพร้อมเสียง ตุ๊ป! ใบหน้าของเขายังคงยิ้มด้วยความปิติ เนื่องจากมันถูกตัดออกไปโดยชายชุดแดง
” เจ้าโง่ ! ”
นี่คือคำวาจาสุดท้ายของชายชุดแดงที่ โจววูจี้ได้ยิน
” ของขวัญที่ข้ามอบให้เจ้าคือเจ้าสามารถตามไปพบน้องชายของเจ้าได้ เจ้าจักได้พักผ่อนในนรกตลอดกาล ! “
ชายชุดแดงเอ่ย
” ท่านพี่ .. ท่าน.. เหตุใด ? “
ฉางชุ้นเซี่ยวมองไปด้วยความตกตะลึงขณะถาม ชายชุดแดงต่อยเข้าใส่หัวของ ฉางชุ้นเซี่ยว อย่างรวดเร็ว และสมองของเขาก็ทะลักออกมาในทันที เหยื่อของเขากำลังจะตาย แต่เขายังพยายามถามว่า ทำไม ?
” เหตุใด ? ข้าคิดว่าเจ้าฉลาด แต่เจ้ากลับโง่เง่าเช่นกัน ! เจ้าถามข้าถึงเหตุผลในสิ่งนี้หรือ ?! “
ชายชุดดำสบัดเลือดออกจากมือขณะยิ้ม
” เจ้าโง่เชื่อจริงๆหรือว่า หอกระบี่เลือด จักยอมทำตามเจ้าหมูโง่องค์ชายสองนั่น ?! เขาสมควรได้รับเพียงสิ่งนี้ ! ”
จากนั้นเขาสบัดมือและออกคำสังอย่างโหดเหี้ยม
” ทำงานให้เสร็จ ! ”
ชายชุดแดงผู้อื่นเร่งรีบทำงานของพวกเขา พวกเขาเข้าไปหากผู้เหลือรอดที่โชคดี ที่อยู่ใกล้ๆ ผู้ที่รอดชีวิตนั้นเดิมที่คิดว่าเงามืดแห่งความตายไปพัดผานพวกเขาไปแล้วด้วยการมาถึงของความช่วยเหลือนี้ พวกเขารู้สึกราวได้ปลดภาระอันหนักอึ้งจากหัวใจ ดังนั้นพวกเขาจึงมิได้ระวังแม้แต่น้อย พวกเขาถูกสังหารในตอนที่ผู้นำของชายชุดแดงเริ่มกบฏ และถูกสับเป็นชิ้นๆ แม้แต่ความคิดในการต่อต้านก็มิเกิดขึ้นในหัวของพวกเขา พวกเขาเพียงร้องด้วยควาทรมาณขณะที่ล้มลง
ชายชุดแดงที่เหลือฟาดกระบี่ของพวกเขาโดยไม่เอ่ยสิ่งไป และ ตัดหัวของนักรับสกุลลี่ผู้ที่มิได้หลบหนีไปกับ เล่ยเจียนฮ้ง
คนเหล่านี้มีผู้นำการต่อสู้เป็นสองยอดฝีมือสวรรค์ชเวียน พวกเขาเป็นฝ่ายชนะ และ สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา เมื่อ สามยอดฝีมือสวรรค์เชวียน ยอดฝีมือปฐีเชวียนและหยกเชวียนนับไม่ถ้วนโจมตีพวกเขาอย่างแข็งแกร่ง ขุนศึกแห่งสกุลลี่ทุกคนรู้สึกสิ้นหวังเมื่อได้เห็นการจากไปของ เล่ยเจียนฮ้ง ดังนั้นพวกเขาจึงไร้ความกล้าที่จักต่อต้าน และถูกสังหารตายภายในชั่วพริบตา
ตอนนี้มีเพียงชายชุดแดงสิบกว่าคนเท่านั้นที่เหลืออยู่ในสนามรบ อย่างไรก็ตาม พลังของพวกเขานั้นป่าเถือนยิ่งนัก พวกเขาโจมตีเพื่อสังหาร ไม่เหลือศัตรูที่บาดเจ็บไว้แม้แต่คนเดียว
หมอกที่ปกคลุมหุบเขาหนาทึบขึ้น
” ไปตรวจสอบเร็วเข้า ! ดูให้แน่ใจว่าม้าแต่ละตัวบรรจุหน้าไม้เอาไว้ ! รีบกำจัด และล่าถอย ! ”
ผู้นำชายชุดแดงออกคำสั่งแฝงด้วยความเร่งรีบ
” ฮี่ฮี่ฮี่ …. ในที่สุดมันก็เป็นทีของข้า ! สิ่งนี้ทำให้หมดแรงเสียจริง … เล่นเกมส์กันรุนแรงนัก … พวกเจ้ามากมายยังคงเหลือรอด นี่ทำให้พี่ผู้นี้เสียใจยิ่งนัก ”
เสียงหัวเราะลึกลับดังออกมาในอากาศ ตอนแรกมันดังมาจากทางซ้าย จากนั้นทางขวา ..จากนั้นตรงหน้า และจากด้านหลัง สิ่งนี้ล้ำลึกยิ่งนัก ทุกคนได้ยิ่งเพียงวาจาที่ว่า
” หอกระบี่เลือดเป็นเลิศ ! ความสามารถในการเลือกจังหวะของเจ้านั้นสำคัญ … ข้านับถือ ! แต่เจ้ามิได้ทำงานให้แก่องค์ชายสอง .. แล้วเจ้าทำงานให้ผู้ใด ? บางทีข้าจักต้องถามเช่นนี้แทน ผู้ใดที่พิเศษนักจนหอกระบี่เลือดยอมรับใช้ ? พี่ผู้นี้สนใจยิ่งนัก ”
” นั่นใคร ? ผู้ใดกับที่แสร้งเป็นพระเจ้า แต่กระทำดังมาร ? แสดงตัวเจ้ามา ! ”
ผู้นำชายชุดแดงตะโกนขณะที่ดวงตาของเขามองไปรอบๆ
” อืม… อืม… อืม … ! ข้าเป็นพ่อของเจ้า ! พ่อของเจ้า ! ”
ชายในเงามืดแสยะยิ้มหยาบคาย จากนั้นเขาหัวเราะออกมาอย่างเป็นมิตร
” ลูกชายผู้ฉลาดล้ำ ไม่ควรโค้งคำนับและคุกเข่าเมื่อพ่อคนนี้มาถึงหรือ ?! “
“เจ้าศาลเตี้ย ! ”
ชายชุดแดงกรีดร้องด้วยโทสะ เขาฟังอย่างตั้งใจ และกระโดดขึ้นทันใด กระบี่ของเขาเปล่งประกายสีฟ้า แสงสีฟ้าลอยไปมาก และก่อให้เกิดเสียงระเบิดขณะที่เขาโจมีใส่ต้นไม้ พื้นก่อเกิดเสียง แตก ขณะที่ต้นไม้ล้มลง พวกมันล้มลงบนพื้นและเป็นเหตุให้ฝุ่นลอยขึ้นในอากาศ
” หึม ? เป็นไปได้อย่างไร ? “
ชายชุดแดงผู้ที่สังหารยอดฝีมือสวรรคเชวียนด้วยพลังของเขาเมื่อไม่นานมานี้ แต่ เขาตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึงในตอนนี้ เขาตกตะลึงที่ได้พบว่าปราณเชวียน สวรรค์เชวียนของเขาลดลงจากครั้งก่อนที่เขาใช้กระบี่โจมตี
” ฮ่า ฮ่า ! มีเพียงสิ่งที่มิอาจคาดในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ สิ่งใดถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ? “
ชายลึกลับส่งเสียง ขณะที่เขายังคงหลบซ่อนอยู่ จากนั้นเขาคำราม
” ทำงานให้เสร็จ ! ”
เกิดเสียงระเบิดขึ้นทุกที่ ธรณีพลิกไปมาราวทะเล ฝุ่นและโคลนลอยไปทั่วสถานที่นี้หลังจากการระเบิด ตามมาด้วยร่างอันแข็งแกร่งกระโดดออกมา มีผู้คนเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาจากทุกทิศทาง
มีร่างปรากฏขึ้นกลางอากาศอย่างว่องไว และมุ่งหน้าไปยังยอดฝีมือสวรรค์เชวียนเหล่านั้น ยอดฝีมือลึกลับนี้มุ่งหน้าไปยังพวกเขาด้วยความเร็วสูงสุด
ผู้นำชายชุดแดงร้องออกมา
” ระวัง ! ”
อย่างไรก็ตาม เขาเกือบร้องไม่ออกขณะที่มีแสงเปล่งประกายตรงหน้าของเขา จาหนั้น ชายชุดดำ และชายสวมหน้ากากปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา ผู้นำชายชุดแดงคือเป้าหมายที่แท้จริงของชายลึกลับผู้นั้น เขาเร่งรีบก้าวถอยหลัง และ ยกกระบี่ขึ้นไปโจมตี
อย่างไรก็ตาม ศัตรูของเขาติดตามเขาอย่างใกล้ชิด และโจมตีใส่อย่างรวดเร็ว แสงอันเยือกเย็นเปล่งประกายแทงเข้าใส่คอของชายชุดแดง จากนั้นมันเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว ความจริง มันเร็วเกินกว่าที่สายตาจะตามทัน เขามิได้เห็นแม้แต่อาวุธเมื่อเขาได้ยินเสียง ฉึบ จากนั้นเขารู้สึกถึงความเย็นของสิ่งบางอย่างที่สัมผัสคอหอยของเขา
ชายชุดแดงเพิ่งยกกระบี่ขณะที่เขาถอยหลังอีกครั้ง จากนั้นเขาได้ยินเสียง ฉึบ อีกครั้ง และรู้ว่าคู่ต่อสู้กำลังโจมตีไปที่ง่ามขาของเขา เขารีบโยกก้นถอยหลัง และดีใจที่สามารถหลบหลีกการโจมีที่น่ากลัวได้ อย่างไรก็ตาม เขากลับต้องหลาดกลัวอีกครั้งเมื่อเห็นแสงเปล่งประกายขึ้นอีก มันพุ่งตรงไปยังดวงตาของเขา แต่เขาไม่มีพลังเพียงพอที่จักเอียงตัวเพื่อหลบการโจมตี เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือการโดนต่อยที่ใบหน้า และรู้ว่ามีดสั้นเจาะเข้ามาที่ผิวหนังของเขา จากนั้นเขารู้สึกถึงข้อศอกที่ปะทะเข้าหน้าอก และตามมาด้วยความเจ็บปวดบริเวณส่วนล่าง ทุกส่วนที่อ่อนแอของเขาได้รับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ชายชุดแดงโกรธเคืองอย่างมาก ท่ามกลางความเจ็บปวด และ หวาดกลัว
ฝ่ายตรงข้าม เลียนแบบวิธีที่เขาใช้เพื่อต่อสู้กับ โจวเจียนหมิง อย่างไรก็ตาม กระบวนท่าเหล่านั้นกลับกัน และเขาเป็นผู้ที่โดนฝ่ายตรงข้ามโจมตี ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วของคู่ต่อสู้นั้นเกินกว่าเขานัก คนผู้นี้เป็นมือฉมังอย่างแท้จริง
หรือนี่คือผลกรรมจากสวรรค์ ?!