Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 315
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน …
” โอ้ก…. โอ้ก….
” อุแหวะ… อุแหวะ อุแหวะ….”
จวินโม่เซี่ยหันมองไปยังทิศทางของเสียง มีสองคนที่กำลังสำรอกอยู่ ความจริง ดูเหมือนพวกเขากำลังสำรอกลำไส้ออกมา จากนั้น เสียงของการสำรอกเริ่มดังขึ้น และไม่นานดูเหมือนว่ามีอีกหลายคนกำลังสำรอก ….
” ผู้เฒ่าผัง ทำอย่างไรกับการอาเจียนเหล่านี้ … ? “
” ทำอย่างไรหรือ ? มันคือ อ้วก … ไร้หนทางแก้ไขได้ กลับไป …. อุแหวะ …. ”
” ความแข็งแกร่งของคุณชายน้อยน่าประหลาดใจนัก แต่ กลยุทธิของเขาช่าง … อุแหวะ … โหดร้าย … สวรรค์ … อุแหวะ … ”
” เจ้า หุบปาก ! เราจักคุยเรื่องนี้ทีหลัง ! อุแหวะ …. ”
เป็นน้ำเสียงที่หม่นหมอง คนราวสิบออกมาจากที่หลบซ่อน และแสดงตัว ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือก และมุมปากของพวกเขาเปียกโชก เมื่อเพ่งมองไปยังใบหน้าของพวกเขาก็เพียงพอจักบอกได้ว่า พวกเขาผ่านการอาเจียนมาอย่างหนัก
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนออกคำสั่งพวกเขา และจากไปอย่างเงียบเฉียบ อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ไม่แสดงตัวออกมาเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ความจริง เกือบจะเหมือนว่าคนเหล่านั้นมิได้อยู่ในสถานที่นี้ตั้งแต่แรก …
ม่านแห่งราตรีมืดมิดร่วงโรย พวกมันปกปิดโศกอนาถกรรม และเหตการณ์นองเลือด …
บรรยากาศเริ่มสงบ และเงียบอีกครั้ง
จวนสกุลจวิน
แม้นเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ตอนนี้ห้องหนังสือของปู่จวินยังคงสว่างอยู่
จวินโม่เซี่ยและคนของเขากำลังกลับถึงบ้านอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเข้ากับแสงไฟนั้น และรู้สึกสุนทรีย์ขึ้นในใจ ดังนั้น เขาจึงขับร้องขึ้นในใจ
ค่ำคืนเงียบสงบ ดาราแจ่มจรัสบนฟากฟ้า แสงยังคงส่องสว่างจากหน้าต่างของห้องปู่เบื้องบน … เขาทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษาคนคว้าสิ่งสำคัญ ร่างสูงใหญ่ส่องสะท้อนในใจข้า …
คุณชายน้อยจวิน มีวิธีการจักมีความสุขในตัวเอง เขาไปถึงยังห้อง และหลับไป
สองกลุ่มคนของเขาพักผ่อน และฟื้นฟู รักษา นอกจาก หน้าไม้สามร้อยห้าสิบ และ คันศรเจ็ดพัน พวกเขายังพบเงิน สองถึงสามหมื่นตำลึงเงิน จวินโม่เซี่ย แบ่งให้กับคนกว่าสองร้อยของเขา ผู้ที่บาดเจ็บสาหัสจักได้รับเพิ่ม ห้าสิบตำลึง สิ่งนี้ทำให้ทุกผู้มีความสุข และพอใจ ยาของเขารักษาบาดแผลและการบาดเจ็บของคนของเขาอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากคุณชายน้อยจวินมีฝีมือการปรุงยาสูงส่ง กองกำลังของเขาได้รับการบาดเจ็บมากมายในการต่อสู้ พวกเขาบางคนได้รับการบาดเจ็บที่รุนแรง และ ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงอย่างมากที่อาจทำให้ถึงตายได้ อย่างไรก็ตาม การบาดเจ็บที่รุนแรงนี้จักเกินกว่าที่ ยาของคุณชายน้อยจวินจักสามารถจัดการได้ ? เห็นได้ชัดว่ามันได้รับการรักษาให้หายภายในเวลารวดเร็ว
องค์จักรพรรดิ สูญเสียงทหารของพระองค์ เงิน และ หน้าไม้ จวินโม่เซี่ยสั่งให้คนของเขาใช้วิธีการอื่นเพื่อป้องกันและโจมตีศัตรู หน้าไม้เหล่านี้ใช้เพียงเพื่อปกป้องตัวเอง
อย่างไรก็ตาม พวกเราจักต้องกำหราบเถียรฟาก่อน พวกเรามิจำเป็นต้องกลัวว่าพวกเราจักถูกพบหากเราใช้หน้าไม้เหล่านี้ในเถียรฟา
จวินโม่เซี่ยเพิ่งจักนั่งลง ผู้เฒ่าผัง นำกองกำลังของเขากลับยังจวนสกุลจวินอย่างเงียบเฉียบ ใบหน้าของพวกเขาเขียว และริมฝีปากซีดเผือก กองกำลังของพวกเขาอ่อนเพลีย
ภายในห้องสมุด
” นายท่าน … พวกเรากลับมาแล้ว ลูกน้องของท่านอาเจียนจนเกือบตาย …. ”
ผู้อาวุโสผังสูดอากาศอย่างยากลำบาก
” เกิดอันใดขึ้น ? “
ปู่จวินงุนงงยิ่งนัก
” เป็นคุณชายน้อยจวิน กลยุทธ์ของเขา … โหดร้ายยิ่งนัก … อุแหวะ ! ”
ผู้อาวุโสผังเอ่ยต่อไปแม้นเขาจักรู้สึกคลื่นไส้
” โหดร้าย ? เรื่องอันใดกัน ? บอกข้ามาอย่างละเอียด ”
ปู่จวินยิ่งงุนงงมากขึ้น ผู้เฒ่าผังมาจากสกุลนักรบ อยู่เคียงข้างเขามานานหลายสิบปี ใช้เวลามากมายในสมรภูมิกับจวินวูอี้ ความจริงแล้ว ไม่เป็นการเกินจริงเลยหากจักบอกว่าเขาผ่านมานับร้อนสมรภูมิ ความโหดร้ายอันใดที่เขายังไม่เคยพบเห็น ? เขาสังหารนักรบมานับร้อยเป็นอย่างน้อย และ เป็นแค่เพียงการประมาณเท่านั้น เช่นนั้น อันใดที่ทำให้เขามีอาการเช่นนี้ได้ ?
” อุแหวะ ! ”
ผู้เฒ่าผังผะอืดผอมขณะที่เขาพยายามเอ่ย แต่ในที่สุดเขาก็สามารถ
” นายท่าน ข้าเห็นคนถูกสังหาร ข้าสังหารคนมามากาย แต่ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดทารุณคนอื่นจนตายเช่นนี้… และจากนั้นเอามือแทงเข้าไปจนทะลุด้านหลังพร้อมด้วยหัวใจที่อยู่ในกำมือ และ สำหรับคนอีกสอง ศพของพวกเขามิอาจเรียกได้ว่าเป็น ศพของคน พวกเขาเป็นเหมือนดั่งเนื้อต้มยิ่งนัก โดยไม่จำเป็นต้องเอาไปสับอีก ท่านยังต้องการให้ข้าอธิบายรายละเอียดเพิ่มหรือไม่ …? “
” อุแหวะ ! อย่าพูดถึงมัน … เงียบซะ และรีบออกไปอาเจียนข้างนอก ! ไปให้พ้น ! อุแหวะ ! ”
เขายังมิทันเอ่ยจบ แต่ปู่จวินก็สามารถจินตนาการถึงฉากนั้นได้ เขามิอาจกลั่นการอยากอาเจียนได้
แผนการช่วยร้ายของ ผู้เฒ่าผังได้รับชัย เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย และหายออกไปราวกับหมอกควัน
มิใช่การดีหากต้องเอาเจียนเพียงลำพัง ทุกคนควรอาเจียนด้วยกัน ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม นี่คือความยุติธรรมและเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม ปู่จวินก็ยังเป็นขุนพลอันสูงส่ง เขาเพียงอยากอาเจียนชั่วคราวเท่านั้น จากนั้น เขาก็กลับเป็นปกติ ความจริง เขาอดยิ้มขณะพึมพัมกับตัวเองไม่ได้
” ปิศาจน้อยผู้นี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจ ! เป็นพิษนั่นจริงๆ … ข้ามิอาจบอกได้เลยว่าเขามีไพ่ตายซ่อนไว้มากมายเท่าไหร่ ! “
อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมือผู้หนึ่งในสกุลจวิน หดหู่อย่างมาก
ยอดฝีมือผู้นี้คือผู้เดียวกับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำไปยังป่าเถียรฟา จวินวูอี้ เขานำคนไปยัง ศาลานีฉางด้วยตัวเอง เพื่อจับกุมและสังหารยี่เอ๋อ และคนอื่นๆ ท้ายที่สุด หน้าไม้ก็มาถึง และภารกิจของพวกเขาก็เริ่มขึ้น ดังนั้น ยี่เอ๋อ และคนอื่นๆก็เป็นประโยชน์ได้นานขึ้น
นี่คือส่วนหนึ่งของแผนการจวินโม่เซี่ย
อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่นั้นแลพบว่ามันว่าเปล่า พวกเขาสอบถามและพบว่า ยี่เอ๋อ หายไปในตอนรุ่งอรุณพร้อมคนอื่นๆ และนางหายไปโดยไร้ร่องรอยใด
จวินวูอี้ผิดหวังอย่างมาก
เขาใช้ภูเขาทุบไข่ แม้ว่าหินธรรมดาก็สามารถใช้ทุบไข่ได้ …แต่เขาก็ล้มเหลว เขาเศร้าหมอง … เศร้าหมองอย่างแท้จริง
ข่าวรั่วไหลไปได้อย่างไร … ?
คำถามนี้ทำให้เขางุนงง
จวินโม่เซี่ยยืนอยู่รอบนอกในการรวมตัวกันของเช้าวันรุ่งขึ้น
เขาแยกออกไปพร้อมทหารในช่วงบ่าย ดังนั้น จวินโม่เซี่ยจึงต้องแข่งกับเวลา
” เจ้าอ้วน ข้าจักตามไปทีหลัง ดูแลหอชนชั้นสูงให้ดี แบกรับความรับผิดชอบเหล่านั้นแทนข้า อีกทั้งข้าจักจัดหายาบางตัวให้เจ้า จัดการประมูลสำหรับพวกมันเป็นช่วงๆ และ ประมูลมันในจำนวนนน้อยๆ ทำให้แน่ใจว่าเจ้าปกป้องความลับของข้อมูล และสำหรับเงินที่เจ้าได้จากการประมูล อย่าลังเลที่จักใช้มันเพื่อส่วนผสมหายาก เจ้าไม่จำเป็นต้องพยายามหากส่วนผสมสามัญอีกแล้ว และ อย่าจัดหาสมุนไพรด้วยวิธีที่เจ้าใช้ก่อนหน้านี้อีก ! ”
จวินโม่เซี่ยมอบขวด ยาฟื้นฟูหลากหลาย ยาหยินขาดหาย และ ยาหยางลึกลับเพื่อให้นำไปหากำไร เขาจักมิขาย ยากทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ยาสามตัวนี้เพียงพอจักทำให้เกิดการตื่นตาเป็นวงกว้าง
” หยางมู่น้อย เจ้ามิจำเป็นต้องมีส่วนในการรายงานและทำงานวันต่อวันของหอชนชั้นสูง อย่างไรก็ตาม หากเชื้อพระวงศ์บางคนมายื่นข้อเสนอบางอย่าง ไม่ว่ามันจักมีเหตุผล หรือมากมายหรือไม่ เจ้าจักจัดการมันทั้งหมด ท้ายที่สุด ตัวถังหยวนจักไม่สะดวกในเรื่องนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
” แต่ .. แต่ … ”
หยางมู่น้อยลังเลเล็กน้อย
” ไม่แต่ ! มันคือการตัดสินใจไปแล้ว ! ”
จวินโม่เซี่ยตัดบท จากนั้น เขาเอ่ยส่วนสุดท้าย
” รีบกลับไปหาพ่อของเจ้า พระเชษฐา เพื่อขอคำแนะนำหากเจ้ามิสามารถรับมือกับมันได้อีก อืม ! เรื่องนี้ถูกตัดสินใจไปแล้ว พวกเรามิต้องพูดถึงมันอีก ! ”
การจัดสินใจนั้นชัดเจน เช่นนั้น หยางมู่ จึงหมดสิ้นความกังวลในใจ จากนั้น จวินโม่เซี่ยหับไปหา ถังหยวน
” มอบกิจธุระทั้งหมดเกี่ยวกับราชวงศ์ให้แก่หยางมู่ ไม่ว่าเราจักต้องสูญเสียเท่าใหร่ก็ตาม ความจริง ข้ามิสนใจว่าเราต้องเสียไปเท่าไหร่ ชัดเจนหรือไม่ ? “
” ไม่ชัดเจน เหตุใดเจ้าทำเช่นนี้ ? หากมีบางคนจากราชวงศ์มา และเจ้าปิศาจน้อยผู้นี้มิอาจรับมือได้ … นั้นมิใช่ว่าเราจักโชคร้ายอย่างนั้นหรือ ? “
สีหน้าของถังหยวนคัดค้าน เขาไม่เข้าใจการตัดสินใจของจวินโม่เซี่ย
” ข้ามิได้ขอให้เจ้าเข้าใจ ข้าเพียงขอให้เจ้าทิ้งมันไป ! ”
จวินโม่เซี่ยจ้องมองด้วยโทสะ ครอบครัวของ พระเชษฐามิได้เข้าร่วม พิธีฉลองนักปราชญ์ทองคำ อย่างไรด็ตาม พระองค์ก็มิได้กระตุ้นการกระทำอย่างตั้งใจหรือมิตั้งใจของจวินโม่เซี่ยเลย ทุกสิ่งดูเหมือนเป็นเช่นนั้น
อาจบอกได้ว่า พระเชษฐาสามารถสงบปากได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนั้นไม่สามารถใช้การได้สำหรับจวินโม่เซี่ย
แล้ว เจ้าจักเงียบ ? ดี ! ข้าจักเติมเชื้อไฟ !
เจ้าคิดหรือว่าเจ้าแค่วางเงินลงบนโต๊ะแล้วซื้อหุ้นได้ … และจากนั้นคุณชายน้อยผู้นี้จักทำเงินให้เจ้า ? มันจักง่ายอย่างนั้นได้อย่างไร ? อะไรที่ทำให้ข้ามอบเงินมากมายเช่นนั้นให้แก่เจ้าได้ หากข้ามิอาจผูกครอบครัวของเจ้ากับรถม้าสกุลจวินได้ ?
นี่มิได้เปิดเผย และนี่ถือได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากเด็ก อย่างไรก็ตาม ข้ามอบจักมอบจักรพรรดิทั้งหมดให้แก่เจ้าหากลูกชายเจ้าสามารถทำได้ดี !
ผู้ใดจักมิพึงพอใจในสิ่งนั้นกัน ?
ถังหยวนยังคงมิเข้าใจในเจตนาของเขา อย่างไรก็ตาม เขายังคงเงียบปากเมื่อเห็นว่าจวินโม่เซี่ยมีโทสะ เช่นนั้น เขาจึงเพียงแสดงความเห็นด้วย ในความเป็นจริง เขาเองมิได้คิดถึงมัน … เมื่อใดกันที่สหายแต่เด็กของเขา ที่เป็นพวกเสเพล กลายมาเป็นจอมเผด็จการและอยู่เนือเขา ?
” ซ้งฉาง เจ้าต้องหมักสุราระหว่างเวลานี้ และมอบมันให้สกุลของเรา เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? เจ้าจักได้รับผิดชอบดูแล หอชนชั้นสูง ในช่วงค่ำคืน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเหตุร้ายใดเกิดขึ้น ! ”
” ข้าเข้าใจนายท่าน ”
” ไฮ่เฉินเฟิง ข้าต้องการให้เจ้ารวมพวกใต้ดินให้เป็นหนึ่งในระวหว่างที่ข้าไม่อยู่ จำนวนนักสู้ที่เจ้าสามารถรวบรวมมาได้นั้นไม่สำคัญสำหรับข้า แต่ข้าอยากให้เจ้ารวบรวมสายข่าวให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? อย่างเช่น ขอทานบนถนนในนครหลวง ผู้คนในร้านอาหาร ชายเบริการสุรา แมงดาในซ่อง คนเฝ้าประตูของสกุลทรงอำนาจ และอื่นๆ …. ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ซ่อนอยู่ของพวกเขา ค้นหาข่าวกรองที่มีค่า และบันทึกไว้ ข่าวกรอง คือความสำคัญอันดับหนึ่งที่นี่ เจ้าสามารถจัดการกับปัญหาเรื่องกำลังทหารได้เมื่อเจ้ามีข่าวกรองที่ดี เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
แสงเยือกเย็นเปล่งประกายในดวงตาจวินโม่เซี่ย เขาเอ่ยทั้งหมดออกมาในคราวเดียว มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการควบคุมก๊ก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ ไฮ่เฉินเฟิง จักต้องเข้าใจอย่างเหมาะสม
” ข้าเข้าใจ คุณชายน้อยสบายใจได้ ข้า ไฮ่เฉินเฟิง จะรวมก๊กแห่งนครเทียนเชียงเป็นหนึ่ง และสร้างสายข่าวอย่างรัดกุม ”
ไฮ่เฉินเฟิงเอ่ยเคร่งขรึม เขาเข้าใจความคิดของจวินโม่เซี่ยอย่างชัดเจน
” อืม ! ดี ตอนนี้ เรามาว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้มีความสำคัญสูงสุด มันเป็นสิ่งที่ข้ามิอาจผ่อนปรนได้ และนั้นคือความปลอดภัยของสกุลจวิน ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉางเจ้าทั้งสองจักต้องดูแลเรื่องนี้ ข้าจะเอ่ยแค่สั้นๆ ข้ามิต้องการให้เกิดเหจุอันใดขึ้น ไม่ว่าอันใดก็ตาม ! ห้ามมีแม้แต่น้อย ! ไม่ว่าสถานการณ์ใด! เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?! “
” สบายใจได้ นายท่าน ! ผู้ใดประสงค์ก่อกวนสกุลจวินจักต้องข้าวศพพวกเราไปก่อน ! ” ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉางเอ่ยพร้อมเพียง
” อืม ! เช่นนั้น ข้าก็สบายใจ !
จวินโม่เซี่ยพยักหน้าเบาๆ จากนั้นเขาเอาขวดอีกใบออกมา
” ในนี้มียาสามเม็ดสำหรับเจ้าแต่ละคน กินมัน ยานี้จักช่วยเจ้าเพิ่มขั้นการบำเพ็ญปราณเชวียน สิบปี ! ถังหยวน เจ้าเป็นผู้ช่วย ไฮ่เฉินเฟิง ในเรื่องนี้ได้ และ อีกหนึ่งสิ่ง เรื่องนี้ต้องเป็นความลับสูงสุด พวกเจ้าทุกคนห้ามแพร่งพรายออกภายนอก ! ”
คนทั้งสามตอบกลับพร้อมเพรียงด้วยความเลื่อมใสในดวงตา
สามารถเพิ่มการบำเพ็ญปราณเชวียนได้สิบปี !
ปกติแล้วถังหยวนไม่สนใจเรื่องความแข็งแกร่งและการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เขาก็มิได้โง่เง่ามากจนมิสนใจเรื่องนี้ และตื่นเต้นกับมัน ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉาง ทั้งสองเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้อย่างล้ำลึก
” เจ้าทั้งหมดออกไปก่อน เร็วสิ ข้าจักไปสนามรบตอนบ่าย ไม่จำเป็นต้องเห็นข้าออกไป ! ”
จวินโม่เซี่ยสบัดมือ ดวงตาของเขาเผยถึงบางสิ่งแปลกประหลาดขณะเอ่ยต่อเชื่องช้า
” การเดินทางครั้งนี้หากทุกสิ่งเป็นไปได้อย่างราบรื่น … เมื่อเรากลับมา … ฮี่ฮี่ …. ”
เขาหัวเราะด้วยทีท่าล้ำลึก ดวงตาเปล่งประหายด้วยแสงอันเยือกเย็นคล้ายดั่งแสงที่สะท้อนออกมาจากขอบกระบี่
ผู้ที่เห็นสิ่งนี้มิอาจกลั้นมิให้ตัวสั่นได้
คุณชายน้อยมีแผนการอันใด ? และ สีหน้าของเขาน่าหวาดกลัวเช่นนั้นได้อย่างไร ?
พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปทางตะวันตกเล็กน้อย กลองรบลั่นเลื่อนสะเทือนปฐพี เสียงสะท้อนก้องสะท้อนสวรรค์
ส่วนใหญ่ขุนพลเลือกเวลายามเช้าเพื่อไปยังสมรภูมิพร้อมดวงตะวัน พวกเขาถือเอาดวงตะวันเป็นสิริ อย่างไรก็ตาม คำสาบบานของทหารถูกนำขึ้นเวลาเที่ยงวันในครั้งนี้ สิ่งนี้ต่างออกไปจากปกติ และมิใช่เรื่องดีที่จักพูดในเรื่องนี้ มันจักดีได้อย่างไรหากตะวันเคลื่อนไปตะวันตกรวดเร็ว ? แต่ องค์จักรพรรดิแห่งเทียนเชียงได้ตัดสินพระทัยแล้ว และไม่มีผู้ใดอาจหาญสงสัยถึงเหตุผล
สายลมเย็นยะเยือกแห่ง สาทรฤดูพัดขึ้นเหนือผืนแผ่นดิน บุรุษจักมีอันใดให้เสียใจหากเขาได้ทำสำเร็จ ?
ให้กองกำลังอันงดงามของทหารและม้าติดตามข้ามาอย่างกระตือรือล้น ! ไปข้างหน้าอย่างไม่มีข้อยกเว้น ไม่สนใจแม้นความเป็นตาย !
ภูมิแห่งปิติตะโกนก้องราวมหาคลื่น ท่ามกลางเสียงรื่นเริงนี้จวินวูอี้นั่งอยู่บนเก้าอี้เลื่อน และหันไปเผชิญหน้าองค์จักรพรรดิ เขาประมือ
” พระองค์ จวินวูอี้ขุนนางผู้ต่ำต้อยขอลาพระองค์เพื่อนำทัพ ”
” ข้าให้เจ้าไป ”
สีหน้าองค์จักรพรรดิแดงขณะ เพลงสรรค์เสริญดังขึ้น
” บรรเลงดนตรี ส่งเหล่าผู้กล้าสู่สมอรภูมิ ! ”
ปู่ ตู่กู้ซ้งเฮง เดินขึ้นหน้า และประกาศลั่นและคำรามสูงส่ง
กลองรบสะท้อนก้องราวสายน้ำหลั่งเนื่องด้วยบรรเลงอย่างกระตือรือล้น
ทหารม้าแปดนาย สวมชุดพร้อมรบส่องประกายพร้อมด้วยธงบนไม้เท้า พวกเขานำม้าทั้งแปดไป
สายลม สาทรฤดูอันหนาวเหน็บพัดผ่านธง และทำให้มันยกขึ้น ธงนั้นเป็นสีเลือด และมีกระบี่หนึ่งเล่ม ” จวิน ”
ดวงตาของทหารผู้มีประสบการณ์มีน้ำตาคลอ
ธงศึกแห่งสกุลจวิน
ธงนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะสูงส่ง ! ธงนี้เป็นป้ายแห่งเลือดและเหล็ก ! ในที่สุดมันถูกชักขึ้นอีกครั้งหลังหายไปนับสิบปี ! แต่ มันก็ยังทำให้จิตวิญญาญของทุกผู้ตื่นเต้น เหมือนดั่งที่ผ่านมา ! ยังคงโบกสะบัดในสายลม ดั่งเช่นแต่ก่อน
เสียงกีบเท้าเคลื่อนที่ออกมาอย่างเป็นระเบียบ ก้องสะท้อนขึ้นขณะที่ทหารม้าแต่ละกองซึ่งสวมเกราะที่เปล่งประกายเคลื่อนที่จัดขบวน และค่อยๆก่อตัวเป็นดั่งกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดอย่างเชื่องช้า ขณะที่พวกเขาควบม้าท่ามกลางสายลม
กระบี่ชี้ตรงไปยัง อาณัติแห่งสวรรค์ กระบี่ชี้ไปยัง เถียรฟา วีรบุรุษแห่งร้อยสมรภูมิได้เคลื่อนพลแล้ว และเลือดของวีรบุรุษยังมิได้เย็นชา
เถียรฟา ! ข้ามาแล้ว !