Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 340
พระเจ้า ! ผลไม้นั้นดูดกลืนพิษมากมาย ! ข้ามั่นใจว่าแม้แต่ยอดฝีมือเทพเชวียนก็จักต้องตายหากกินผลไม้นี้เข้าไป !
สีของผลไม้นั้นเริ่มสดขึ้นเมื่อดูกลืนพิษเข้าไป มันเริ่มขาว ขาวบริสุทธิ์ แต่กระนั้น มันก็ยังคงดูกลืนพิษเข้าไปด้วยความตะกละตะกลาม
หรือว่าจะเป็น … ผลไม้พันภูติหมื่นพิษ … ?
จวินโม่เซี่ยตกตะลึง ความคิดของเขาปั่นป่วนและดวงตาของเขาเกือบลุดออกจากเบ้า
ข้าไม่คาดว่าจะบังเอิญเจอสิ่งเช่นนี้ในป่าเทียนฟา ! ข้าได้พบกับผลไม้ที่ชั่วร้ายจริงๆ ! ยิ่งกว่านั้น ผลไม้นี้เกือบจะสุกงอมแล้ว !
ชื่อมันควรจะเป็น ผลไม้พันภูติหมื่นพิษ เป็นผลไม้ที่มีพิษสูงส่งเกินจินตนาการ จวินโม่เซี่ยเชื่อว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่สามารถต้านทานพิษของมันได้
ข้าคาดว่าแม้แต่ผู้เป็นตำนาน และผู้ที่เป็นอมตะก็มิอาจทนต่อพิษที่รุนแรงและน่าอัศจรรย์ของผลไม้นี้ได้
ผลไม้นี้ต้องการพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยพิษที่เข้มข้นในการเติบโต ความจริง มันต้องการของเหลวที่มีพิษสูงส่งเพื่อให้น้ำในตอนแรก นับประสาอะไรกับตอนที่มันโต แม้แต่อากาศก็ยังต้องเต็มไปด้วยพิษเพื่อให้พืชชนิดนี้มีโอกาสที่จะเติบโตได้ อีกข้อที่สำคัญคือต้องใช้พิษเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้มันเติบโต มิเช่นนั้น … มันอาจจะเหี่ยวเฉาได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น การเติบโตของพืชนี้สั้นมากนัก และ มันอาจจะสุกเต็มที่ภายในเวลาอันสั้นเพียงหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงต้องการดูซึมพิษปริมาณมหาศาลในช่วงเวลานั้นด้วย แม้จะมีพิษนับหมื่นชนิดสะสมอยู่ในพื้นที่นี้ก็ถูกดูดซึมเข้าไปในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี ความจริง สิ่งต่างๆที่มีพิษร้ายแรงก่อนที่จะถูกพืชชนิดนี้ดูดกลืน … มันจะกลายเป็กองขยะในภายหลัง
นอกจากนี้ ผลไม้นี้ก็มิอาจหยุดสุกได้ เมื่อมันเริ่มแก่งอม ความจริง มันจักเหี่ยวเฉาหากทำเช่นนั้น …
ปกติแล้ว ผลไม้จักเป็นสีขาวก่อน จากนั้นเป็นสีชมพู ฟ้า เขียว เหลือง ม่วง สีเงิน และในที่สุด …เป็นสีม่วงทองในขณะที่มันกำลังสุก
แต่กระนั้น ผลไม้พันภูติหมื่นพิษ ก็จักไม่มีพิษอีกต่อไปเมื่อมันเปลี่ยนสีครั้งสุดท้าย ความจริง มันจักต้องรักษาพิษได้ทุกชนิดบนโลก ยิ่งไปกว่านั้น มันสามารถเพิ่ม วรยุทธของคนได้นระดับตำนาน …
การเปลี่ยนแปลที่อัศจรรย์นี้ค่อนข้างสมเหตุผล ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ไร้ขีดจำกัด และ ทุกสิ่งที่ไปถึงจุดต่ำสุดมันจักกลับกลายเป็นเป็นจุดสูงสุด เนื่องจากทุกสิ่งจักกลับกลายเป็นฝั่งตรงข้ามเมื่อมันไปถุงจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้น จึงมีเพียงความสุขหลังจากมีเรื่องเศร้าแสนสาหัส ดังนั้น ผลไม้พันภูตหมื่นพิษนี้จักกลายเป็นยารักษาพิษชั้นเลิศ …
แต่กระนั้น ผลไม้พันภูติหมื่นพิษ ก็ไม่สามารถกินเข้าไปได้โดยตรงเมื่อมันเป็นสีม่วงทอง และแม้แต่ยอดฝีมือเชวียนผู้ทรงพลังก็มิอาจอดทนได้หากพวกเขากินเข้าไปเนื่องจากพลังของพืชสมุนไพรตอนนี้ มหาศาลกว่าการกระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์มากมายนัก
ความรู้ด้านยาของ เจดีย์หงส์จวินบอกว่า ผลไม้พันภูติหมื่นพิษอยู่ในอันดับที่หกในบรรดายาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับ ยาเก้าชั้นฟ้า ตามชื่อนั้น จวินโม่เซี่ยสามารถสกัดยานี้ได้เมื่อเขาบรรลุไปถึงชั้นที่ห้าของ เจดีย์หงส์จวิน
เจดีย์หงส์จวิน ชั้นที่หก เจ็ด และแปด ก็สามารถใช้ ผลไม้พันภูติหมื่นพิษ เพื่อปรุงยาได้หากต้องการ แต่กระนั้น บางส่วนของผลไม้นี้ก็ไร้ประโยชน์ในชั้นเหล่านั้นหลังจากการปรุยาเสร็จสิ้น และ นั้นเท่ากับการทำให้วัตถุดิบล้ำค่าสูญเปล่า
พืชชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็น พืชที่ให้ผลทางยางชั้นเลิศ หากมันไม่ไวต่อปฏิกริยาเกินไป ดังนั้น มันจึงต้องถูกเก็บไว้ใน กล่องบรรจุเชวียน เมื่อมันสุกงอม … หากไม่ได้ใช้การมันทันทีหลังจากนั้น ความจริง แม้แต่กล่องหยกขาวชั้นเลิศก็ยังถูกกัดกร่อนหากใช้เก็บพืชนี้ไว้ข้างใน
ผลไม้พันภูตหมื่นพิษจักเหี่ยวเฉาภายในระยะเวลาหนึ่งวันหากมันไม่ถูกเก็บไว้ในสิ่งที่เหมาะสม กิ่งก้านของมันจะลงไปใต้ดิน และพื้นที่ในระยะร้อยลี้รอบๆจักกลายเป็นดินแดนรกร้างที่แห้งแล้ง ยิ่งกว่านั้น พลังของดินแดนแห่งนั้นก็จักไม่ฟื้นคืนกลับมาแม้นเวลาจักผ่านไปร้อยปี ….
สำหรับวิธีการนำไปกิน … นั้นง่ายมาก ผู้นั้นเพียงแค่กินเข้าไปตามระดับการบ่มเพาะของตนเท่านั้น อย่างเช่น ยอดฝีมือเทพเชวียนก็จะกินน้ำของมันเพียงหนึ่งหยดเท่านั้น น้ำผลไม้เพียงหยดเดียวดสามารถพัฒนาวรยุทธได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม คนผู้นั้นจักตายหากหิวกระหายและกินเข้าไปเกินกว่าที่กำหนดเนื่องจากพวกเขาจักไม่สามารถรับมือกับพลังมหาศาลของผลไม้นี้ได้ และ ไม่มีช่องว่างสำหรับการผิดพลาดในเรื่องนี้ …
เช่นนั้น ผลไม้นี้จึงเป็นที่ต้องการของยอดฝีมืออย่างมาก พวกเขาเกลียดมัน และ พวกเขารักมัน แต่ มันน่าปวดหัวเนื่องจากพวกเขาต้องอดทนต่อความอยากร่างของพวกเขาจักระเบิดและตายหากพวกเขาไม่สามารถต้ายทานความอยากนี้ได้ ….
ความจริงแล้ว ความตายก็มิได้เป็นจุดจบของความทรมาณของพวกเขา แม้แต่กระดูกของพวกเขาก็ไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน และหายไปอย่างไร้ร่องรอย และ มันก็จะหยุดอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีโอกาสได้กินผลไม้นี้จักถือได้ว่าเป็นผู้ไร้เทียมทานจริงหรือ ? ผู้คนส่วนใหญ่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับพลังมหาศาลของผลไม้ และร่างก็จะระเบิดจนตาย …
เช่นนั้น ก็สามารถจินตนาการถึงความรุนแรงของผลนั้นได้
ยิ่งกว่านั้น คุณสมบัติในการแก้พิษของผลไม้ชนิดนี้ ยังห่างไกลจากสถานการณ์ที่สามารถช่วยคนให้รอดตายได้อย่างหวุดหวิด
จวินโม่เซี่ยไม่เคยจินตนาการว่าเขาเข้ามาในป่าเถียรฟา และพบเข้ากับจิตวิญญาณในตำนานเช่นนี้หลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นหมือนกับความโชคร้าย และ จวินโม่เซี่ยรู้สึกโศกเศร้าไร้สิ้นสุด เพราะผลไม้นี้ได้กลายเป็นสีขาวแล้ว …
หรือพูดอีกอย่าง … ผลไม้ได้อยู่ในจุดที่มันเริ่มสุกแล้ว
พิษหลายชนิดต้องใช้บำรุงผลไม้เพื่อให้มันมาถึงจุดนี้ ดังนั้น ความเป็นพิษในอากาศก็ใกล้จะลดลงเต็มที เช่นนั้น มันจึงต้องเปลี่ยนอีกแปดสีก่อนที่มันจะสุกงอม
การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้ายนี้ต้องใช้พิษมหาศาลเพื่อบำรุงมัน
เห็นได้ชัดว่าพิษที่มีอยู่นั้นมิได้มากมายนัก หรือเอ่ยอีกอย่าง …. เหตุการนี้เกิดขึ้นหนึ่งครั้งในพันปีของผลไม้พันภูตหมื่นพิษนี้จะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
มันจักกลายเป็นผลไม้แห่งจิตวิญญาณหลังจากที่สุกแล้ว แต่มันจักกลายเป็นพิษที่รุนแรงที่สุดในสามโลกก่อนที่มันจะสุกงอม
ตอนนี้จักใช้การอะไรได้ ?
จวินโม่เซี่ยกระทืบเท้า และตบอกตัวเองด้วยความเสียใจ
ข้าจักได้เป็นผู้ครอบครองสิ่งนี้หากข้ารู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ และข้าจักปล้นเงินทำหมดที่จำเป็นเพื่อซื้อพิษมาช่วยในการเติบโตนี้ โอสถสวรรค์ชั้นเลิศอยู่ตรงหน้าข้า …!
อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยไม่รู้ว่าผลไม้นี้มีอีกชื่อเรียก อีกชื่อหนึ่งในภาษาของ ราชันอสูรแห่งเทียนฟา
ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ !
ไม่รู้ได้ว่ามีอสูรเชวียนดุร้ายและมีพิษมากมายเท่าใหร่ที่ช่วยให้ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนฟาเติบโต
ผลไม้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ และเรืองแสง ความจริง ผิวชั้นนอกเริ่มมีสีชมพูอ่อนๆปรากฏขึ้นบางส่วนแล้ว การเติบโตของ ผลไม้พันภูตหมื่นพิษ นั้นเหมือนกับวงล้อประวัติศาสตร์ มันไม่เคยหยุดเมื่อเริ่มขึ้นแล้ว
จวินโม่เซี่ยเกือบกระอักเลือด
ชีวิตของเขาเศร้าสลดอยางมากในทันที ไม่มีอะไรจักโศกเศร้าได้เกินกว่าการได้เห็นสมบัติล้ำค่าของโลกที่อยู่แค่เอื้อม … แต่ทำได้เพียงแค่เฝ้าดูเท่านั้น ! และ ความทุกข์ของเขาไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เขาถูกบีบให้มองมันกลายเป็นขยะอย่างไร้หนทาง …
ข้าจักใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของข้า … สังเวยทุกสิ่งที่ข้ามี … แม้แต่ขายเลือดของข้าเพื่อให้มีเงินเพียงพอซื้อพิษมาทำให้ผลไม้นี้คงอยู่ต่อไป หากสวรรค์ให้ข้ามีชีวิตอีกครั้ง !
โอ้ว สวรรค์ ! โอ้ แผ่นดินแม่ ! เหตุใดท่านถึงให้ข้าได้เห็นผลไม้นี้ถูกทำลาย …. ?! มันจักดีกว่าหากข้าไม่ได้เห็นมัน !
ปล่อยให้ข้าตายเถิด !
จวินโม่เซี่ยโศกเศร้าอย่างมากเป็นเวลานานในขณะที่หญิงสาวชุดเขียวส่งเสียงขู่ฟ่อ ตามมาด้วยเสียงขู่ฟ่อจากพุ่มไม่รอบๆ จากนั้น กลิ่นเหม็น และกลิ่นไออันแปลกประหลาด พุ่งพล่านขึ้น เลือดของจวินโม่เซี่ยเย็นยะเยือก และ ขนหัวของเขาอดที่จะลุกไม่ได้
หากมองไปรอบๆ จะเห็นได้ว่า ทั่วทั้งพื้นที่นั้น กลายเป็นทะเลแห่งพิษ
งูพิษทุกชนิด ตะขาบเล็ก แมงป่อง คางคกสามลาย งูสี่สาย ทุกสิ่งมีพิษที่จวินโม่เซี่ยรู้จัก มาอยู่ที่นี่อย่าหนาแน่น อย่างไรก็ตาม จากนั้นพวกมันจัดเรียงตัวเองอย่างเป็นระเบียบ
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น
ท้องฟ้าสั่นสะเทือนด้วยเสียงอึกทึก …
กระเรียนพิษ ค้างคาวเหยี่ยว อินทรีเจ็ดสี … อสูรเวียนบินได้มีพิษทุกชนิดจำนวนมากก็มาถึง …
จวินโม่เซี่ยตัวสั่น ….
เช่นนั้น ผลไม้พันภูติหมื่นพิษนี้ถูกปลูกด้วยเทียนฟาอย่างแท้จริง ! ข้าต้องแสดงความเคารพต่อพวกเขา ! พวกเขารักษาพิษหลายร้อยปีเพื่อผลไม้นี่หรือ ?
พวกเขาทุ่มเทแรงกายและใจไปมากมายเท่าไหร่ ?!
นี่คือความกล้าหาญอย่างแท้จริง !
หัวใจของจวินโม่เซี่ยสงบลงด้วยความเข้าใจนี้ จากนั้นเขาเริ่มให้กำลังใจ
ดูเหมือนว่าการสุกของ ผลไม้พันภูตหมื่นพิษนั้นมิใช่ปัญหา ! เช่นนั้น ข้าจักนั่งรอ
สำหรับ กระเรียนคอยาว และ หมีใหญ่….
ข้าจักรอจนเรื่องนี้จบลง ศึกชี้ชะตานั้นยังคงเหลือเวลาวอีกสามวัน เช่นนั้นยังคงมีเวลาอีกนาน แต่ หญิงสาวชุดเขียวผู้นี้คือใคร ? นางเป็นราชัญอสูรเชวียนอย่างนั้นหรือ ? อาจจะเป็นคนที่ดูแลอสูรเชวียนพิษ ? แต่ นี่มันอุกอาจ ! กระเรียนคอยาว และหมีใหญ่มีร่างกายที่น่ารังเกียจ ! เช่นนั้น นางจักดูดีเช่นนี้ได้อย่างไร ? น่าตกตะลึงยิ่งนัก !
ความเป็นพิษของพื้นที่นี้เริ่มต่ำลงอย่างมาก และ อากาศเริ่มบริสุทธิ์ขึ้นในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม หญิงสาวชุดเขียวผิวปาก และบินขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงสามสิบเมตรในทันที จากนั้น อสูรเชวียนบนท้องฟ้า ถลาลงเป็นรูปร่าง และพวกมันอ้าปากพ่นพิษออกมา พิษนี้หยดลงไปบนพื้นรอบๆ ผลไม้พันภูตหมื่นพิษ พิษของพวกมันก่อให้เกิดหมอกหนากลิ่นฉุนอย่างมาก
อสูรเชวียนดูเหมือนท้อในหลังจากพวกมันพ่นพิษทั้งหมดไป ความจริง ดูราวกับสุขภาพของพวกเขาโทรมลง พวกเขาไม่แม้จะฟ้อนฟูแม้เวลาผ่านไปหลายปี ในที่สุด นี่คือแก่นแท้ของชีวิต … ที่พวกเขารักษาไว้
อสูวเชวียนที่พ่นพิษออกมาหยุดลง จากนั้น พวกเขากระพือปีก และบินหายไปในขอบฟ้าฝั่งตรงข้าม พวกเขาส่งเสียงหยาบคาดขณะที่จากไป ราวกับพวกเขาบอกลา และหายไปหลังจากนั้น …
และจากนั้น กองทัพอสูรเชวียนบินได้ ก็โฉบลงมา และพ่นพิษ ก่อนจะจากไป และ การกระทำนี้ดำเนินต่อไปเป็นลำดับ ความจริง มันไม่มีความวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้น มันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และใช้ความพยายามเพียงชั่วครู่ อสูรเชวียนนับพันพ่นพิษ และบินจากไป แต่ก็ยังมีอสูรที่เหลืออยู่ในอากาศมากมาย และจำนวนของพวกมันไม่ลดลงเลยแม้เวลาผ่านไป