Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 348 ความคิดจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดิ์
- Home
- Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ
- ตอนที่ 348 ความคิดจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดิ์
จวินวูอี้ถอนใจและยิ้ม จากนั้นเขาเริ่มพยักหน้าด้วยท่าทางมั่นคง จากนั้นเขาเอา ลัญจกรทองแดงออกมาจากหน้าอก อัญมณีที่อยู่ด้านบนส่งแสระยิบระยับภายใต้แสงเดือน เผยให้เห็นคำว่า จวิน และ คำว่า คำบัญชา ถูกสลักไว้ตรงห้านหลังของเหรียญ ตามยุคสมัย
มันคือเหรียญบัญชาของนายท่านแห่งสกุลจวิน
” สิ่งนี้ถูส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น โม่เซี่ย ปู่ของเจ้ามอบสิ่งนี้ให้ข้าเมื่อสามเดือนก่อน และ ข้าา จวินวูอี้ จึงเป็นนายใหญ่แห่งสกุลจวินตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าข้าจักตัดสินใจอันใด … จักเป็นการตักสินใจของสกุลจวิน ไม่มีสมาชิกสกุลจวินผู้ใด สามารถฝ่าฝืนได้ ! เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “
จวินวูอี้เอ่ยวาจาเหล่านั้นด้วยความหนักแน่น จากนั้น เขาชูเหรียญขึ้น และ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
” สะใภ้สามแห่งสกุลจวิน คุกเข่าลง ! ”
กวนเซียงฮั่นตกใจเล็กน้อยขณะนางมองไปยังคุณชายสามจวิน สีหน้าเยือกเย็นของเขา ไม่เปิดช่องให้ต่อกรได้ เช่นนั้น นางจึงถอนใจอย่างไร้ทางเลือก ก้าวขึ้นหน้า และ คุกเข่าลงตรงหน้า จวินวูอี้
” สะใภ้ที่อบอุ่นและมีคุณธรรม กริยามารยาท่าของนาง สูงส่งแม้อายุเพียงยี่สิบ พ่อแม่ของพี่ผู้นี้ได้หมั้นหมายกันในอดีต และจากนั้นจึงตัดสินใจแต่งงาน บุตรคนโตผู้เป็นที่รักแห่งสกุลจวิน ไม่อาจทำให้การแต่งงานสำเร็จลงได้ เนื่องจากการตายอย่างไม่คาดคิดในสงคราม และ กวนเซียงฮั่นได้ใช้ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์ปกป้องความบริสุทธิ์ของนางมาตลอดห้าปี นางประสบความลำบากในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองสกุลมาตลอดช่วงเวลานั้น แต่ สกุลจวินไม่อาจปล่อยให้การแต่งงานที่ล่มสลายนี้ดำเนินไปเนิ่นนาน จึงถือว่าเจ้านั้น ได้แต่งงานแล้ว … โดยที่มิได้แต่งงานจริงๆ เจ้านั้นแต่งงาน … แต่มิได้แต่งงาน ยิ่งกว่านั้น เจ้ายังมีชีวิตอยู่อย่างเป็นหม้าย เช่นนั้นวันนี้ ข้า จวินวูอี้ นายท่านแห่งสกุลจวิน ยินยอมให้ กวนเซียงฮั่น เป็นอิสระจากอำนาจของข้า โดยมีเหรียญตรานี้เป็นสักขีพยาน พวกเราจักไม่เกี่ยวข้องกับงานแต่งใดที่เจ้าจักเข้าร่วมอีก ตู่กู้เซี่ยวอี้แห่งสกุลตู่กู้ และ คุณชายน้อยจวินแห่งสกุลจวิน ได้เป็นพยานในเรื่องนี้ สวรรค์และโลกาจงรู้เห็น !”
กวนเซียงฮั่นรู้ถึงสิ่งที่เขากำลังจะเอ่ย แต่เเมื่อนางได้ฟังวาจาเหล่านั้นจากปากของเขา … และมันไม่มีความลังเลปนอยู่เลย นางได้ยินวาจาเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง หัวใจของเนางเจ็บปวด น้ำตาของนางหลั่งไหลดั่งสายฝน
ตู่กู้เซี่ยวอี้ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง ปากน้อยๆของนางอ้ากว้าง นางไม่คาดคิดจะได้เห็นเหตการณ์เช่นนี้
ขณะที่ จวินวูอี้ เอ่ยจบ ใบหน้าของเขาเยือกเย็น ขณะหันไปหาจวินโม่เซี่ย และเอ่ยออกไป
” สายเลือดสกุลจวินอันดับที่สาม จวินโม่เซี่ย ! ก้าวออกมา และคุุกเข่า ! ”
จวินโม่เซี่ยกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ
” อะไรกัน … ลุงสาม ? “
” สายเลือดจวินอันดับที่สาม จวินโม่เซี่ย ! ก้าวออกมาข้างหน้า และคุกเข่า ! ”
จวินวูอี้เอ่ยซ้ำ
จวินโม่เซี่ยพึมพัมกับตัวเอง สองสามครั้ง เขาฝืนใจคุกเข่าลงอย่างไร้ทางเลือกอย่างท้อใจ
” สายเลือดจวินอันดับที่สาม จวินโม่เซี่ย ! เจ้าเป็นคนแข็งกร้าว ใจกว้าง และมีความรับผิดชอบ ข้า จวินวูอี้ มอบตำแหน่งหัวหน้าสกุลจวินของเข้า ให้แก่เจ้า ! ให้สวรรค์และโลกา เป็นสักขีพยาน ! ”
จวินโม่เซี่ย พอจะคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ เขายังคงตกตะลึงอย่างมาก เมื่อได้ยินคำสั่งนั้น มือของเขาสั่น ขณะยืนขึ้น
” อย่าทำเช่นนี้ลุงสาม ! ท่านยังคงแข็งแรง และอยู่ในช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ ! ท่านยังคงอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ ! เช่นนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องส่งต่อสิ่งนี้ให้แก่ข้า ! ข้า … ข้า … ไม่ต้องการเป็นหัวหน้าสกุลจวิน ! ”
” ดื้อรั้น ! ”
จวินวูอี้เหลือบมอง และตำหนิ
” สกุลจวินผู้ใดก็ตามที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของหัวหน้าสกุลจวิน ถือว่าไม่เชื่อฟัง ! จ้าจะยังทำเช่นนั้นหรือ จวินโม่เซี่ย ? “
จวินโม่เซี่ย กระพริบตา เขาไม่มีทางเลือก เขารับตำแหน่งอย่างไม่เต็มใจ และเอ่ย
” ข้ารู้ว่าท่านนั้นเป็นกังวลกับสงครามในวันพรุ่งนี้ ลุงสามม มากยิ่งจนท่านกำลังเข้าไปตาย …! แต่ข้าจะบอกท่านว่าข้าไม่ต้องการรับคำสั่งนั้น ข้าจะทำหน้าที่นี้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น ตำแหน่งหัวหน้าสกุลจะถูกส่งกลับคืนให้ท่าน หากท่านกลับมาอย่างปลอดภัย ”
จวินวูอี้ยิ้มจางๆและตอบ
” ข้าจะทิ้งมันให้เจ้า ”
สิ่งที่จวินโม่เซี่ยพูดนั้นคือความจริง จวินวูอี้คาดว่าเขาจักต้องตายในสงครามวันพรุ่งนี้ ความจรงแล้ว เขาไม่มีความหวังว่าตัวเองจะรอดได้เลย และ ความกังวลนั้นทำให้้เขาตัดสินใจถึงสิ่งต่างๆในเย็นนี้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจแก้ไขสองปัญหานี้
จากนั้น จวินโม่เซี่ยปฏิญาณตนและยืนกราน จวินวูอี้ มองว่า วาจาของหลานชายนั้นเป็นคำปลอบประโลม มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร ? เขาคาดว่า ยอดฝีมือเชวียนคนอื่นๆจะเข้าต่อสู้ราวฝูงผึ้ง นี่จะทำให้เขา แม่ทัพสูงสุดเป็นเป้าเพียงลำพัง ความจริงพวกเขาอาจละเลยโชคชะตาของเขาในการต่อสู้นี้ อสูรเชวียนทรงพลังนับไม่ถ้วนจะพุ่งเข้ามาและฉีกเขาเป็นชิ้นๆในเวลานั้น !
นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่า มณฑลฉือฮั่นและ นครพายุหิมะสีเงิน จะต้องพยายามลอบกระทำบางอย่างภายใต้ความชุลมุนสับสนนี้ เช่นนั้น เขาจึงต้องเผชิญกับศึกทั้งฝ่ายศัตรู และเหล่าพันธมิตร และ เขาก็มีปราณเพัยงขั้น สวรรค์เชวียน แม้แต่ยอดฝีมือเทพเชวียน ก็มิอาจเอาชีวิตกลับไปได้ หากเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้เพียงลำพัง
” โม่เซี่ย จะเป็นการดีหากข้ากลับมาอย่างปลอดภัยในวันพรุ่งนี้ แต่ สกุลจวินจักขึ้นอยู่กับเจ้าหากประสบโชคร้ายตายลงไป ”
จวินวูอี้ เอ่ยด้วยท่าทีสงบ
” ตอนนี้ปู่ของเจ้าแก่มากแล้ว เช่นนั้น เจ้าต้องดูแลเขา ยิ่งกว่านั้น พวกเราก็ได้ยกเลิกการแต่งงานของ กวนเซียงฮั่น แล้ว แต่ นางก็ยังเป็น สะใภ้ของสกุลเรา ไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้กลี่นแกล้งนาง ไม่ว่าเวลาจะะผ่านไปนานเท่าใด มันจะมิใช่เรื่องใหญ่่ หากใครก็ตามทำเช่นนั้น …. มันต้องตาย ! ”
” ขอรับ ข้าจะไม่ลืม ”
จวินวูอี้เหม่อไป จากนั้นเขามองไกลออกไป …. และ ซาบซึ้งในสิ่งที่เขาเอ่ย … ในความจริง ดูราวกับเขากำลังละเมอ
” ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังมีอีกบางสิ่งที่มอบหมายให้เจ้า เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากจ้า ไปยังนครพพายุหิมะสีเงิน และเจอนาง … บอกนางถึงวาจาที่ข้าจะเอ่ย …”
จวินวูอี้หยุดลงทันที
จวินโม่เซี่ยเงียบไป และไม่เอ่ยถามสิ่งใด เขารู้ว่า นาง ที่จวินวูอี้เอ่ยถึงคือใคร มันคือ หญิงสาวผู้น่าสงสารที่อาศัยอยู่บนยอดเขาหิมะ ผู้ที่ประสบกับความยากลำบากเพื่อคนที่รัก …อีกทั้งนางยังเป็นสาเหตุของความวุ่นวายนี้ ฮั่นหยานโย่ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ ฮั่นหยานโย่ว นั้นยังซับซ้อนในความคิดของจวินโม่เวี่ย นั้นเพราะ โศอนาฏกรรมจะไม่เกิดขึ้น หากมิใช่เพื่อนาง
เจ้ายังคงเป็น แม่นางแห่ง นครพายุหิมะสีเงิน ! เหตุใดจ้าออกไปยังโลกกว้าง เพื่อสร้างความสนุกสนานแก่ตัวเอง ? เหตุใดจึงต้องพาลุงของข้าไปยุ่งเกี่ยว ? เจ้าไม่รู้หรือว่าการแต่งานของเจ้าถูกกำหนดไว่แล้วตั้งแต่เจ้ายังเล็ก ?
การจัดการสิ่งต่างๆของ เซี่ยวฮั่นนั้นเลวร้ายนัก แต่ เมื่อมองจากมุมของเขา .. บุรุษเช่นใดกันที่ปล่อยให้ตัวเองถูกนอกใจ ? บุรุษเช่นใดกันที่ยังคงนิ่งเฉยหาก คู่หมั้นที่อยู่กันมาสิปีต้องการหนีไปกับชายอื่น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้สำหรับผู้ชายทุกคน ! ผู้ใดจะไม่บ้าคลั่งเพราะเรื่องนี้ ?
แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ยก็ยังรู้ว่า ไม่มีผู้ใดสามารถสั่งสอนเรื่องความรักได้ มันเป็นเรื่องของอารมณืที่ไร้เหตุผล มันจะทำให้คนโง่เขลาหากพวกเขาตกหลุมลงไป แม่สองคนที่ถูกกีดกันก็ไม่อาจอดกลั้นมีสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันได้ และผู้ใดจะบอกได้ว่าเหตุใดสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น ?
เขาจะเอ่ยอะไรเกี่ยวกับความรักได้บ้าง ? เขาได้เห็น จวินวูอี้ และเซี่ยวฮั่นต้องประสบความทุกข์มานับสิบปี และ ตอนนี้ เขายังคงมีความรักอันโง่เขลานั้นบนความทุกข์นี้ … แม้นว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลกัน สิ่งเช่นนี้จะทำอะไรกับคนที่มีหัวใจแข็งดั่งหินได้หรือ ?
จวินโม่เซี่ยรู้ว่า พายุแห่งอารมณ์พัดอยุ่ในใจของเขาเพราะเรื่องนี้ และ ด้วยประสบการณ์ที่เจิดจ้านั้นทำให้เขาติดอยู่ในอารมณ์ที่พุ่งพล่าน
วาจาที่เขากำลังมอบให้ ฮั่นหยานโย่ว นั้นอาจจะเป็นความรู้สึกของจวินวูอี้ที่มีต่อนางในเวลเหล่านั้น
จวินวูอี้สูดหายใจอยู่นาน ดูเหมือนกำลังถอนหายใจ แต่การถอนใจนั้นดูเหมือนจะเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังเอ่ย มุมปากของเขายกขึ้นขณะที่เขายิ้มกว้าง กระนั้นมันก็ดูอ่อนโยนและอ่อนหวานอย่างมากในขณะที่เขาเอ่ยอย่างเชื่องช้า
” ความเสียใจเป็นที่สิ่งที่ยากจะลืมเลือน แต่เจ้าก็เช่นกัน ความรักของข้านั้นมีให้แค่เจ้า ข้าอาจไปลงนรก แต่ข้าจะยังคงเฝ้าฝัน ความคิดนี้ … จะยังคงเป็นอมตะ … ภายในโลกนี้ ! ”
ตู่กู้เซี่ยวอี้ ร้องไห้ออกมาในทันที และเริ่มหลั่งน้ำตา
ใบหน้าอันงดงามของ กวนเซียงฮั่น เเต็มไปด้วยน้ำตา
พวกนางรู้ถึงอดีตของเขาอย่างชัดเจน และ การได้ยิน จวินวูอี้เอ่ยวาจาเหล่านั้นทำให้พวกนางหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้า วาจาเหล่านั้นเพียงพอที่จะแสดงถึงความรักอันล้ำลึกที่มีระหว่าง จวินวูอี้ และ ฮั่นหยานโย่ว สองหญิงสาวรู้สึกประทับใจ และในอ่อน พวกนางรู้สึกถึงความโศกเศร้าที่มีท่วมท้นในหัวใจเมื่อ่เขาสิ้นหวัง
” ความเสียใจเป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือน เจ้าก็เช่นกัน ความรักของข้านั้นมีให้แค่เจ้า ข้าอาจไปลงนรก แต่ข้าจะยังคงเฝ้าฝัน ความคิดนี้จะยังคงอยู่ชั่วนิรันด์ในโลกแห่งนี้ ! ”
ข้ายังคงรักเจ้าแม้จะมีโศกอนาฏกรรมเกิดขึ้น และ ตอนนี้ข้ากำลังจะตกนรกเพื่อเจ้า แต่ ข้ายังคงเชื่อว่าข้าจะไม่ลืมเจ้า … ไม่ว่าข้าจะไปยัง สวรรค์ หรือนรก ข้าจะไม่ลืมเลือนเจ้า ! ความคิดนี้จะยังคงอยู่กับข้าตลอดไป
นี่คือ ความรักจะไม่เปลี่ยนไปไม่ว่าตายหรือเป็น ! คำสาบานหรือคำมั่นอื่นจักเบาบางเมื่อเทียบกับความรักนี้
หัวใจของจวันโม่เซี่ยสั่นเครือหลังจากได้ยินวาจาของลุงสาม
ความรักและรู้สึกเกลียดชังของลุงของเขานั้นแข็งแกร่งและน่าประทับใจ กวีที่มีคำเพียงน้อยนิดทำให้จวินโม่เซี่ยรู้ว่าความรักของท่านุงจะไม่เปลี่ยนไปแม้ความตายจะพัดมา แต่ เขาก็เข้าใจถึงความหมายอื่นเช่นกัน …
” ความเสียใจนั้นยากจะลืมเลือน เจ้าก็เช่นเดียวกัน ”
ความเสียใจถูกกล่างถึงโดยไม่อยาดคาดคิด ความเสียใจนั้นยังคงชัดเจนอยู่ในหัวใจของ จวินวูอี้ ความเสียใจที่มีต่อพี่ทั้งสอง และหลานทั้งสองของเขานั้นติดอยู่ในหัวใจของเขาตั้งแต่มันเกิดขึ้น
เขามอาจลืมสิ่งที่เกิดขึ้นแม้นจะมีนาง ! เขามิอาจลืมมันได้โดยง่าย !
นี่คือปัญหาใหญ่ที่รบกวนหัวใจของเขาอยู่
” ข้าจะจำมันไว้ มันใจได้ ลุงสาม ”
เขาตั้งใจจะเอยความลับของเขาต่อจวินวูอี้เพื่อทำให้เขาผ่อนคลาย แต่ในที่สุดเขาก็ต้องโกหกเพื่อปกปิดมัน เขาจะบอกว่า ปรมาจารย์ลึกลับ และ ราชันแห่งเทียนฟานั้นเป็นเพื่อนที่ดี … และ แล้ว …
แต่กระนั้น เข้าก็เปลี่ยนความคิดหลังจาดได้รู้ถึงความหมายของสิ่งนั้น จวินวูอี้ เตรียมตัวเองเพื่อความตาย และ ความปรารถนานี้ได้ตราตรึงลึกลงไปในหัวใจของเขา เขายังคงอับอายแม้นจะได้แก้แค้นให้พี่ชายและหลานชายของเขาแล้ว เขายังคงรู้สึกผิดอย่างมาก ความจริง เขายังคงรู้สึกผิด แม้นจะได้พบ ฮั่นหยานโย่ว อารมณ์ของเขาไม่เคยปล่อยให้เขามีความสุข เขาถูกลิขิตให้เป็นทุกข์ไปตลอดชีวิต
เราอาจปัดเป่าความทุกข์ของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย แต่การปดเป่าความทุกข์ที่ฝังลึกในนหัวใจจนั้นเหมือนดั่งการเอาหัวพุ่งชนกำแพงซึ่งมันมิอาจทำได้
ไม่สำคัญว่าจวินวูอี้จะพิการไปทั้งชีวิต … หรือต้องอยู่ห่างจากคู่รักของเขาไปตลอดเขาก็ไม่มีโอกาสได้พบนาง มันก็ยังคงมีความปฏิปักษ์กันไปตลอด และมันก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่จวินวูอี้ ความจริง มันมิได้เว้นช่องว่าให้เขาหายใจหายคอเเลย และ นั่นเป็นเพียงแรงกดดันจากภายนอก ซึ่งมันมิอาจเเทียบได้กับสิ่งที่เขารู้สึกลึกลงไปในหัวใจ …
ทุกคนในสกุลจวิน ไม่ว่าจะเป็น จวินจ้านเเทียน หรือ จวินโม่เซี่ย ก็ทำได้เพียงเห็นอกเห็นใจ นายท่านสามจวิน แม้แต่ จวินวูเห่ยที่ตายไปแล้วก็มิได้ตำหนิน้องสามของเขา แต่ มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้ … เพียงผู้เดียวที่ไม่อาจตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ …คือ จวินวูอี้ !