Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ - ตอนที่ 353 การต่อสู้ที่บ้าคลั่ง
- Home
- Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ
- ตอนที่ 353 การต่อสู้ที่บ้าคลั่ง
ราชันแห่งเทียนฟากระทำการอย่างบ้างคลั่ง และ สร้างบรรยากาศที่เลวร้าย บุรุษชุดคลุมต้องการทำสงครามอย่างมาก ในขณะที่ หมีใหญ่กำลังนำเหล่า อสูรเชวียนปฐพี พุ่งตรงมา
ทันใดนนั้นเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในหูของเขา
” หมีใหญ่เจ้าเจ้าจักเป็นผู้นำในการเข้าตีครั้งแรกของวันนี้หรือไม่ ? “
หมีใหญ่ประหลาดใจในตอนแรก เขารู้สึกเหมือนมีใครบางคนอยู่ข้างๆเขา มันเหมือนกับมีคนที่กำลังพูดคุยพร้อมกับเดินไปกับเขา … ราวกับมันอยู่ข้างๆหูของเขา แต่ เขาไม่เห็นเงาของผู้ใดอยู่ข้างๆเขา
แต่กระนั้น หมีใหญ่ก็รู้สึกได้ว่าคนผู้นั้นคือ จวินโม่เซี่ย ผู้ที่กำลังเดินอยู่ข้างๆเขา เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นเขาได้ ราชันปิศาจเกือบหัวเราะออกมา เขาไม่อาจกลั้นใจได้หลังจากที่รู้ว่าผู้ที่เอ่ยวาจาเหล่านั้นคือผู้ใด
ยอดฝีมือชั้นยอด ก็คือยอดฝีมือชั้นยอด ! มีกี่คนในโลกที่สามารถใช้วิธีการที่น่าประหลาดใจนี้ได้ ?
เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
” ขอรับ ราชันสิงโต ราชันพยัคฆ์ และข้ากำลังนำการต่อสู้ในวันนี้ อีกทั้ง ราชันราชสี ราชันพยัคฆ์ และ ราชันหมี จักนำกองกำลังเข้าบุก นครสวรรค์ไต้ ! “
” อ่อ ข้าได้โรยแป้งที่เจ้าให้ข้าใส่คนห้าคน ”
จวินโม่เซี่ยหัวเราะคิกคัก และ เอ่ยต่อ
” จงระวังและอย่าผิดพลาด “
” ขอรับ ”
หมีใหญ่คิดว่า ผู้อาวุโสลึกลับมีบางอย่างผิดแปลกไป
เขาพูดมากไปหรือเปล่าวันนี้ ? และ เราจักผิดพลาดได้อย่างไรกัน ?
สิ่งที่เขาไม่รู้คือจวินโม่เซี่ยกังวลอย่างมาก เช่นนั้นเขาจึงทำตัวเหลวไหล
จากนั้น หมีใหญ่ รู้สึกถึงปราณบริสุทธิ์อันเยือกเย็นไหลจากร่างของ ผู้อาวุโสลึกลับเข้ามาในร่างของเขา มันหมุนเวียนในร่างกายของเขา และทำให้เขารู้สึกสุขสบายอย่างมาก เส้นลมปราณที่บาดเจ็บจากเคล็ด กระบี่แยกหัวใจ ของลีจื้อเทียนของเขาได้รับการรักษาในทันที เขาอดที่จักดีใจไม่ได้ เช่นนั้น เขาจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงล้ำลึก
” ขอบคุณมาก ผู้อาวุโส ! “
เดิมทีการบาดเจ็บของหมีใหญ่นั้นรุนแรง แต่ ราชันแห่งเทียนฟาได้รักษาให้เขาจนเกือบจะหายดี ดังนั้น ลมปราณของจวินโม่เซี่ยจึงเป็นเหมือนยาดีในเวลาที่ถูกต้อง และ มันรักษาการบาดเจ็บของเขาจนหายดี ยิ่งไปกว่านั้น หมีใหญ่ ได้กินยาทศวรรษเขาไป เช่นนั้น การพัฒนาของเขาจึงเติบโตขึ้นไปอย่างมาก
เขามองไปด้านขวาขณะได้ยินเสียงอีกครั้ง
” จิตใจของคนทั้งห้านั้นห่างไกลจากการต่อสู้ในวันนี้นัก พวกเขาต้องเผชิญหน้ากบัอันตรายจากฝั่งของเจ้า และ พวกเขาก็ต้องเผชิญอันตรายจากฝ่ายเดียวกัน ! มีพันธมิตรฝ่ายเรามากมายที่ต้องการยิงธนูใส่พวกเขาจากด้านหลัง ข้าจักมอบหมายเรื่องนั้นให้เจ้า พวกเขาทั้งห้าต้องไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ! “
” โปรดอย่าได้กังวล ผู้อาวุโส ข้าจักใช้อำนาจของข้าทำทุกอย่าง … แม้นจักต้องใช้ร่างกายตัวเองเข้าไปขวาง ! “
หมีใหญ่ ทุบอกอย่างรุนแรง
” ดี ! หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็สบายใจ ! เจ้าไม่จำเป็นต้องแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นที่เหลือ โดยเฉพาะคนจาก นครพายุหิมะสีเงิน และ มณฑลฉือฮั่น ! ”
จวินโม่เซี่ยหัวเราเบาะและสรุป
” ตอนนี้ข้าต้องไปแล้ว ”
หมีใหญ่มองไปรอบๆด้วยความงุนงง แต่เขาไม่อาจมองเห็นสิ่งใด ราชันปิศาจคิดว่าเขาน่าจะกำลังฝันอยู่หากเขาไม่ได้รับความรู้สึกที่ผ่อนคลายซึ่งเป็นผลมาจากการรักษาการบาดเจ็บภายในนี้
จวินโม่เซี่ย จากไปโดยใช้เคล็ดอิสระหยินหยาง จากนั้นเขาผ่านไปทาง กระเรียนคอยาว เขาได้ตักเตือนในสิ่งเดียวกัน จากนั้นเขาใช้ เคล็ดอิสระหยินหยาง และกลับไปหลังจากรู้สึกพึงพอใจแล้ว
นั่นน่าจะจบเรื่องทุกอย่างได้
จวินโม่เซี่ยพยายามอย่างมากในสองวันนี้ แต่ เขาก็ยังรู้สึกหม่นหมอง ลีจื้อเทียน ปกป้องลูกชายของเขา เขาหลอกให้ จวินวูอี้ ไปติดกับอย่างเปิดเผยและไร้ยางอาย และ นครพายุหิมะสีเงิน ทำเพียงการเติมเชื้อไฟให้แรงขึ้น ยิ่งกว่านั้น สกุลทรงอำนาจที่เหลือก็เห็นด้วยกับทุกสิ่ง สิ่งนี้ทำให้จวินโม่เซียมีโทสะอย่างมาก
ลุงของข้าจักอยู่ในสถานการณ์นี้หรือหากไม่เพราะอุบายของพวกเขา ? เป็นการยากสำหรับเขาที่จะหลบหนีจากความตายได้ ! และ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อเรานำกองกำลังของเรามาช่วย มณฑลฉือฮั่น ! เรื่องนี้มันเกินกว่าความเลวทราม มันน่ารังเกียจอย่างมาก !
เจ้ามันไร้หัวใจ เช่นนั้น อย่าโทษข้าสำหรับความอยุติธรรมที่ชั่วร้าย ! ข้ามีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งจากเทียนฟา ! เจ้าจักสูญเสียคนของเจ้ามากกว่าจะได้รับหากเจ้าไม่ระวังในแผนการของเจ้า ! เจ้าคิดว่า สกุลจวินของเราจะยอมให้กลั่นแกล้งอย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ ?
ลีจื้อเทียน และ ลี่เติ้งหยวน … ข้าได้เตรียมเรื่องประหลาดใจให้พวกเจ้าจนพวกเจ้าต้องร้องขอความตาย !
….. …..
เหม่ยผู้น่าเกรงขาม และ ลีจื้อเทียนมีโทสะอย่างรุนแรงในตอนนี้ ฉีฉางเซี่ยว เร่งรีบเดินขึ้นหน้าด้วยความกล้าหาญ จากนั้นเขายิ้มและเอ่ย
” ดูเหมือนว่า วันนี้เหมยผู้น่าเกรงขามจะอารมณ์ไม่ค่อยดี ฮี่ฮี่ … พักผ่อนเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย เราจักคุยกันต่อในตอนเย็นหลังจากที่เราได้หยุดพักช่วงสั้นๆกันแล้ว ”
ปรมาจารย์แห่งความเป็นตาย เอ่ยวาจาเหล่านั้นเนื่องจากเขารู้ว่า เหม่ยผู้น่าเกรงขาม ต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝันในวันนี้
แต่วาจาของเขานั้นจะมากเกินไปหน่อย เจ้าไม่ควรให้การทารุณนี้ต่อหน้าลูกชายแม้ว่าเขาจะมิใช่ ยอดปรมาจารย์อันดับสอง
เหมือนคำที่เอ่ยว่า ความเคารพต่อมนุษย์นั้นสำคัญพอๆกับเปลกไม้ที่มีต่อต้นไม้ เจ้าอาจจะเป็นยอดปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ เจ้าไม่อาจกลั่นแกล่งผู้ใดได้อย่างเปิดเผย เจ้าไม่เห็นว่า อาวุโสผู้นั้นมีโทสะอย่างมากจนปากของเขาเป็นสีเขียวแล้วหรือ ? เขาเกือบจะโกรธจนตายแล้ว….
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้กลับกลายเป็นเหตการณ์ที่น่าทึ่งอย่างมาก ลีจื้อเทียน ได้ใช้อำนาจที่เหนือกว่าของเขาเมื่อไม่นานมานี้ และ กระทำข่มเหง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ เฟิงจวนจุ้น ความจริงเขาได้ดุด่าพวกเขา แต่ บทบานนั้นได้กลับกัน และ ผู้ที่ถูกกระทำในตอนนี้คือตัว ลีจื้อเทียน เอง …
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว กำลังยิ้ม ความจริงมีความสุขอันเรือนรางอยู่ในหัวใจของเขา
เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ และจากนั้นเจ้าก็ได้ไปสู้ปรโลก ! ดูสิ โชคชะตาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร ?
เขากระพริบตาชั่วครู่ และรู้สึกถึงความสำราญมากมายในหัวใจ
” ข้าอารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นหรือ ? อืม ! ”
เหม่ยผู้น่าเกรงขามคำรามทางจมูกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นพวกเขาชี้ไปยัง ลีจื้อเทียน และเอ่ยดุดัน
“ผู้ใดบอกว่าวันพี่ผู้นี้อารมณ์ไม่ดี ? เพียงแต่เจ้าขี้แพ้ผู้นี้อยากตายเท่านั้น ! และจริงๆแล้ว ของเล่นสามขาคือ ยอดปรมาจารย์สอง ! เขานั้นไร้ยางอายและน่าขบขัน ! เจ้าขี้แพ้ผู้นี้อยากจะโดนตบหน้า เพียงแค่ดูจากสีหน้าของเขา ! เขากล้าโอ้อวดความแข็งแกร่งของตัวเองต่อหน้าข้า ?! เจ้ามันคือนายหญิง ! เหตุใดจึงกล้านัก ? “
ลีจื้อเทียนมีโทสะอย่างมากและส่งเสียงไม่พอใจ จิตสังหารของเขาทำให้เสื้อผ้าลอยขึ้นในอากาษแม้นจะไร้สายลม ใบหน้าของเขากระตุกด้วยโทสะ และ แสดงถึงความอาฆาตร เขาคำราม
” เหม่ยผู้น่าเกรงขามข้าเคารพท่านในฐานะ ราชันแห่งเทียนฟา จึงอยากรักษาความสงบ ! แต่วันนี้ ท่านทำให้ข้าอับอายถึงสามครั้ง ! ท่านคิดว่าลี่จือเทียนหวาดกลัวท่าน และจะไม่ตอบโต้อย่างนั้นหรือ ? “
แม้แต่ ตุ๊กตาดินเผาก็มีความร้อนอยู่ภายใน แต่ คนผู้นี้คือยอดปรมาจารย์สอง ! ผู้ใดจะเสวนากับเขาได้ ? เขาถูกดูหมิ่นอย่ามาก เขาจักเรียกตัวเองว่ายอดปรมาจารย์สองได้อย่างไรหากเขาไม่ตอบโต้เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ? ชื่อเสียงของเขาจักล่มสลาย ทหารจะมิได้กลิ่นหอม หากเจ้าถ่ายอึใส่หน้าของเขา !
เหม่ยผู้น่าเกรงขามคำรามทางจมูกเหยียดหยาม และเอ่ย
” อาวุโสผู้นี้หยามเกียรติเจ้าอย่างเปิดเผย ! เจ้าจักทำอันใดได้ ? เจ้าจักกล้าทำอันใด ? “
เงาของบุรุษผู้นั้นหลุดลุ่ยและไม่มีผู้ใดยับยั้งได้ ความจริง ไม่มีผู้ใดพยายามที่จะหยุด ฉีฉางเซี่ยว เล้ยวูเบ้ย เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และคนอื่นๆง่วนกับการมองดูเฉยๆมากกว่าที่จะหยุดเขา
ร่างของ ลีจื้อเทียน เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยโทสะราวกับพายุโหมหระหน่ำ เขาใช้เคล็ดวิชาเฉพาะตัวนามว่า จื้อเทียนสิบสามใบมีด พายุอันเยือกเย็นพุ่งขึ้นจากด้ามกระบี่ของเขา ทุกคนรู้สึกถึงพลังปราณที่เฉียบแหลมเกิดขึ้นจากมันและปะทะใบหน้าของพวกเขา มันทำให้เสื้อผ้าของทุกคนกระพือ และรู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยบนใบหน้า ดังนั้น จึงไม่มีผู้ใดอดที่จะก้าวถอยหลังไปได้
ลีจื้อเทียนสร้างรองรอยลึกขึ้นใต้เท้าของเขาขณะที่ฝุ่นควันล่องลอยขึ้นมา
เหม่ยผู้น่าเกรงขาม ตะโกนลั่นกลางอากาศ
” ดี เข้ามาเลย ! ”
เสื้อคลุมสีดำขนาดใหญ่ของเขาม้วนเป็นวงรอบเมื่อเผชิญกับลมที่รุนแรง จากนั้นมันกลายเป็นหมอกสีดำหนาที่สามารถปกคลุมทั่วทั้งโลกได้ จากนั้นเขาพุ่งเข้าใส่ศัตรูแทนที่จะหลบ
การเตรียมการสำหรับ ศึกชี้ชะตา ยังไม่ได้เริ่มต้นจริงจัง แต่ ผู้นำสูงสุดของทั้งสองฝ่ายได้ต่อสู้กันอย่างรุนแรงแล้ว
สถานกาณณ์เริ่มรุนแรงขึ้นอย่างมาก !
หัวใจของ ลีจื้อเทียนเต็มไปด้วยโทสะและความโกรธเคืองที่รุนแรง เหม่ยผู้น่าเกรงขาม ได้รับความอัปยศ และโทสะเมื่อไม่กี่วันก่อน ดังนั้น ทั้งสองได้แสดงความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ในสามกระบวนท่า ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ใช้ประบวนท่าสังหารอย่างแท้จริง
มากกว่าหนึ่งครั้ง !
พื้นที่ของศึกตัดสินนี้คือหุบเขาเล็กๆระหว่างเขาสองลูก ระยะห่างของตีนเขาทั้งสองนั้นมีเพียงหาก ห้ากิโลเมตร อย่างไรก็ตาม สองผู้ที่ต่อสู้กันอยู่นั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่าพวกเขาขึ้นไปอยู่บนก้อนเมฆ การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วเกินกว่าที่สายตาใดจะมองเห็น มันเหมือนกับ อสุนีบาต … ครั้งแรกเกิดขึ้นตรงนี้ จากนั้นไปตรงนั้น … และไกลออกไป จากนั้นกลับมายังจุดแรกอีกครั้ง ….
หลังจากนั้นมีการระเบิดขึ้นกลางอากาศ เสียงคล้ายดั่ง ฟ้าคำรามที่ถูกส่งมาจาก เทพเจ้าผู้ไร้เหตุผล เสียงระเบิดก้องสะท้อนในอากาศ และจากนั้น มีร่างสีดำลอยขึ้นไปในอากาศราวกับจรวด จากนั้น อีกร่างก็พุ่งตรงมายัง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ คนอื่นๆราวดาวหาง
ผู้ที่ตกลงมาคือ ลีจื้อเทียน …
เขาถูกโจมตีโดย เหม่ยผู้น่าเกรงขาม ที่บ้าคลั่งและน่าสะพรึงกลัว ดังนั้นเขาจึงร่วงลงมา ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ ลีจื้อเทียน รู้ว่าเขาโดนโจมตีเข้าไปที่ ไหล่ อก และท้อง ด้วยฝ่ามือสามครั้ง !
ยอดปรมาจารย์ ลี่จื้อเทียนพยายามอย่างที่สุดเพื่อรับมือ และป้องกันไม่ให้ร่างของตัวเองถูกตัดขาด แต่ เขาร่วงลงมาอย่างรุนแรง และไม่อาจควบคุมได้ เขาปะทะพื้นเสียงดังลั่น และทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ แต่ เขายังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขายังโซเซลงไปที่พื้นด้วยแรงสะท้อน ความจริง ดูเหมือนมีภูเขาที่ถูกขุดลงไปในจุดที่เขายืนอยู่ ไม่ช้าเท้าของเขาก็สัมผัสกับหินใต้ดินที่อยู่ลึกลงไป !
ดูเหมือนว่า เหม่ยผู้น่าเกรงขาม จะต้องการความตายของบุรุษผู้นี้ และยังไม่หยุด
เสียงคำรามที่รุนแรงดังขึ้นในอากาศ เงาดำพุ่งลงมาด้วยความเร็วอันยอดเยี่ยม แม้แต่เสื้อคลุมสีดำขนาดใหญ่ของเขาก็ถูกลมพัดกระพือขณะพุ่งลงมา และจากนั้น ควันสีน้ำเงินก็ลอยออกมาจากชายเสื้อของเขา
ชุดคลุมสีดำของเขากำลังจะลุกเป็นไฟเพราะเสียดสีกับอากาศ … ด้วยความเร็วของเขา
มือสีขาวสะอาดยื่นออกมาจากชุดคลุมสีดำ มือขาวสะอาดนี้ดูเหมือนถูกแกะสลักออกมาอย่างงดงาม แต่ มันพุ่งลงมาอย่างรุนแรงเพื่อหมายสังหาร และตรงไปยัง ลีจื้อเทียน วันนี้ไม่มีความเมตตาใดสำหรับเขา !
ลีจื้อเทียนคำรามอย่างล้าคลั่ง เขาใช้กำลังที่เหลืออยู่ในร่างกายเพื่อตอบโต้และหลบหนี
ฉีฉางเซี่ยว เล้ยวูเบ้ย และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว รู้ถึงวิกฤตของ ลีจื้อเทียนได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนที่น่ารังเกียจ แต่ทั้งสามรู้ว่าไม่อาจปล่อยให้เขาตายได้ในตอนนี้ พวกเขาจักสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดหาก ลีจื้อเทียน ตาย ยิ่งไปกว่านั้น ชัดเจนแล้วว่าความชั่วร้ายของ เหม่ยผู้น่าเกรงขาม นั้นจักทำให้ชีวิตของทุกคนตกอยู่ในอันตราย
ทั้งสามสัมผัสได้ถึงแจตนาของแต่ละคน และกระโดดไปข้างหน้าสุดแรง ผู้อาวุโส หา และแปดแห่ง นครพายุหิมะสีเงิน ก็ตามพวกเขาไปในฐานะของกองหนุน
ยอดฝีมือทั้งเจ็ดรวมกำลังกันเพื่อต่อต้านการโจมตีที่บ้าคลั่ง การโจมตีที่รุนแรงที่สุดในโลกหล้า !
เหม่ยผู้น่าเกรงขาม คำรามอย่างคมชัดและเยือกเย็นขึ้นในอากาศ
” เข้ามาเลย ! ”
ผู้ที่อยู่ในชุดดำนั้นไม่หลบหลีกพวกเขาเลย ความจริง ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นได้เพิ่มความรุนแรงในการโจมจีของเขาภายในเสี้ยววินาที
” ฉึบ ! ฉึบ ! ตุ้ม ! “
เสียงของการโจมตีที่รุนแรงดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้น เงาสีดำปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าเหนือป่าเทียนฟา จากนั้น มันลอยลงมาบนยอดม้อย่างช้าๆ และยืนอยู่บนกิ่งไม้ก้านเล็กๆ และยืนรับลม
ไม่นานจากนั้นมีเสียงครางดังขึ้น เซี่ยวปู้หยูและอีกสองผู้อาวุโสแห่งนครพายุหิมะสีเงินมาถึงหลังสุด แต่พวกเขาก็เป็นกลุ่มแรกที่ร่วงลงมา ความจริงพวกเขาเป็นเหมือนกับลูกบอล ขณะที่พวกเขาปะทะเข้ากับพื้น และกลิ้งอย่างเจ็บปวดไปบนหุบเขารอบๆ
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว กางมือของเขาราวกับ เหยี่ยวกางปี และ เหาะขึ้นไปสูงสามสิบเมตรก่อนที่จะร่วงลงมาในทันที แต่ เขาก็ยังคงประคองตัวเองได้ในความเร็วดัง อสุนีบาต และเริ่มลอยไป สถานการณ์ของเขายังไม่อันตรายหากเทียบกับคนอื่นๆ
เล้ยวูเบ้ยที่แข็งแกร่งกว่ามีสีแดงบนใบหน้า เขาหมุนตัวเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีแต่ เขาก็ยังไม่หยุดลง ความจริง เขาหมุนตัวออกจาก ศูนย์กลางการปะทะแล้ว
เสื้อผ้าของ ฉีฉางเซี่ยว ฉีกขาด ความจริง เส้นด้ายหลายเส้นลอยอยู่บนท้องฟ้าราวกับ ผีเสื้อ เขากระโดดถอยหลัง สามสิบเมตรขณะหลบหลีกการโจมตี ตีลังกา และกระโดดถอยไปอีกสามสิบเมตร
แต่ ยอดปรมาจารย์สอง ลีจื้อเทียน นั้นรับการโจมตีที่รุนแรงที่สุด เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขาขณะคำรามอย่างดุร้าย ร่างของเขาพุ่งขึ้นในอากาศ แต่ ไม่มีผู้ใดรู่ว่ามันลอยไปที่ใด …
จากนั้น เสียงระเบิดดังสนั่นเมื่อ เมฆรูปเห็ดลอยขึ้นมาระหว่างบุรุษทั้งแปดพร้อมเสียง ตู้ม ! ทำให้หินและฝุ่นมากมายลอยขึ้นในอากาศ ชั้นพื้นดินบางๆปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
มันเหมือนกับการระเบิดของภูเขาไฟ ! หินที่อยู่ใกล้ๆถูกทำลายและลอบขึ้นในอากาศ พวกมันแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยจนไม่เห็นแม้แต่เงา และยังคงลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นเวลาเนิ่นนาน จากนั้น หินก้อนใหญ่เริ่มร่วงลงมาราวผนดาวตก พวกมันพุ่งใส่พื้นดินด้วยความเร็วสูง และ มีเสียงดังขึ้นขณะที่พวกมันปะทะเข้ากับพื้นดิน ความจริง พื้นดินสั่นสะเทือนจากการประทบเหล่านั้น
แปดยอดฝีมือได้ปะทะกันในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้ผลของมันล่าช้าไปเล็กน้อย มันเหมือนกับ บิกแบง ที่ก่อตัวขึ้นและระเบิดออกมา
การระเบิดมหึมากลาอากาศนั้นเพียงพอทำให้ยอดฝีมือคนอื่นๆตกตะลึง มันส่งความเยือกเย็นไปยังแขนขาและทำให้พวกเขาตัวสั่น
ลีจื้อเทียน และคนอื่นๆขึ้นมาอยู่บนยอดเขา แต่ พื้นดินตรงนี้ได้ลอยขึ้นจากการระเบิด ความจริง พื้นที่ส่วนใหญ่เปลี่ยนไปจากการระเบิดครั้งนี้ ยิ่งกว่านั้น มันยังถูกขุดเป็นหลุม แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันลึกลงไปเพียงใด เนื่องจากน้ำใต้ดินเริ่มพ่นออกมาหลังจากมันผสมเข้ากับดินแล้ว และ สิ่งนี้ทำให้เกิดเป็นโคลน …
ทุกคนรวมทั้งอสูรเวียน ผู้ที่เข้าแถวอยู่หลัง หมีใหญ่ตกตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ พวกมันอ้าปาก และไม่อาจหายใจได้ด้วยอากาศที่เยือกเย็น
นี่เป็นผลจากพลังของเขาจริงๆหรือ ?!
พระเจ้า ! ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก !
แต่ หมีใหญ่มีอาการที่แย่ที่สุด
การระเบิดที่รุนแรงนั้นทำให้เขา อ้าปากและเบิกตากว้าง โหนกแก้มของเขาปูดขึ้นราวกับมังกรหนุ่ม …และจากนั้นหินขนาดเท่าไข่ไก่ก็ลอยผ่านไป … และไม่รู้ว่าด้วยความต้องการของสวรรค์ ..หรือความบังเอิญ… มันพุ่งเข้าปากของเขา “แกร็บ ! ” เสียงดังก้องกังวาลขณะที่มันปะทะเข้ากับฟันของเขา
ฟันของคนสามัญจะโดนทำลาย และลิ้นของพวกเขาจักกลายเป็นเหยื้อกระดาษในเหตุการณ์นี้ แต่ หมีใหญ่คือผู้ใด ? เขาคือ ราชันหมี ! และโชคดี ฟันของราชันหมีมิได้แตกหักเพราะเรื่องนี้ แต่ หัวของเขาส่งเสียงกริ่งและหึ่งๆจากการปะทะ ริมฝีปากของเขาขยับขึ้นลงอย่างไร้สติ และเสียงแตกหักดังขึ้นขณะที่เขาเคี้ยวหิน ลิ้นของเขาหมุนวนไปมาขณะที่เขาไม่รู้ตัว และด้วยเหตุผลบางอย่าง เขากลืนหินลงไป จากนั้น เขาพบว่าตัวเองสำลัก …