Parallel World Pharmacy – ร้านขายยาต่างโลก - ตอนที่ 33
ตอนที่ 33 โรงอาบน้ำและตราสัญลักษณ์แห่งอัคคีเทพที่ไม่สมบูรณ์
——
「สิ่งประดิษฐ์ที่เจ้าทำขึ้นมา ที่เรียกว่าเครื่องอัดสำเนานั่นน่ะ เจ้าได้เอาไปนำเสนอให้กับองค์จักรพรรดินีแล้วหรือยัง? 」
ในช่วงเช้าของวันหนึ่ง ฟาร์มาได้ถูกบรูโนจี้จุดเข้าขณะที่กำลังอยู่ภายในบ้านและนึกได้ถึงความน่ากลัวที่จะตามมากับความผิดพลาดครั้งนี้
(ประวัติศาสตร์มันมักจะซ้ำร้อยเอาเสมอ…..เฮ้อ..)
ฟาร์มาไม่อาจจะปฏิเสธความจริงดังกล่าวได้เลย
「คือผมลืมไปซะสนิทเลยครับ งั้นผมจะรีบไปรายงานพระองค์ให้เร็วที่สุดแล้วกันนะครับ」
「ถ้าเป็นพวกสิ่งประดิษฐ์ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอก แต่เจ้าก็ไม่ควรจะฝืนทำงานหนักมากจนเกินไปด้วยนะ」
บรูโนกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตัวฟาร์มาเองขณะกำลังสวมเสื้อโค้ตของเขาอยู่
(คือ…ท่านพ่อก็เป็นหนึ่งในคนที่เพิ่มงานให้ผมนะ..อย่างพวกไปเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยนั่นไง)
“ผมล่ะไม่อยากได้ยินคำนี้จากท่านพ่อเลยนะครับ” ฟาร์มารู้สึกอยากจะโต้แย้งเช่นนั้นออกไปและจากนั้น…
「ท่านพ่อครับ คือที่จริงผมมีเรื่องอยากจะถามน่ะครับ」
“ตอนนี้แหละเป็นโอกาสที่ดีแล้ว” ฟาร์มาคิดก่อนจะถามออกไป เพราะช่วงเวลาทานข้าวก่อนหน้านั้นไม่สามารถจะถามได้นั่นเอง
「ทำไมถึงพยายามผลักดันให้ผมมาเป็นศาสตราจารย์สอนที่วิทยาลัยกันครับ? 」
「อ่า….เรื่องนั้นสินะ ก็ไม่ใช่ว่าพ่ออยากสนับสนุนมันนักหรอกแต่ศาสตราจารย์คนอื่นๆ เขาไม่ยอมที่จะให้เจ้าทำงานอยู่ที่ร้านขายยาเพียงเท่านั้นน่ะสิ ก็เหมือนที่เจ้าคิดนั่นแหละ พ่อก็คิดเหมือนกันว่ามันเร็วเกินไป」
บรูโนมองออกไปข้างนอกก่อนจะพูดออกมาด้วยความขุ่นเคือง
โดยปกติแล้วการจะให้เด็กมาเป็นศาสตราจารย์สอนนั้นเป็นเรื่องที่งี่เง่าและไร้สาระเป็นที่สุด
“หวังว่าพวกเขาน่าจะรอผมอายุมากกว่านี้ก่อนจะให้ทำอะไรแบบนี้คงจะดี” ฟาร์มาคิด
「ยังไงก็ตามสิ่งที่พ่อกังวลที่สุดก็คือตัวของเจ้าเองจะคงอยู่ในสถานะนี้ได้นานอีกแค่ไหนกันนะ」
บรูโนตอบออกมาเช่นนั้น
(นั่นเขาหมายความว่ายังไงกันนะ เอ๋จะว่าไปหัวหน้านักบวชก็พูดแบบนี้เหมือนกันนี่นา)
แม้แต่ตัวฟาร์มาเองก็ไม่อาจทราบได้ว่าตนจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกนานแค่ไหน ด้วยความทรงจำที่มีจากชีวิตก่อน เหมือนกับที่หัวหน้านักบวชพูด 「เป็นเวลาเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นที่ร่างอวตารของพระผู้เป็นเจ้านั้นจะปรากฏบนโลกใบนี้」และเรื่องราวทำนอนนี้ก็ได้แพร่ออกไป ไม่เพียงแค่บรูโนแต่รวมไปถึงศาสตราจารย์ท่านอื่นก็กังวลเช่นเดียวกัน
ฟาร์มาไม่สามารถจะตอบได้ เพราะเขาก็ไม่มั่นใจในคำตอบนั้นเช่นเดียวกัน
บางที่เขาอาจจะหายไปในวันถัดไปเลยก็ได้
「หากว่าเวลานั้นมันมีอยู่จำกัด พ่อก็หวังว่าเจ้าจะให้ความสำคัญกับงานที่ควรนะ」
เพราะการการตรวจผู้ป่วยคนต่อคนนั้นต้องใช้เวลา
วิธีคิดของทางบรูโนนั้นถือว่ามีเหตุผลในตัวมันเอง เพราะเขาคิดว่าคงจะดีกว่าหากฟาร์มาให้ความสำคัญกับการวิจัยยาตัวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกนี้และจัดการเรื่องของวิทยาลัยให้เสร็จสิ้นและท้ายที่สุดก็ได้สร้างเหล่าผู้เรียนที่มากความสามารถออกมาเป็นจำนวนมาก
มันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวหรืออะไรทำนองนั้น แต่มันเป็นแนวคิดเชิงวิชาการเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ของพ่อเขาหรือฟาร์มา แต่เขาคิดถึงส่วนรวมมาตั้งแต่แรก
「
ตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการรักษาชีวิตนับพันเท่าที่สายตาของเจ้าจะส่องไปถึง พ่อหวังว่าเจ้าจะทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้มันขับเคลื่อนไปตามกาลเวลาด้วยตัวมันเอง สิ่งนั้นท้ายที่สุดมันจะสามารถช่วยผู้คนได้อีกมากกว่ายิ่งกว่าที่อยู่ตรงหน้าของเจ้าเอง นั่นแหละคือสิ่งที่พ่อคิดไว้」
「……ไปตามกาลเวลาและคงเหลือไว้สินะ……? 」
สิ่งที่บรูโนพูดนั้นถือว่ามีเหตุผล
(ผมเข้าใจแล้วครับ ท่านพ่อ ผมเข้าใจมันเป็นอย่างดีเลยความคิดนั้น…มันเป็นสิ่งที่ผมหนักใจมาทั้งชีวิตก่อนหน้านี้ของผม)
พ่อของฟาร์มาพูดเหมือนกับว่าเขาอยากจะให้ฟาร์มานั้นได้ใช้ชีวิตอย่างที่เค้าเคยเป็นในชาติที่แล้ว
ไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริงเลยว่าชีวิตของฟาร์มาก่อนหน้านี้ได้คิดค้นยาตัวใหม่เพื่อรักษาชีวิตคนนับพันและนับล้านในอนาคต มากกว่าที่เขาจะสามารถพบได้ในชีวิตของเขาเอง ผลของมันทำให้เขาต้องหลับนอนอยู่ภายในห้องวิจัยและพบเจอเพียงหน้าข้อมูลงานวิจัย ไม่ใช่หน้าของผู้ป่วย และฟาร์มาก็ไม่คิดว่านั่นเป็นการใช้ชีวิตที่ผิดแต่อย่างใดด้วย
แม้ผลของมันจะทำให้เขาพลาดตรงตายเพราะทำงานหนักจนเกินไป แต่ฟาร์มาก็รู้สึกหงุดหงิดออกมามากกว่าเพราะเขายังสามารถช่วยคนได้อีกมากมายแท้ๆ หากเขาดูแลร่างกายตัวเองให้ดีกว่านี้อีกสักหน่อย
(แต่……ในครั้งนี้ผมไม่อยากจะจบลงแบบนั้นอีกแล้ว)
นั่นคือสิ่งที่เขาตัดสินใจไว้แล้วตั้งแต่มายังโลกใบนี้
「ผมอยากจะช่วยผู้ป่วยด้วยมือของผมเองครับ」
(ในครั้งนี้แหละ ผมจะใช้เวลาไปกับผู้ป่วยของผม และคอยดูแลพวกเขาแม้ว่าจะต้องผ่านความเป็นความตายเช่นใดก็ตาม)
พอได้ยินเช่นนั้น บรูโนก็จ้องไปยังดวงตาของฟาร์มาก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ
「นี่เป็นชีวิตของเจ้าเอง เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจอยาก แล้วพ่อก็ต้องขอโทษด้วยที่วางภาระอันหนักหน่วงเช่นนั้นให้กับเจ้าทั้งที่ยังเป็นเด็กอยู่แท้ๆ 」
พ่อของฟาร์มาก้มหัวของเขาลงแต่พูดขึ้นมาต่อด้วยคำว่า “แต่” .
「ถ้าหากมีตัวยาที่เจ้าอยากจะทดสอบผลลัพธ์ของให้ใช้ร่างกายของพ่อในการทดสอบ」
พ่อของเขาไม่ได้จะผลักความรับผิดชอบและงานทั้งหมดให้กับตัวฟาร์มาคนเดียว
“พ่อคงดีใจมากหากได้ยาจากเจ้า” ฟาร์มามองไปยังแผ่นหลังของพ่อเขาที่พูดเช่นนั้น โดยที่เดินจากไปแบบไม่หันหลังมาอีกเลยก่อนจะขึ้นรถม้าไปกับไซม่อน
เขายังคงไปตรวจผู้ป่วยอยู่ทุกวัน แม้จะดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของวิทยาลัยอยู่ด้วยก็ตาม
ฟาร์มาได้ถูกทิ้งไว้กับความคิดในเรื่องของชาติที่แล้วของเขาและแนวคิดของบรูโน ความรู้สึกมากมายค่อยๆ เข้ามายังตัวของเขา
และทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าเล็กๆ ที่ดูเร่งรีบก็เข้ามาจากทางด้านหลัง
「ท่านพี่คะ!」
น้องสาวของฟาร์มาบลานช์เรียกเขามาจากด้านหลัง เมื่อเขาหันไป เธอก็แสดงใบหน้าที่ดูตลกออกมาไม่เหมือนกับที่ฟาร์มาได้คาดการไว้เลย
「บู้ววว! ฮ่าๆๆๆ 」
ฟาร์มาคาดไม่ถึงว่าเธอจะแสดงใบหน้าเช่นนั้นออกมาและหัวเราะเป็นธรรมชาติเช่นนั้น ถ้าหากแม่ของพวกเขามาเห็นเธอคงได้ดุเอาเป็นแน่ 「โอ้ ระวังเรื่องมารยาทหน่อยสิจ๊ะ! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!」พอฟาร์มาเห็นเช่นนั้นก็เลยหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ดัง เธอก็เลยดีใจและหัวเราะไปกับเขาด้วย
「ไปคิดเรื่องยากๆ เหมือนท่านพ่อมันไม่ดีหรอกนะคะ หัวของท่านพี่อาจจะถูกแยกออกเป็นสองส่วนเลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ไม่ได้นะคะ รู้หรือเปล่า」
「นั่นก็จริงนะ」
ฟาร์มารู้สึกสดชื่นขึ้นมาก่อนจะอุ้มบลานช์เข้ามากอด จากนั้นเธอก็ได้ยื่นมาทั้งสองข้างออกมาจับไปยังมุมปากของฟาร์มาและใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้กดลงไปอย่างแรง
「เพราะแบบนั้นท่านพี่ต้องยิ้มเข้าใจไหมคะ? 」
「อื่อ ขอบใจมากนะ บลานช์」
บลานช์ได้ถูแก้มของเธอไปมาที่ตัวของฟาร์มาขณะที่ถูกเขากอดเอาไว้
หลังจากนั้นภายในพระราชวังแซงต์เฟลิฟ
จักรพรรดินีเอลิเซเบทที่สองกำลังตรวจสอบสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่ถูกนำเสนอด้วยความเคารพและนอบน้อม
อยู่เบื้องหน้าของฟาร์มาผู้นำเครื่องทำสำเนามาพร้อมกับการ์ดภาพหลากสีที่ลอตเต้ทำมาด้วยความสวยงามจนมากเกินไป มานำเสนอให้กับจักรพรรดินี
「ได้โปรดอภัยให้กับความล่าช้าของกระหม่อมด้วย」
ฟาร์มากล่าวขอโทษขณะที่เหงื่อของเขากำลังไหลออกมา เขามักจะลืมเรื่องที่ต้องทำการเสนอให้กับจักรพรรดินีอยู่เสมอเมื่อเขากำลังยุ่งๆ อยู่ ดังนั้นเขาจึงคิดอยากจะหาใครสักคนที่เชี่ยวชาญในการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ของเขาขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดินีจะไม่สนใจหากฟาร์มาไม่ได้เป็นคนมาอธิบายด้วยตัวเขาเอง นั่นแหละนะคือสิ่งที่เธอเป็น
จักรพรรดินีค่อยๆ มองรูปวาดบนการ์ดแต่ละใบก่อนจะเงียบไปครูหนึ่ง 「เอาทั้งหมดนั้นมาให้เราอย่างละชิ้นด้วยนะ」 นั่นคือสิ่งที่ฟาร์มาได้รับฟังจากเธอ เนื่องจากตอนแรกเขากังวลเป็นอย่างมากว่าจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงหรือเปล่าในเรื่องที่มานำเสนองานของเขาล่าช้าเช่นนี้
「อื้ม ช่างเป็นงานฝีมือและสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นศิลปินที่ชื่อว่าชาร์ลอต เรายังไม่เคยได้ยินชื่อของนางมาก่อนเลยนะ นางคงจะยังไม่ได้เป็นศิลปินเต็มตัวสินะ」
ไม่ใช่แค่เครื่องพิมพ์ แต่จักรพรรดินียังสนใจในงานวาดของลอตเต้ด้วยเช่นกัน ภายใต้งานออริจินอลของลอตเต้ ภาพวาดสวยงามทั้ง 5 ที่ถูกวาดออกมาในสไตล์อาร์ตนูโวและอาร์ตเดโค จักรพรรดินีคงชอบพวกมันจริงๆ เพราะขนาดตัวของฟาร์มาเองยังคิดเลยว่าภาพเหล่านี้ถูกทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ
เขาขอให้ลอตเต้นั้นพยายามอย่างเต็มที่ในการวาดภาพพวกนี้เพื่อไม่ให้จักรพรรดินีรู้สึกแย่ โดยตัวของลอตเต้นั้นก็วาดพวกมันขึ้นมาขณะกำลังฮัมเพลงอย่างมีความสุข แต่ความสามารถของเธอนั้นถือว่าเป็นของจริง เมื่อฟาร์มาได้ชมเธอเรื่องนี้ว่า 「ลอตเต้นี่เป็นอัจฉริยะทางศิลปะสินะครับ!」 ก่อนเธอจะทำเสียงประหลาดออกมา 「ฉัน ฉันน้านนนคืออัจฉริย้าาา!」เธอช่างไร้เดียงสาจริงๆ
และด้วยเหตุนี้
「นางเป็นเพียงแค่คนของทางร้านขายยาของเราเท่านั้นเองพ่ะย่ะค่ะ ที่ทำก็เป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น นางไม่ได้เป็นศิลปินหรอกพ่ะย่ะค่ะ」
「 คนร้านของเจ้านี่ดูน่าสนใจกว่าที่คิดอีกนะ ดีเลยเราชอบ ว่าแต่นางคนนั้นเป็นสามัญชนสินะ」
「ฮ่ะ!」
「เราไม่ได้รังเกียจหรอกนะถึงจะเป็นเพียงสามัญชน จากนี้ก็ช่วยพาเธอมาพบ เราด้วยนะเข้าใจหรือเปล่า? 」
จากที่จักรพรรดินีกล่าว ดูเหมือนเธออยากจะได้ลอตเต้มาเป็นจิตรกรหลวงและให้ช่วยทำการออกแบบงานกระจกสีหรืองานเครื่องแก้วอื่นๆ ภายในวัง สิ่งที่เธออยากได้นั้นต้องได้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือแม้แต่ตัวผู้คน…
(อุหวาาา ลอตเต้ซวยแล้วสิ!)
เซนต์ด้านงานศิลปะของจักรพรรดินีไม่ว่าจะเป็นเชิงความงามหรือความทันสมัยต่างก็ยอดเยี่ยม เธอสามารถประเมินคุณค่าของงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งในช่วงที่งานวาดสีน้ำมันกำลังโด่งดังนี้ ฟาร์มาคิดว่าต่อจากนี้งานแนวอาร์ตนูโวที่พระองค์ชื่นชอบอาจจะกลายเป็นที่แพร่หลายในเมืองหลวงจักรวรรดิแซงต์เฟลิฟด้วยเช่นกัน
(นี่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิตลอตเต้และยังเป็นก้าวครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เชิงศิลปะอีกด้วย……)
ลอตเต้นั้นได้เรียนเรื่องมารยาทมาตั้งแต่เธอยังเด็กในคฤหาสน์ของแกรนดยุก ดังนั้นฟาร์มาเชื่อว่าเธอคงไม่ได้แสดงท่าทีที่หยาบคายต่อหน้าจักรพรรดินีเป็นแน่ แต่บางที่เธออาจะช็อกไปเลยก็ได้หากฟาร์มาบอกเธอเรื่องที่เธออาจจะได้เป็นจิตรกรส่วนตัวขององค์จักรพรรดินี
「เราจะทำการสั่งให้วาดรูปนี้ลงบนกระจก ดังนั้นแล้วเราสงสัยจริงว่าควรให้รางวัลอะไรดีกับนาง」
ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีอยากจะสร้างกระจกที่มีลวดลายศิลป์ด้วยภาพที่เธอชื่นชอบในตอนแรก และเรื่องจากอารมณ์ของเธอนั้นไม่อาจจะคาดเดาได้บางที่คำสั่งดังกล่าวอาจจะถูกมอบให้ในพรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้
(รางวัลของลอตเต้..อื้อถ้าสิ่งที่ลอตเต้ต้องการนั้นก็ง่ายนิดเดียว)
「กระหม่อมคิดว่าพวกขนมหวานน่าจะดี」
แม้ฟาร์มาจะไม่ได้ไปถามเธอ แต่เขาก็มั่นใจว่าต้องเป็นเช่นนั้น หากลอตเต้ได้ทานพวกของหวานชั้นสูงที่จักรพรรดินีและองค์ชายทาน เช่นช็อกโกแลต เธอคงจะรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เป็นแน่และเธอคงได้ติดในรสของมันในท้ายที่สุด
「อื้ม เช่นนั้นก็ดี เราจะได้สั่งให้หัวหน้าพ่อควรทำขนมชั้นสูงให้ แล้วก็เรามีข่าวดีอีกเรื่องด้วยนะ」
ดูเหมือนจักรพรรดินีจะนึกถึงบางอย่างได้เมื่อพูดกันเรื่องรางวัล
「อะไรเหรอพ่ะย่ะค่ะ? 」
「หนึ่งในโรงอาบน้ำที่เจ้าต้องการเป็นรางวัลน่ะสร้างเสร็จแล้วนะ」
แม้ว่าเธอจะบอกว่าเป็นคำขอของฟาร์มา แต่เขาก็ไม่ได้เชิงว่าขอโดยตรงแต่อย่างใด เพียงแค่บอกว่าอยากแช่น้ำร้อนเท่านั้น แต่เพราะโนอาร์รายงานแบบนั้นไปล่ะนะ โนอาร์ในตอนนี้กลายเป็นกึ่งอัศวินไปแล้ว ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์ตัวเล็กๆ อีกต่อไป แต่ถึงเช่นนั้นเขาก็ยังคงทำหน้าที่คนรับใช้จักรพรรดินีเช่นเดิม บางทีเขาอาจจะรู้ทางลัดในการประสบความสำเร็จแล้วก็เป็นได้ ท้ายที่สุดแม้เขาจะมีตำแหน่งขึ้นมาแต่เขาก็ยังคงทำตัวไม่กระตือรือร้นใดๆ เมื่อมีงานพิธี
「จะ-จะเร็วไปหรือเปล่า……สมแล้วที่เป็นองค์จักรพรรดินี」
จักรพรรดินีมีคำสั่งให้สร้างโรงอาบน้ำทั้งหมด 5 แห่งด้วยกันในเมืองหลวงและดูเหมือนหนึ่งในนั้นจะเสร็จแล้ว ทั้งที่ยังผ่านไปไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ พูดได้เลยว่าการสร้างนั้นเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง
(บางทีอาจจะเป็นเพราะนั่นคือจักรพรรดินีนี่นะ)
「แน่นอนอยู่แล้ว แน่นอน」
“ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วเธอก็หัวเราะออกมาจากก้นบึ้งของใจ
「เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องรีบให้รางวัลแก่ผู้มีบุญคุณกับจักรวรรดิ」
องค์จักรพรรดินีสมองกล้ามกล่าวด้วยคำพูดราวกับตนเป็นผู้ชาย
「แล้วเราก็อยากจะให้เจ้าได้เห็นเป็นคนแรกเลยนะ!」
จักรพรรดินีมองมาที่ฟาร์มาอย่างโอ้อวดกับสิ่งนี้
(อ่ะ! องค์จักรพรรดินีเธอแอบเคืองเรื่องที่เราเอาของมานำเสนอให้เธอช้าจริงด้วยแฮะ……!)
「ถ้าเช่นนั้น เราไปดูโรงอาบน้ำกันเถอะ」
เหล่าข้าราชบริพารก็ต่างติดตามจักรพรรดินีที่ลุกจากบัลลังก์ของเธอไปด้วย ดูท่าโรงอาบน้ำนั้นได้ทำการสงวนจองเอาไว้สำหรับเธอเพียงเท่านั้นในวันนี้
「ตะ-ตอนนี้เหรอพ่ะย่ะค่ะ?!」
การที่สามารถสร้างโรงอาบน้ำได้เร็วขนาดนี้ก็ทำให้เขาตกใจมากพออยู่แล้วแต่นี่เขายังได้ไปร่วมพิธีการเปิดใช้อีก แน่นอนว่าปัจจุบันโรงอาบน้ำพร้อมใช้งานแล้วแต่เหลือเพียงแค่ต้องให้องค์จักรพรรดินีเข้าไปใช้งานเป็นคนแรกเท่านั้น แล้วจากนั้นเหล่าชนชั้นสูงและสามัญชนทั่วไปถึงจะได้ใช้ตาม แน่นอนว่าตามที่ฟาร์มาได้ขอไว้ คือโรงอาบน้ำนั้นได้มีการสร้างห้องแยกระหว่างชนชั้นสูงกับสามัญชนไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเวลาที่นานมากแล้วที่พระองค์ไม่ได้ออกจากวัง จึงทำให้มีการสร้างขบวนพาเหรดขนาดใหญ่นำทางไปยังโรงอาบน้ำ ซึ่งนำด้วยรถม้าสีขาวขนาดใหญ่กว่าสิบตัว ประตูของวังก็เปิดออกจนทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นองค์จักรพรรดินีได้
และฟาร์มาก็เช่นกัน เขาได้ขึ้นรถม้านั้นไปด้วย ตัวของจักรพรรดินีนั้นได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก และเนื่องจากอากาศข้างนอกวันนี้กำลังดีจึงได้ทำการเปิดหลังคาของรถม้าทำให้ใครๆ ก็สามารถเห็นข้างในตัวรถม้าได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าจะมีความปั่นป่วนเล็กน้อยในฝูงชนเมืองมีบางคนเห็นว่าตัวของฟาร์มาที่เป็นเจ้าของร้านขายยาต่างโลกนั้นได้นั่งอยู่ข้างๆ องค์จักรพรรดินีด้วย
「ทรงพระเจริญ! ทรงพระเจริญ!」
เสียงแซ่ซ้อง “ทรงพระเจริญ” ได้ดังขึ้นอย่างอึกทึก
(อ้า ไหงออกมาเป็นแบบนี้ได้กันนะ……)
ฟาร์มาเริ่มหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและค่อยๆ ขดตัวลงอยู่ข้างๆ จักรพรรดินีแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากแต่อย่างใด
「ตอนนี้เหล่าสามัญชนกำลังมองกันอยู่นะ ทำตัวให้ผ่าเผยหน่อยสิ」
「พะ-พ่ะย่ะค่ะ」
ขณะที่ถูกจ้องมองพร้อมกับรับเสียงปรบมือจากฝูงชนในที่สุดรถม้าก็มาถึงโรงอาบน้ำของจักรวรรดิแล้ว
「ว้าว สุดยอด! ช่างวิเศษเหลือเกิน!」
ฟาร์มาได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เค้าทำได้ออกมา หลังจากที่จักรพรรดินีได้พาเขามายังโรงอาบน้ำเพื่อดูอาการของเขา
「หึ แน่นอนอยู่แล้ว」
โรงอาบน้ำสาธารณะนี้สร้างขึ้นมาจากการปรับปรุงคฤหาสน์ของชนชั้นสูง ดังนั้นจึงมีพื้นที่ที่กว้าง ด้านนอกจึงดูคล้ายกับวังและได้มีการวางโครงสร้างเพื่อสร้างแหล่งให้ความบันเทิงขนาดใหญ่ภายในนั้นด้วยจากคำสั่งของจักรพรรดินีโดยตรง เหล่าพนักงานของโรงอาบน้ำก็ต่างรอการมาของเธออยู่ข้างนอกหมดแล้ว นั่นทำให้แสดงได้ถึงอำนาจอันน่ายำเกรงของเธอได้เป็นอย่างดี
ฟาร์มาลงจากรถม้าพร้อมกับจักรพรรดินีและเดินผ่านโถงทางที่สวยงามซึ่งประดับไปด้วยกระจกราคาแพงอย่างไม่ต้องสงสัย ประตูทางเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อก็สามารถเห็นได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีอยู่สองทาง
「เอ่อ คือที่จริงกระหม่อมอยากจะถามหน่อย…โรงอาบน้ำนี้ได้มีการแยกโซนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ? 」
「อื้ม แน่นอนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้วที่จะจัดการกับเรื่องของศีลธรรมส่วนรวมเช่นนี้ให้เป็นระเบียบ」
(ขอบคุณพระเจ้า…..เพราะงั้นเลยมีสี่ห้องอาบน้ำสินะ สำหรับชายหญิงและขุนนางกับสามัญชนอีกที)
เมื่อฟาร์มากำลังจะเดินตรงไปฝั่งของผู้ชายด้วยท่าทีองอาจ จักรพรรดินีก็ทำการหยุดเขาเอาไว้
「เจ้าเข้ามาที่ห้องอาบน้ำส่วนตัวของเชื้อพระวงศ์กับเราเถอะ ถ้าอย่างงั้นก็เข้าห้องอาบน้ำหญิงกันเลย」
「ทะ-ทำไมกัน พระองค์?!」
ฟาร์มาถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ
「เราอุตส่าห์สร้างมันขึ้นมาแยกไว้โดยเฉพาะ ถ้าเกิดไม่ใช่มันขึ้นมาก็ไม่เสียของออกเหรอ? 」
「ขะ-เข้าห้องอาบน้ำเดียวกับพระองค์….กระหม่อมมิบังอาจหรอกพ่ะย่ะค่ะ…」
ตอนนี้มีแขกเพียงแค่สองคนเท่านั้นในโรงอาบน้ำนี้
จักรพรรดินีและฟาร์มา ดูเหมือนว่าเธอนั้นมีจุดประสงค์ที่จะเห็นปฏิกิริยาความประหลาดใจและชื่นชมโรงอาบน้ำนี้ของฟาร์มาโดยเฉพาะ
「ฮ่าๆๆ เจ้าพึ่งจะอายุ 11 ปีเองนะ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องอย่างชายหญิงหรอก พูดเป็นคนแก่ไปได้」
แล้วเธอก็คว้าแขนของฟาร์มาไปด้วยความรุนแรง ก่อนจะมุ่งไปยังห้องอาบน้ำหญิง
พื้นที่ในห้องนั้นมีจุดเปลี่ยนชุดซึ่งกว้างขนาดที่สามารถรองรับคนได้ถึงร้อยคนเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีมุมพักผ่อนและห้องนวดอีกด้วย
「ตรงนั้นแหละ ไปกันเลย」
หลังจากเธอเดินเข้าห้องแต่งตัวไปอย่างไม่ลังเล เธอก็ตรงไปยังอ่างอาบน้ำพร้อมกับกับร่างอันเปลือยเปล่า…รูปร่างที่สมบูรณ์ บั้นท้ายที่ได้รูปนั้นได้อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว จนทำให้ฟาร์มาต้องหันหน้านี้
(นี่มันอะไรกัน เซอร์วิสจากจักรพรรดินีงั้นเหรอ)
แล้วจากนั้นเหล่าเมดก็ได้ทำการเข้ามาเก็บเสื้อผ้าของเธอ ฟาร์มาที่ถูกทิ้งไว้ในห้องแต่งตัวเพียงคนเดียวจึงได้ทำการเดินตรงเข้าไปยังห้องอาบน้ำอย่างเร่งรีบโดยใช้มือเอาผ้าปิดไว้บริเวณด้านหน้า
ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ช่างดูงดงาม ภายในโดมขนาดใหญ่นี้ ได้มีกระแสน้ำไหลลงมาสู่อ่างโดยตรง ซึ่งขนาดของมันกว้างพอๆ กับสระว่ายน้ำ 25 เมตรอีกทั้งยังมีอ่างทรงกรมและทรงสี่เหลี่ยมอยู่อีกหลายแห่ง ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีอุณหภูมิ ดีไซน์ รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป การตกแต่งภายในก็ดูฟุ่มเฟือยด้วยเช่นกัน เพราะมันประกอบไปด้วยรูปปั้นที่ทำมาจากหินอ่อน อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ก็มีต้นไม้ประดับอยู่พร้อมกับเครื่องเรือนอื่นๆ อีกมากมายซึ่งถูกจัดวางมาอย่างดี รวมไปถึงเสาสูงสีขาวที่ดูแล้วทำให้ระลึกไปถึงเสารูปแบบของกรุงโรม ก่อนที่องค์จักรพรรดินีจะเดินตรงไปยังพื้นที่ส่วนตัวซึ่งปิดล้อมไว้ด้วยกระจกตรงกลางของสวนแห่งนี้
เมื่อเข้าไป กลีบกุหลาบสีแดงได้ล่องลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ทำให้ได้กลิ่นของมันอย่างซึมซาบ
「ว๊าว〜……อย่างที่คาดไว้เลย」
ฟาร์มาในตอนนี้ได้สูญเสียคำพูดในหัวไปหมดแล้วจึงทำได้เพียงแค่มองจักรพรรดินีที่วางมือไว้บนเอวของเธอก่อนจะมองไปรอบๆ ด้วยความพอใจ เธอช่างไม่ระวังตัวอะไรเอาเสียเลย
(อ่ะ! ฝ่าบาท! ถ้าคุณหันมากะทันหันเอาแบบนี้ ผ-ผมก็เห็นมันหมดน่ะสิ!)
เมื่อฟาร์มาเห็นเช่นนั้นจนต้องเอามือปิดหน้าเอาไว้ เมดสองคนที่ตามมาข้างๆ จักรพรรดินีได้เอาเสื้อคลุมสวมให้กับเธอ
(ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ คุณเมด! ทำได้ดีมาก)
ช่างเป็นมุมมองที่ใกล้เสียเหลือเกิน ผิวของจักรพรรดินีที่อายุ 25 ปีนั้นช่างดูอ่อนเยาว์ เอวของเธอก็แสดงได้ถึงส่วนโค้งเว้าอย่างสวยงามและหน้าอกของเธอก็เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ (ถึงแม้จะเป็นมุมมองที่ดูผ่านผ้าเท่านั้นก็ตาม) โดยรวมๆ ทั้งหมดแล้วสามารถพูดได้เลยว่าเพอร์เฟค ตัวของเธอนั้นไม่ได้รู้สึกเขินอายเลยแต่อย่างใดดังนั้นเธอเลยไม่คิดจะปกปิดสิ่งใดเหมือนกับคนทั่วไปทำ
ด้วยเหตุนี้เหล่าข้ารับใช้จึงต้องเป็นผู้ดูแลในการปกปิดเรือนร่างของเธอไม่ให้สายตาของคนภายนอกได้เห็นนั่นเอง
หลังจากชำระล้างร่างกายกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้ลงไปยังอ่างกุหลาบนั้น เสียงของน้ำที่กำลังร้อนอยู่ได้ดังออกมาทั่วห้อง ไอน้ำค่อยๆ ลอยขึ้นมาพร้อมกับเหล่าสาวใช้ที่กำลังคอยพัดไปมาอย่างช้าๆ อยู่สองคน กล่าวได้เลยว่านี่คืออ่างอาบน้ำที่สร้างขึ้นมาเพื่อจักรพรรดินีใหญ่แห่งจักรวรรดิแต่เพียงผู้เดียว
「เป็นยังไงบ้างล่ะ? ชอบหรือเปล่า? เราอุตส่าห์สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้เจ้าได้รู้สึกผ่อนคลายเลยนะ ดังนั้นเจ้าก็ควรจะพักผ่อนและปล่อยตัวให้ตามสบาย」
(อำนาจเบ็ดเสร็จของเธอจะสุดยอดเกินไปแล้ว……)
ทุกสิ่งมันเริ่มมาจากเพียงแค่ว่าเขาบอกว่าอยากจะไปแช่น้ำร้อน และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็เป็นเช่นนี้ ทำให้เข้ารู้สึกแย่แบบแปลกๆ เหมือนกัน
「อ่ะคือ ต้องขอขอบพระคุณจริงๆพ่ะย่ะค่ะ」
「แค่เจ้ามีความสุขดี เราก็พอใจแล้ว」
จักรพรรดินีลดสายตาสีทับทิมของเธอลงและยิ้มอย่างมีความสุข ผิวของเธอในตอนนี้ได้แต่งแต้มไปด้วยกลีบของกุหลาบทำให้มันสามารถดึงเสน่ห์ทางเพศของผู้ใหญ่ออกมาได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เธอปลดตาข่ายสีทองที่รวบผมสีเงินของเธอเอาไว้ออกนั้นมันก็สามารถจะอธิบายได้เป็นอย่างดีว่าความงามของเธอนั้นไม่อาจจะหาใครมาเปรียบได้โดยง่ายแม้จะไร้ซึ่งเครื่องสำอางใดๆ ก็ตาม หากไร้ซึ่งเครื่องยศที่บ่งบอกถึงความเป็นจักรพรรดินี เธอนั้นก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากคนหนึ่งอยู่แล้ว โดยจากที่ทราบมาดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นม่าย เนื่องจาก จากที่เอลเลนบอกหลังจากแต่งงานกันได้ไม่นานนักสามีของเธอ ก็เสียชีวิตไปจากโรคระบาดภายในสนามรบ และตั้งแต่นั้นมาเธอจึงได้ใช้แขนอันเรียวบางของเธอนี้เองคว้าตำแหน่งจักรพรรดิเข้ามาไว้ในการครอบครองได้อย่างยอดเยี่ยม “เธอนั้นถือว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญและน่าชื่นชมจริงๆ” นั่นคือสิ่งที่ฟาร์มาคิด
ตัวฟาร์มาที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับองค์จักรพรรดินีที่อยู่ข้างๆ นั้น เขาได้ลืมที่จะดื่มด่ำกับบรรยากาศ ทัศนียภาพของโรงอาบน้ำนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีนกตัวน้อยๆ บินเล่นไปมาอยู่ด้วย แต่ทันใดนั้นเองจักรพรรดินีก็เริ่มมองไปยังรอยแผนเป็นที่แขนของฟาร์มา
「เอ๋?!」
และจักรพรรดินี ก็ได้เริ่มย่นระยะห่างระหว่างเขากับเธอมากยิ่งขึ้นก่อนจะจ้องมัน จนฟาร์มารู้สึกทำตัวไม่ถูกจึงได้พยายามปกปิดรอยแผลเป็นบนแขนนั้นเพื่อไม่ให้เธอเห็น
「เรื่องราวความลึกลับทั้งหมดมันเป็นเพราะแบบนี้เองหรอกหรือ..หืมมม」
ดวงตาของเธอเริ่มเบิกกว้างขึ้นและสีของมันเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความอิจฉาแทน
「นี่มันตราสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นี่」
(อ่ะ ไม่นะ……!)
ตอนนี้ไม่มีสิ่งไหนที่เขาจะสามารถซ่อนมันได้อีกแล้ว
「ช่างเป็นตราสัญลักษณ์แห่งเทพโอสถที่สมบูรณ์อะไรเช่นนี้」
จักรพรรดินีเริ่มพยักหน้าไปมาราวกับมั่นใจแล้วว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น ทั้งที่แผลของฟาร์มานั้นก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย นอกจากแค่เปล่งแสงออกมาในที่มืดได้ (?)
「อ่ะคือ “สิ่งนี้” มันเป็นแบบนั้นเหรอครับ? 」
ฟาร์มาเข้าใจว่าจักรพรรดินีนั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นี้เขาจึงได้ยอมแพ้ละเริ่มถาม
ตัวเธอนั้นถือว่าเป็นผู้ใช้ศาสตร์แห่งเทพที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงจะแค่แว๊บเดียวแต่เธอก็สามารถเห็นได้ว่าฟาร์มากำลังซ่อนอะไรไว้
「เจ้าควรดูตรงนี้นะ」
แล้วจักรพรรดินีก็ยกขาขวาของเธอขึ้นมาเหนืออ่างน้ำ ซึ่งบริเวณน่องของเธอนั้นได้มีแผลเป็นที่เหมือนกับเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่
「เอ๋?! นี่มันก็ตราสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นี่พ่ะย่ะค่ะ?!」
(มีคนที่ครอบครองตราสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นอกเหนือจากเราอยู่ด้วย!)
ตอนนี้ฟาร์มารู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเขากับจักรพรรดินี
「นี่ตราสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีเทพ…..แต่หากจะพูดให้ถูกต้องบอกว่ามันมีเพียงแค่ 1 ใน 4 ของสัญลักษณ์จริงๆ มันล่ะนะ」
จักรพรรดินีใช้นิ้วบางๆ ของเธอชี้ไปที่น่องก่อนจะวาดเส้นโค้งไปมา
และก็เป็นอย่างที่เธอกล่าวเพราะรู้สึกเหมือนมันมีบางจุดที่ดูขาดหายไปหางมองไปยังแผลเป็นที่ขาขวาของเธอซึ่งคล้ายกับสัญลักษณ์ของเทพอัคคี
「เมื่อตอนเราอายุได้สิบปีเราได้ถูกไฟไหม้และได้รับสิ่งนี้มา」
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ถูกพบโดยทางศาสนจักรและเริ่มเดินบนเส้นทางของจักรพรรดิ ก่อนที่เธอจะใช้ความแข็งแกร่งของเธอจัดการกับทุกคนที่ขวางทางและขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด จนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในการใช้ศาสตร์แห่งแล้วรับมงกุฎแห่งจักรพรรดิไปในท้ายที่สุด
「ตอนที่กระหม่อมอายุได้สิบปีกระหม่อมก็ได้รับสิ่งนี้มาหลังถูกฟ้าผ่าเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ」
ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกทั้งสำหรับฟาร์มาและตัวของเธอ
「มีคำกล่าวที่ว่าของถึงแม้จะมีเพียงแค่เศษเสี้ยวของตราศักดิ์สิทธิ์ถูกจารึกไว้บนร่างกายคนผู้นั้นก็จะได้รับพลังอันสูงส่งเป็นอย่างมาก」
เพราะเหตุนี้เธอจึงสามารถขึ้นมาเป็นจักรพรรดินีได้ ไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง
「และหากได้มีตราที่สมบูรณ์เช่นนี้ ก็สามารถบอกได้เลยว่านั่นต้องเป็นร่างสถิตของเทพเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อตอนที่เรายังเด็กอยู่สิ่งนั้นมันทำให้เราเดือดร้อนอยู่พอสมควรเลยล่ะ พอผ่านไปเราก็ยังคิดนะว่าจะดีสักแค่ไหนเชียวหากเราได้มีตราที่สมบูรณ์」
ฟาร์มาได้ฟังเธอพูดต่อไปอย่างเงียบๆ
「อย่างไรก็ตามตอนนี้เราคิดว่าดีแล้วล่ะที่มันไม่สมบูรณ์เพราะเรารู้สึกกลัวว่าหากเป็นเช่นนั้น สติของเราอาจจะหลุดหายไปเลยก็เป็นได้」
“้เพราะแบบนั้นแหละ” เธอกล่าวขณะมองมายังฟาร์มาด้วยสายตาที่แสดงถึงความสงสารในแง่ใดแง่หนึ่ง ก่อนฟาร์มาจะรับคำของเธอและจ้องกลับไปหาเธอเช่นกัน
「ตอนนี้ ตัวของเจ้าก็มีตราสัญลักษณ์แห่งเทพโอสถถึงสองชิ้นบนแขนทั้งสองข้างและมันก็สมบูรณ์ทั้งคู่ สื่อถึงเทพโอสถนั้นได้เลือกอยู่เคียงข้างเจ้าซึ่งมอบพลังความแข็งแกร่งและสติปัญญาอันสูงส่งให้กับเจ้า เพียงแต่…」
จักรพรรดินีได้เอานิ้วรอบไปตามรอยสัญลักษณ์บนแขนของฟาร์มา ราวกับจะปลอบโลมเด็กชายผู้เป็นเจ้าของร่างซึ่งสูญเสียไปทั้งเงาและความเป็นมนุษย์
「เราสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าที่กลายเป็นเทพโอสถไปเช่นนี้ หัวใจของฟาร์มา เดอ เมดิซิส นั้นจะยังคงเหลืออยู่หรือเปล่าหนอ」
หลังจากที่เธอโยนคำถามอันแสนเรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความโหดร้ายออกมา เธอก็เริ่มพูดต่อว่า ‘เราเริ่มจะเวียนหัวซะแล้วสิ ดังนั้นขอตัวก่อนละกันนะ’ ก่อนจะออกจากห้องอาบน้ำไป โดยทิ้งให้ฟาร์มาได้ปล่อยตัวซึมซับ แสงที่สาดผ่านกระจกและดูงดงามทอดบนผืนดิน
เขาได้ตกลงไปยังห้วงแห่งภาพลวงตา ที่ว่าสักวันหนึ่งร่างกายของเขาอาจจะเลือนหายไปและกลายเป็นแสง พร้อมกับทุกสิ่งรวมไปถึงอัตตาของตนด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้น ฟาร์มาก็พยายามจะเลิกคิดถึงมันและปล่อยตัวไปกับการแช่น้ำ
เพราะตัวเขานั้นได้นึกถึงคำพูดของแซงต์เฟลิฟขึ้นมา “ไปคิดเรื่องยากๆ มันไม่ดีหรอกนะคะ” .
อ่างอาบน้ำมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ เลยนะ ร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกผ่อนคลายจากการทำงานมาอย่างหนัก ในที่สุดมันก็ได้ปลดปล่อยแล้ว
「ฟู่ววว〜……สบายตัวจังเลยนะ บางทีเราน่าจะออกไปบ้างแล้วดีกว่า」
เมื่อฟาร์มากำลังจะออกจากห้องอาบน้ำนั้น ก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาจากห้องแต่งตัว และหลังจากนั้นไม่นานเหล่าแขกผู้หญิงหลายสิบคนก็เข้ามาในห้องอาบน้ำนี้ รวมไปถึงที่อื่นๆ ด้วย นอกจากนี้เขายังได้ยินเสียงของแพทย์โอสถขั้นหนึ่งจากร้านขายยาต่างโลก เอเลน และลอตเต้ด้วยเช่นกัน
「เห๋?!」
ผ้าเช็ดตัวที่ฟาร์มาวางไว้บนหัวนั้นได้ตกลงมา ก่อนที่หน้าของเขากะเปลี่ยนเป็นสีแดง
「ว้าว〜หน้าอกของท่านเอเลโอนอร์ใหญ่จังเลยนะคะ〜!」
เสียงที่ตื่นเต้นของลอตเต้ดังขึ้นทั่วห้องอาบน้ำ แม้ว่าพวกเขาจะปกปิดส่วนหน้าไว้ด้วยผ้า แต่ฟาร์มาก็มองเห็นสัดส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ไกลๆ แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถมองเห็นฟาร์มาที่ซ่อนอยู่บริเวณต้นไม้ประดับได้
「อะร่าๆ 〜ลอตเต้จังก็ไม่ใช่ว่าเริ่มใหญ่ขึ้นมาแล้วหรือเปล่า? 」
「เคี๊ย〜! หยุดเถอะค่ะ〜〜! มันจักจี้นะคะ〜!」
「อะร่า〜ลอตเต้จังสีชมพูสินะ?!」
(อ่ะ-อยากรู้จังเลยนะ! อะไรกันนะที่สีชมพู?! ผะ-ผมของเธอสินะ? ต้องใช่แน่ๆ เลยเนอะ……?)
ฟาร์มาที่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมานั้นได้พยายามย้ำกับตัวเอง “การถ้ำมองมันเป็นอาชญากรรม การถ้ำมองมันเป็นอาชญากรรม” แต่ความดันเลือดของเขาก็ค่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จากความกังวลและความตื่นเต้น
「โอ้จริงด้วยสินะคะ〜องค์จักรพรรดินีนี่ใจดีจังเลยนะคะ〜ที่ให้พวกเขาได้ใช้ในรอบพิเศษก่อนจะเปิดอย่างเป็นทางการจริงๆ 」
จากที่ฟาร์มาแอบฟัง เขาพบว่าพวกเธอได้รับการเชิญมาจากจักรพรรดินีเพื่อเป็นรางวัลให้กับเหล่าพนักงานของร้านขายยาต่างโลก
「ท่านฟาร์มาก็ได้รับเชิญเหมือนกันใช่หรือเปล่าคะ〜? แต่ทำไมฉันไม่เห็นเขาเลยนะคะ」
「มีคนบอกว่าเขาเข้ามาเป็นคนแรกพร้อมกับจักรพรรดินีนี่ บางที่เขาคงแช่อยู่ในบ่อผู้ชายนั่นแหละ」
เนื่องจากมีเหล่าแพทโอสถหญิงจากทางกิลด์ร้านขายและจ่ายยามาด้วยจึงเป็นธรรมดาที่จะต้องให้เขาเข้าไปบ่อผู้ชาย
(เดี๋ยวนะตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องพวกนี้สิ แย่แล้ว!)
ฟาร์มาผู้ถูกปิดตายไว้ในห้องอาบน้ำหญิงและทางเข้าห้องแต่งตัวก็ถูกล็อกไว้
(จักรพรรดินี ทำไมถึงทิ้งผมไว้คนเดียวแล้วเชิญแขกพวกนี้เข้ามาตอนขณะที่ผมยังไม่ทันได้ออกไปกันนะ! นี่กะจะแกล้งกันหรือเปล่าเนี่ย?!)
หากเขาออกไปเลยอย่างสง่าผ่าเผย เขาอาจจะได้รับการรุมประชาทัณฑ์จากเหล่าสาวๆ บางทีนั่นอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้เช่นกัน “เราควรทำยังไงดีนะ” ฟาร์มาคิดขณะกำลังซ่อนตัวอยู่โดยใช้พวกเครื่องเรือนเป็นเกราะกำบัง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาไม่สามารถออกไปยังห้องแต่งตัวได้ ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปยังอ่างส่วนตัวของจักรพรรดินีเพื่อไม่ให้ใครพบตัว
เขากระโดดลงไปในอ่างโดยมีเพียงแค่ใบหน้าเท่านั้นที่โผล่มาเหนือผิวน้ำก่อนจะใช้กลีบกุหลาบเพื่ออำพรางตัวอีกที
「ทีนี้ก็ได้แค่รอสินะ……」
ฟาร์มาพูดเพื่อปลอบโลมกับชะตากรรมที่ไม่สามารถออกจากห้องอาบน้ำนี้ไปได้……
ภายหลังเขาได้ถูกพบตัวโดยคนทำความสะอาดในสภาพหมดสติซึ่งเลยขึ้นมาอยู่เหนืออ่างกุหลาบนั้น
เพิ่มเติมว่า ขณะนี้โรงอาบน้ำแห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
จนมีข่าวลือที่ว่าคนที่ไปแช่ในฝั่งของผู้หญิงนั้น อาการปวดต่างๆ หรือไหล่แข็ง และรวมไปถึงโรคอื่นๆ นั้นอยู่ดีๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
—————-
เป็นตอนที่ดีย์
Note : สามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913