Perfect Superstar - ตอนที่ 109 พบโดยบังเอิญ
ตอนที่ 109 พบโดยบังเอิญ
ชื่อเสียงของศูนย์การค้าเสวียซื่อแม้จะไม่โด่งดัง แต่ก็เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ในย่านเมืองมหาวิทยาลัย
พื้นที่ของมันกว้างขวางพอ เป็นศูนย์รวมของแหล่งการค้า พวกซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกมสามารถอยู่ข้างในได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ มีที่กินดื่ม ที่เที่ยวมีที่เล่นสนุก
ทำเลที่ตั้งของศูนย์การค้าเสวียซื่อนั้นชัดเจน กลุ่มลูกค้าหลักคือเหล่าบรรดาอาจารย์และนักศึกษาหลายแสนคนที่อยู่ในเมืองมหาวิทยาลัย นอกจากนั้นก็ยังมีคนทำงานในละแวกใกล้เคียงด้วย ในศูนย์การค้าไม่มีสินค้าแบรนด์หรู มีแต่สินค้าระดับกลางเป็นหลัก
เมื่อก่อนลู่เฉินเคยมาที่ศูนย์การค้าเสวียซื่อนี้หลายครั้งแล้ว ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับย่านนี้เป็นอย่างดี
เขาขับรถพาลู่ซีไปจอดในที่จอดรถของศูนย์การค้าทางทิศเหนือเรียบร้อย จากนั้นค่อยเดินตามทางเดินเข้าสู่ด้านใน
เพราะว่าวันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ ในศูนย์การค้าจึงมีผู้มาเยือนคึกคักมาก
“เรากินข้าวกันก่อนเถอะ…”
ลู่เฉินมองเวลาเห็นเลย 5 โมงเย็นไปแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ร้านอาหารอวิ๋นจิ่นของที่นี่อร่อยดี ราคาก็ไม่แพง”
ลู่ซีตอบ “ดีเหมือนกัน สั่งกับข้าวแค่สองสามอย่างก็พอ ฉันกินได้ไม่เยอะ”
ลู่เฉินยิ้ม “ช่วงนี้ผมเจริญอาหารมาก กับข้าวสองสามอย่างไม่พอ อย่างน้อยต้องห้าหกอย่าง!”
ลู่ซีเอื้อมมือหยิกแขนของเขา เตือนว่า “นายตัวใหญ่ขึ้นตั้งเยอะ”
กิริยาแบบนี้เมื่อก่อนเธอไม่ค่อยทำกับลู่เฉิน
เมื่อมาอยู่ในเมืองแปลกที่ใหม่ด้วยกัน เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน ความห่างเหินของทั้งสองคนที่มีมาตลอดกำลังลดน้อยลง
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ด้านหน้าก็มีหญิงสาวสี่คนเดินมาจากทางประตูใหญ่ บังเอิญเจอกับเขาทั้งสองคนพอดี
หนึ่งในนั้นเป็นสาวสวยใส่เสื้อสีเหลือง มีสีหน้าตกตะลึง ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนหญิงสาวสวมกระโปรงสีขาวที่อยู่ข้างเธอหน้าซีดเผือด!
หญิงสาวคนนี้คือเยี่ยจื่อถง
เพื่อนร่วมห้องของเธอทั้งสามคน ปิดเทอมฤดูร้อนครั้งนี้พวกเธอเลือกที่จะอยู่ในมหาวิทยาลัยต่อ
คืนนี้เยี่ยจื่อถงถูกจั่วซินเถียนลากมาเดินเล่นในศูนย์การค้าด้วยกันพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องอีกสองคน แต่ทั้งสองคิดไม่ถึงเลยว่าจะบังเอิญมาเจอกับลู่เฉิน
เมื่อเห็นลู่เฉินกับหญิงสาวข้างกายคุยเล่นหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนถูกมีดแทง!
แม้เยี่ยจื่อถงจะรู้ดีว่าตัวเองและลู่เฉินไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันคนรัก แต่ภาพบาดใจตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่มีที่จะยืน ทั้งโกรธ อับอาย เจ็บปวด ร้าวราน!
ไม่เพียงแต่จั่วซินเถียน เพื่อนร่วมห้องอีกสองคนต่างก็รู้จักลู่เฉิน และรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนศึกษาดูใจกันอยู่
“ลู่เฉิน!”
จั่วซินเถียนตะโกนเรียก “นายทำแบบนี้ได้ยังไง!”
เธอเตรียมจะบุกเข้ามาหาลู่เฉินด้วยความโมโห สุดท้ายถูกเยี่ยจื่อถงรั้งไว้
“ช่างเถอะ…”
จั่วซินเถียนไม่ยอม “จะช่างมันได้ยังไง? เธอชอบเขาขนาดนี้ เขากลับ…”
จากที่จั่วซินเถียนมอง ลู่เฉินช่างเหมือนชายหลายใจหลิวซื่อเหม่ยในตำนานจากละครโทรทัศน์ที่ได้ดูมา พอเริ่มมีชื่อเสียงก็หาภรรยาคนที่สามคนที่สี่ ทอดทิ้งความรักของเยี่ยจื่อถงไปคบหากับคนอื่น
เป็นเรื่องที่ทนไม่ได้
สิ่งที่ทำให้จั่วซินเถียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟคือ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างลู่เฉิน หากพูดถึงหน้าตาแล้วยังเทียบเยี่ยจื่อถงไม่ได้เลย
“เยี่ยจื่อ!”
ลู่เฉินที่ตะลึงเหมือนกันเมื่อรู้สึกตัวกลับมา เขาก็ทำอะไรไม่ถูก
เขารีบเข้าไปหาเยี่ยจื่อถง ถามว่า “เธอกับเถียนเถียนมาเดินเล่นที่นี่กันเหรอ”
เยี่ยจื่อถงสะบัดหน้าหนีไม่สนใจเขา แต่ขอบตาเริ่มแดง
“เถียนเถียน เราไปกันเถอะ”
จั่วซินเถียนกับเพื่อนสาวอีกสองคนต่างพากันมองลู่เฉินด้วยสายตาดูถูก เหมือนมีดคมกริบทิ่มแทงเนื้อ!
ลู่ซีมองดูด้วย ใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
ลู่เฉินดึงแขนของเยี่ยจื้อถงไว้ กลัวเธอจะวิ่งหนี ทำให้เรื่องเข้าใจผิดยิ่งไปกันใหญ่
“เยี่ยจื่อ นี่คือพี่สาวของฉัน พี่ลู่ซี วันนี้เขาเพิ่งมาจากบ้าน”
หา พี่สาว?
หญิงสาวอีกสามคนอ้าปากค้าง ตอนนี้เองที่พวกเธอเริ่มสังเกตเห็นว่าลู่ซีกับลู่เฉินมีความคล้ายคลึงกัน!
พวกเขาเป็นพี่น้องกัน
น่าขำสิ้นดี!
จั่วซินเถียนอายแทบแทรกแผ่นดินหนี หน้าแดงเป็นลูกตำลึง
เยี่ยจื่อถงที่เดิมทีอยากจะออกแรงสะบัดมือของลู่เฉินออกไป แต่พอได้ยินคำอธิบายของเขาแล้วก็อึ้งไป จากสีหน้าที่ซีดเผือดเมื่อครู่เริ่มมีสีชมพูระเรื่อขึ้นมา รู้สึกมือไม้เก้กังทำอะไรไม่ถูก
ความเข้าใจผิดนี้ช่างใหญ่หลวงนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอไม่มีเหตุผลจะต้องหึงหวง
ทั้งสองคนเพียงแต่รู้สึกดีต่อกันเท่านั้น
ตอนนี้เองลู่ซีก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“สวัสดี ฉันเป็นพี่สาวของลู่เฉิน ชื่อลู่ซี เธอเป็นเพื่อนกับเขาเหรอ”
ลู่เฉินปล่อยมือเยี่ยจื่อถง แนะนำอย่างเก้อเขินว่า “พี่ นี่เยี่ยจื่อถง พวกเธอเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยครูปักกิ่ง เป็นเพื่อนที่ผมรู้จักในปักกิ่ง”
เยี่ยจื่อถงกล้ำกลืนความอับอาย อาศัยแรงฮึดเงยหน้าขึ้น “พี่ลู่ซี สวัสดีค่ะ”
ลู่ซียิ้มแย้ม “ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ เธอชื่อเยี่ยจื่อใช่ไหม พอดีว่าฉันเพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี่ วันนี้มาซื้อของยังไม่รู้จักร้านเลย เธอช่วยพาฉันไปดูหน่อยได้ไหม”
ต่อหน้าเยี่ยจื่อถง ลู่ซีเป็นพี่สาวที่อ่อนโยนแสนดี เธอจึงอดพยักหน้าไม่ได้
ความเข้าใจผิดผ่านไปแล้ว เยี่ยจื่อถงจึงแนะนำจั่วซินเถียนและเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนของเธอให้ลู่ซีรู้จัก
สาวๆ อายุห่างกันไม่มาก จึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายลู่เฉินถูกลืมทิ้งไว้ด้านข้าง
ยังดีที่อาหารเย็นยังต้องรับประทาน ทุกคนปรึกษากันแล้วไปร่วมโต๊ะกันที่ร้านอาหารอวิ๋นจิ่น
ลู่ซีดูเหมือนชอบเยี่ยจื่อถงมาก ชวนเธอคุยไม่หยุด
แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังไม่ปล่อย
แค่อาหารมื้อเดียว ทั้งสองก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกกันและกันว่า ‘พี่ซี’ กับ ‘เยี่ยจื่อ’ แล้ว
อาหารเย็นอันโอชะผ่านไป ลู่เฉินจ่ายค่าอาหาร
พี่สาวเป็นผู้ใหญ่ใจดี ไม่ได้ให้เขาคอยถือของช้อปปิ้งของสาวๆ ทั้งหมด มีเพียงถุงเล็กถุงน้อย บอกเขาว่าเมื่อพวกเธอซื้อของเสร็จแล้วค่อยติดต่อเขา
แน่นอนว่าต้องใช้เวลานานมาก
ลู่เฉินคิดแล้ว ไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตชั้นบนสุดของศูนย์การค้าแล้วเล่นอินเทอร์เน็ตฆ่าเวลาดีกว่า
ใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนเปิดคอมพิวเตอร์แล้ว เขาเข้าสู่เว็บไซต์ ใช้คำค้นหาว่า ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ หาเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
สุดท้ายหาข้อมูลได้ไม่น้อย
การเป็นอันดับหนึ่งใน 16 คนผู้ผ่านเข้ารอบของเขตปักกิ่งในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ นอกจากเว็บไซต์ของทางรายการเองแล้ว ชื่อของลู่เฉินยังไม่ค่อยปรากฏวี่แววในเว็บไซต์อื่นมากนัก มีส่วนน้อยที่ไปปรากฏในเว็บไซต์เล็กๆ บางแห่งเท่านั้น
บางเว็บบอร์ดหรือโพสต์ที่วิพากษ์วิจารณ์ลู่เฉินก็มีไม่น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผลงานเพลง
หากเทียบกับผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบ 16 คนอีกหลายคน คำค้นหาของพวกเขายังมีมากกว่าลู่เฉินอีก เช่น ‘นักร้องหน้าใหม่เจิ้งข่ายแสดงเข้าตากรรมการ อาศัยค่ายเพลงเทียนไล่ทำให้กรรมการยอมรับ ชิงตำแหน่งหนึ่งใน 16 คนที่เข้ารอบรายการขับร้องให้ก้องจีน!’ เป็นต้น เนื้อหาเต็มหน้าจอไปหมด
ลู่เฉินรู้ดีในเหตุผลข้อนี้ นั่นก็คือนักร้องที่เซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่ เบื้องหลังจะมีทีมโฆษณาที่คอยช่วยสร้างกระแส ดังนั้นในเว็บไซต์ใหญ่ๆ ถึงได้นำเสนอข่าว แค่ค้นหาก็จะพบได้มากมาย
ในเรื่องนี้ลู่เฉินไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจหรืออึดอัดใจแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องธรรมดาในวงการบันเทิงในยุคนี้ หากไม่ทุ่มเงินสร้างกระแสคงจะโด่งดังได้ยาก ไม่มีข่าวยังต้องสร้างข่าวขึ้นมาล่อตาคน คนหน้าใหม่ที่พึ่งพาตัวเองอย่างเดียวแบบเขาช่างมีน้อยหาได้ยาก
เสียดาย เสียดาย ต้องยอมเสียถึงจะได้มา ต้องยอมละทิ้งชื่อเสียงจอมปลอม จึงจะทำให้ลู่เฉินได้อิสระมาครอบครอง
ทองคำย่อมเปล่งแสงอยู่วันยังค่ำ ตอนนี้แค่รายการแข่งขันร้องเพลงของเขตปักกิ่ง รอถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ชื่อของเขาจะยิ่งต้องมีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้ไม่จ่ายเงินสักหยวนก็ใช่ว่าจะไม่ได้ขึ้นเป็นแนวหน้า!
นอกจากนี้ ลู่เฉินกำลังสร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมาเพื่อช่วยเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต
ปิดการค้นหาข่าวลงแล้ว เขาก็เข้าสู่เว็บไซต์หลางเฉาป๋อเค่อ
ลู่เฉิน FMX บัญชีนี้เพิ่งสมัครไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้รับการยืนยันให้เป็นระดับ ‘V’ แล้ว ตอนนี้มีแฟนคลับติดตามมากกว่า 75000 คน ส่วนใหญเป็นแฟนคลับจากเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’
ดีที่ได้หลี่ไป๋คอยช่วยเผยแพร่ ไม่เช่นนั้นเขาทำคนเดียว คงไม่มีแฟนคลับมากขนาดนี้
ตามวิธีของเหล่าบรรดาเศรษฐี ความจริงแล้วอยากจะเพิ่มยอดแฟนคลับนั้นง่ายดาย แค่จ่ายเงินก็แลกแฟนคลับได้มาเป็นล้านคนนั้นเป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ และเพิ่มอีกนิดหน่อยก็จะได้เป็นระดับ ‘ต้าV’ เป็นคนดังในเว็บไซต์
แต่วิธีการหาแฟนคลับซอมบี้[1]แบบนี้มาจนได้เป็นระดับ ต้าV นั้น ลู่เฉินขอยอมแพ้!
เพราะเขาไม่ชอบการหลอกลวงคนอื่น ยิ่งไม่ชอบหลอกลวงตัวเอง
ในเว็บไซต์เขาได้เพิ่มเนื้อหาลงไปเพิ่มอีกสองตอน แล้วยังตอบคำถามเหล่าแฟนคลับอีกไม่น้อย เวลาผ่านไปเร็วมาก
เกือบ 3 ทุ่มแล้ว ลู่ซีค่อยโทรศัพท์หาเขา
เธอเดินชอปปิงเสร็จสักที
ลู่เฉินปิดคอมพิวเตอร์ จ่ายเงินและออกมา พอมาถึงประตูทางเข้าศูนย์การค้าก็พบกับลู่ซีและหญิงสาวอีกสี่คน
แต่ละคนถือถุงใบเล็กใบใหญ่ คืนนี้พวกเธอได้ข้าวของมากมาย!
หลังจากพบกันแล้ว ลู่ซีบอกกับลู่เฉินว่า “นายเอากุญแจบ้านกับกุญแจรถมาให้ฉัน ฉันจะไปส่งพวกเถียนเถียนกลับมหาวิทยาลัยแล้วจะกลับบ้านเอง นายอยู่เป็นเพื่อนจื่อถงเถอะ”
ลู่เฉินมองเธอด้วยความทึ่ง และมองเยี่ยจื่อถงด้วย ฝ่ายหลังแก้มแดงระเรื่อไม่พูดอะไร
แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธ
จั่วซินเถียนเม้มปากยิ้ม
“พวกเธอสองคนไปเที่ยวต่อเถอะ กลับดึกหน่อยไม่เป็นไร ไว้เจอกันนะ!”
เธอขยิบตาให้เยี่ยจื่อถง
เยี่ยจื่อถงหน้าแดงขึ้นไปอีก ขยิบตากลับไปให้เธอ
ลู่เฉินไม่ค่อยวางใจ “พี่ พี่รู้ทางไปจิ่นเฉิงวานเหรอ”
เขากลัวลู่ซีหาทางกลับบ้านไม่ถูก
ลู่ซีตอบว่า “ต่อให้ฉันจำทางไม่ได้ ยังใช้มือถือนำทางได้นี่”
ลู่เฉินยอมแพ้ ส่งกุญแจรถและกุญแจบ้านให้เธอ
ลู่ซีพาพวกจั่วซินเถียนกับเพื่อนอีกสองคนจากไป เหลือเพียงลู่เฉินกับเยี่ยจื่อถง
จะว่าไปตั้งแต่ตอนเล่นสเก็ตน้ำแข็งครั้งนั้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกเลย เพียงคุยกันผ่านเฟยซวิ่น
ตอนนี้ได้พบกับเธอ ในใจของลู่เฉินบังเกิดความรู้สึกหวานละมุนขึ้นมา
วันนี้อาจเป็นความบังเอิญ ทว่าไม่ใช่บุพเพของพวกเขาทั้งสอง
เขาจูงมือเยี่ยจื่อถงอย่างเป็นธรรมชาติ บอกว่า “เดินจนเหนื่อยแล้วใช่ไหม เราไปหาร้านของหวานนั่งทานกัน”
เยี่ยจื่อถงพยักหน้าคล้อยตาม
ผ่านความเข้าใจผิดเมื่อครู่ไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก้าวหน้าขึ้นไปอีกก้าวใหญ่
แม้ว่ายังไม่สามารถระบุความสัมพันธ์ได้ชัดเจน แต่ความรู้สึกที่ปิดบังซ่อนไว้ ทำให้ประทับใจได้มากที่สุด!
…
ตอนนี้เอง ลู่เฉินไม่รู้เลยว่า
ในโลกออนไลน์ มีพายุข่าวที่เกี่ยวกับเขากำลังพัดถาโถมเข้ามา!
……………………………………………………………
[1]แฟนคลับซอมบี้ หมายถึง แฟนคลับที่ไม่มีตัวตนจริงๆ