Perfect Superstar - ตอนที่ 121 แห่กันมา
ตอนที่ 121 แห่กันมา
รายการขับร้องให้ก้องจีนเป็นรายการประกวดการแข่งขันคัดเลือกอันดับหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง แบ่งเป็นเขตปักกิ่ง เขตเซิ่งจิง เขตฮู่ไห่ เขตหางโจว เขตเทียนฟู่ เขตฮวาเฉิง และเขตปี้ไห่เจ็ดเขตการแข่งขันใหญ่ เงินรางวัลรวมทั้งหมดมากกว่าสามสิบล้านหยวน!
เงินจำนวนมากขนาดนี้ มากกว่าของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานที่ขี้โม้อวดรวยเสียอีก
แม้จะบอกว่าเงินสามสิบล้านหยวนมีเพียงสิบล้านหยวนที่เป็นเงินสด ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นการเซ็นสัญญาเข้าสังกัด การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อแยกรายละเอียดออกมาแล้วยังเป็นจำนวนไม่น้อย
รางวัลของของแต่ละเขตการแข่งขันมากถึงหนึ่งแสน รองชนะเลิศห้าหมื่น รางวัลที่สามคือสองหมื่นหยวน ส่วนที่เหลืออีก 7 รางวัลก็ได้คนละหนึ่งหมื่น ทั้งหมดเป็นจำนวนเงินที่หักภาษีแล้ว
ผู้ผ่านเข้ารอบสิบคนของเขตปักกิ่งถูกคัดเลือกแล้ว ต้นเดือนหน้าจะเริ่มออกเดินทางทัวร์แข่งขัน ไปยัง 6 เขตต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้เข้าร่วมทั้ง10 คนจะได้รับรางวัลที่เหมาะสม จนได้รับการตัดสินเป็นผู้ชนะเลิศ10 อันดับจากทั่วประเทศ แล้วค่อยกลับมาที่ปักกิ่งเพื่อตัดสินรอบสุดท้าย
เงินรางวัลรวมชนะเลิศทั้งหมดมากถึงห้าสิบล้าน รวมรางวัลหนึ่งล้านและรางวัลการปลูกฝังดาวดวงใหม่แห่งวงการอีกสี่ล้านหยวน!
เป็นเพราะรางวัลมหาศาลเช่นนี้ทำให้รายการขับร้องให้ก้องจีนเป็นที่หมายปองของนักร้องทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น การแข่งขันทั้ง 7 เขตใหญ่เป็นไปอย่างเข้มข้น เรตติ้งของรายการทะยานสูงขึ้น
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งทางด้านการโฆษณาก็หารายได้มากมายมหาศาล
เขตปักกิ่งเป็นเขตที่สำคัญที่สุดของรายการ เรตติ้งของคืนวันที่ 31 กรกฎาคม อันเป็นคืนการแข่งขันรอบตัดสินคัดเลือก 10 คน เรตติ้งทะลุ 4% สูงถึง 4.76% ใกล้ถึงยอดเรตติ้ง 5% แล้ว
ตอนนี้การคิดเรตติ้งของสถานีโทรทัศน์ในประเทศล้วนมาจากการประมวลผล ของบริษัทโทรทัศน์ใหม่ที่อยู่ภายใต้สำนักงานวิทยุและโทรทัศน์ เป็นเครือข่ายที่มีอำนาจมากและเป็นอันดับสามของประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงแม่นยำและน่าเชื่อถือ
ยุคก่อนเป็นยุคที่ผลประโยชน์ของโฆษณาในโทรทัศน์มีมากเป็นทวีคูณ มีสถาบันที่สำรวจเรตติ้งของรายการโทรทัศน์สิบกว่าแห่ง เนื่องจากไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่แน่นอน ทั้งยังมีการกระทำที่ไม่โปร่งใสและมีธุรกิจแลกเปลี่ยนที่อยู่เบื้องหลัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
องค์กรบางแห่งไม่มีสิทธิ์ที่จะทำด้วยซ้ำ แต่ยังคงกล้าจัดอันดับเรตติ้งอยู่
ต่อมาโลกของวงการเกิดความเห็นมากมาย ดังนั้นหน่วยงานบริหารวิทยุและโทรทัศน์จึงตั้งขอบเขตการรับชมใหม่ นำเอาความเหลวแหลกทั้งหลายโยนทิ้งใส่ถังขยะให้เป็นอดีตไป ถึงทำให้ได้ข้อมูลการจัดเรตติ้งของรายการในประเทศที่น่าเชื่อถือ
การรวบรวมข้อมูลเรตติ้งแนวใหม่นี้ ไม่เพียงแต่จำกัดแค่ในหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น ยังรวมถึงการออกอากาศสดออนไลน์ด้วย รายการขับร้องให้ก้องจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง การแข่งขันเขตปักกิ่ง เรตติ้งไม่เคยได้เกิน 4%
ครั้งนี้เรตติ้งพุ่งสูงถึง 4.76% สูงขึ้น 1%กว่า ควรที่จะฉลองความสำเร็จได้แล้ว
คืนวันที่ 1 สิงหาคม รายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน เป็นการถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศรอบแรก เรตติ้ง 3.42%
ผลลัพธ์เห็นกันอยู่คาตา ด้านรายการบันเทิงสถานีโทรทัศน์เซียงหนานเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ เมื่อเทียบกับสถานีโทรทัศน์อื่นแล้วพวกเขาไม่เคยแพ้เลย ช่วงแรกยังมีเรตติ้งนำสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอยู่
แต่ตอนนี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
แม้จะบอกว่าเหตุผลหลักยังต้องมาวิเคราะห์กัน แต่คนในวงการมองว่าที่เรตติ้งของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองตกนั้น มีความเกี่ยวเนื่องกันกับที่การสนับสนุนหลิงเสี่ยวซูมีไม่เพียงพอ
ระหว่างการแข่งขันในคืนนั้น ผลงานเพลงของหลิงเสี่ยวซูแสดงออกมาได้ธรรมดา ทั้งในโลกออนไลน์ ข่าวที่เขาคัดลอกเพลงของวงนักร้องบอยแบนด์เกาหลี KDK ยังไม่หมดสิ้นไป
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การเป็นคู่แข่งของหลิงเสี่ยวซู รายการขับร้องให้ก้องจีนให้การเกื้อหนุนลู่เฉินที่ยิ่งทำก็ยิ่งชนะ
การแข่งขันตัดสินผู้เข้ารอบ10 คนสุดท้ายของเขตปักกิ่ง ลู่เฉินนำเอาเพลง ‘บินให้สูงขึ้น’ ออกมาแสดง วันรุ่งขึ้นเพลงนี้ได้ขึ้นเป็นอันดับที่สองของตารางการจัดอันดับเพลงใหม่ในเว็บไซต์เพลงเฟยซวิ่น ติดอันดับที่ 9 ยอดคนกดเข้าชมและกดดาวน์โหลดสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
ในเว็บบล็อกหลางเฉา ทีมผู้สนับสนุนหลิงเสี่ยวซูสลายตัวไปหมด ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายของทีมขุนศึกตระกูลลู่ ได้แต่สร้างทำเป็นหมาแกล้งตาย
เมื่อเรตติ้งของรายการขับร้องให้ก้องจีนทะยานขึ้นสูง ลู่เฉินได้หลุดออกจากวงจรเดิมของตัวเองเสียที เริ่มก้าวแรกในการมีชื่อเสียงในวงการเพลงแนวใหม่และวงการบันเทิง
แม้เขาจะเป็นดาวดวงใหม่ที่ยังอ่อนต่อวงการ แต่การเป็นศิลปินเดี่ยว เดินโดยลำพังคนเดียวมาได้ไกลขนาดนี้ถือว่ามหัศจรรย์มากแล้ว ทั้งยังคาดว่าในอนาคต แสงดาวของเขาจะสุกสกาวส่องสว่างมากขึ้น
หลังการแข่งขันรอบคัดเลือก 10 คนของเขตปักกิ่งสองวัน มีบริษัทเอเจนซี่และบริษัทผู้จัดการดูแลศิลปินมากมายติดต่อเข้ามา
พวกเขาสืบเสาะประวัติเบื้องต้นของลู่เฉิน อยากรีบมาเข้ามาคว้าตัวเขาโดยเร็ว
ลู่เฉินโยนเรื่องราวทั้งหมดให้ลู่ซี
เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการเจรจาเรื่องการเซ็นสัญญา แต่เรื่องความร่วมมือในการทำงานไม่มีปัญหา ขอเพียงแค่ฝ่ายนั้นมีความซื่อตรง
ส่วนสิ่งที่เขาเรียกว่าความร่วมมือในงานนั้นก็คือการขายเพลง!
พวกคุณมีกลุ่มนักร้องบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปที่อยากได้เพลงดีๆ ไม่ใช่เหรอ?
ถ้าอย่างนั้นออฟฟิศลู่เฉินของเราสามารถทำให้ได้ ส่วนคุณภาพของผลงานดูได้จากเพลงในฤดูใบไม้ผลิ เพลงเหตุผลอันมั่นคง เพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน เพลงบินให้สูงขึ้น เป็นต้น
ส่วนเรื่องราคา หนึ่งเพลงสองแสนหยวนขึ้นไปและไม่มีเพดาน!
ออฟฟิศของลู่เฉินเปิดราคาเริ่มต้นที่น่าตกใจ จนทำให้คนที่คิดอยากจะมากดราคาของเพลงให้ถูกๆ ต้องวิ่งหนี และทำให้บริษัทที่มีอิทธิพลหลายบริษัทต้องคิดแล้วคิดอีก
ความสามารถของลู่เฉินชัดเจนให้เห็นอยู่แล้ว แค่เพลงในฤดูใบไม้ผลิเพลงเดียวอย่าว่าแต่เงินสองแสนเลย ต่อให้ถึงหนึ่งล้านหยวนก็คุ้มที่จะจ่าย ผลงานเพลงชั้นเยี่ยมอย่างนี้มีน้อยเหลือเกิน
การจ่ายเงินสองแสนแลกเพลงหนึ่งเพลงสำหรับพวกเขาไม่ได้รับความกดดันใด แต่หากเพลงที่ซื้อมาไม่เหมาะสม ไม่มีการใช้ผลงานเพลงนี้หาผลประโยชน์ได้มากพอ ผู้ที่รับผิดชอบจะต้องตกที่นั่งลำบากแน่นอน
จากหลักพันเป็นหลักหมื่น มีแต่ลู่เฉินนี่แหละที่กล้าบอกราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างจากนักแต่งเพลงรุ่นเก่า ที่ไม่ว่าทั้งเกียรติยศชื่อเสียงหรือความสามารถต่างเชื่อถือได้ หากว่าเขาเกิดหมดแรงบันดาลใจ เขียนเพลงดีๆ ออกมาไม่ได้อีกจะทำยังไง?
เงินสองแสนนั้นก็จะสลายหายไปกับสายน้ำ แล้วยังกลายเป็นเรื่องตลกของคนอื่น!
ตอนนี้ผลงานเพลงของลู่เฉินมีไม่น้อยแล้ว การเป็นคนหนุ่มหน้าใหม่นั้น เขายังมีประสบการณ์น้อยนัก
นอกจากนี้ในวงการยังมีข่าวลือว่า เพลงในฤดูใบไม้ผลิ เพลงเหตุผลที่มั่นคง เพลงฉันอยากมีบ้าน เพลงบินให้สูงขึ้น เนื้อเพลงเหล่านี้ไม่เหมือนว่าลู่เฉินเขียนขึ้นเอง อาจมีคนที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นได้
เรื่องที่คล้ายกันแบบนี้ เมื่อก่อนเคยมีตัวอย่างให้เห็น
ตอนนี้ดารานักร้องรากหญ้า 99% ต้องสร้างกระแสให้ดัง
ข่าวลือเหล่านี้มีมูล ทั้งยังมีเหตุผลที่ฟังขึ้น แม้จะบอกว่าเกิดจากคนที่ขี้อิจฉา แต่ลู่เฉินโด่งดังขึ้นโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ลมที่พัดมาในหุบเหวมีหรือจะไร้ที่มา!
ดังนั้นหลังจากเจรจากับลู่ซีแล้ว บริษัทพวกนี้จึงเลือกที่จะมองดูอยู่ห่างๆ
ลู่เฉินไม่ได้สนใจสักนิด เขาบอกกับลู่ซีว่า “ต่อไปถ้าพวกเขามาอีก เสนอราคาเพลงละสามแสนไปเลย น้อยกว่านี้ไม่ต้องคุย!”
ลู่ซีหัวเราะ “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง?”
ลู่เฉินเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “ถึงตอนนั้นพวกเขาจะมาขอร้องเรา ไม่ใช่เราไปขอร้องพวกเขา”
ลู่เฉินมีขุมทรัพย์มหาศาลอยู่ ก็คือเพลงคลาสสิกโด่งดังจำนวนนับไม่ถ้วนในโลกแห่งความฝัน ผลงานเพลงที่โดดเด่นเหล่านั้นไม่อาจนำมาร้องเองได้ทั้งหมด จะต้องขายทิ้งไปหลายเพลง
แต่ของดีๆ ถ้านำออกมามากก็ไม่ได้ราคา เหตุผลนี้ลู่เฉินเข้าใจดีที่สุด ดังนั้นเขายอมเก็บเอาไว้อยู่ในมือไม่มีทางปล่อยออกไปในราคาถูกหรอก
บริษัทเอเจนซี่ที่ติดต่อเขามาเห็นได้ชัดว่ายังไม่รู้หรือรู้ แต่ไม่กล้าพนันกับความสามารถที่ตัวเองมี จึงขอเฝ้าสถานการณ์ต่อก็เป็นเรื่องปกติ
รอดูต่อไป เมื่อการแข่งขันรายการขับร้องให้ก้องจีนจบลง สถานการณ์จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ผู้ที่จะเข้ามาหาเขาจะไม่ใช่แค่แมวน้อยไม่กี่ตัวเท่านั้น
ลู่เฉินมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
เขาตั้งออฟฟิศขึ้น เดินบนเส้นทางศิลปินสายนี้เพียงลำพัง ไม่เคยคิดว่าจะต้องต่อสู้แย่งชิงกับคนอื่นในวงการยังไง
ออฟฟิศของลู่เฉินมีขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ตัวเขาเองทั้งหมด ออฟฟิศนี้จะไม่ไปดึงใครมาเซ็นสัญญา ไม่เป็นแมวมอง ไม่แย่งชิงข้อมูล แต่กลับทำข้อมูลนั้นขึ้นเอง จะได้ร่วมมือกับเพื่อนร่วมวงการอีกมากมาย
อย่างเช่นสตูดิโอเนี่ยผานที่ร่วมกันทำอัลบั้มเพลงของเขา
อย่างน้อยลู่เฉินในตอนนี้ไม่มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงจะเป็นราชาแห่งวงการนักร้อง เขาเพียงต้องการเป็นซูเปอร์สตาร์เหมือนกับถานหง หรือต้องการเป็นไอดอลที่ดีกว่าตอนเด็กที่เขาหวังไว้ กลายเป็นเพอร์เฟกต์ซูเปอร์สตาร์
เขาจะทำให้ทุกคนจดจำชื่อของเขาไว้ นำเพลงดีเด่นในฝันของเขามาถ่ายทอดบนโลกของความเป็นจริง
และการจะบรรลุความฝันนี้ อาจจะต้องใช้เวลาทั้งหมดของชีวิต!
บางคนเข้ามาแล้วจากไป กลับไปมือเปล่า
บางคนเข้ามา ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปคงไม่ยอมง่ายๆ
คนแบบนี้ ลู่เฉินยินดีต้อนรับ
“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการซู!”
วันที่ 3 สิงหาคม ก่อนลู่เฉินออกเดินทางสู่เมืองเซิ่งจิงหนึ่งวัน ซูชิงเหมย ผู้อำนวยการใหญ่แห่งบริษัทสื่อบันเทิงชิงอวี่เดินทางมาที่ออฟฟิศของเขา
ผู้หญิงคนนี้พาผู้ช่วยมาด้วยสองคน ลู่เฉินออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง
อย่างน้อยบริษัทชิงอวี่ถือว่าเป็นบริษัทคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่ง
ซูชิงเหมยไม่ได้ใยดีออฟฟิศเล็กๆ นี้ แม้แต่จะชายตามองด้วยความสนใจยังไม่มี เธอเข้าเรื่องตามตรงว่า “ลู่เฉิน เพลงบินให้สูงขึ้นนี้พวกเราเอาแน่ เซ็นสัญญาตอนนี้ได้เลย!”
วงเฮสิเทชั่นดังเป็นพลุแตก เพลงในฤดูใบไม้ผลิได้ขึ้นติดอันดับสูงสุดในอันดับเพลงจีนสามสัปดาห์ติดกัน บริษัทชิงอวี่ผู้เป็นเจ้าของสัญญาเพลงมีหรือจะมองข้ามความสามารถของลู่เฉิน?
ดังนั้นซูชิงเหมยจึงมาถึงที่ อย่างไรเสียเธอก็ไม่ชอบหน้าลู่เฉินอยู่ดี
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย
“เพลงนี้เตรียมไว้ให้กับวงจื่อเป่ยเจินทำอัลบั้ม เป็นเพลงหลักเพลงที่สองใช่ไหมครับ”
ซูชิงเหมยอึ้ง “นายรู้ได้ยังไง”
เดายากขนาดนั้นเชียวเหรอ บริษัทชิงอวี่เซ็นสัญญากับวงจื่อเป่ยเจินก่อน จากนั้นค่อยเซ็นสัญญากับวงเฮสิเทชั่น แต่เพราะวงหลังทำอัลบั้มออกมาก่อน ถึงได้โด่งดังในวงการก่อน
ตอนนี้วงเฮสิเทชั่นดังมาก บริษัทชิงอวี่อยากตีเหล็กตอนกำลังร้อน อีกแง่หนึ่งอยากผลักดันวงจื่อเป่ยเจิน อาศัยโอกาสนี้อัพเกรดสถานะของตัวเอง
มีวงเฮสิเทชั่นเป็นตัวอย่าง แค่เพลง ‘บลูโลตัส’ เพลงเดียวไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของบริษัทชิงอวี่ที่มีต่อวงจื่อเป่ยเจิน ความต้องการของพวกเธอตั้งไว้สูง
“เรื่องลิขสิทธิ์เพลง คุณคุยกับผู้จัดการออฟฟิศของเราก็แล้วกัน!”
ลู่เฉินขี้เกียจตอบคำถามเธอ ผลักไสภาระหนักทั้งหมดไปให้พี่สาว “ลู่ซี เป็นผู้จัดการส่วนตัวของผมด้วย”
เขาเชื่อในความสามารถของลู่ซี ว่ามีมากพอที่จะรับมือคุณผู้หญิงคนนี้ได้อยู่หมัด
ไม่มีทางอ่อนข้อให้บริษัทชิงอวี่
ซูชิงเหมยพบกับลู่ซีเป็นครั้งแรก
ตอนที่พวกเธอจับมือกัน สายตาของทั้งคู่ส่องประกาย เหมือนมีประกายไฟปะทุขึ้นตรงกลางอากาศระหว่างเธอทั้งสอง
………………………………………………………………………………