Perfect Superstar - ตอนที่ 198 มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
ตอนที่ 198 มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
“ฮ่าๆๆ…”
เสียงปลายสายส่งมาตามหูโทรศัพท์ความคมชัดสูง เป็นเสียงหัวเราะกังวานใสราวกระดิ่งเงินที่กระตุกหัวใจของลู่เฉิน
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ข่าวขึ้นพาดหัวหน้าหนึ่ง เทียบกับความกระสับกระส่ายของเขาฝ่ายแล้วดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด กลับดูสนุกสนานเสียมากกว่า
ลู่เฉินหน่ายใจ “พี่เฟย พี่ว่าผมควรจะออกไปอธิบายอะไรไหม”
ภายในเวลาครึ่งวัน ข่าวซุบซิบของเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์แพร่ไปทั่วทั้งวงการ กลายเป็นหัวข้อข่าวร้อนแรงในบล็อกล่างฉาว ระหว่างที่เขาถ่ายภาพโฆษณา หลี่เฟยอวี่ได้รับโทรศัพท์เป็นหลายสิบสาย!
ลู่เฉินเพิ่งเปิดดูบล็อก คอมเมนต์ของเขาในบล็อกแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ฝ่ายหนึ่งเป็นแฟนคลับของเขาที่ช่วยอวยพร อีกฝ่ายเป็นแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ตำหนิเขาด้วยถ้อยคำหยาบคายอย่างบ้าคลั่ง จนเหมือนตกอยู่ในวังวนหมอกดำไม่มีแสงแสว่าง
คำตำหนิที่รุนแรงที่สุดคือหาว่าเขาตั้งใจสร้างกระแส ใช้เฉินเฟยเอ๋อร์สร้างกระแสเพื่อให้ตัวเองก้าวหน้า
นักข่าวที่ออกมานำเสนอข่าวนั้นเขาเป็นคนจ้างมา!
คำค้นหาเช่นนี้ไม่ใช่ว่าคนที่ใส่ร้ายเขาสร้างขึ้นมา ในวงการบันเทิงเรื่องแบบนี้มีมากมายเหลือเกิน ดาราตัวเล็กๆ มักชอบ ‘ต้มตุ๋น’ ดาราซูเปอร์สตาร์ให้ติดกับแล้วหลอกสร้างกระแสให้ตัวเองมีนับไม่ถ้วน
เมื่อก่อนเฉินเฟยเอ๋อร์เคยพบกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แฟนคลับของเธอถูกกระตุ้นง่ายเกินไปหน่อยก็ไม่แปลก
สำหรับราชินีนักร้องสาวคนนี้ ตอนนี้ลู่เฉินเป็นคนในวงการไปเรียบร้อยแล้ว!
แต่ลู่เฉินถูกใส่ร้าย!
การเป็นศิลปินอิสระ เขาเข้าวงการจนถึงวันนี้ยังไม่เคยมีข่าวสักเท่าไหร่ น้อยมากที่จะโฆษณาตัวเอง หลายครั้งที่เขายืนอยู่ในจุดเสี่ยงต้องหาทางตอบโต้เอาเอง
ด้วยความสามารถที่เขามี อยากจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์นั้น ยังต้องการสะสมเวลา เส้นสาย และเงินทุน
ความจริงลู่เฉินตอนนี้คะแนนที่เขาได้รับ ไม่มีคนหน้าใหม่ในวงการคนไหนได้รับมาก่อน
แล้วเขาจะทำเรื่องต่ำช้าอย่างนั้นเพื่อดึงดูดความสนใจอย่างนั้นเหรอ
ดังนั้นพอรู้ข่าวนี้ เขารีบโทรศัพท์หาเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นอันดับแรก
ไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดว่านี่เป็นฝีมือของเขา
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “นายไม่ต้องวิตก ฉันออกไปอธิบายก็พอ ออฟฟิศของฉันจะออกประกาศเอง นายวางใจทำงานต่อไปเถอะ แล้วจะได้เพิ่มความนิยมมากขึ้นด้วย”
เธอรู้ข่าวก่อนลู่เฉินนานแล้ว แต่ไม่ได้ประกาศในทันที จนลู่เฉินต้องติดต่อมา
เฉินเฟยเอ๋อร์เชื่อลู่เฉิน ฟังออกในน้ำเสียงอันร้อนรนของเขาที่อยากอธิบาย กลับอดขำออกมาไม่ได้
เพราะลู่เฉินให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก
ไม่อย่างนั้นด้วยความสุขุมของเขาคงจะไม่ร้อนใจเท่านี้!
ตอนนี้พี่เฟยพอใจแล้ว แน่นอนว่าต้องออกโรงแก้ปัญหา เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วเล็กน้อยมาก
ลู่เฉินอึดอัดใจ
เพิ่มความนิยมเหรอ บล็อกของเขาถูกคนด่าจนแทบพลิกแผ่นดินหนี แฟนคลับสองฝ่ายกำลังรบกันแล้ว!
เฉินเฟยเอ๋อร์เชื่อมั่นในตัวเขาขนาดนี้ เขาย่อมดีใจมาก
ความกดดันในใจโบยบินหายไปแล้ว
ความจริงเวลานี้ลู่เฉินไม่รู้ว่า ความสำคัญของเขาในใจของเฉินเฟยเอ๋อร์มีค่ามากเท่าไหร่…
มันมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว!
คืนนั้นตอนหนึ่งทุ่ม ในงานเลี้ยงฉลองเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แบรนด์ระดับนานาชาติ เฉินเฟยเอ๋อร์ที่เพิ่งเดินโชว์ตัวบนพรมแดงเสร็จก็ถูกนักข่าวรุมล้อมเข้ามา
คำถามของพวกเขาจู่โจมเฉินเฟยเอ๋อร์อย่างกับพายุ
“คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ ขอถามว่าคุณกับลู่เฉินคบกันเป็นเรื่องจริงไหม”
“คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ ขอถามว่าที่ร่วมรับประทานอาหารกับลู่เฉินสองต่อสองในร้านอาหารว่างเจียงโหลวใช่คุณไหม”
“คุณเฉินเฟยเอ๋อร์…”
คืนนี้เฉินเฟยเอ๋อร์สวมชุดราตรีหรูหราสวยงาม ชุดของเธอเปิดไหล่แหวกเห็นเนินอกดูเซ็กซี่ เผชิญหน้ากับนักข่าวจากสื่อต่างๆ ที่เบียดเสียดเข้ามา เธอตอบคำถามอย่างบริสุทธิ์ใจ “เมื่อคืนฉันนัดเลี้ยงอาหารค่ำลู่เฉินที่ร้านอาหารว่างเจียงโหลวจริงค่ะ”
หูว!
เป็นเรื่องจริง!
นักข่าวหลายคนคิดว่าเฉินเฟยเอ๋อร์จะปฏิเสธ เพราะรูปที่ถ่ายได้นั้นเธอสวมแว่นกันแดดอยู่
คิดไม่ถึงว่าเธอจะยอมรับโดยไม่ลังเล
นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้นมาว่า “คุณกับลู่เฉินคบกันอยู่หรือเปล่าคะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “ฉันกับลู่เฉินเป็นเพื่อนสนิทกัน และฉันขอบอกข่าวดีอีกอย่างกับทุกคนด้วยว่า อัลบั้มส่วนตัวของชั้นได้เลือกเพลงหลักสองเพลงได้แล้ว เป็นเพลงที่ลู่เฉินแต่งทั้งสองเพลง!”
“ถ้าทุกอย่างราบรื่น เดือนหน้าอัลบั้มใหม่ก็จะได้ออกสู่ตลาดค่ะ มันเป็นการเปลี่ยนแนวเพลงของฉันด้วย!”
อัลบั้ม?
อัลบั้มอะไร พวกเราถามเรื่องความรักอยู่นะ!
นักข่าวอึ้งไป พวกเขาคิดว่าจะงัดบางอย่างออกมาจากปากของเฉินเฟยเอ๋อร์มาทำข่าวใหญ่ได้ สุดท้าย…
เอาเถอะ ลู่เฉินเขียนเพลงที่เฉินเฟยเอ๋อร์ใช้เปลี่ยนแนวเพลง ถือว่าเป็นข่าวได้
แต่ข่าวนี้มูลค่ามันช่างต่างจากข่าวความรักของพี่สาวน้องชาย ต่างกันราวฟ้ากับเหว!
เมื่อเป็นแบบนี้ ทั้งคู่ก็มีเหตุผลในการร่วมรับประทานอาหารโดยลำพังแล้ว ไม่มีอะไรน่าตกใจ
นักข่าวอีกคนถามอย่างกัดไม่ปล่อยว่า “คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ คุณกับลู่เฉินไม่ได้แอบคบกันใช่ไหมคะ”
ด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
นักข่าวสายบันเทิงต่างเป็นแบบนี้ เพื่อหาข่าวไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แม้แต่ถามคำถามที่ไร้มารยาทเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นซูเปอร์สตาร์ระดับสูง ไม่อย่างนั้นคงได้ถามคำถามที่ไม่น่าฟังยิ่งกว่านี้
เฉินเฟยเอ๋อร์เคยชินกับกระแสข่าวแล้ว ไม่ได้ใส่ใจคำถามของฝ่ายนั้นนัก
เธอบิดปากยิ้ม “ลู่เฉินเป็นชายหนุ่มที่เก่งดี มีความสามารถ ถ้าฉันเด็กกว่านี้สักสิบปี ฉันอาจจะตามจีบเขาก็ได้ ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทดีแล้ว”
เฉินเฟยเอ๋อร์มีจุดเด่นข้อหนึ่ง นั่นก็คือไม่รังเกียจที่จะวิจารณ์อายุของตัวเอง ไม่เหมือนดาราสาวคนอื่นที่เอาแต่คอยปิดบังอายุที่แท้จริง คนอื่นถามก็ตอบแต่ว่า “คุณลองเดาดูสิ” เพื่อทำให้ดูลึกลับซับซ้อน
ส่วนเธอตอบออกมาอย่างฉะฉาน ขณะเดียวกันยังยกย่องลู่เฉินเป็นอย่างสูงด้วย!
ถ้าอายุน้อยกว่านี้สิบปี ราชินีสาวจะไปตามจีบเขา!
มีคนหน้าใหม่ในวงการคนไหนบ้างที่ได้รับคำชมเชยแบบนี้
ไม่มีเลย!
บรรดานักข่าวยังอยากถามต่อ น่าเสียดายที่เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ให้โอกาสพวกเขา หันหลังกลับเข้างานเลี้ยงไป
คืนนั้นสองทุ่ม บล็อกของเฉินเฟยเอ๋อร์ออกมาประกาศ
20.20 น. บล็อกของลู่เฉินออกมาประกาศ
เนื้อหาในข้อความส่วนใหญ่เหมือนกัน อันดับแรกคืออธิบายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าเป็นเพียงเพื่อน อันดับที่สองคืออัลบั้มใหม่
หลังจากการประกาศของทั้งสองออกไป ข่าวความรักของพี่สาวกับน้องชายเงียบสงบลงทันใด
แฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์พอใจ เฉินเฟยเอ๋อร์ยังเป็นนางฟ้าไร้ตำหนิของพวกเขาเหมือนเดิม
ส่วนแฟนคลับของลู่เฉินพากันเสียดาย แต่ลู่เฉินเขียนเพลงในอัลบั้มให้เฉินเฟยเอ๋อร์กลายเป็นข่าวที่ทำให้เหล่าแฟนคลับตื่นเต้นและรอคอย เพราะนี่เป็นโอกาสครั้งแรกที่ลู่เฉินได้ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์!
ยังมีคำชมเชยของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มีต่อลู่เฉิน ทำให้พวกเขาชื่นมื่นอย่างที่สุด
ดูสิว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ว่ายังไง ถ้าเด็กกว่านี้สิบปีคงจะตามจีบลู่เฉิน ลู่เฉินของพวกเราเก่งและดีจะตายไป?
สื่อบันเทิงทั้งหลายยังไม่ล้มเลิก สร้างหัวข้อข่าวใหม่ขึ้นมาว่า ‘เฉินเฟยเอ๋อร์อยากจีบลู่เฉิน’เป็นข่าวซุบซิบใหม่ให้คนเข้าไปอ่าน น่าเสียดายที่สร้างกระแสไม่ได้มาก
สิ่งสำคัญคือ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่มีไอดีใหญ่ๆ เจ้าไหนที่อยากสร้างกระแส ดังนั้นข่าวดังแต่เนื้อหาไม่มีสาระ ข่าวในวงการบันเทิงก็มีมาก ยังมีข่าวที่รอขึ้นหน้าหนึ่งต่อแถวอยู่ไม่น้อย จึงไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด
ผ่านไปไม่กี่วันคงจะเงียบหายไปเอง นอกเสียจากทั้งสองถูกแอบถ่ายความใกล้ชิดได้อีกครั้ง
สำหรับลู่เฉิน ข่าวซุบซิบครั้งนี้มีผลโดยตรงกับจำนวนผู้ติดตามบล็อกของเขา มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดล้านห้าแสนกว่าคน ทั้งยังทำให้ยอดขายอัลบั้มเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง สุดท้ายยอดทะลุเกินห้าแสนจากที่ตั้งไว้อีกครั้ง!
แน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย นั่นก็คือจากเรื่องของเฉินเฟยเอ๋อร์ กลุ่มแฟนคลับที่ไม่ประสงค์ดีของเขาเพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกัน
สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์ เรื่องนี้ไม่ได้กระทบกับเธอเลย กลับเป็นโอกาสในการแจ้งข่าวอัลบั้มใหม่ของตัวเอง
เกือบ 23.00น. ลู่เฉินกับหลี่เฟยอวี่เดินทางกลับปักกิ่ง
เมื่อลู่เฉินเปิดประตูห้องชุดห้องเดี่ยวของตัวเองเข้าไป เห็นว่าไฟยังเปิดอยู่
มีกลิ่นอาหารหอมอบอวลอยู่ในอากาศ โต๊ะในห้องรับแขกเต็มไปด้วยอาหารหน้าตาน่ารับประทานวางอยู่
ลู่ซียื่นหน้าออกมาจากห้องครัว “หิวมากล่ะสิท่า รีบกินเถอะ”
ลู่เฉินตกใจ “พี่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ตอนที่รถไฟใกล้ถึงเมืองหลวงลู่เฉินส่งข้อความหาลู่ซี บอกแผนการเดินทางของเขา
ไม่คิดว่าพี่สาวจะอุตส่าห์มาถึงห้องชุดเพื่อมาทำอาหารมื้อดึกให้เขา
ลู่ซีพูดอย่างหงุดหงิดว่า “หลี่เฟยอวี่บอกว่ามื้อเย็นพวกแกกินไม่อิ่ม เพราะดื่มเหล้าเยอะเกินไป”
ลู่เฉินยิ้มแหย
ตอนค่ำบริษัทเซินฉีจัดงานเลี้ยงให้เขา มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนมาร่วมโต๊ะ ถือว่าให้เกียรติกันอย่างมาก
สถานการณ์แบบนี้จะให้เขากินอาหารอย่างจุใจได้อย่างไร จึงได้แต่ดื่มไปไม่น้อย ข้าวไม่ได้กินสักเม็ด!
ตอนนี้หิวจนไส้กิ่วแล้ว
เมื่อมาถึงปักกิ่งเขาเหนื่อยมาก ลู่เฉินจึงรีบกลับมาที่ห้องชุดก่อน คิดไม่ถึงว่าพี่สาวได้เตรียมอาหารไว้รอเขา
มิน่าตอนที่ลู่ซีตอบข้อความถึงเขา ถึงบอกว่าให้เขารีบกลับบ้านมาพักผ่อน
ลู่เฉินรู้สึกอบอุ่นใจ
มีครอบครัวคอยอยู่ดูแลใกล้ๆ นี่มันดีจริงๆ ต่อให้เหน็ดเหนื่อยลำบากแค่ไหนก็คุ้มค่า
แต่ดูแล้วเขาน่าจะดีใจเร็วเกินไป
เพิ่งนั่งลงเริ่มกินได้ไม่กี่คำ พี่สาวก็ยกกับข้าวออกมาวางแล้วเริ่มสอบสวนเขา
“แกกับเฉินเฟยเอ๋อร์…”
“เธอเป็นคนดี ยังเป็นดาราดัง ฉันกลัวว่าคนอื่นจะว่าแกใฝ่สูง…”
“อายุก็เป็นปัญหา เธอแก่กว่าแกตั้งแปดปี!”
“แกคิดอะไรอยู่”
ลู่เฉินกระอักกระอ่วนใจ รีบอธิบาย “พี่ ผมกับพี่เฟยไม่มีอะไรจริงๆ เป็นแค่เพื่อนกัน”
“ไม่มีอะไรจริงเหรอ”
ลู่ซียิ้มเย็น “แกกล้าพูดว่าแกไม่ชอบเธอไหม เธอไม่มีความหมายกับแกแบบนั้นเลยใช่ไหม”
ลู่เฉินเป็นใบ้พูดไม่ออก
ถามใจตัวเองดูว่า เขาชอบเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่ไม่ได้ถึงขั้นจะต้องไปคลั่งไคล้ตามจีบ
เฉินเฟยเอ๋อร์เองก็เหมือนกัน หรืออาจจะค่อนมาทางเพื่อนมากกว่า?
อาจจะต้องใช้คำนี้ถึงจะเหมาะที่สุด นั่นก็คือ…
มากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน!
…………………………………………………………………………………….