Perfect Superstar - ตอนที่ 207 เมิ่งเมิ่ง
ตอนที่ 207 เมิ่งเมิ่ง
กริ๊ง
ในโรงเรียนมัธยมปลายหนิงย่วนแห่งที่สอง เสียงกระดิ่งสัญญาณดังแสบแก้วหู บอกให้อาจารย์และนักเรียนทุกคนรู้ว่าคาบเรียนแรกหมดเวลาแล้ว
เมิ่งเมิ่งพุ่งตัวออกมาจากห้องเรียน รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
เข้าใปในห้องสุขาห้องในสุดแล้วยองตัวนั่งลง เธอปิดประตูอย่างระวัง จากนั้นก็ควักเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ไม่ลืมที่จะเสียบต่อหูฟัง
ตามกฎของสถานศึกษา นักเรียนมัธยมปลายไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ หากถูกจับได้จะถูกยึดทันที ต้องให้ผู้ปกครองมาเซ็นชื่อเพื่อขอรับคืน
เมิ่งเมิ่งเป็นเด็กสาวที่เชื่อฟังมาก เธอไม่กล้าทำผิดกฎของโรงเรียน แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน
เธอตัดสินใจทำเรื่อง ‘ไม่ดี’
หลังจากเปิดเครื่องได้ 15 วินาที เมิ่งเมิ่งรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปนานเหลือเกิน
เข้าสู่โลกของยูไอ[1] เธอกดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที แล้วเปิดเว็บเบราว์เซอร์อย่างชำนาญ
เข้าสู่ที่อยู่เว็บไซต์ที่เธอบันทึกเก็บเอาไว้นานแล้ว
เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ห้องออกอากาศสดของลู่เฟย
ลู่เฟยก็คือลู่เฉิน เมิ่งเมิ่งเป็นแฟนคลับของลู่เฉิน เป็นผู้สนับสนุนของกองทัพขุนศึกตระกูลลู่!
ผ่านไปไม่กี่วินาที ห้องออกอากาศสดและคอมเมนต์จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
เมิ่งเมิ่งกวาดตาดูจำนวนผู้เข้าชมแล้วก็ต้องตกใจ…มีตั้งสองแสนเจ็ดหมื่นกว่าคน คาดไม่ถึงจริงๆ!
วันนี้เป็นวันจันทร์ ทั้งยังเป็นช่วงเช้า คนที่ทำงานก็ต้องทำงาน คนที่เรียนก็ต้องเรียนหนังสือ จะมีใครมีเวลามานั่งดูการออกอากาศสด จำนวนตัวเลขที่มากมายเช่นนี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่เลยก็ว่าได้
นี่คือเสน่ห์อันมากล้นของลูกพี่ลู่เฉินของพวกเรา!
เมิ่งเมิ่งคิดอย่างฝันหวาน รู้สึกดีใจมากๆ
การเป็นแฟนคลับตัวจริงของลู่เฉิน เมิ่งเมิ่งไม่ได้คาดหวังว่าไอดอลของเธอต้องเป็นแบบไหน เธอชอบเพลงของลู่เฉิน ชอบเสียงของลู่เฉิน และชอบใบหน้าของเขา
แค่นี้ก็พอแล้ว
เมื่อวานในกลุ่มแช็ตของแฟนคลับ เมิ่งเมิ่งเห็นประกาศว่าวันนี้ลู่เฉินจะถ่ายมิวสิควิดีโอกับวงเอ็มเอสเอ็น และจะออกอากาศสดระหว่างการถ่ายทำด้วย
ดังนั้นเธอจึงแอบนำโทรศัพท์มาด้วย และอาศัยเวลาเลิกชั้นเรียนมาดู
แม้จะได้ดูแค่ครู่เดียวก็ยังดี
นี่เป็นมิวสิควิดีโอตัวแรกของลู่เฉิน แม้จะไม่ใช่เพลงของเขา แต่นางเอกคือมู่เสี่ยวชู
แฟนคลับหลายคนไม่ได้คิดว่ามู่เสี่ยวชูเป็นคนแปลกหน้า พวกเขารู้จักเธอตั้งแต่อยู่ในรายการขับร้องให้ก้องจีนแล้ว มู่เสี่ยวชูยังเคยออกอากาศสดในห้องออกอากาศของลู่เฉินด้วย ทุกคนคุ้นเคยกับน้องเสี่ยวชูคนนี้ดีอยู่แล้ว
พูดตามตรง เมิ่งเมิ่งอิจฉามู่เสี่ยวชูมาก อาจจะถึงขั้นริษยาเล็กน้อย!
บนหน้าจอโทรศัพท์ เมิ่งเมิ่งมองเห็นลู่เฉิน
ลู่เฉินกำลังเล่นเปียโน เล่นเพลงที่เธอยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
สถานที่ที่เขาอยู่คือห้องเรียนแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นมหาวิทยาลัย
เมิ่งเมิ่งเองก็อยากเรียนมหาวิทยาลัย
จากนั้นเมื่อมองรอบด้านเธอเห็นทีมงาน ผู้กำกับ ช่างกล้อง ไฟฉาก…
ความสนใจของทุกคนจดจ่ออยู่ที่ลู่เฉิน
น่าสนใจมาก การถ่ายทำมิวสิควิดีโอ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง คงไม่ต่างจากการถ่ายทำภาพยนตร์มากนัก?
เมิ่งเมิ่งเผลอยิ้มออกมา ขณะที่แตะหน้าจอเพื่อส่งคอมเมนต์
“ลูกพี่ลู่เฉินสู้ๆ!”
ตอนนี้เองในห้องออกอากาศสด มีคอมเมนต์และรางวัลเด้งขึ้นมาใหม่อย่างบ้าคลั่ง
“ผู้ออกอากาศหล่อจังเลย หยุดคิดถึงไม่ได้เลย!”
“เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการถ่ายทำมิวสิควิดีโอในห้องออกอากาศสด น่าสนใจมาก…”
“ลู่เฉินเป็นพระเอกใช่ไหม แล้วนางเอกเป็นใครล่ะ”
“นางเอกคือน้องเสี่ยวชู ตอนนี้เธอเป็นนักร้องในวงเอ็มเอสเอ็น ถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงที่ผู้ออกอากาศเขียนให้!”
“ผู้ออกอากาศสุดยอดไปเลย ต้องกดไลก์เยอะๆ ให้ลูกบอลปลาไปเลย 100 ลูก!”
“หล่อมาก! หล่อมาก! หล่อมาก! หล่อมาก!…”
คืนก่อนลู่เฉินประกาศในห้องออกอากาศสด ในโพสต์และในกลุ่มแช็ตเฟยซวิ่น บอกว่าวันนี้จะมีการออกอากาศสดการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นเช้าวันจันทร์ จำนวนผู้เข้าชมก็ยังเยอะน่าดู
แถมจำนวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าบรรดาแฟนคลับแข็งแกร่งแค่ไหน
ในฐานะที่เป็นแฟนคลับคนหนึ่ง เมิ่งเมิ่งที่มาหลบอยู่ในห้องน้ำ ใช้สองมือประคองโทรศัพท์มือถือเอาไว้ มองดูลู่เฉินในวิดีโอที่กำลังจ้องมองมู่เสี่ยวชู มองดูเขาบรรเลงเพลงจนจบ มองดูเขายิ้มให้กับกล้อง…
เธอชักจะเคลิ้มนิดๆ แล้ว
จนเมื่อกริ่งของคาบเรียนถัดไปดังขึ้น!
แย่แล้ว!
เมิ่งเมิ่งรีบลุกขึ้นยืน กดปุ่มปิดเครื่องอย่างลนลาน แล้วรีบผลักประตูเดินออกไปจากห้องน้ำ
ระหว่างเดินไปห้องเรียน เธอรู้สึกหน้ามืดตาลาย มึนศีรษะ
ช่วงนี้เมิ่งเมิ่งสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง มีภาวะเลือดจาง
‘น่าจะเพราะนั่งยองๆ นานเกินไป เลือดไหลเวียนไม่สะดวกพอ!’
เมิ่งเมิ่งคิดระหว่างที่รีบกลับเข้าห้องเรียนให้ถึงก่อนหน้าอาจารย์
โชคดีๆ!
เธอผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก
เพื่อนร่วมโต๊ะของเธอถามว่า “เมิ่งเมิ่ง เธอไปไหนมา ทำไมถึงหน้าซีดแบบนี้ เฮ้ย!”
เธอร้องออกมาอย่างตกใจ ชี้มาที่เมิ่งเมิ่งพร้อมกับบอกว่า “เธอเลือดกำเดาไหล!”
เมิ่งเมิ่งยื่นมือออกมาจับที่จมูก ปลายนิ้วสัมผัสโดนของเหลวข้นๆ อุ่นๆ
เธอตกตะลึง จากนั้นภาพตรงหน้าก็ดับวูบลง ไม่รับรู้เรื่องอะไรแล้ว
ตอนที่เธอใกล้จะหมดสติ เมิ่งเมิ่งได้ยินเสียงเพื่อนของเธอร้องเรียกชื่อเธอเสียงดัง
น้ำเสียงร้อนรนมาก!
…
ช่วงพลบค่ำ ณ ห้องประชุมใหญ่ของราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือ
ฟ้าเพิ่งมืดลง ห้องประชุมที่จุคนได้หนึ่งพันคน มีคนนั่งอยู่เกือบหกส่วนของที่นั่งทั้งหมด
ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาของราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือ ยังมีอาจารย์อีกหลายคน
พวกเขาได้รับแจ้งให้มาเข้าร่วมฉากในการถ่ายทำมิวสิควิดีโอของเฟยสือเรคคอร์ด
หลายคนอยากมาดูความคึกคัก
ได้ข่าวว่าลู่เฉินแชมป์รายการขับร้องให้ก้องจีน ผู้ที่สร้างตำนานเพลงบัลลาดในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยได้มาที่นี่ ทุกคนล้วนให้ความสนใจ
นักศึกษาของราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือน้อยมากที่จะติดตามดารานักร้อง แต่ก็ยังมีคนติดตามอยู่
ตามความต้องการของการถ่ายทำ เวทีของหอประชุมถูกตกแต่งใหม่ ด้านบนแขวนป้ายยาวใหญ่ที่เขียนไว้ว่าพิธีจบการศึกษา จอแอลอีดีเบื้องหลังเวทีเปลี่ยนแสงสีต่างๆ ตลอดเวลา
มู่เสี่ยวชูและเพื่อนสาวทั้งสองนั่งอยู่ท่ามกลางผู้คน สปอตไลต์ดวงหนึ่งส่องสว่างไปที่พวกเธอ
แต่คนที่เป็นจุดเด่นอย่างแท้จริงคือ ลู่เฉิน
ลู่เฉินเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา เขากอดกีตาร์นั่งอยู่กลางเวที กำลังเริ่มแสดง
สำหรับลู่เฉินแล้ว การถ่ายทำมิวสิควิดีโอยากกว่าการถ่ายโฆษณาอยู่เล็กน้อย
วันนี้ถ่ายทำไปได้มากแล้ว เขาและมู่เสี่ยวชูรู้จักกันในห้องเรียนดนตรี ได้เจอกันในห้องสมุด พบกันในโรงอาหาร เห็นกันในสวนดอกไม้…
ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบกัน ไม่มีความใกล้ชิด ใช้เพียงแค่สายตาและดนตรีในการสื่อสารกันเท่านั้น
ไม่ได้ยากเกินความสามารถของลู่เฉินเลย
หากการถ่ายทำลุล่วงไปด้วยดี มีฉากที่ต้องถ่ายซ่อมน้อยมาก ก็จะถ่ายทำไปได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากถ่ายฉากสุดท้ายเสร็จแล้ว ก็สามารถเก็บข้าวของกลับบ้านได้!
เหล่า ‘นักแสดงจำเป็น’ หลายร้อยคน ทำให้ลู่เฉินเกิดความกดดันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาดีดกีตาร์เบาๆ เล่นทำนองเพลงอย่างชำนาญ
คนส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นเป็นผู้ที่รู้เรื่องดนตรี หลายคนเคยฟังเพลงนี้ แค่พริบตาเดียวก็ฟังออกทันทีว่าเป็นเพลงอะไร
“ดอกไม้เหล่านั้น!”
เพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ ที่ลู่เฉินแต่ง เขาเคยร้องในงานเลี้ยงจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเจียงไห่
ต่อมาในรายการขับร้องให้ก้องจีนเขาได้ร้องเพลงนี้อีกครั้ง ทำให้เขาได้รับคะแนนสูงลิ่ว
แต่เพลงนี้มาโด่งดังจริงๆ จากคลิปวิดีโองานเลี้ยงจบการศึกษาที่เผยแพร่กันอยู่ในอินเทอร์เน็ต
วัยรุ่นมากมายโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา โดยเฉพาะคนที่กำลังจะจบมหาวิทยาลัย
พวกเขาและพวกเธอชอบเพลงนี้มากๆ
หลายคนดีดกีตาร์และร้องเพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ ในพิธีจบการศึกษาของสถานศึกษาของตัวเอง
ซึ่งมันทำให้เหล่าหญิงสาวที่อารมณ์อ่อนไหวหวั่นไหวได้เสมอ
เพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ จึงเป็นตัวแทนของเพลงจบการศึกษา คนที่ฟังเพลงนี้มีอยู่นับไม่ถ้วน!
ตอนนี้นักศึกษาของราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือได้ฟังเพลง ‘ดอกไม้เหล่านั้น’ จากต้นฉบับที่แท้จริง
“เสียงหัวเราะลอยมาทำให้ฉันคิดถึงดอกไม้เหล่านั้น
ที่เบ่งบานในทุกมุมของช่วงชีวิตเพื่อตัวฉัน
ฉันเคยคิดว่าฉันจะได้ดูแลอยู่ข้างกายเธอตลอดไป
วันนี้เรากลับห่างหายท่ามกลางผู้คนมากมาย
พวกเธอแก่กันหรือยัง
พวกเธออยู่ที่ไหน
พวกเราต่างมีทางเดินคนละทิศ!
ลา…คิดถึงเธอ
ลา…เธอยังเบ่งบานอยู่ใช่ไหม
ลา…ไปเถิด!
พวกเธอถูกลมพัดปลิวไปสุดขอบฟ้าแล้ว!
…”
ความเศร้าสร้อยอ้อยอิ่ง ความถวิลหาอันเจือจาง เสียงร้องต่ำบอกเล่าถึงคืนวันที่ผ่านไป
ในห้องประชุมไม่มีเสียงใด นอกจากเสียงเพลงของลู่เฉินที่ดังก้องกังวาน
นักศึกษาที่สอบเข้าราชวิทยาลัยดนตรีภาคเหนือได้ มีแต่นักเรียนหัวดีเรียนเก่ง พวกเขาและพวกเธอเริ่มฝึกฝนดนตรีตั้งแต่เด็ก ทั้งพยายามทั้งทุ่มเทมากเท่าไร ก็ยังต้องอาศัยพรสวรรค์และโชคชะตาเพื่อให้ได้เข้ามานั่งอยู่ที่นี่
ดังนั้นพวกเขาและพวกเธอล้วนภาคภูมิใจ
ลู่เฉินผู้ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการได้ครึ่งทาง นั่งอยู่ท่ามกลางนักศึกษาและอาจารย์ของวิทยาลัยดนตรีแม้ไม่ถึงกับโดนดูถูก แต่พวกเขาก็ยังทำให้รู้สึกเหมือนพวกเขาเหนือกว่า หรือแสดงความไม่เห็นด้วยอยู่เสมอ
ทว่าตอนนี้เมื่อได้เห็นลู่เฉินเล่นกีตาร์กับตาตัวเอง ได้ฟังการร้องและเล่นดนตรีของเขากับหู ต่อให้เป็นคนที่จุกจิกมากแค่ไหน ก็ไม่อาจปฏิเสธความสามารถที่เขามีได้ รวมถึงพลังในเสียงร้องเพลงของลู่เฉินด้วย!
“…
บางเรื่องที่พูดไม่จบก็ช่างมันเถอะ
ความรู้สึกในวันเวลาที่ผ่านไปยากจะแยกจริงเท็จ
วันนี้ที่นี่แห้งแล้งไม่มีดอกไม้
ยังดีที่เคยมีความทรงจำของพวกเธอเหลือไว้
ลา…คิดถึงเธอ
ลา…เธอยังเบ่งบานอยู่ใช่ไหม
ลา…ไปเถอะ!
พวกเธอถูกลมพัดปลิวไปสุดขอบฟ้า
พวกเธอแก่กันหรือยัง
พวกเธออยู่ไหน
พวกเราต่างมีทางเดินไปจนสุดขอบฟ้า!”
ในหมู่ผู้ชม มู่เสี่ยวชูนั่งนิ่งไม่ไหวติง กล้องตัวหนึ่งกำลังจับภาพของเธอ
ดวงตาของเธอเป็นประกายเหมือนคริสตัล ใบหน้าของเธออมยิ้ม
เธอจ้องมองลู่เฉินเช่นนี้ ไม่มีท่าทีของความเขินอายเลยสักนิด
ช่างต่างจากที่เรื่องราวในมิวสิควิดีโอต้องการ แต่ผู้กำกับฟางฮุ่ยก็ไม่ได้สั่งให้หยุด
ช่างกล้องยังดำเนินการถ่ายทำต่อไป
เธอถ่ายทำมิวสิควิดีโอมามากมาย ไม่เคยเห็นภาพแบบตอนนี้มาก่อน จนลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังทำงานอยู่
กลมกลืนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศตอนนี้
…
ขณะเดียวกันนั้น ที่เมืองหนิงย่วนที่ห่างออกไปนับพันกิโลเมตร ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่หนึ่ง
เมิ่งเมิ่งที่นอนให้น้ำเกลืออยู่ยังหลับสนิท
แม่ของเธอนั่งอยู่ข้างเตียง ในมือถือใบผลตรวจ น้ำตานองหน้าแต่อดกลั้นเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้ออกมา
……………………………………………………………………………………….
[1] ยูไอ มาจากคำศัพท์ UI ย่อมาจาก User Interface เป็นแนวความคิดในการออกแบบและเขียนโปรแกรมสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีหน้าจอ เพื่อให้รูปแบบหน้าจอและฟังก์ชั่นการใช้งาน สะดวกและง่ายต่อผู้ใช้งานทั่วไป