Perfect Superstar - ตอนที่ 212 ตกใจทั้งโลกโซเชียล
ตอนที่ 212 ตกใจทั้งโลกโซเชียล
ก่อนเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต แม้ว่าวิธีการสื่อสารจะพัฒนาก้าวหน้า แต่การส่งต่อข่าวสารยังมีขีดจำกัด ถูกองค์กรที่มีอำนาจสูงส่งระงับข่าวได้โดยไม่มีทางแพร่สะพัดต่อ
บางแห่งเกิดเรื่องใหญ่โตมโหฬาร แต่ถ้าควบคุมข่าวได้ ทั้งช่องโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ไม่รายงาน คนภายนอกก็จะไม่มีวันได้รับรู้
แต่การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แม้ยังมีการควบคุมสื่ออยู่ แต่ในยุคสมัยนี้ข่าวคราวก็ยังถูกส่งไปถึงชนบทอันห่างไกลได้อยู่ดี เป็นไปได้ที่สุดว่าเหตุการณ์วันนั้นที่ถูกโพสต์ลงในบล็อกและเว็บบอร์ดจะเป็นที่รับรู้ของคนทั่วโลก!
นี่คือพลังอำนาจของอินเทอร์เน็ต
พักหลังนี้ข่าวคราวในวงการบันเทิงค่อนข้างสงบ นับตั้งแต่คราวที่หวังปินถูกจับคดียาเสพติด นอกจากข่าวซุบซิบดาราทั่วไปหรือข่าวจากการสร้างกระแสแล้ว ก็ไม่มีข่าวไหนที่ทำให้ผู้คนหยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างอีกเลย
คืนวันที่ 18 ตุลาคม ด้านหน้าสนามกีฬาซีหู เมืองหังโจว ภาพข่าวที่ลู่เฉินเตะคนร้ายกลายเป็นข่าวใหญ่ ทำให้วงการบันเทิงที่เงียบสงบกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง!
ที่มีปฏิกิริยารุนแรงที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นในบล็อกล่างฉาวที่มีบัญชีผู้ใช้เกินร้อยล้านไอดี
หลังจากคนร้ายถูกควบคุมตัวได้แค่สิบนาทีกว่าๆ คลิปวิดีโอชุดแรกก็ถูกเผยแพร่ลงในบล็อกทันที
ต่อมาทั้งรูปภาพและคลิปวิดีโอใหม่ๆ ก็ปรากฏขึ้นตามมาอีกมากมาย พร้อมกับหัวข้อข่าวที่น่าตื่นตระหนกสารพัดสารพัน ราวกับราดน้ำเย็นๆ ลงบนน้ำมันเดือด เกิดเป็นเสียงซู่ซ่าเหมือนหม้อระเบิด
นอกจากนี้ยังมีสื่อบันเทิงหลายรายที่มีบัญชีทางการระดับวี อาศัยข่าวดังครั้งนี้ช่วยเติมเชื้อไฟ โดยที่ไม่ได้เตรียมการสร้างกระแส เรื่องนี้กลับถูกคนนับไม่ถ้วนสร้างกระแสจนดังระเบิด ทำให้ดาราศิลปินมากมายออกมาวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ต่อ
ในสถานการณ์ปกติ ศิลปินเหล่านี้ไม่ค่อยช่วยผลักดันใครฟรีๆ แต่เรื่องนี้น่ากลัวเหลือเกิน คนร้ายมุ่งหมายมาที่บุคคลในวงการบันเทิง ทุกคนพากันโกรธแค้นแทน ยิ่งอยากกระจายเสียงความคิดเห็นของตัวเอง
มีศิลปินมากมายที่ตำหนิกล่าวโทษคนร้าย ขณะเดียวกันก็สงสัยในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าภาพ
ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง เถียนเถียนโชคดีมากที่มีคนช่วยไว้ทัน
ถ้าลู่เฉินไม่อยู่ตรงนั้น หรืออยู่ห่างออกไปล่ะ
ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย!
เมื่อมีศิลปินหลายคนที่มีกลุ่มแฟนคลับมหาศาลเข้ามาร่วมวิจารณ์ คีย์เวิร์ดก็ถูกผลักดันให้ขึ้นไปติดหน้าแรกอย่างรวดเร็ว
“พิธีกรสาวสวยแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตงถูกสาดน้ำกรดทำลายโฉมด้วยเหตุส่วนตัวหรือปัญหาความรัก?”
“วีรบุรุษช่วยสาวงาม นักร้องหนุ่มลู่เฉินถอดเสื้อบังน้ำกรด ปล่อยลูกเตะพิฆาตคนร้าย!”
“ไขความลับ เบื้องหลังเหตุพิธีกรสาวสถานีโทรทัศน์เจ้อตงถูกสาดน้ำกรด!”
“เท่มากเลย เห็นลูกเตะนั้นแล้ว มีทั้งภาพและความจริง!”
“ลู่เฉินเป็นใคร?”
ส่วนคนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุด คงหนีไม่พ้นเหล่าแฟนคลับของลู่เฉิน
พวกเขาทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองหังโจวจากช่องทางต่างๆ ไม่มีใครไม่เทิดทูนบูชาลู่เฉินแล้วตอนนี้
แฟนคลับนับพันนับหมื่นของลู่เฉินใช้คอมพิวเตอร์และมือถือ ลงความเห็นวิจารณ์ทั้งในบล็อก ในเว็บบอร์ด ในโพสต์ และในกลุ่มเฟยซวิ่น
“พี่เฉินเกรียงไกร!”
“ทั้งหล่อเหลา ทั้งแสดงเข้าถึงบทบาท ร้องเพลงได้ แถมยังแต่งเพลงเอง แล้วยังต่อสู้เป็นอีก!”
“คนอื่นจะยังมีชีวิตอยู่ยังไงได้เนี่ย?”
“ตั้งแต่วันนี้ ฉันจะกลายเป็นแฟนคลับตัวจริงของลู่เฉินแล้ว ใครก็ห้ามไม่ได้!”
“คลิปนี้ฉันดูไปสิบรอบแล้ว ยิ่งดูยิ่งประทับใจ”
“เหอะๆ ดูสีหน้าท่าทางของคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์สิ แล้วจะรู้ว่าลูกพี่ของเราสุดยอดขนาดไหน!”
“ใช่ ลู่เฉินเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”
คลิปวิดีโอที่มีความยาว 2 นาที 17 วินาทีคลิปนี้มีคอมเมนต์และมีการแชร์ต่อมากที่สุดในบล็อก คลิปวิดีโอนี้น่าจะถูกช่างภาพมืออาชีพถ่ายไว้ ไม่เพียงแต่ภาพคมชัดและนิ่ง มุมกล้องก็ดีมาก บันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ
จากคลิปนี้ ทุกคนเห็นว่าคนร้ายเดินข้ามเชือกกั้นเข้ามายังไง เห็นท่าทางที่เขาหยิบขวดแก้วออกมา ขณะเดียวกันก็เห็นว่าคนอื่นๆ รอบข้างมีปฏิกิริยายังไง
มีทั้งคนกรีดร้อง บางคนหลบหลีก บางคนถอยหลัง และบางคนที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
มีเพียงลู่เฉินคนเดียว ที่เผชิญหน้ากับอันตรายโดยไม่มีความหวาดหวั่นเกรงกลัว ท่าทางของเขาดูสงบใจเย็น
เขาใช้ท่าทางที่คาดไม่ถึงสลัดเสื้อสูทของตัวเองออก ใช้มันกั้นน้ำกรดที่คนร้ายสาดออกมา แล้วก้าวเข้าไปดึงตัวเถียนเถียนมาหลบอยู่ข้างหลังตัวเอง ทั้งยังใช้เท้าตวัดขาส่งลูกเตะอันสวยงามโจมตีคนร้ายจนลงไปกองกับพื้น
แม้วิดีโอมีความยาวสองนาทีกว่า แต่ใจความสำคัญของเนื้อหาอยู่ในช่วงไม่กี่วินาทีนั้นเท่านั้นเอง!
ทั้งหมดนี้ การแสดงออกของลู่เฉินไม่มีความหวาดกลัว และฝีมืออันโดดเด่นของเขาก็ทำให้คนนับถือ
ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ทั้งในและต่างประเทศ มีนักแสดงหนังแอ็กชันต่อสู้มากมาย แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถแสดงจริงได้ ด้วยความสามารถและความแข็งแกร่งของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลู่เฉินที่เป็นแค่นักร้องคนหนึ่งเท่านั้น
โดยเฉพาะท่าทางที่เขาสลัดเสื้อออกนั้น ยิ่งทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
“พวกนายว่าลู่เฉินทำได้ยังไง ฉันลองกับตัวเอง สะบัดไม่เห็นออกเลย!”
“ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย นี่คือหนึ่งในสิบช็อตเด็ดที่เท่ที่สุดในปีนี้แน่นอน!”
“ท่านี้ชื่อท่าจิ้งหรีดลอกคราบ พวกนายไม่รู้หรอก มันเป็นท่ายุทธ์โบราณ รู้ไหมว่าอะไรเรียกว่าท่ายุทธ์โบราณ?”
“ท่ายุทธ์โบราณกับผีสิ ฉันว่านายอ่านนิยายออนไลน์เยอะไปแล้ว แต่ท่านั้นก็เท่จริงๆ!”
“พอเถอะ ผมต้องฝึกท่านี้ให้ได้ ต่อไปเผื่อได้เป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามบ้าง”
“เหอะๆ ถ้าอย่างนั้นต้องหาคนสาดน้ำกรดให้ได้ก่อน”
“น่าเสียดาย นั่นสูทอาร์มานีราคาเป็นหมื่นเชียวนะ เท่ากับค่าข้าวของฉันทั้งปีเลย”
“คอมเมนต์ก่อนหน้าปัญญาอ่อน ทุกคนไม่ต้องไปสนใจเขา!”
ยอดคอมเมนต์พุ่งขึ้นเรื่อยๆ แฟนคลับของลู่เฉินที่อยู่ในบล็อกล่างฉาวยิ่งระเบิดจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
มีบางคนที่มาอาศัยใบบุญไปด้วย เช่น เสื้อผ้าแบรนด์เซินฉี
บริษัทชุดออกกำลังกายวัยรุ่นเจ้านี้ อาศัยโอกาสนี้เอาโฆษณาที่ลู่เฉินเพิ่งถ่ายทำไปก่อนหน้านี้ไม่นานมาโพสต์ลงในบล็อกของตัวเองที่เป็นบัญชีทางการ เพื่อจงใจบอกว่าตอนที่ลู่เฉินถ่ายทำโฆษณาก็ไม่ได้ใช้แสตนด์อิน หยิบยืมความโด่งดังนี้ทำให้ได้รับยอดติดตามเพิ่มขึ้นไปด้วย
เมื่อลู่เฉินแสดงคอนเสิร์ตจบ ก็กลับมาที่โรงแรม โทรศัพท์ของลู่ซีถูกกระหน่ำโทรติดต่อเข้ามา
เพื่อนพ้องพรรคพวกโทรเข้ามาไต่ถาม และยังมีสื่อต่างๆ ที่ต้องการสัมภาษณ์…
สายที่ติดต่อเข้ามาส่วนใหญ่มีลู่ซีคอยรับหน้าอยู่ก็พอแล้ว แต่บางสาย ลู่เฉินต้องรับเอง
“วีรบุรุษ นายเก่งมากเลย!”
ลู่เฉินนั่งอยู่บนเตียงอันอ่อนนุ่มในโรงแรม กำลังฟังเสียงที่ไพเราะราวดนตรีสวรรค์ที่ส่งผ่านมาทางโทรศัพท์ ลู่เฉินรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองคันยุบยิบ ราวกับมีบางอย่างมุดออกมาจากรูหู
เขายิ้มแหย “พี่เฟย…”
เสียงของเฉินเฟยเอ๋อร์นั่นเอง เธออยู่ในปักกิ่ง แต่ได้ข่าวแล้ว
“เหอะๆ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ เอ่ยต่อว่า “ฉันพูดความจริงนะ ทุกคนบอกว่านายกล้าหาญมาก ถ้าไม่ได้นาย เถียนเถียนคงจะถูกทำลายโฉมไปแล้ว”
พูดจบ เสียงของเธอเปลี่ยนเป็นเสียงหนักๆ “แฟนคลับที่บ้าคลั่งนั่นน่ากลัวที่สุด!”
การเป็นราชินีนักร้องที่เข้าวงการมาสิบกว่าปี เฉินเฟยเอ๋อร์มีแฟนคลับนับไม่ถ้วน แน่นอนว่ารวมประเภทที่ผิดแปลกจากปกติอยู่ด้วย
หากแต่การเป็นดาราไอดอล อย่างไรก็ต้องมีแฟนคลับมารบกวนชีวิตบ้างไม่มากก็น้อย บางครั้งจึงเกิดเรื่องไม่ถูกไม่ควร
แต่เหตุการณ์อย่างในวันนี้ เกิดขึ้นน้อยมาก!
ลู่เฉินไวต่อความรู้สึก “แน่นอนเหรอครับว่าเป็นแฟนคลับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตอบ “คนร้ายสารภาพแล้ว เขาเป็นแฟนคลับของเถียนเถียน เคยเขียนจดหมายให้เถียนเถียนแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ ก่อนหน้านี้เคยบุกเข้าไปถึงสถานีโทรทัศน์เพื่อร่ำร้องขอความรักแล้วถูกจับกุมตัว เขาเลยโกรธแค้นใจ”
เป็นแบบนี้นี่เอง! ลู่เฉินเข้าใจแล้ว
เขาไม่สงสัยในที่มาของข่าวจากเฉินเฟยเอ๋อร์ ด้วยตำแหน่งและเส้นสายในวงการของเธอ เขาเทียบไม่ได้
เฉินเฟยเอ๋อร์บอกต่อว่า “ครั้งนี้เถียนเถียนตกใจมากจริงๆ ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนไปอยู่เบื้องหลังเลย”
ลู่เฉินงง “พี่กับเธอ?”
เฉินเฟยเอ๋อร์อธิบาย “ใช่แล้ว ฉันกับเถียนเถียนรู้จักกันมานาน ถือว่าเธอเป็นพี่น้องที่สนิทกันคนหนึ่ง”
วงการบันเทิงจะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะบอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก คนทั้งสองที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ อาจจะมีความสัมพันธ์กันด้วยเหตุนั้นเหตุนี้ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงที่กว้างขวางซับซ้อน
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “เถียนเถียนน่าจะมาขอบคุณนายด้วยตัวเอง เธอทั้งสวยทั้งสูงยาวเข่าดี ยังไม่มีแฟนอีกต่างหาก ถ้านายขอเธอก็ให้โอกาสนะ จะให้ฉันช่วยไหม”
แม้ฟังดูเหมือนการหยอกล้อ แต่น้ำเสียงจริงจัง
ราวกับมีภูติผีสั่งการให้ทำ ลู่เฉินรีบบอกปัด “ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตกตะลึง “ใคร?”
ลู่เฉินโพล่งออกไปแล้วรู้สึกเสียใจทันที เขาเงียบไม่ตอบ
แต่การเงียบของเขาคือคำตอบ
บางคำไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินเฟยเอ๋อร์น่าจะเข้าใจแล้ว ราชินีนักร้องคนนี้รีบเอ่ยตะกุกตะกัก “เอ่อ ฉันต้องวางสายแล้ว เอาไว้ค่อยคุยกันนะ!”
ไม่รอให้ลู่เฉินตอบ เธอรีบวางสายก่อน
ลู่เฉินกำโทรศัพท์ที่มีเสียงสายไม่ว่างดังออกมา ยิ้มแห้งๆ
ความสัมพันธ์ของเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ค่อนข้างซับซ้อน เพราะการแข่งขันรายการหนึ่งถึงได้รู้จักกัน เพราะดนตรีถึงได้ใกล้ชิดผูกพันกัน
ลู่เฉินรู้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกดีกับเขา ความรู้สึกแบบนี้อาจเจือปนด้วยมิตรภาพแบบพี่น้อง แต่ก็ไม่ขาดรสชาติอื่น เช่นเดียวกับเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ของวงเอ็มเอสเอ็น
ลู่เฉินรู้ว่าเขาเองก็รู้สึกดีกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาก
เขาไม่อยากหลอกตัวเอง
แต่ความรักของทั้งสองคนจะเป็นไปได้ไหม ลู่เฉินรู้สึกเลือนราง
จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติจึงเงยหน้าขึ้น เห็นลู่ซียืนอยู่ตรงประตูห้องจ้องมองเขาอยู่
ยิ้มอย่างเลือดเย็น ราวกับจะบอกว่า…ฉันจับได้แล้ว!
ลู่เฉินเหงื่อแตกซิก “พี่…”
เขาอยู่ในห้องเอ็กเซ็กคิวทีฟสวีทอันหรูหรา มีสองห้องนอน เขาจึงพักร่วมกับพี่สาว
เห็นได้ชัดว่าบทสนทนากับเฉินเฟยเอ๋อร์เมื่อครู่ ถูกลู่ซีได้ยินทั้งหมด
ลู่ซีไม่ได้หยอกเย้าลู่เฉินแต่อย่างใด “มีเรื่องหนึ่ง แกต้องสนใจหน่อย นี่สำคัญมาก”
ท่าทีของเธอดูเคร่งเครียด
ลู่เฉินเคร่งเครียดตาม นั่งหลังตรงขึ้นถามว่า “เรื่องอะไร”
“เรื่องนี้ เกี่ยวกับแฟนคลับคนหนึ่งของนาย”
…………………………………………