Perfect Superstar - ตอนที่ 257 คำวิจารณ์รุนแรง
ตอนที่ 257 คำวิจารณ์รุนแรง
ณ ห้างสรรพสินค้าตงจู เขตฮู่ไห่หวงผู่
ห้างสรรพสินค้าตงจูเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฮู่ไห่ ที่ตั้งดีตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากแม่น้ำหวงผู่แค่สองสามร้อยเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่โปรดที่ประชาชนชาวฮู่ไห่จำนวนมากชอบมาเดินเที่ยว
โดยเฉพาะตอนเย็นวันสุดสัปดาห์ ห้างสรรพสินค้าจะคึกคักเป็นพิเศษ พวกหนุ่มๆ สาวๆ ถือกระเป๋าใบน้อยใหญ่เดินไปมาระหว่างร้านค้า ใช้บัตรเครดิตจับจ่ายใช้สอยเพิ่มจีดีพีกันอย่างเต็มที่
ถึงแม้จะเป็นเวลาหนึ่งทุ่มสองทุ่ม หน้าประตูร้านอาหารแต่ละร้านของชั้นที่สี่และชั้นที่ห้าก็ยังมีลูกค้านั่งรอเต็มไปหมด
ลานตรงกลางของห้างสรรพสินค้า ผู้คนห้อมล้อมเวทีกันอย่างแน่นเอี้ยด ยามของห้างสรรพสินค้าสิบกว่าคนเหงื่อเต็มหน้าพยายามรักษาความสงบเป็นระเบียบเรียบร้อย ราวกับมีศัตรูตัวใหญ่มาเยือน
ตอนเย็นของที่นี่ มีการจัดกิจกรรมโปรโมตละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ คู่พระนาง ผู้กำกับ แล้วก็ยังมีนักประพันธ์ต้นฉบับได้มาปรากฏตัว เพื่อทำความใกล้ชิดมีปฏิสัมพันธ์กับบรรดาแฟนคลับอย่างกระตือรือร้น
ละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างละครจากนิยายออนไลน์ยอดฮิตของเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอ ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน รวบรวมดาราภาพยนตร์โทรทัศน์ในประเทศไว้มากมาย สองในนั้นคือเถาซือเฉิงที่รับบทพระเอกกับจิ่งเหยาที่รับบทนางเอก ทั้งคู่ล้วนเป็นดาราศิลปินระดับแถวหน้า ตอนนี้ได้รับความนิยมจากเหล่ามวลชนและแฟนคลับเป็นอย่างมาก
สถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ ก็คือเมืองฮู่ไห่ และห้างสรรพสินค้าตงจูก็เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ หลายฉากของเรื่องนี้ก็ถูกถ่ายทำที่นี่
กิจกรรมโปรโมตตอนเย็น ก็เป็นส่วนหนึ่งในสัญญาการสนับสนุน
เถาซือเฉิงและจิ่งเหยาเดินลงจากเวทีหลังจากร้องเพลงคู่กันจบไปเมื่อครู่ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าแฟนคลับ เตรียมตัวเดินลงไปพักผ่อนที่ด้านหลังเวทีชั่วคราว
เวลานี้มีนักข่าวที่แขวนป้ายชื่ออยู่ตรงหน้าอกคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับช่างภาพที่ถือกล้องอยู่ในมือ ขวางทางเดินของทั้งสองคนเอาไว้ แล้วยื่นไมค์ออกไปในขณะเดียวกัน
บนไมค์แสดงโลโก้อย่างชัดเจน นี่คือนักข่าวของอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์
จากนั้นก็มีนักข่าวของสื่อมีเดียอื่นๆ ที่ตามเข้ามา เพื่อนำข้อมูลมาทำข่าวบันเทิงนิดๆ หน่อยๆ
เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ทั้งสองคนจึงหยุดฝีเท้าพร้อมกัน เผยรอยยิ้มมืออาชีพออกมา
กิจกรรมโปรโมตแบบนี้มีนักข่าวมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะฝ่ายจัดงานควักเงินยัดอั่งเปา ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย อารมณ์เป็นอย่างไร การให้สัมภาษณ์คือหน้าที่ของพวกเขา
นักข่าวของอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์ถามสองสามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาก่อน และถามเถาซือเฉิงอย่างกะทันหัน “ละคร ‘ท่านประธานที่รัก’ จะออกอากาศครั้งแรกในเฟยซวิ่นวิดีโอคืนนี้ ในฐานะพระเอก คุณมีความคาดหวังกับยอดชมออนไลน์มากแค่ไหน”
ละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ เป็นละครออนไลน์ และออกอากาศในเฟยซวิ่นวิดีโอเท่านั้น เกณฑ์มาตรฐานสำคัญของการวัดประสิทธิภาพก็คือยอดชมออนไลน์ ซึ่งเหมือนกับเรตติ้งผู้ชมของสถานีโทรทัศน์
เมื่อเทียบกับการสำรวจเรตติ้งที่มีอิทธิพลสูง มาตรฐานการวัดยอดชมออนไลน์ของเว็บไซต์วิดีโอแย่กว่ามาก โดยเฉพาะละครที่ผลิตเอง แค่ทำข้อมูลขนาดใหญ่ออกมาตามใจชอบก็ได้แล้ว
แต่เว็บไซต์วิดีโอขนาดใหญ่อย่างยูซีแชนแนลทีวีและเฟยซวิ่นวิดีโอ มีผู้แข่งขันสูงกว่าเว็บไซต์ขนาดกลางและขนาดเล็ก
แน่นอนว่ายอดชมออนไลน์ไม่ใช่ตัวชี้วัดประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว
สำหรับคำถามนี้ของนักข่าว เถาซือเฉิงจึงตอบได้อย่างสบาย “ผมเชื่อว่าละครเรื่องนี้จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก ผมมีความมั่นใจในคุณภาพของมันมากครับ เชื่อว่าจะได้รับความชื่นชอบจากผู้คนอย่างล้นหลามแน่นอน!”
คำตอบที่เป็นเหมือนชุดคำตอบอัตโนมัติประเภทนี้นักข่าวไม่ต้องการอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงถามอีก “เท่าที่ผมรู้ คืนนี้ยังมีละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ออกอากาศครั้งแรกในเฟยซวิ่นวิดีโอเหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณมองคู่ต่อสู้เป็นยังไงบ้างครับ”
คำถามนี้แบบนี้ซ่อนกับดักไว้อยู่ ถ้าหากตอบไม่ดี ก็จะถูกสื่อนำไปเขียนเป็นข่าวใหญ่ได้ง่าย
ข่าวบันเทิงถ้าอยากจะดึงดูดสายตาผู้คน อย่างแรกต้องปล่อยจุดระเบิดก่อน และการฉีกหน้าต่อสู้กันอะไรแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่นักข่าวชอบมากที่สุด!
แต่เถาซือเฉิงไม่ใช่เด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์ มีหรือจะตกหลุมพราง
เขาเหลือบมองนักข่าวอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้าหนึ่งที แล้วกล่าวว่า “ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็เป็นผลงานที่ไม่เลวเหมือนกัน ละครเรื่องนี้ออกอากาศวันเดียวกันกับละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ สำหรับพวกเราแล้วคือการกระตุ้นและผลักดัน ผมก็ขออวยพรให้ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ประสบความสำเร็จเช่นกันครับ!”
คำตอบของเถาซือเฉิงสามารถตอบได้โดยไม่มีช่องโหว่
ความจริงเขาไม่เคยดูตัวอย่างละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เลยด้วยซ้ำ แค่รู้ว่ามีละครเรื่องนี้ โดยมีเฉินเฟยเอ๋อร์ราชินีแห่งวงการเพลงรับบทนางเอกเท่านั้นเอง
แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่เถาซือเฉิงจะแสร้งทำเหมือนเข้าใจ ไม่พูดโม้โอ้อวดและไม่ดูถูก มีความชำนาญมาก
นักข่าวของอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์หลอกถามอะไรจากปากของเขาไม่ได้ ดังนั้นจึงย้ายไมค์ไปหาจิ่งเหยา “ไม่ทราบว่าคุณจิ่งเหยา มีความคิดเห็นยังไงกับละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ บ้างครับ”
จิ่งเหยายิ้ม
รอยยิ้มของเธอมีความเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด เธอเอ่ยว่า “ฉันคิดว่าละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราค่ะ ละครสองเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่เปรียบเทียบกันได้!”
หืม?
เถาซือเฉิงหันไปมองจิ่งเหยาหนึ่งทีด้วยความตกใจ…คุณกินยาผิดหรือเปล่า
หรือว่าจงใจอยากสร้างกระแส
จิ่งเหยาไม่ใช่เด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์ ควรรู้จักขอบเขตของการพูดและการกระทำ คำตอบของเธอรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด
นักข่าวกลับดีใจขึ้นมา รีบถามว่า “ทำไมถึงไม่มีข้อเปรียบเทียบได้ล่ะครับ”
จิ่งเหยาไม่สนใจสัญญาณเตือนของเถาซือเฉิง เธอพูดไปตามตรงว่า “เทียบกันไม่ได้ในทุกๆ ด้านค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง การลงทุน หรือว่านักแสดง ละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ แข็งแกร่งกว่าเยอะ!”
นักข่าวจับประเด็นได้ “ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นนักแสดงนำนะครับ”
จิ่งเหยาเอ่ยอย่างราบเรียบ “เธอร้องเพลงเพราะมากค่ะ”
พูดจบ นางเอกคนนี้ก็หันหน้าเดินออกไป ไม่ให้โอกาสนักข่าวของอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ถามต่อ!
แต่นักข่าวของอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์ก็พอใจมากแล้ว อยากรีบกลับไปเขียนต้นฉบับอย่างอดใจไม่ไหว
นี่คือหัวข้อที่ดีมากแน่นอน!
เที่ยงคืนของวันนั้น ช่องอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์ก็นำเสนอข่าวใหม่ที่เกี่ยวข้อง
เป็นหัวข้อใหญ่สะเทือนวงการ
‘จิ่งเหยาวิจารณ์เฉินเฟยเอ๋อร์หนัก…เธอร้องเพลงเพราะมาก!’
การเขียนที่ยอดเยี่ยมของนักข่าว นำบทสัมภาษณ์ของจิ่งเหยามาอธิบายอีกรอบได้อย่างสมจริงสมจัง ประเด็นที่จับไว้คือคำตอบสุดท้ายของจิ่งเหยา บอกว่าจิ่งเหยาทิ้งระเบิดใส่เฉินเฟยเอ๋อร์ว่าร้องเพลงเป็นอย่างเดียวไม่เข้าใจการแสดง ดังนั้นละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ฝ่ายหลังเป็นนักแสดงนำ จึงไม่อาจเทียบกับละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ ได้อย่างสิ้นเชิง
หากจะพูดให้รุนแรง นักข่าวคนนี้ไม่ได้บิดเบือนความหมายของจิ่งเหยา ท่าทางของจิ่งเหยาในวิดีโอสัมภาษณ์แสดงออกอย่างชัดเจน
นอกจากอี้หวั่งเอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว ยังมีสื่ออีกสองเจ้าที่ปล่อยข่าวใหม่ช้าไปนิดเดียว เน้นพูดถึงการแข่งขันของละครสองเรื่องนี้ บรรยายให้ทั้งสองฝ่ายกลายเป็นศัตรูกัน คาดเดากันไปเองอย่างไม่มีความรับผิดชอบ
ดังนั้นคลื่นลมจึงเกิดขึ้นในทันที!
หากพูดถึงตำแหน่งในวงการ จิ่งเหยากับเฉินเฟยเอ๋อร์มีความแตกต่างกันมาก
แต่ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ กลับมีสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน จิ่งเหยาเป็นนักแสดงอาชีพ เล่นละครและภาพยนตร์มาหลายเรื่องแล้ว
แต่เฉินเฟยเอ๋อร์แค่เป็นดารารับเชิญในภาพยนตร์สองสามเรื่องเท่านั้น ถือว่าเป็นแค่มือสมัครเล่น จิ่งเหยาเอาฝีมือการแสดงมาเยาะเย้ยเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่จะว่าเธอพูดโอ้อวดก็ไม่ได้…เพราะเธอเป็นมืออาชีพ
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เมื่อคืนละครเรื่อง ‘ท่านประธานที่รัก’ กับละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศครั้งแรกพร้อมกันในเฟยซวิ่นวิดีโอ ยอดชมออนไลน์ของเรื่องแรกทะลุเกินเจ็ดล้านขึ้นไป แต่เรื่องหลังมียอดชมแค่หนึ่งล้านสี่แสนเท่านั้น มีความแตกต่างเยอะมาก
จิ่งเหยาในฐานะนางเอกปรากฏตัวตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ต้องรอวันเสาร์หน้าถึงจะปรากฏตัวในละคร จึงเป็นความแตกต่างของเรื่องเวลา
ลู่เฉินเห็นข่าวนี้ในตอนกลางวันของวันถัดมา
และในบล็อกล่างฉาวเวลานี้ ข่าวซุบซิบเรื่องที่จิ่งเหยาถล่มยับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็กระพือมากขึ้น
ในบล็อกของจิ่งเหยา มีแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นจำนวนมากมาถล่มด่าเธอยับเยิน แต่ก็มีแฟนคลับของจิ่งเหยาจำนวนไม่น้อยที่มาเยาะเย้ยถากถางในบล็อกของเฉินเฟยเอ๋อร์เช่นกัน การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายดุเดือดมาก!
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง”
ลู่เฉินอึดอัดมาก ถามเฉินเฟยเอ๋อร์ที่นั่งตรงข้ามตัวเองไม่หยุด “คุณมีความแค้นกับเธอเหรอครับ”
ทั้งสองคนอยู่ในสถานที่ถ่ายทำ ตอนนี้เป็นเวลาพักกินข้าวเที่ยง และหลี่เฟยอวี่ก็เป็นคนเอาโทรศัพท์มาให้เขาดูข่าวบันเทิงถึงได้รู้เรื่อง ดังนั้นจึงมีคำถามมากมายที่ไม่เข้าใจ
ควรทราบว่าหากคุณไม่ได้จงใจสร้างกระแส หรือหากไม่มีความแค้นต่อกัน ดารานักแสดงที่มีตำแหน่งในวงการไม่ใหญ่มากจะไม่พูดหาเรื่องฉีกหน้ากันแบบนี้ง่ายๆ เพราะจะกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นขำเปล่าๆ
แน่นอนว่าเฉินเฟยเอ๋อร์รู้เรื่องนี้แล้ว แต่เธอแค่ไม่บอกลู่เฉินเท่านั้น
ตอนนี้ลู่เฉินถามขึ้นมา เธอจึงได้ยิ้มและพูดอย่างเรียบๆ ว่า “เมื่อก่อนน่าจะเคยมีครั้งหนึ่ง เดิมทีคนอื่นเชิญให้เธอรับเล่นเป็นตัวละครตัวหนึ่ง แต่ผลสุดท้ายก็มาหาฉัน”
“ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ แต่เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีจึงรับแสดง ตอนหลังฉันถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!
ลู่เฉินเข้าใจแล้ว เขาจึงอดถามไม่ได้ “ถ้าหากตอนนั้นคุณรู้ล่ะครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างจองหอง “ฉันไว้หน้าเพื่อนของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอชอบคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวนั่นเป็นเรื่องของเธอ!”
ลู่เฉินยิ้ม พร้อมกับชูนิ้วโป้งให้เธอ “พี่เฟยสุดยอด!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตีมือของลู่เฉินแล้วพูดดุอย่างน่ารัก “น่าเกลียด!”
ลู่เฉินหัวเราะฮิๆ ถามว่า “อย่างนั้นจะเขียนโพสต์ตอบโต้เธอไหมครับ”
สำหรับคนที่ชอบจงใจหาเรื่องแบบนี้ เขาไม่ชอบเป็นอย่างมาก อยากจะตบกลับสักทีหนึ่ง
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่ายหน้าพูดว่า “ไม่จำเป็น ฉันสั่งให้พี่จางไม่รับสัมภาษณ์นักข่าวชั่วคราว ทุกอย่างรอให้ความจริงเป็นตัวพูดดีกว่า ไม่มีผลงานพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์”
ลู่เฉินพยักหน้า เขารู้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่อยากถือสาจิ่งเหยา ตำแหน่งของทั้งสองคนไม่เหมือนกัน หากโต้กลับจริงจัง จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ใจ
ขอแค่ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มีผลงานออกมาดี การถล่มของจิ่งเหยาก็จะกลายเป็นเรื่องตลก
และเฉินเฟยเอ๋อร์ก็เหมือนกับเขา ต้องปรากฏตัวหลังจากครึ่งหลังของตอนที่สาม ซึ่งจะออกอากาศในคืนวันเสาร์หน้า
เพราะฉะนั้นตอนนี้ทะเลาะโต้เถียงกันไป จะดูต่ำอย่างเห็นได้ชัด
“ต้าเฉิน!”
และในเวลานี้ หลี่เฟยอวี่ก็รีบเดินเข้ามา
เขาพูดอย่างตื่นเต้น “เรตติ้งทั้งประเทศของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกมาแล้ว!”
ลู่เฉินมีสีหน้าตื่นเต้น แล้วถามว่า “เท่าไร”
เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ให้ความสนใจเหมือนกัน
หลี่เฟยอวี่ยิ้มเอ่ยว่า “0.22%!”
0.22%!
เรตติ้งผู้ชมนี้ถือว่าสูงมาก ในฐานะละครโทรทัศน์ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ
ลู่เฉินถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ความกลัดกลุ้มเล็กๆ ก่อนหน้านั้นพลันหายไปทันที!
…………………………………………………………………………