Perfect Superstar - ตอนที่ 273 (2) วิธีการรับมือ
ตอนที่ 273 (2) วิธีการรับมือ
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเชิญลู่เฉินไปร่วมงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ซึ่งตัวเองเป็นฝ่ายจัดงาน!
เมื่อครู่ตอนที่รู้ข่าวนี้ ลู่เฉินคิดว่าสตูดิโอของตัวเองเข้าใจผิด หรือมีคนมาล้อเล่นกับตัวเอง แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็ถูกขจัดความสงสัยออกไป
หลังจากยืนยันข้อมูลแล้ว ในหัวของลู่เฉินก็ผุดสำนวนขึ้นมาประโยคหนึ่ง…อีเห็นมาอวยพรปีใหม่ไก่[1]!
ระยะเวลาที่เขาเดบิวต์นั้นสั้นมาก ความขัดแย้งที่มีต่อสถานีโทรทัศน์เซียงหนานกลับมีไม่น้อย ไกลสุดก็คือความขัดแย้งเรื่องการประกวด ใกล้สุดก็คือสงครามชิงเรตติ้งละครระหว่าง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับ ‘หัวใจฉันโบยบิน’
ตอนแรกเป็นเพราะวิดีโอประกวดถูกเปิดเผย สถานีโทรทัศน์เซียงหนานถูกบังคับให้ขอโทษลู่เฉิน และรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ก็พ่ายแพ้ให้กับรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ที่ลู่เฉินได้เป็นแชมป์ ถือเป็นการตบหน้าครั้งแรก
ตอนนี้ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็กดทับแล้วต่อยละคร ‘หัวใจฉันโบยบิน’ ซ้ำอย่างหนักอีกครั้ง เรตติ้งของเรื่องหน้าแทบจะทะลุ 2% แล้ว แต่ของเรื่องหลังยังวนเวียนไปมาอยู่ที่ 0.5% กระทั่งมีแนวโน้มลดลง
สิ่งที่เรียกว่าละครฟอร์มใหญ่แห่งปีของสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน จึงกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย และเงินลงทุนของ‘หัวใจฉันโบยบิน’ ก็มากกว่า ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ สิบเท่า จะไม่ให้เสียหน้าได้อย่างไร
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ลู่เฉินเป็นคนเขียนบท เป็นนักแสดงนำ และเป็นผู้ลงทุน อีกฝ่ายจึงโดนตบหน้าอีกครั้ง
และครั้งนี้ก็สำคัญกว่าครั้งก่อน เพราะเกี่ยวกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาล
ในสถานการณ์แบบนี้ สถานีโทรทัศน์เซียงหนานยังเชิญเขาไปร่วมงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ทั้งยังเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสองรายการคือรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและรางวัลทำนองยอดเยี่ยมซึ่งค่อนข้างสำคัญ เขารู้สึกแปลกพิกลอย่างไรก็ไม่ทราบ
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานใจกว้างขนาดนี้เชียวหรือ
ลู่เฉินแค่นหัวเราะ ควรทราบว่าชื่อเสียงในวงการของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานไม่ค่อยดีนัก
โดยปกติทั่วไป จดหมายเชิญฉบับนี้น่าจะส่งมาให้ล่วงหน้าหนึ่งเดือนถึงจะเรียกว่าปกติ เวลาห่างกันแค่สิบกว่าวันคิดว่าเขาไม่มีงานอย่างอื่นทำใช่ไหม
ในวงการเพลงป็อปของประเทศ กิจกรรมมอบรางวัลประจำปีรูปแบบต่างๆ มีอยู่ไม่น้อย แต่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดมีอยู่สามงาน
อย่างแรกคือเริ่มจากสมาคมนักดนตรีจีนร่วมมือกับเฟยซวิ่นมิวสิค อี้หว่างมิวสิค ป็อปเรดิโอ และสื่อมีเดียอีกนับสิบแห่ง ร่วมกันงานจัดมอบรางวัลการจัดอันดับเพลงฮิตยอดเยี่ยมของจีน ซึ่งก็คือเพลงยอดฮิตที่ทุกคนคุ้นหู โดยจัดงานเฉลิมฉลองการมอบรางวัล ‘ไชนีสออริจินัลมิวสิคอวอร์ดส์’ กลางเดือนมีนาคมของทุกปี และปีนี้ก็จัดเป็นครั้งที่สิบสี่แล้ว
รองลงมาคือสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน สถานีวิทยุกระจายเสียงประชาชนกลางแห่งประเทศจีน ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุใหญ่ๆ ทั่วประเทศ จัดงานมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ โดยงานเลี้ยงถูกกำหนดให้จัดขึ้นในตอนเย็นของวันที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์เสมอ และปีนี้นี้ก็เป็นครั้งที่สิบห้าแล้ว
งานมอบรางวัลทางดนตรีทั้งสองงานนี้มีประวัติยาวนานที่สุดและมีพลังอำนาจมากที่สุด เป็นงานที่คนดนตรีจับตามองมากที่สุด
และลำดับที่สามก็คือสถานีโทรทัศน์เซียงหนานร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์เซียงเจียงและบริษัทเพลงขนาดใหญ่รวมทั้งบริษัทบันเทิงสิบกว่าแห่ง ก่อตั้งงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ตั้งแต่ปี 2006
หากจะพูดถึงอานุภาพของงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ไม่สามารถสู้สองเจ้าแรกได้อย่างแน่นอน แต่สถานีโทรทัศน์เซียงหนานถนัดสร้างกระแสและมีทุนหนา งานมอบรางวัลในทุกปีล้วนจัดอย่างเอิกเกริก เชิญศิลปินซูเปอร์สตาร์มากมายมาร่วมงาน เพราะฉะนั้นจึงมีชื่อเสียงสูงมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีงานมอบรางวัลอีกหลายงาน รางวัล ‘ป็อปมิวสิคอวอร์ดส์’ รางวัล ‘เป๊ปซี่ออริจอนัลมิวสิคชาร์ต’ เป็นต้น แต่มีอิทธิพลไม่มากนักและขนาดค่อนข้างเล็ก
ถึงแม้จะมีอานุภาพไม่เพียงพอ ระดับในวงการบันเทิงไม่สูง แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ในวงการเพลงป็อปแล้ว สามารถได้รับจดหมายเชิญของงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ก็เป็นเรื่องที่มีหน้ามีตา ควรค่าต่อการโอ้อวดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ลู่เฉินไม่ใช่หนึ่งในนั้น
เขารู้สึกประหลาดใจ ดังนั้นจึงโทรศัพท์ไปหาเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์เข้าวงการมาสิบกว่าปีแล้ว รับรางวัลทางดนตรีมาเกือบทุกประเภทจนมืออ่อน เธอจึงมีความชำนาญในเรื่องเหล่านี้
และถึงแม้เธอจะไม่รู้ ก็สามารถหาคนวงในช่วยสืบได้
หลังจากฟังลู่เฉินพูดจบแล้ว ราชินีเสียงหวานคนนี้จึงหัวเราะและเอ่ยว่า “ไม่ต้องถามคนอื่น ฉันก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น นายไม่ต้องไปจะดีที่สุด เพราะสองรางวัลนี้ไม่มีรางวัลไหนตกถึงมือของนาย!”
เธอบอกลู่เฉินว่า สาเหตุที่จดหมายเชิญมาช้าขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะทางสถานีโทรทัศน์เซียงหนานไม่ได้เสนอชื่อเขาเข้าชิงรางวัลตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ภายหลังกังวลว่าจะเกิดการโต้เถียงมากเกินไป ดังนั้นถึงโยนเหยื่อสองชิ้นนี้ออกมา
ปี 2015 การปรากฏตัวของลู่เฉินในวงการเพลงป็อปยากที่ใครจะมองข้ามได้
เขาเดินสายสร้างสรรค์เพลงอย่างยืนหยัด ทยอยเขียนผลงานเพลงที่ยอดเยี่ยมออกมายี่สิบกว่าเพลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอัลบั้มแรกของเขาที่ขายดีมาก แถมติดชาร์ตเพลงฮิตทั้งหมด ผลงานสะดุดตาเป็นที่สุด
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ขจัดนักร้องนักแต่งยอดเยี่ยมอย่างลู่เฉินออกไป เช่นนั้นศักดิ์และสิทธิ์ของรางวัลที่ยกตนให้สูงขึ้นรางวัลนี้ก็เป็นเรื่องตลกสิ้นดี
แต่การเสนอชื่อเข้าชิงสองรางวัลก็เป็นขีดจำกัดสูงสุดแล้ว
ลู่เฉินอยากได้ก็ไม่มีทาง เขาไม่เคยมีความคาดหวังต่อศีลธรรมของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมาก่อน และพวกเขาก็หน้าหนาไม่กลัวคนด่า แถมยังจ้างพวกรับจ้างโพสต์และนักโฆษณากลุ่มใหญ่มาควบคุมคำวิจารณ์อย่างมีสเต็ปส์
เสนอชื่อของคุณแล้ว แต่คุณไม่ได้รับก็เป็นปัญหาของคุณเอง!
สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ลู่เฉินไม่ใช่คนแรกที่ถูกหลอก และไม่ใช่คนสุดท้าย
เมื่อเข้าใจความเป็นมาที่อยู่เบื้องหลังแล้ว ลู่เฉินจึงพูดอย่างหนักแน่น “งั้นผมจะไม่สนใจ”
น่าตลก เขาอยู่ดีๆ จะไปให้คนอื่นตบหน้าถึงที่ทำไม
น้ำในวงการบันเทิงนั้นลึกมากจริงๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “ก็ต้องสนใจบ้าง ไม่อย่างนั้นนายจะไม่มีเหตุผล ให้พี่สาวของนายไปแทนสิ”
ลู่เฉินไปไม่ได้ หากไปแล้วต้องถูกตบหน้าแน่นอน
แต่หากทำเมินเฉยก็จะตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน อย่างน้อยก็ต้องถูกคนที่มีเจตนาไม่ดีนินทาหาว่าวางมาด
ความสัมพันธ์ในวงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ ถึงแม้จะสู้กันเอาเป็นเอาตายลับหลัง แต่เบื้องหน้าก็ยังต้องรักษากฎและมีมารยาท ไม่อย่างนั้นจากที่มีเหตุผลก็กลายเป็นไม่มีเหตุผลได้เหมือนกัน
ให้ลู่ซีไปนั้นเหมาะสมที่สุด ไม่ว่าสุดท้ายจะได้หรือไม่ได้รับรางวัลก็ไม่มีใครว่าอะไร ต่อให้สถานีโทรทัศน์เซียงหนานอยากจะตบหน้าก็ตบได้ไม่เต็มที่…เพราะเจ้าตัวไม่ไปแล้วจะตบอย่างไรเล่า
นอกจากนี้ลู่เฉินก็ยังมีเหตุผลที่เหมาะสม นั่นก็คือจดหมายเชิญของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมาช้าไป เขาจึงไม่มีคิวว่าง
เหตุผลนี้เฉินเฟยเอ๋อร์เสริมให้เขา
เฉินเฟยเอ๋อร์กล่าวว่า “นายอย่าลืมโพสต์บล็อกนะ บอกว่าวันนี้ได้รับจดหมายเชิญงานมอบรางวัลท็อปไชนีสดีใจมาก ขอบคุณสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน แต่เนื่องจากติดงาน เสียดายที่ไปร่วมงานด้วยตัวเองไม่ได้!”
ลู่เฉินตกตะลึง แล้วจึงเข้าใจทันที เขายอมแพ้พี่สาวราชินีเสียงหวานคนนี้จริงๆ
แบบนี้เขาก็มีเหตุผลที่ชัดเจน ไม่ว่าสุดท้ายสถานีโทรทัศน์เซียงหนานจะทำอย่างไรก็ไม่สำคัญ
“ผมจะเขียนตอนนี้เลยครับ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องรีบร้อน อ้อใช่ มีคนแอบถ่ายรูปพวกเราสองคนที่บ้านพักตากอากาศซีโทเปีย เพิ่งโพสต์ในบล็อกเมื่อกี้ สตูดิโอของฉันกำลังจะแจ้งประกาศ นายก็เขียนด้วยนะ”
รูปที่บ้านพักตากอากาศซีโทเปีย?
ลู่เฉินรีบบอกลาเฉินเฟยเอ๋อร์ แล้วล็อกอินเข้าบล็อกล่างฉาว
เกี่ยวกับบ้านพักตากอากาศซีโทเปีย จะต้องถูกแอบถ่ายตอนที่พวกเขาสองคนถ่ายละครแน่นอน แต่เขาจำได้ว่าตอนนั้นเคลียร์สถานที่แล้ว ไม่คิดว่าปาปารัสซี่จะมีความสามารถขนาดนี้
แค่เวลาครึ่งนาทีเท่านั้น รูปภาพของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็อยู่ในบัญชีวีไอพีของเว็บไซต์บันเทิงแห่งหนึ่ง เป็นภาพระหว่างถ่ายทำละครตอนที่เขาแบกเฉินเฟยเอ๋อร์ไว้ข้างหลัง แล้วก็มีภาพสองคนเดินจูงมือกันหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว
คนที่แอบถ่ายน่าจะใช้เลนส์ถ่ายภาพระยะไกลที่มีความละเอียดสูง รูปภาพไม่ชัดมาก แต่ความสนิทสนมของทั้งสองคนสามารถวิเคราะห์ออกมาได้โดยง่าย
โพสต์บล็อกที่เกี่ยวข้องก็เขียนหัวข้อข่าวและเนื้อหาใหญ่โต เช่น เฟยเฉินเล่นละครแต่คบกันจริง หลักฐานชัดเจน เป็นต้น ลู่เฉินดูแล้วหน้าแดงด้วยความอาย
ในบล็อกของเขาก็แทบระเบิดเหมือนกัน มีแฟนคลับทิ้งข้อความไว้มากมาย
“พี่ลู่เฉิน พี่กับเฉินเฟยเอ๋อร์คบกันจริงๆ เหรอ”
“หัวใจของฉันแหลกสลาย เป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
“ฉันรู้นานแล้วว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สองคนนี้ไม่ธรรมดา และไม่ได้มีข่าวลือเป็นครั้งแรก อวยพรให้พวกเขาเถอะ!”
“ฮ่าๆ พี่ลู่เฉินสุดยอด!”
“อย่างอื่นไม่ต้องพูด ถ้าหากเป็นความจริง ฉันจะฆ่าตัวตาย!”
“ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกคุณกำลังเล่นอะไรอยู่ จวิ้นซีกับเอินซีอยู่ด้วยกันไม่ใช่เรื่องปกติเหรอ”
“ขอความจริง!”
โพสต์บล็อกล่าสุดของลู่เฉินโพสต์ไว้เมื่อวาน จนถึงตอนนี้พบว่าจำนวนคอมเมนต์มากถึงหลักแสนแล้ว เห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบมาจากภาพข่าวซุบซิบ แฟนคลับบางคนอวยพรแสดงความยินดี แฟนคลับบางคนเสียใจและสงสัย
แต่ก็ยังมีคอมเมนต์ที่รุนแรงสุดๆ น่าจะมาจากแฟนคลับผู้หญิงที่คลั่งไคล้อย่างบ้าคลั่งซึ่งเป็นส่วนน้อย
ถึงแม้ลู่เฉินจะเดินสายความสามารถ ไม่มีใครสงสัยในพรสวรรค์ของเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หน้าตาของลู่เฉินก็ช่วยเขาดึงดูดแฟนคลับสาวๆ ได้เป็นจำนวนมาก
แฟนคลับเยอะ ย่อมมีพวกสุดโต่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเธอมองลู่เฉินเป็นชายในฝัน เป็นเสาหลักของจิตใจ เมื่อรู้ว่าไอดอลมีแฟนหรือแต่งงาน ผลเสียที่ตามมาจึงรุนแรงมาก
แต่ก่อนก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ เนื่องจากไอดอลมีแฟนและแต่งงานจึงฆ่าตัวตาย เกิดกระแสวิจารณ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้ไอดอลและดาราจำนวนไม่น้อยจึงระวังด้านนี้มากขึ้น รักษาความลับเกี่ยวกับความรักของตัวเองอย่างเข้มงวด
มีข่าวสร้างกระแสซุบซิบไม่เป็นไร การยอมรับว่าคบกันเป็นข้อห้าม บริษัทเอเจนซี่หลายแห่งกระทั่งออกกฎห้ามศิลปินในสังกัดมีแฟน เพื่อยับยั้งการเกิดเรื่องประเภทนี้ หลีกเลี่ยงการสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงในที่สาธารณะ
ถึงแม้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์จะมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง แต่แฟนคลับของทั้งสองคนรวมกันก็เป็นจำนวนที่น่าตกใจมาก ดังนั้นจำเป็นต้องระวังปัญหาในด้านนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่เปิดเผยความรักมาตลอด
ไม่เพียงเท่านี้ เรื่องที่เป็นข่าวก็ต้องปฏิเสธอย่างเด็ดขาด!
ลู่เฉินเขียนโพสต์ออกไปในไม่ช้า อธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่านี่เป็นรูปภาพตอนถ่ายทำละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และความสัมพันธ์ของตัวเองกับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ดีมาตลอด ทั้งสองเหมือนพี่สาวกับน้องชาย ทุกคนอย่าเข้าใจผิด
นอกจากนี้เขายังพูดเรื่องที่ได้รับจดหมายเชิญงานมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานอีกด้วย ไม่ช้าความสนใจของเหล่าแฟนคลับก็ถูกเบี่ยงเบนไป
ความจริงข่าวซุบซิบเรื่องความรักของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ข่าวกอสซิปบันเทิงของพวกเขาสองคนก็มีไม่น้อย ทุกคนจึงเห็นเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นผลกระทบจึงหายไปได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้พวกแฟนคลับสนใจว่า ลู่เฉินจะคว้ารางวัลใหญ่สองรายการอย่างศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและทำนองยอดเยี่ยมได้ไหม
พวกเขาไม่มีทางได้รู้ว่า ความจริงช่างโหดร้ายแค่ไหน!
………………………………………………………………………..
[1] อีเห็นมาอวยพรปีใหม่ไก่ หมายถึง ต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ห่วงใย แต่ใจจริงมุ่งร้าย