Perfect Superstar - ตอนที่ 302 คู่ควรสมชื่อ
ตอนที่ 302 คู่ควรสมชื่อ
ถานหงคว้ารางวัลไลฟ์ไทม์แอคชีฟเมนต์จากเวที ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวไปแล้ว พิธีมอบรางวัลดำเนินไปต่อ รางวัลสื่อแนะนำ รางวัลมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยม รางวัลเรียบเรียงเสียงประสานยอดเยี่ยม เป็นต้น ทยอยมีผู้ที่ได้รับไปครอบครอง
“อันดับต่อไปที่จะประกาศ คือรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งเอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์…”
เซี่ยจวินพิธีกรของสถานีโทรทัศน์กลางเปล่งเสียงประกาศจนสะท้อนก้องสู่แก้วหูของผู้ชมทั้งห้าพันคน “เชิญทุกท่านดูบนหน้าจอ!”
บนหน้าจอแอลอีดีขนาดยักษ์ด้านหลัง ครู่ต่อมาปรากฏภาพที่ถูกตัดแบ่งออกเป็นสี่ภาพ ทั้งสี่คนเป็นผู้เข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ด้านล่างมีผลงานชิ้นเอกของแต่ละคนเฉิดฉายอยู่
“ท่านแรกคือ โจวเป้ย ผลงานชิ้นสำคัญคือ ‘บลูมมิงฟลาวเวอร์ส’!”
เสียงเพลงอันไพเราะของโจวเป้ยดังออกมาจากลำโพงชั้นยอดที่ติดตั้งอยู่ในรอบฮอลล์ทันที
โจวเป้ยได้รับรางวัลชนะเลิศจากรายการบันเทิงชื่อดังของสถานีโทรทัศน์เซินไห่ที่มีชื่อรายการว่า ‘เนชันแนลไอดอล’ ในปี 2015 หลังจากเซ็นสัญญากับบริษัทซิงกวงมีเดียแล้ว ก็ออกอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า ‘บลูมมิงฟลาวเวอร์ส’
อายุของเธอพอๆ กับลู่เฉิน ทั้งหน้าตาและเสียงร้องนั้นไม่ธรรมดา ยังมีฉายาว่า สาวเก่งดนตรี ดังนั้นจึงได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซิงกวงมีเดีย มีงานออกรายการและงานพรีเซ็นเตอร์เข้ามามากมาย มีแฟนคลับติดตามในบล็อกล่างฉาวมากกว่าห้าล้านคน
ที่สมควรจะกล่าวถึงคือ โจวเป้ยเป็นดาราพรีเซ็นเตอร์ของ ‘ลานแสงดาว’ ทุกครั้งที่เธอถ่ายทอดสดจะมีผู้ชมเกินกว่าล้านคน นับว่าเป็นคู่ต่อสู้ของลู่เฉินที่เซ็นสัญญากับ ‘จิงอวี๋ทีวี’
แต่การแข่งขันของคนทั้งสองไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว ตอนแรกที่เธอออกอัลบั้มส่วนตัว อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉินกับอัลบั้ม ‘บลูมมิงฟลาวเวอร์ส’ ของเธอ ได้วางขายบนเว็บไซต์เฟยซวิ่นมิวสิคห่างกันเพียงไม่กี่วัน
แต่ด้านยอดขาย อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ เอาชนะอัลบั้ม ‘บลูมมิงฟลาวเวอร์ส’ ไปอย่างขาดลอย
อีกอย่างรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานครั้งก่อน โจวเป้ยก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
เพียงแต่ทั้งสองคนพ่ายแพ้ให้กับชุยเจิ้งจื้อ
เมื่อพิธีกรเอ่ยชื่อของเธอนั้น โจวเป้ยยิ้มเกลื่อนหน้ายืนขึ้นจากที่นั่งของตัวเอง โค้งขอบคุณให้กับผู้ชมสำหรับเสียงปรบมือ
เธอนั่งอยู่หลังลู่เฉิน ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเมตร
ลู่เฉินปรบมือ รู้สึกสงสัยจึงหันไปมอง บังเอิญสบตาเข้ากับโจวเป้ยเข้าพอดี
ฝ่ายหลังจ้องตากัน แล้วพยักหน้าให้
ลู่เฉินยิ้มน้อยๆ พยักหน้าตอบ
ความจริงนี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้เจอกัน ทั้งยังอยู่ในฐานะคู่แข่ง
“ท่านที่สองคือ หลินฉู่เซวียน ผลงานชิ้นสำคัญคือ ‘ร้อนรักยามค่ำคืน’!”
หลินฉู่เซวียนเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่เพิ่งมีชื่อเสียงในปี 2015 ฐานะทางครอบครัวของเขาไม่ธรรมดา บิดาเป็นศาสตราจารย์ในวิทยาลัยดนตรี มารดาเป็นนักเต้นรำมืออาชีพ หลังจากจบมัธยมต้นเขาไปศึกษาต่อด้านดนตรีที่ต่างประเทศ กลับมาในปี 2014 ปลายปีก็ได้เดบิวต์ เดือนมีนาคมปี 2015 ออกอัลบั้มส่วนตัวเป็นอัลบั้มแรก
ผลงานชิ้นสำคัญของเขาคืออัลบั้ม ‘ร้อนรักยามค่ำคืน’ ที่ขายดีไม่เลว แนวเพลงผสมความร้อนแรงแบบที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปและอเมริกา ดังนั้นจึงได้รับความชื่นชอบจากบรรดาวัยรุ่นคนหนุ่มสาว มีงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาออกมาอยู่เรื่อยๆ
เพลงหลักคือเพลง ‘ค่ำคืนที่มืดมน’ เคยขึ้นติดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับเพลงยอดนิยม ทั้งยังต่อเนื่องกันถึงสองสัปดาห์
ในบรรดาผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้งสี่คน หลินฉู่เซวียนสร้างความคุกคามให้กับลู่เฉินได้มากที่สุด เขามีทั้งความสามารถและความเก่งกาจ พ่อแม่มีเส้นสายมากมายในวงการ แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อกรรมการส่วนหนึ่ง
แต่หลินฉู่เซวียนมีจุดด้อยคือนิสัยของเขาค่อนข้างเย่อหยิ่ง โมโหร้าย เคยด่ากราดหยาบคายใส่เจ้าของบล็อกที่พูดถึงส่วนสูงของเขา เรื่องนี้ลือกันไปทั่ว
หลินฉู่เซวียนสูงเพียง 165 เซนติเมตร บางคนบอกว่าจริงๆ แล้วเขาสูงไม่ถึง 160 เซนติเมตรด้วยซ้ำ
“ท่านที่สามคือ ลู่เฉิน ผลงานชิ้นสำคัญคือ ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’!”
ลู่เฉินที่ถูกเรียกชื่อลุกขึ้นยืนแสดงความขอบคุณ
“ท่านที่สี่คือเ ซียวปิงปิง ผลงานชิ้นสำคัญคือ ‘ถ้าได้รักใหม่’!”
เซียวปิงปิงเข้าวงการเป็นศิลปินหน้าใหม่เมื่อปีที่แล้ว เซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญอย่างเจียหวาเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ตอนนี้เธอยังไม่ออกอัลบั้ม มีเพียงผลงานซิงเกิลไม่กี่เพลง เพลง ‘ถ้าได้รักใหม่’ เคยติดอันดับเพลงยอดนิยมมาก่อน
เมื่อเปรียบเทียบกับโจวเป้ย หลินฉู่เซวียน และลู่เฉิน เซียวปิงปิงนั้นด้อยกว่าไม่น้อย ข้อเด่นของเธอที่น่ากลัวมีเพียงข้อเดียวคือหน้าตา เธอทั้งสาวทั้งสวย แถมยังเซ็กซี่ ถนัดการเต้นยั่วยวนเพื่อเรียกแฟนคลับ
คนอื่นๆ ในวงการคิดว่า เธอสามารถมีรายชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมบนเวที ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถอันแข็งแกร่งของทีมประชาสัมพันธ์บริษัทเจียหวาเอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับรางวัล…สถานีโทรทัศน์กลางไม่ใช่สถานีโทรทัศน์เซียงหนาน คุณธรรมต้องสูงกว่าอยู่แล้ว โอกาสน้อยมากที่จะทำให้เกิดเรื่องฉาวโฉ่
ดังนั้นโล่รางวัลนี้ สุดท้ายจะตกอยู่ในมือของโจวเป้ย หลินฉู่เซวียน และลู่เฉินไม่คนใดก็คนหนึ่ง
หลินฉู่เซวียนและลู่เฉินมีโอกาสได้รับรางวัลมากที่สุด!
หลังจากประกาศชื่อผู้เข้าชิงแล้ว เซี่ยจวินพูดเสียงดังว่า “ต่อไปขอเชิญคุณเฉินเฟยเอ๋อร์นักร้องสาวชื่อดัง ขึ้นมาประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งเอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์ด้วยครับ!”
สิ้นเสียงของเขา แสงไฟสปอตไลต์ส่องลงมาที่ข้างๆ…ลู่เฉิน
เฉินเฟยเอ๋อร์เผยยิ้มหวานหยดย้อย เธอใช้มือหนึ่งยกชายกระโปรงขึ้นพร้อมกับลุกออกจากที่นั่ง เดินขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว แล้วรับซองจดหมายไปจากมือของพิธีกรสถานีโทรทัศน์กลางคนหนึ่ง
ทั้งฮอลล์เงียบลงในฉับพลัน สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เฉินเฟยเอ๋อร์
นอกจากรางวัลไลฟ์ไทม์แอคชีฟเมนต์ที่ตั้งขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเป็นรางวัลที่มีน้ำหนักอย่างแท้จริง โดยเฉพาะจากเวที ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’
ตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษใหม่ อุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศเจริญรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ขนาดของอุตสาหกรรมขยายใหญ่อย่างไม่หยุดยั้ง แต่วงการดนตรีป็อบที่มีนักร้องศิลปินมากขึ้นเรื่อยๆ คุณภาพโดยรวมกลับมีแนวโน้มตกต่ำลง
เพลงป็อบจีนได้รับอิทธิพลจากอเมริกา ยุโรป เกาหลี และญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หลายบริษัทหลายค่ายเพลงกระหายอยากได้ผลกำไรอย่างรวดเร็วแต่ไม่เน้นการสร้างสรรค์ การร้องคัฟเวอร์ การเลียนแบบ หรือแม้แต่การลอกผลงานเพลงต่างชาติ ทำให้ยิ่งนานวันยิ่งมีผลงานเพลงออริจินัลชั้นเยี่ยมที่ผู้คนยกย่องน้อยลง
ผู้ที่มีความรู้ในวงการจำนวนไม่น้อยรู้สึกวิตกกังวลจนต้องออกมาร้องเตือนเสียงดัง และทำให้รัฐบาลหันมาให้ความสำคัญ
ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล สถานีโทรทัศน์กลางและสถานีวิทยุกระจายเสียงประชาชนกลางจึงจัดงาน ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ขึ้น แน่นอนว่าย่อมต้องสืบสานทิศทางที่ถูกต้อง และพัฒนาความน่าเชื่อถือของรางวัล
เช่นรางวัลที่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีความสำคัญอย่างรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมนั้น หลายปีมานี้มีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเห็นชัดที่สุดตั้งแต่ปี 2010 นักร้องทุกคนที่เข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในตอนนั้น ล้วนมีสิทธิ์เข้าร่วมแสดงในงานกาลาคืนวันตรุษจีนของปีต่อไป
งานกาลาวันตรุษจีนของสถานีโทรทัศน์กลาง เป็นรายการที่เข้มแข็งซึ่งได้เรตติ้งสูงเกิน 85% ติดต่อกันมาหลายสิบปี ศิลปินมากมายล้วนเคยโด่งดังจากงานกาลาคืนวันตรุษจีนนี้มาแล้ว เดินเข้าสู่เส้นทางของซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง
ดังนั้นต่อให้เป็นแค่สิทธิ์ในการเข้าร่วมรายการอย่างเดียวก็พอให้คนยอมทำทุกอย่าง ไม่ได้ได้มาง่ายๆ!
รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ กับงานกาลามีความเกี่ยวข้องกัน น้ำหนักความสำคัญของรางวัลนี้แค่คิดก็รู้แล้ว
ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ห้ารุ่นก่อนหน้านี้ มีสามคนที่ได้ขึ้นเวทีงานกาลาวันตรุษจีน แล้วโด่งดังมีชื่อเสียง!
ต่อมาเฉินเฟยเอ๋อร์เปิดซองแล้วหยิบการ์ดรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลออกมา เสียงดนตรีประกอบพร้อมกับจังหวะกลองลุ้นระทึกดังขึ้น เหมือนห่าฝนที่ตกกระแทกศีรษะของทุกคน
ลู่เฉินเองก็ยังลุ้นจนใจไม่อยู่นิ่ง!
เห็นเฉินเฟยเอ๋อร์พลิกเปิดการ์ดขึ้นมา จากนั้นอ่านมันแล้วทำตาโตราวกับคาดไม่ถึง
เสียงกลองหยุดลง!
ราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม สายตาของเธอมองตรงไปด้านหน้า พูดใส่ไมโครโฟนว่า “ผู้ที่ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ครั้งที่สิบหกคือ…”
เฉินเฟยเอ๋อร์บิดมุมปากเผยยิ้มหวานใจละลาย “ลู่เฉิน!”
ลู่เฉิน!
เพิ่งเข้าวงการมาแค่ครึ่งปีกว่า ไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่ไหนเลย แต่ลู่เฉินที่ก้าวหน้าในวงการดนตรีแบบก้าวกระโดด ชิงเอารางวัลใหญ่ที่สำคัญต่ออาชีพในสายดนตรีของเขามาได้
รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ครั้งที่สิบหก!
เมื่อลู่เฉินได้ยินชื่อของตัวเองออกจากปากเฉินเฟยเอ๋อร์ แม้จะเป็นเรื่องที่คาดเดาได้และเตรียมการไว้แล้ว แต่เขาก็ยังหน้าแดงด้วยเลือดร้อนที่พุ่งขึ้นด้วยความตื่นเต้นไม่หยุดหย่อน
ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกเดินจนถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ได้รับรางวัลเกียรติยศที่เขาสมควรได้เสียที
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้ม “ขอแสดงความยินดีกับลู่เฉินด้วยค่ะ!”
คนทั้งฮอลล์ปรบมือดังสนั่น
นอกจากคนจำนวนน้อยนิดเท่านั้น แขกผู้มีเกียรติและผู้ชมส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกคาดไม่ถึงหรือตกใจกับการที่ลู่เฉินชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมไปครอบครอง พวกเขาอวยพรให้ด้วยความอบอุ่นจริงใจ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 การโผล่ขึ้นมาในวงการเพลงป็อบอย่างฉับพลันของลู่เฉินเป็นสีสันสดใสของวงการอย่างแท้จริง จนถึงวันนี้เขามีผลงานเพลงมากกว่ายี่สิบเพลง ทุกเพลงล้วนเป็นเพลงดีเด่น ไม่ขาดกลิ่นอายของความคลาสสิค
ความสามารถเช่นนี้ การสร้างสรรค์อันสูงส่งเช่นนี้ โดดเด่นสะดุดตาขนาดนี้!
สามารถบอกได้ว่าเพราะมีลู่เฉิน วงการเพลงป็อบจีนในครึ่งปีหลังของปี 2015 จึงมีชีวิตชีวาเปี่ยมไปด้วยพลัง ความสำเร็จของเขาช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกระแสเพลงรักในรั้วโรงเรียนยิ่งทำให้คนฟังชื่นชอบผลงานเพลงที่ชวนให้หวนนึกถึงคืนวันเก่าๆ ชะล้างความมักง่ายและความฉาบฉวยที่มีอยู่ไม่น้อยในวงการเพลงทิ้งไป
เพียงแค่การอุทิศตนเพื่อดนตรี ลู่เฉินก็คู่ควรที่จะได้รับรางวัลนี้แล้ว
ยังจะมีใครเก่งกว่าเขาอีก? โจวเป้ยไม่ไหว หลินฉู่เซวียนไม่ได้ เซียนปิงปิงยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่!
สิ่งเดียวที่ลู่เฉินขาดคือรากฐานความมั่นคงในวงการบันเทิง ไม่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่หรือค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ แต่เลือกที่จะเดินบนหนทางที่ยากลำบากด้วยการเปิดสตูดิโอของตัวเอง
คราวก่อนการมอบรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ เขาถูกกดขี่ก็เพราะเหตุนี้
แต่ในทางกลับกัน ก็พิสูจน์ว่าลู่เฉินนั้นแข็งแกร่ง!
“พรุ่งนี้เธอจะนึกออกไหม เรื่องที่เธอเขียนไว้ในไดอารี่ พรุ่งนี้เธอจะจำได้ไหม…”
เสียงเพลงดังขึ้น เพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉินเพลงนั้น
แสงไฟสาดส่องอยู่ที่ตัวเขา ติดตามเขาขึ้นไปเวทีที่มีสายตาคนนับพันจับจ้อง
ตอนนี้บนที่นั่งของแขกผู้มีเกียรติ ในฐานะคู่แข่งที่พ่ายแพ้ โจวเป้ยกัดฟันปรบมือ
เป็นอีกครั้งที่แพ้ให้กับลู่เฉิน ในใจของเธอรู้สึกไม่ยินยอม แต่ต้องรักษาภาพลักษณ์
เมื่อเทียบกันแล้ว สีหน้าของหลินฉู่เซวียนดูแย่กว่า แค่ปรบมือส่งๆ ไปก็พอ
ส่วนเซียวปิงปิง รู้แต่แรกแล้วว่าตัวเองไม่ได้รับรางวัลแน่ ยิ้มโดยไม่รู้สึกอะไร ปฏิกิริยาดูเป็นมิตรที่สุด
ส่วนข้างนอกนั้น ในโลกออนไลน์ ในหมู่ผู้ชมที่ชมพิธีมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ อยู่ มีคนนับไม่ถ้วนที่แสดงความยินดีกับลู่เฉิน!
……………………………………….