Perfect Superstar - ตอนที่ 306 คำวิจารณ์สวนทาง
ตอนที่ 306 คำวิจารณ์สวนทาง
งาน ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ครั้งที่สิบหก ซึ่งเป็นพิธีประกาศรางวัลที่สำคัญงานแรกของวงการบันเทิงในปี 2016 ได้สิ้นสุดลง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการบันเทิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงเพลงป็อป
วันรุ่งขึ้นหรือก็คือวันที่ 19 กุมภาพันธ์ หัวข้อข่าวในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์บันเทิงต่างๆ ถูกเนื้อหาที่เกี่ยวกับงานประกาศรางวัลครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ สื่อทั้งหลายลงบทความวิจารณ์และข่าวซุบซิบต่างๆ เพื่อกล่าวอำลารางวัลทางดนตรีที่ทรงอิทธิพลมายาวนานสิบกว่าปีรางวัลนี้
‘จากความพยายามเป็นสิบปี ในที่สุดจางหลินจื่อก็ได้รับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมจาก ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ เสียที’
‘เฉินเฟยเอ๋อร์พ่ายให้แก่จางหลินจื่ออย่างน่าเสียดาย และต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแนวเพลง!’
‘การสิ้นสุดของยุค ถานหงออกจากวงการไปพร้อมกับงาน ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’!’
‘ลู่เฉินไม่ทำให้ผิดหวัง คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม’
‘คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมก่อน แล้วตามด้วยรางวัลนักประพันธ์ทำนองยอดเยี่ยม ลู่เฉินผู้มีพรสวรรค์ด้านดนตรีชิงรางวัลจากงาน ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ มาได้อย่างไม่คาดฝัน!’
…
ตอนเช้าลู่ซีตั้งใจเคลียร์สิ่งของบนชั้นวางเอกสารในออฟฟิศออกจนเกลี้ยง แล้ววางโล่รางวัลรูปนกกระจาบฝนสองอันลงไปแทน ยังเช็ดทำความสะอาดกระจกตู้จนสะอาดเอี่ยม แบบนี้ถึงจะมองเห็นชัด
นี่เป็นรางวัลทางดนตรีที่ลู่เฉินได้มาเป็นครั้งแรก และเป็นโล่รางวัลที่ทรงคุณค่าทั้งคู่
พี่สาวนำรางวัลเกียรติยศครั้งนี้มาเก็บรักษาไว้อย่างดี เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดไป
นอกจากนี้เธอยังนำคลิปที่ลู่เฉินให้สัมภาษณ์กับช่องดนตรีหรือช่องสิบห้าของสถานีโทรทัศน์กลางมาโพสต์ลงในบล็อกของสตูดิโอลู่เฉิน
เหมือนกับดาราศิลปินคนอื่น ตอนนี้ในบล็อกล่างฉาว มีบัญชีวีไอพีที่เกี่ยวกับลู่เฉินถึงสามบัญชี
บัญชีแรกเป็นบัญชีที่ลู่เฉินสมัครเองชื่อว่า ลู่เฉิน FMX มีสมาชิกมากกว่าสิบห้าล้านคน เป็นบล็อกส่วนตัวของศิลปิน มักใช้เผยแพร่ชีวิตประจำวันและกิจกรรมพักผ่อนเสียส่วนใหญ่
บัญชีที่สอง ลงชื่อเข้าใช้เมื่อสองเดือนก่อน เป็นบัญชีวีไอพีของสตูดิโอลู่เฉิน ตอนนี้มีแฟนคลับมากกว่าสามล้านคน ใช้ประกาศข่าวสารที่เกี่ยวกับลู่เฉินเป็นหลัก เช่นการออกเพลงใหม่ของเขา หรือการไปร่วมงานกิจกรรมต่างๆ
บัญชีสุดท้ายเป็นบัญชีของกลุ่มแฟนคลับลู่เฉิน (ขุนศึกตระกูลลู่) มีแฟนคลับห้าล้านกว่าคน
บล็อกสองบล็อกแรกมีลู่ซีเป็นผู้ดูแล โดยเฉพาะบัญชีวีไอพีของสตูดิโอลู่เฉิน พี่สาวหมั่นอัปเดตชีวิตประจำวันของลู่เฉินด้วยตัวเองเสมอ
บัญชีสุดท้ายที่เป็นของกลุ่มแฟนคลับค่อนข้างซับซ้อน ผู้ดูแลมีทั้งหลี่มู่ไป๋และคนอื่นๆ อีกหลายคน
พร้อมกันกับที่ผลงานเพลงและละครของลู่เฉินออกมาไม่ขาดสาย ชื่อเสียงของเขาก็ยิ่งโด่งดังมากขึ้น มีอิทธิพลสูงขึ้นทั้งในโลกออนไลน์และในโลกของความเป็นจริง เข้าวงการมาไม่ถึงหนึ่งปีก็เริ่มมีแนวโน้มว่าจะเป็นศิลปินชั้นนำ
แน่นอนว่าโลกใหญ่โตและซับซ้อนถึงเพียงนี้ ดาราศิลปินไอดอลไม่มีใครที่จะได้รับความนิยมชมชอบและการบูชาจากทุกคนได้ มีแสงสว่างฉันใดย่อมมีความมืดฉันนั้น มีแฟนคลับผู้ภักดีก็ย่อมมีแอนตี้แฟน มีคนสรรเสริญก็ย่อมมีคนนินทา
หนึ่งในเว็บท่าที่ใหญ่ที่สุดอย่างช่องบันเทิงอี้หว่าง ได้ลงพาดหัวข่าวประจำวันว่า ‘รางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ สาขานักประพันธ์ทำนองยอดเยี่ยม เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงหรือเป็นเบื้องหลังอันดำมืด’
ในบรรดาเว็บท่าขนาดใหญ่ของประเทศทั้งสี่แห่ง อี้หว่างขึ้นชื่อเรื่องความใจกล้ามาโดยตลอด มักยุยงปลุกปั่นข่าวเปราะบางหรือเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นร้อนให้เกิดเป็นกระแสโต้แย้ง เพื่อเรียกคนมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้มากขึ้น
ทั้งเรื่องราวการเมือง ข่าวซุบซิบในวงการบันเทิง ข่าวการทหาร ข่าวเศรษฐกิจมักลงพาดหัวที่เตะตาสะดุดใจ บรรณาธิการมักใส่เนื้อหาที่บิดเบือนหรือความคิดเห็นของตัวเองลงไปในบทความโดยไม่เกรงกลัว สร้างเรื่องน่าอับอายไม่น้อย ดังนั้นจึงถูกชาวเน็ตตั้งชื่อล้อเลียนว่า ‘ฟาร์มเลี้ยงหมู[1]’
เช่นรายงานข่าว ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ช่องบันเทิงอี้หว่างไม่เหมือนกับสื่อบันเทิงเจ้าอื่น นำเรื่องของลู่เฉินมาเล่นเป็นกระแส สร้างบทความที่แอบแฝงถ้อยคำโจมตี ใช้คำพาดหัวที่น่าตกใจ
ในบทความนี้ บรรณาธิการเลือกที่จะหยิบยกผู้ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักประพันธ์ทำนองยอดเยี่ยมอีกสามท่านออกมาก่อน แจกแจงข้อมูลของต่งเจิ้น จางเข่ออี๋ และทังซีหย้า ทั้งตำแหน่ง ประสบการณ์ และผลงาน จากนั้นค่อยเขียนเรื่องของลู่เฉินอย่างไม่ตรงประเด็น
แบบนี้ถ้าผู้อ่านไม่รู้ความจริง จะรู้สึกว่าคนทั้งสามเหนือกว่าลู่เฉินหลายขั้น ทำไมรางวัลนักประพันธ์ทำนองยอดเยี่ยมจึงถูกลู่เฉินคว้าไปได้ มีเบื้องหลังอันดำมืดจริงหรือไม่
แต่ในบทความไม่ได้บอกผู้อ่านว่า ในปี 2015 ผลงานของลู่เฉินไม่ว่าจะเป็นด้านจำนวนหรือคุณภาพ โดดเด่นกว่าผู้เข้าชิงอีกสามท่าน และไม่ได้แจกแจงให้ผู้อ่านเข้าใจว่า เพลง ‘ฉันรักเธอประเทศจีน’ ของลู่เฉินที่โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศเป็นเพลงที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนี้
โจมตีทั้งสถานีโทรทัศน์กลาง โจมตีทั้งลู่เฉิน แล้วยังถือโอกาสยุแยงความสัมพันธ์ของลู่เฉินกับผู้อาวุโสในวงการทั้งสามท่าน หัวข้อข่าวบนช่องบันเทิงอี้หว่างนี้ทำให้ลู่ซีที่เพิ่งเข้ามาอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ฉันจะฟ้องพวกนั้น!”
ลู่เฉินยิ้ม “ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก ยิ่งเราสนใจพวกเขายิ่งสนุก”
การสื่อสารกันระหว่างดาราศิลปินกับสื่อเป็นศาสตร์ที่มีความสูงส่งและลึกล้ำมาก ดาราบางคนถูกสื่อนำไปละเลงไข่ใส่สีจนเสื่อมเสียไปหมด ดาราบางคนกลับถูกสื่อรักใคร่ยกย่องทั้งชีวิต พูดอะไรก็ดีไปหมด เพราะทั้งสองคนมีคุณธรรมแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวอย่างนั้นหรือ
คำตอบคือไม่ใช่ บริษัทเอเจนซี่ล้วนมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ ที่รับผิดชอบเรื่องการรับมือกับสื่อโดยเฉพาะ ผู้จัดการส่วนตัวของดาราศิลปินก็ต้องรับผิดชอบด้านนี้ด้วย เป็นงานประจำวันที่สำคัญงานหนึ่ง
อย่างเช่นเวลาที่นักข่าวสายบันเทิงทั่วไปมาสัมภาษณ์ การให้อั่งเปากับนักข่าวเป็นเรื่องที่ต้องทำ ส่วนกับสื่อขนาดใหญ่ต้องมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนเป็นค่าคุ้มครอง หากดาราคนนั้นเกิดข่าวฉาวขึ้น จะประกาศออกไปอย่างไรนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ลู่เฉินก้าวหน้าเร็วเกินไป ดังนั้นสตูดิโอลู่เฉินยังขาดประสบการณ์ทางด้านนี้และเส้นสาย ต่อให้หว่านเงินออกไปก็ต้องหว่านให้ถูกที่ ไม่อย่างนั้นคงจะถูกคนใส่ร้ายเอาเรื่อง
พาดหัวข่าวของช่องบันเทิงอี้หว่างเป็นเหมือนระฆังที่ตีเตือนเขา
แน่นอนว่าเป็นอย่างที่ลู่เฉินบอกไว้ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปใส่ใจ ยิ่งไปแก้ตัวกลับจะทำให้ถูกใส่ความได้ง่ายขึ้น ส่วนการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลนั้นเป็นเพียงคำพูดที่โกรธเกรี้ยวของลู่ซีเท่านั้น
ลู่เฉินไม่ได้โมโห ถ้าเว็บไซต์อี้หว่างอันยิ่งใหญ่มาใส่ร้ายเขาได้ แสดงว่าตัวเขาต้องมีมีอิทธิพลอยู่ในระดับหนึ่ง
พวกหมูหมากาไก่ทั่วไป เว็บไซต์อี้หว่างมีหรือจะเสียเวลาด้วย!
ลู่ซีเข้าใจ “ความจริงพวกเขาตอบโต้ด้วยความริษยา อัลบั้มของพวกเราเมื่อก่อนไม่ได้ลงขายในอี้หว่าง ละครโทรทัศน์ก็ไม่ให้พวกเขานำไปออกอากาศ”
อี้หว่างเกม อี้หว่างมิวสิค อี้หว่างวิดีโอ อี้หว่างไลฟ์ อี้หว่างทอล์ก ทั้งหมดล้วนอยู่ใต้เรือธงของอี้หว่าง ตอนนั้นที่ลู่เฉินจะวางขายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ บนอินเทอร์เน็ต อี้หว่างมิวสิคเคยมาเจรจาตกลงด้วย ยังมีสิทธิ์ในการออกอากาศละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทางอินเทอร์เน็ต ทางอี้หว่างวิดีโอก็เคยมาติดต่อพูดคุย
แต่ลู่เฉินเลือกเฟยซวิ่นมิวสิคและเฟยซวิ่นวิดีโอที่มีศักยภาพเหนือกว่า ถ้าอี้หว่างไม่ขัดเคืองเลยสักนิดถึงจะแปลก!…แม้แต่เสื้อผ้ากีฬาเซินฉีที่ลู่เฉินเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ยังลงโฆษณากับเว็บท่าอย่างเฟยซวิ่น
ถ้าบอกว่าการวางขายอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ เป็นเรื่องเล็ก แต่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นเหมือนเนื้อหนาชิ้นใหญ่ จวบจนวันนี้ละครที่มีความยาวยี่สิบตอนเรื่องนี้มียอดวิวในเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอมากกว่าสามพันห้าร้อยล้านครั้ง เป็นละครที่ทำสถิติยอดวิวเฉลี่ยสูงที่สุด!
เพียงแค่คลิปโฆษณาและปริมาณการสมัครสมาชิกเพิ่ม เฟยซวิ่นวิดีโอก็ได้รับเงินเป็นกอบเป็นกำ ไม่รู้ว่าทำให้บริษัทคู่แข่งอิจฉาตาร้อนกันแค่ไหน อี้หว่างวิดีโอเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนนี้อี้หว่างมาสาดสีใส่ลู่เฉินจึงเป็นเรื่องธรรมดา
คุณธรรมของสื่อประเภทนี้โดยพื้นฐานแล้วล้วนแต่ติดลบทั้งนั้น ถ้าลู่เฉินขายสิทธิ์ในการออกอากาศละครทางอินเทอร์เน็ตให้แก่อี้หว่าง คงจะถูกยกยอปอปั้นขึ้นมาทันที!
ลู่ซีกำลังใช้ความคิด “พวกเราต้องหาประชาสัมพันธ์มืออาชีพแล้วละ”
ตามที่กล่าวไว้เบื้องต้น ลู่เฉินเติบโตแบบก้าวกระโดดเร็วเกินไป สตูดิโอลู่เฉินเติบโตตามไม่ทัน ตอนนี้มีพนักงานเพียงสองสามคนเท่านั้น ลู่ซีทำงานเหน็ดเหนื่อยเกินไปโดยที่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ดูแลไม่ทั่วถึง
การหาเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แบบมืออาชีพเข้ามาเป็นสิ่งจำเป็น เพียงเท่านี้ก็จะยิ่งส่งเสริมความก้าวหน้าให้ลู่เฉินได้มากยิ่งขึ้น
ลู่เฉินเห็นด้วย “ถ้าอย่างนั้นก็รับสมัครงานเลย อีกอย่างสตูดิโอของพวกเราก็ต้องเปลี่ยนที่”
ไม่เพียงแต่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน ยังต้องขยายขนาดของสตูดิโอด้วย เรื่องสร้างห้องอัดเสียงลู่เฉินได้คุยกับลู่ซีแล้ว ลู่ซีเห็นด้วย
กุญแจสำคัญในการกำหนดโครงสร้างส่วนบนคือรากฐาน การมีวงดนตรีที่เข้มแข็ง มีกิจการเป็นของตัวเอง จะไม่ถูกคนอื่นควบคุมได้ง่าย
ปัญหาเดียวในตอนนี้คือ สตูดิโอแห่งใหม่จะเปิดที่ไหนดี
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำซาก บวกกับความต้องการในการสร้างห้องอัด สตูดิโอแห่งใหม่ต้องมีพื้นที่กว้างขวาง เพื่อเตรียมไว้สำหรับการพัฒนาขยายพื้นที่ในอนาคต
ในเมืองหลวงที่ราคาที่ดินสูงเหมือนทองคำ จะหาสถานที่แบบนี้ไม่ง่ายเลย นอกจากจะย้ายไปอยู่ชานเมือง
ลู่ซีเอ่ยว่า “ฉันได้ขอให้ผู้อำนวยการหลินช่วยแล้ว ดูว่าในศูนย์ศิลปะทางนั้นหาได้ไหม”
ศูนย์ศิลปะยุคใหม่ตั้งขึ้นในปี 2001 ตั้งอยู่ระหว่างสวนสาธารณะไห่เตี้ยนและมหาวิทยาลัยปักกิ่ง บนพื้นที่เกือบเจ็ดร้อยไร่ เป็นสถานที่สำคัญด้านศิลปะวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของเมืองหลวง
หลังจากพัฒนามาสิบกว่าปี ศูนย์ศิลปะยุคใหม่เป็นศูนย์รวมหน่วยงานด้านภาพยนตร์โทรทัศน์ ดนตรี วรรณกรรม และศิลปะ บริษัททั้งใหญ่น้อยและสตูดิโอต่างๆ รวมกันเกินพันราย เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของคนเก่งมีพรสวรรค์
สำหรับสตูดิโอลู่เฉิน ไม่มีที่ไหนจะเหมาะสมเท่ากับศูนย์ศิลปะยุคใหม่อีกแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่พื้นที่ตรงนั้นดีเกินไป ไม่ค่อยมีที่ว่างเหลือให้เช่ามากนัก นอกเสียจากมีบริษัทไหนต้องการย้ายออก
ซึ่งต้องอาศัยเส้นสายและโชคช่วยด้วย ไม่อย่างนั้นถึงจะมีคนย้ายออก แต่ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้
ลู่เฉินคิดแล้วปวดหัว เขารับปากหวังฮุยเอาไว้ว่าจะรีบสร้างห้องอัดเสียงให้เร็วที่สุด
“ผมถามพี่เฟยเอ๋อร์อีกทีแล้วกัน เธอน่าจะรู้จักคนในวงการนี้”
เทียบกับหลินจื้อเจี๋ยแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด เฉินเฟยเอ๋อร์มีเส้นสายในวงการกว้างขวางกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ก๊อก! ก๊อก!
ตอนนั้นเอง มีคนเคาะประตูห้องผู้จัดการ
ลู่ซีกับลู่เฉินหันไปพร้อมกัน เห็นเฉินซินผู้ช่วยของลู่ซีปรากฏตัวอยู่หน้าห้อง “พี่ลู่ซี พี่ลู่เฉิน คุณเฉินเฟยเอ๋อร์มาค่ะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์?
ลู่ซีกับลู่เฉินมองหน้ากัน…พูดถึงก็มาพอดี!
ลู่เฉินกระโดดลุกขึ้นมาจากที่นั่ง “ผมออกไปรับ”
ตอนแรกเฉินเฟยเอ๋อร์โทรศัพท์หาลู่เฉิน จึงรู้ว่าเขาอยู่ที่สตูดิโอ คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาตอนนี้เลย
แสดงว่าเธอมีเรื่องสำคัญ
……………………………………….
[1] ฟาร์มเลี้ยงหมู คนจีนเปรียบคนโง่เหมือนหมู ฟาร์มเลี้ยงหมูจึงเท่ากับฟาร์มคนโง่