Perfect Superstar - ตอนที่ 307 คุยเรื่องงาน
ตอนที่ 307 คุยเรื่องงาน
ราชินีแห่งวงการเพลงมาถึงที่ สตูดิโอลู่เฉินต้องยินดีต้อนรับอยู่แล้ว
วันนี้เฉินเฟยเอ๋อร์เปลี่ยนมาใส่ชุดฤดูใบไม้ผลิของชาเนล เห็นได้ชัดว่าเธอชอบแบรนด์นี้มาก เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ชาเนลมาตลอด ออร่ามาเต็ม
ทั้งบอดี้การ์ดและผู้ช่วยล้วนติดตามมา ในภาวะปกติคนที่ติดตามเธอมีห้าถึงหกคน
ส่วนจำนวนคนที่ทำงานเบื้องหลังนั้น อย่างน้อยต้องมากกว่าสี่ถึงห้าเท่า!
ความจริงแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินเฟยเอ๋อร์มาที่สตูดิโอลู่เฉิน เธอเคยมาแล้วสองครั้ง
เป็นเรื่องงานทั้งสองครั้ง
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เพราะอัลบั้มใหม่ของเธอรอมานานเกินไปแล้ว จะยืดเวลาออกไปอีกไม่ได้
ตั้งแต่ปีที่แล้วได้ปล่อยข่าวออกไป อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์จะเป็นอัลบั้มที่เธอเปลี่ยนแนว ดังนั้นโลกข้างนอกล้วนจับตามอง แฟนคลับของเธอก็ตั้งตารอให้อัลบั้มใหม่ของเธอออกจากเตา
ตามแผนการเดิม อัลบั้มของเธอจะออกวางตลาดประมาณเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สุดท้ายเพราะการถ่ายทำละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงทำให้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แฟนคลับไม่น้อยเข้าไปบ่นในบล็อกของเธอแล้ว
เฉินเฟยเอ๋อร์ย่อมนั่งไม่ติด เธอคาดหวังในอัลบั้มใหม่ของตัวเองมาก ขอเพลงจากลู่เฉินไปสามเพลง บวกกับเพลง ‘ดวงตาของคุณ’ ที่ใช้ประกอบละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนนี้เป็นสี่เพลงแล้ว
“เขียนเพลงให้ฉันอีกเพลงเถอะ จะได้รวมกันเป็นครึ่งอัลบั้มพอดี”
ราชินีแห่งวงการเพลงเข้ามาขอร้องลู่เฉินถึงในห้องผู้จัดการของลู่ซี ทำให้แรงต้านทานของฝ่ายหลังลดลงเป็นศูนย์ “ก็ได้ ให้เวลาผมหน่อย ผมจะเขียนเพลงให้คุณอีกเพลง”
ดวงหน้าเรียวงามของเฉินเฟยเอ๋อร์เผยรอยยิ้มหวานหยดน่าหลงใหล กุมมือลู่เฉินไว้พลางพูดว่า “ขอบคุณนะ”
“อะแฮ่ม!”
ลู่ซีทนไม่ไหวกระแอมออกมา แล้วถามว่า “จะให้ฉันออกไปก่อนไหม”
เธอรับไม่ได้กับความหวานของทั้งคู่ โชคดีที่ประตูปิดอยู่ ไม่อย่างนั้นให้คนอื่นเห็นคงจะไม่ดี
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้ม “ฉันยังมีสัญญาอีกฉบับ ต้องการให้พี่ลู่ซีช่วยดูแทนลู่เฉินหน่อย!”
ลู่ซีสงสัย “สัญญาอะไร”
เฉินเฟยเอ๋อร์หยิบเอกสารออกมายื่นให้ลู่เฉิน “ให้นาย!”
ลู่เฉินรับมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
นี่เป็นสัญญาโอนบ้าน เฉินเฟยเอ๋อร์โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของตัวเองที่อยู่ในชุมชนจื่อเฉิงย่วน ตึก 7 ห้อง 1701 ให้เป็นของลู่เฉิน ราคาซื้อขายสามสิบล้านหยวน ผ่อนได้ห้าปีโดยไม่มีดอกเบี้ย!
ตอนนี้ลู่เฉินเช่าคอนโดห้องเดี่ยวที่อยู่ใกล้กับสตูดิโอเป็นที่พัก ทำเลพื้นที่ใช้ได้ ค่าเช่าก็ถูก แต่ไม่เหมาะที่เขาจะอยู่ในตอนนี้แล้ว
เพราะลู่เฉินมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ อิทธิพลของเขาต่อประชาชนยิ่งนานวันยิ่งสูงขึ้น สภาพแวดล้อมที่เข้าออกนั้นสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นจะเกิดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมากมาย
ยังไม่นับเรื่องอื่น แค่เรื่องที่เฉินเฟยเอ๋อร์ลักลอบแอบไปพบกับเขาเป็นการส่วนตัว คอนโดห้องเล็กๆ นั้นไม่สะดวกเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นลู่เฉินมีความคิดว่าจะซื้อห้องชุดในเมืองหลวงสักห้องอยู่ก่อนแล้ว
เฉินเฟยเอ๋อร์สนับสนุนความคิดนี้ ทั้งยังแนะนำห้องชุดของตัวเองในชุมชนระดับไฮเอนด์ที่มีพื้นที่สามร้อยตารางเมตรให้กับเขา…ของดีตกไม่ถึงมือคนอื่นหรอก!
แต่ราคาสามสิบกว่าล้านหยวน ลู่เฉินไม่มีเงินจริงๆ!
เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เธอรู้นิสัยของลู่เฉินเป็นอย่างดี รู้ว่าเขาไม่อาจรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้ไปจากเธอฟรีๆ ดังนั้นวันนี้จึงอาศัยโอกาสที่มาคุยเรื่องอัลบั้ม นำสัญญาฉบับนี้มาให้ลู่เฉิน
ค่าบ้านต้องจ่ายแน่ ลดราคาจากราคาตลาดแล้วแต่ไม่ได้ถูกมากเกินไป คำนึงถึงสถานภาพของลู่เฉินตามความเป็นจริงในตอนนี้ เสนอการผ่อนจ่ายเป็นงวดอย่างใจดี
แน่นอนว่ามีเงื่อนไข เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างมีเลศนัย ดูคล้ายจิ้งจอกที่เพิ่งแอบขโมยแม่ไก่ “ไม่คิดดอกเบี้ยกับนาย แต่เงินค่าเพลงห้าเพลงฉันไม่ให้นาย แบบนี้จะได้เลี่ยงภาษีด้วย”
การจ่ายภาษีเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจนะ!
ลู่เฉินยิ้มแหย “ดูท่าว่าไม่เซ็นไม่ได้แล้วสิครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์รู้ใจเขาจริงๆ รู้ว่าเขามีแนวคิดว่าบุรุษต้องเป็นผู้นำ จึงได้ร่างสัญญาฉบับนี้ขึ้นมา
ในใจของเขาทั้งอบอุ่นและซาบซึ้ง
“ให้ฉันดูหน่อย…”
สีหน้าของลู่เฉินทำให้ลู่ซีระแวงสงสัย รีบคว้าเอาสัญญาในมือของน้องชายมาอ่าน
แล้วเธอก็ต้องตะลึง
ผ่านไปครู่หนึ่ง พี่สาวเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ถามว่า “พวกเธอสองคน เตรียมจะอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ”
สัญญาที่พยายามปกปิดเจตนาที่แท้จริงแต่ไม่สำเร็จฉบับนี้ ถึงราคาสามสิบล้าน แต่ในสายตาของลู่ซีคิดว่าก็แค่นั้นเอง ด้วยความสามารถในการหาเงินของลู่เฉินตอนนี้ ไม่ต้องใช้เวลาถึงห้าปีหรอก แค่ถ่ายทำละครให้โด่งดังอีกสักเรื่องก็พอ
ที่น่าสนใจคือความคิดของเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดง ดึงแขนของลู่ซีพูดว่า “พี่ซี นี่ให้พี่กับครอบครัวพี่มาอยู่”
ห้องชุดห้องนี้มีสองชั้น มีทั้งหมดห้าห้องนอน เพียงพอให้ครอบครัวของลู่เฉินทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกัน
ลู่ซีหลุดหัวเราะพรืด ก่อนจะบอกว่า “ฉันไม่อยู่หรอก และแม่ของฉันก็คงไม่มาอยู่ที่ปักกิ่งด้วย แต่ลู่เฉินต้องมีบ้านดีๆ สักหลัง สัญญาฉบับนี้ฉันจะให้เขาเซ็นเอง!”
ถ้าบอกว่าตอนแรกลู่ซียังมีความคิดกีดกันเฉินเฟยเอ๋อร์อยู่เล็กน้อย เช่นนั้นตอนนี้เธอคงมองเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นน้องสะใภ้ไปแล้ว แน่นอนว่าเธอจะไม่กีดขวางเรื่องดีๆ ของคนทั้งคู่
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างมีความสุข
เธอกลัวที่สุดว่าลู่เฉินจะดื้อรั้น มองไม่เห็นคุณค่าความตั้งใจของเธอ ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว
ห้องชุดห้องนี้ สุดท้ายต้องอยู่ด้วยกันสองคน
ลู่เฉินยกมือขึ้นยอมแพ้ “ก็ได้ ผมเซ็น เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า”
พูดถึงเรื่องงาน เฉินเฟยเอ๋อร์มีเรื่องจะบอก “พวกเราไปที่เฟยสือกันเถอะ พี่หลินอยากเจอพวกเราทั้งสองคน คุยเรื่องอัลบั้มใหม่ว่าจะทำยังไงดี!”
อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ให้บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเป็นผู้จัดทำ โดยมีหลินจื้อเจี๋ยลงมือเป็นผู้ควบคุมการผลิต ทั้งยังเชิญนักแต่งเพลงและเรียบเรียงเพลงที่มีชื่อเสียงของวงการมาร่วมงานอีกหลายคน ต้องการสร้างผลงานที่เป็นการเปลี่ยนแนวเพลงให้ประสบความสำเร็จ
อัลบั้มชุดนี้สำคัญกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาก เฟยสือเรคคอร์ดไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย หากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ดังนั้นทีมงานเบื้องหลังจึงยิ่งใหญ่อลังการ
แต่สำหรับทั้งสองฝ่าย กุญแจสำคัญของอัลบั้มชุดนี้นอกจากตัวเฉินเฟยเอ๋อร์เองแล้ว ยังอยู่ที่ลู่เฉินด้วย!
เฉินเฟยเอ๋อร์ใจใหญ่มาก เพียงแค่ความสำเร็จด้านยอดขายอย่างเดียวยังไม่อาจทำให้เธอพอใจ เธอหวังว่าจะสร้างอัลบั้มอันเป็นตำนานที่แท้จริงออกมา ทำให้การเปลี่ยนลุคเปลี่ยนแนวของเธอเป็นไปอย่างสวยงาม
เมื่อเป็นเช่นนี้ เพลงที่เคยขอจากลู่เฉินไปเบื้องต้นสามเพลงจึงไม่เพียงพอ เธอต้องการผลงานเพลงชั้นยอดมากกว่านี้
ต้องรู้ว่าอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉินนั้น ทุกเพลงในอัลบั้มได้ขึ้นติดชาร์ตเพลงยอดนิยม!
นอกจากลู่เฉินแล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครช่วยให้เฉินเฟยเอ๋อร์บรรลุความปรารถนาของเธอได้
ลู่เฉินกำลังอยากคุยกับหลินจื้อเจี๋ยเรื่องการสร้างห้องอัดอยู่เหมือนกัน จึงตอบตกลง “งั้นก็ไปกันเถอะ”
ทั้งสองจึงออกจากสตูดิโอลู่เฉินไปด้วยกัน ขับรถมุ่งตรงไปที่เฟยสือเรคคอร์ด
……………………………………….