Perfect Superstar - ตอนที่ 319 เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า
ตอนที่ 319 เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า
ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ข่าวเด่นข่าวร้อนในวงการบันเทิงก็เหมือนกับลมพายุในฤดูร้อนที่พัดรุนแรงและจากไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากทั้งสองสตูดิโอไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งคนต้นเรื่องทั้งสองคนก็หายตัวไปไม่สร้างกระแสต่อ ดังนั้นนอกจากพวกแฟนคลับที่ยังถกเถียงกันในอินเทอร์เน็ต พวกสื่อทั้งหลายรีบเบี่ยงเบนสายตาออกไป เพราะขี้เกียจสร้างเรื่องต่อ
ข่าวซุบซิบในวงการมีมากเหลือเกิน ทางนี้ดาราสาวสองคนกำลังทะเลาะกัน ทางนั้นดาราชายเปิดตัวว่าเป็นเกย์ มีทั้งข่าวจริงข่าวปลอมเอามาสร้างเป็นกระแสเต็มไปหมด อยากได้ข่าวแบบไหนก็เขียนข่าวแบบนั้น
รอถึงวันที่ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เลิกกัน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจ นั่นถึงจะเป็นข่าวที่คุ้มค่า
นี่เป็นสิ่งที่ทั้งลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์คาดหวังไว้ รอให้ข่าวซาลงก่อนค่อยกลับประเทศ ระหว่างนี้ก็ไม่ได้โพสต์เรื่องราวความรักลงในบล็อกอีก นอกจากทำให้ข่าวเย็นลงแล้ว ยังหลีกเลี่ยงการทำร้ายจิตใจเหล่าหมาโสดด้วย
ช่วงเวลาอันสวยงามผ่านไปไวเสมอ พอกลับมาถึงปักกิ่งทั้งสองคนก็ต้องจากกัน แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง
แม้จะรักลู่เฉินมาก เงินทองที่ตัวเองมีเก็บสะสมกินใช้ทั้งชาติก็ยังไม่หมด แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ตอนนี้ยังไม่มีความคิดจะออกจากวงการบันเทิง เธอชอบร้องเพลง ชอบเล่นละคร ชอบยืนอยู่ต่อหน้าแสงไฟสปอตไลต์ที่สาดส่อง ชอบอาชีพที่ตัวเองทำ ไม่อยากเปลี่ยนไปเป็นแม่บ้านเต็มเวลา
อาจจะมีวันหนึ่งที่เธอเหนื่อยแล้ว อ่อนล้าแล้ว เธอคงจะยินยอมพร้อมใจแต่งงานกับลู่เฉิน ออกจากวงการถาวร ล้างมือจากความเฟื่องฟูเปลี่ยนเป็นแม่บ้านทำอาหาร มีลูกหลายๆ คน เลี้ยงดูแลพวกเขาอย่างมีความสุขจนแก่เฒ่า
สำหรับความคิดนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินสนับสนุนเต็มที่ อาชีพของเขาเพิ่งเริ่มต้นไม่นาน กำลังเป็นช่วงที่เติบโตก้าวหน้า ยังไม่อยากให้เรื่องความรักกับการงานปะปนกันเช่นกัน
ทั้งสองคนเข้าใจกันสนับสนุนกัน ความรักถึงจะดำรงอยู่ได้ยาวนาน ถึงจะประสบความสำเร็จ
ในวงการบันเทิงการรักๆ เลิกๆ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าลู่เฉินหรือเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น
วันที่กลับมาถึงปักกิ่ง เฉินเฟยเอ๋อร์เริ่มงานอัดเสียงอัลบั้มใหม่
ส่วนลู่เฉินรีบลงมือฝึกซ้อมผลงานเพลงใหม่พร้อมกับวงนิพพาน เตรียมเข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H
เพื่อเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงครั้งนี้ เขาได้เขียนเพลงใหม่ไว้ตั้งแต่แรกแล้วสองเพลง
เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H เริ่มจัดขึ้นในช่วงแรกของยุค 90 มีหลายบริษัทดนตรีกับนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในวงการเจ็ดคนร่วมมือกันก่อตั้งขึ้น ตอนนั้นจัดขึ้นที่สวนสาธารณะเฉาหยางในเมืองปักกิ่งเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า ‘เทศกาลดนตรีกลางแจ้งเฮซซาวด์’
เทศกาลดนตรีกลางแจ้งเฮซซาวด์ในปีแรกได้เชิญนักร้องทั้งหมดสามสิบสองคน และวงดนตรีสิบเอ็ดวงมาร่วมงาน ผู้ชมที่มาชมงานเทศกาลดนตรีครั้งนั้นมีเกินหนึ่งหมื่นคน ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการ จนกลายเป็นงานใหญ่ของวงการเพลงป็อป
ในหมู่นักร้องทั้งสามสิบสองคนและวงดนตรีทั้งสิบเอ็ดวง มีวงเดอะแบล็กโครว์อันเลื่องชื่อและวงท้องฟ้าเป็นตัวแทนของแนวเพลงร็อก ยังมีวงดนตรีไร้นามอีกหลายวง แต่มีนักร้องส่วนหนึ่งที่ได้แสดงความสามารถเต็มที่ในเทศกาลดนตรีครั้งนั้น จนเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวาง ทำให้หลังจากนั้นมีคนสมัครเข้าร่วมงานมากขึ้นเรื่อยๆ จากความสมัครใจก็เปลี่ยนไปกลายเป็นการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมงานแทน
ต่อมาเทศกาลดนตรีกลางแจ้งเฮซซาวด์ย้ายมาจัดที่สวนสาธารณะเหยี่ยซาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์ศิลปะยุคใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นเทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H จนกระทั่งบัดนี้จัดมาแล้วสิบเก้าครั้ง
แม้ระหว่างกลางจะขาดตอนไปหลายครั้ง แต่เทศกาลดนตรี 72H ยังคงรักษาตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลในวงการเพลงป็อป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับความชื่นชอบจากผู้ที่มีใจรักในเพลงป็อปตัวจริง
ส่วนผู้ที่จะถูกเชิญมางานเทศกาลดนตรี 72H นั้น หลักๆ แล้วเป็นนักร้องหรือวงดนตรีที่โดดเด่น ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะเป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการหรือเป็นแค่นักร้องเปิดหมวก เพียงแค่มีสไตล์การร้องหรือผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ ล้วนได้รับโอกาสให้มาขึ้นเวที เพื่อแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองให้ปรากฏต่อหน้าผู้ชมหลายหมื่นคน ซึ่งอาจจะเข้าตาแมวมองของบริษัทเอเจนซี่บันเทิงก็ได้
ฉินข่ายเสวียน สวี่ลี่เหวิน กู่น่าจา เฉาหลุน วงรถด่วนสีแดง วงเวนส์เดย์ เป็นต้น ล้วนเดินเข้าสู่วงการด้วยเทศกาลดนตรี 72H จนโด่งดังไปทั่วประเทศ!
ปีนี้งานเทศกาลดนตรี 72H ครั้งที่ยี่สิบ ได้เชิญนักร้องและวงดนตรีมามากที่สุด ทั้งยังได้รับสปอนเซอร์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงจัดอย่างใหญ่โตเป็นพิเศษ
เทศกาลโคมไฟเพิ่งผ่านไป ก็มีนักร้อง วงดนตรี และผู้หลงใหลในดนตรีมากมายพากันเดินทางมาถึงกรุงปักกิ่ง จากนั้นกางเต็นท์อยู่ในสวนสาธารณะเหยี่ยซาน ซึ่งเป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรี
นักร้องและวงดนตรีที่มาถึงก่อนกำหนดไม่ใช่ทั้งหมดที่ได้รับบัตรเชิญ พวกเขาเดินทางไกลมาที่นี่ด้วยศรัทธา เพื่อร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่ใช่ดนตรีกระแสหลัก
เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H ยังมีชื่อในวงการอีกชื่อหนึ่งว่า เทศกาลดนตรีนอกกระแส เพราะในงานอันเอิกเกริกนี้ แนวเพลงที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุดไม่ใช่เพลงรัก เพลงเร็ว เพลงฮิตติดปากที่เป็นกระแสหลัก แต่เป็นแนวร็อก แนวเฮฟวีเมทัล แนวอาร์แอนด์บี แนวแร็ป แนวโพสต์โมเดิร์น รวมถึงแนวบัลลาด ทั้งหมดล้วนไม่ใช่ผลงานเพลงกระแสหลัก
ดังนั้นชื่อเสียงของเทศกาลดนตรี 72H จึงยิ่งใหญ่มาก แต่กลับมีนักร้องซูเปอร์สตาร์มาร่วมน้อยนัก นักร้องเก่า นักร้องชั้นล่าง และนักร้องใต้ดินมีมากที่สุด ที่นี่การร้องเพลงเร็วหรือเพลงฮิตติดปากจะถูกคนดูถูก จากนั้นก็ถูกโห่ไล่ลงจากเวทีไป
อิสระ ทำตามปรารถนา ริเริ่ม สร้างสรรค์…เป็นธีมหลักของเทศกาลดนตรี 72H มันเหมือนกับแม่เหล็กชิ้นมหึมาที่ดึงดูดนักดนตรีที่มีพรสวรรค์แต่ยังไม่สำเร็จสมดังหวังให้มาเยือน
ส่วนผู้หลงใหลในดนตรีที่เดินทางมาถึงแต่เนิ่นๆ นั่นแสดงถึงความชื่นชอบอย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าใครจะมีเงินมีเวลาว่าง หลายคนตั้งใจลางานมาโดยเฉพาะ นั่งรถไฟความเร็วสูงห้าหกชั่วโมงหรืออาจจะนานกว่านั้นมาถึงเมืองหลวง เพื่อมาจองทำเลที่ดีที่สุดก่อนใคร
พอถึงวันที่ 3 มีนาคม สวนสาธารณะเหยี่ยซานที่อยู่ทางทิศใต้ของศูนย์ศิลปะยุคใหม่ มีเต็นท์หลากสีถูกกางไว้นับไม่ถ้วน ตั้งแต่สนามหญ้าหน้าเวทียืดยาวไปถึงเนินเขาที่อยู่ห่างไปหลายร้อยเมตร ถ้ามองลงมาจากที่สูงภาพที่เห็นช่างน่าดู
เวทีแสดงถูกตั้งสำเร็จเรียบร้อย ฉากหลังและดวงไฟถูกติดตั้งครบถ้วน เหลือเพียงลำโพงที่ยังมาไม่ถึง
พอถึงวันที่ 4 ช่วงเช้า หรือก็คือวันแรกของงาน ลำโพงสูงกว่าตัวคนหกเท่าถูกจัดวางประจำตำแหน่ง จอแอลอีดีขนาดยักษ์ที่เป็นฉากหลังเวทีกำลังทดสอบฉายภาพ บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้น
ผู้ชื่นชอบดนตรีที่มาถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางเข้าออกของสวนสาธารณะเริ่มจำกัดจำนวนคนเข้า ห่างออกไปมีการโยงเชือกรักษาความปลอดภัย เสียงจากโทรโข่งอันใหญ่คอยป่าวประกาศเตือนข้อควรระวัง ท่ามกลางกลุ่มคนมีนักข่าวจากสื่อต่างๆ ปนอยู่ด้วย
ลู่เฉินกับวงนิพพานรีบมาถึงสวนสาธารณะเหยี่ยซานตอนใกล้เที่ยง
เดิมทีลู่เฉินไม่ต้องมาเร็วขนาดนี้ เพราะการแสดงของเขาถูกจัดลำดับไว้ในช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม ฟ้ามืดแล้วค่อยมาก็ยังไม่สาย
แต่เขาได้ยินชื่อเสียงของเทศกาลดนตรี 72H มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสมาถึงปักกิ่งเพื่อชมงานเลยสักครั้ง ครั้งนี้มีโอกาสได้ร่วมแสดง เขาจึงมาก่อนเวลาเพื่อเติมเต็มความชื่นชอบของตัวเอง
ส่วนหวังจิ้งและสมาชิกวงนิพพาน พวกเขาเคยมาชมงานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นเวที จึงตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ
เมื่อลู่เฉินพาคนของเขามาปรากฏตัวหน้าเวที เขาก็ถูกคนจ้องมองทันที
……………………………………