Perfect Superstar - ตอนที่ 334 อิทธิพล
ตอนที่ 334 อิทธิพล
วันที่ 8 9 และ 10 เดือนเมษายน เคจีเอสออกอากาศละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนที่แปด เก้า และสิบติดต่อกัน
เนื่องจากเคจีเอสและเอสพีจี ทั้งสองฝ่ายลงทุนเงินโฆษณาที่มากพอ บวกกับชื่อเสียงที่สะสมมาในตอนแรก ละคร ’รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทั้งหมดยี่สิบตอนได้ออกอากาศเกินครึ่งหนึ่งแล้ว เรตติ้งผ่านด่าน 20% ไปได้สำเร็จ ทะลุถึง 22.31% แล้ว
เกิดความฮือฮาในประเทศเกาหลีใต้และประเทศจีนไม่น้อย!
อย่างแรกคือ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เรตติ้งกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับสามของละครจีนที่สถานีโทรทัศน์ใหญ่ทั้งสามแห่งของเกาหลีซื้อเข้ามาทั้งหมด รองจากละครเรื่องยาวชื่อดังอย่าง ‘สามก๊ก’ และ ‘ความฝันในหอแดง’ เท่านั้น และสองเรื่องหลังก็เป็นผลงานที่ถ่ายทำในยุค 90 ของประเทศจีน
ในละครประเภทเดียวกันนี้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้สร้างสถิติเรตติ้งละครจีนในประเทศเกาหลีใต้อย่างไม่ต้องสงสัยและที่สำคัญที่สุดคือ มันยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อไป
เอสพีจีไม่ได้ตั้งใจปักต้นหลิวแต่กลับเติบโตเป็นพุ่มได้ผลเกินคาด หากยึดตามสัญญาที่เซ็นกับเคจีเอส การเรียกต้นทุนกลับย่อมไม่มีปัญหาใดๆ และไม่ต้องพูดถึงกำไรในท้ายที่สุด บวกกับข้อตกลงที่เป็นตัวแทนให้กับสตูดิโอลู่เฉิน พวกเขาสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ!
บริษัทบันเทิงของเกาหลีแห่งนี้เข้ามาอยู่ในประเทศจีนหลายปีแล้ว ปาร์คชงโฮซึ่งเป็นตัวแทนที่ประจำอยู่ในประเทศจีนก็ยังมีเชื้อสายจีนอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจจิตวิทยาของคนจีนอย่างลึกซึ้ง ภายใต้การแนะนำของเขา เอสพีจีไม่เพียงแต่รายงานเรตติ้งละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในบัญชีทางการของบล็อกล่างฉาวอย่างตรงเวลาเท่านั้น แต่ยังแชร์คอมเมนต์ดีๆ ของสื่อและผู้ชมของประเทศเกาหลีใต้จำนวนไม่น้อยอีกด้วย
สื่อมากมายของเกาหลีรู้สึกทึ่งกับความนิยมของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นอย่างมาก หนังสือพิมพ์และนิตยสารที่มีอิทธิพลของประเทศเกาหลีใต้เช่น ‘หนังสือพิมพ์โชซอน ซินโบ’ ‘หนังสือพิมพ์รายวันฮันซอง’ และ ‘แมกกาซีนข่าวเกาหลี’ ล้วนตีพิมพ์บทวิจารณ์ออกมา ศึกษาวิเคราะห์สาเหตุความนิยมของละครเรื่องนี้
มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กบางแห่งกระทั่งอุทานว่าเป็น ‘การโต้กระแสของจีน’ ถึงแม้อาจจะพูดโอเวอร์ไปนิด และส่วนใหญ่จะเป็นหัวข้อที่ต้องการยกยอปอปั้น แต่ก็เป็นอิทธิพลที่ถูกสร้างมาจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในอีกด้านหนึ่ง
ไม่เหมือนกับประเทศจีน สัดส่วนประชากรของผู้ชมโทรทัศน์ในประเทศเกาหลีใต้นั้นสูงมาก ละครโทรทัศน์และรายการวาไรตี้ได้รับความนิยมสูงสุด ดังนั้นเรตติ้งละครที่แข็งแกร่งจึงสามารถพุ่งขึ้นไปอยู่ที่หลายสิบเปอร์เซ็นต์เป็นประจำ
ส่วนสาเหตุที่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้รับความชื่นชอบจากผู้ชมของเกาหลี ส่วนใหญ่สามารถแบ่งได้เป็นสองประเภท ประเภทที่หนึ่งคือชอบโครงเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ การจับพลัดจับผลูของโชคชะตา กับความพัวพันของอารมณ์ที่สะเทือนใจแทบใจสลาย พร้อมกับฉากหลังของเรื่องราวที่อยู่ต่างแคว้นแดนไกล จึงได้รับความสนใจจากพวกแม่บ้านเป็นอย่างมาก
ตอนแรกลู่เฉินตั้งใจใช้ชื่อเกาหลีในตัวละครโดยเฉพาะ เพราะอยากเพิ่มความสนิทสนมใกล้ชิดกับผู้ชมอีกระดับหนึ่ง
ประเภทที่สองคือผู้ชมกลุ่มวัยรุ่นคนหนุ่มสาว ความสูงใหญ่และความหล่อเหลาสง่างามของลู่เฉิน กับความสวยน่ารักของเฉินเฟยเอ๋อร์ และยังมีการแสดงที่เยี่ยมยอดของเหล่าตัวประกอบหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งหลาย ทำให้พวกเขาและพวกเธอพบว่าตอนนี้ในวงการศิลปินของประเทศจีนก็มีไอดอลที่เก่งมีเสน่ห์มากเหมือนกัน
และสิ่งที่จำเป็นต้องบ่งชี้ถึงก็คือ เฉินเฟยเอ๋อร์ที่เคยร่วมแสดงคอนเสิร์ตจีน-เกาหลีหลายครั้งจึงเป็นที่รู้จักระดับหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ความนิยมของเธอเพิ่มขึ้นกว่าสิบเท่าจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’!
สำหรับลู่เฉินนั้นไม่ต้องพูดถึง ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของประเทศเกาหลีใต้ได้ปรากฏกลุ่มแฟนคลับชาวเกาหลีของเขาขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ลักษณะที่เป็นทางการ แต่ก็มีจำนวนสมาชิกนับหมื่นคน อีกทั้งยังเป็นพวกสาวๆ เสียส่วนใหญ่
สิ่งที่น่าสนุกก็คือ ในวันที่ 10 ณ วันนั้น เพลง ‘ดวงตาของคุณ’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ร้องโดยลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ได้ติดชาร์ตเพลงป็อปเกาหลีในฐานะของเพลงจีน โดยอยู่อันดับที่ยี่สิบเจ็ด!
ชาร์ตเพลงป็อปเกาหลีเป็นชาร์ตเพลงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเกาหลีใต้ มีเพียงสามสิบอันดับเท่านั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมเพลงของประเทศเกาหลีใต้มีความเจริญมาก บวกกับชาร์ตเพลงที่ไม่ได้จำกัดแค่เพลงเกาหลีและภาษาต่างประเทศ ดังนั้นการแข่งขันการจัดอันดับชาร์ตนี้จึงดุเดือดมาก เพลง ‘ดวงตาของคุณ’ สามารถติดอันดับได้ถือว่ายากและเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก
ด้วยสถิติและเกียรติยศต่างๆ เป็นผลทำให้ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เกิดลมพายุเล็กๆ กระพือขึ้นมาในประเทศเกาหลีใต้ เคจีเอสอาศัยละครเรื่องนี้ ปะทะกับละคร ‘อำนาจราชินี’ ที่ได้รับความนิยมอยู่ในช่องเอ็มบีซีอย่างซึ่งๆ หน้า พยายามสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรโฆษณาอย่างเต็มที่
หากเป็นเมื่อก่อนยากที่จะจินตนาการได้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งมาได้ด้วยความสามารถของตัวเองล้วนๆ!
สถิติและเกียรติยศเหล่านี้ เอสพีจีได้นำมาบอกเล่าให้บรรดาแฟนคลับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศจีนได้รู้โดยผ่านทางบล็อกล่างฉาว
ดังนั้นแฟนคลับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ขยายใหญ่ขึ้นจึงคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกมีหน้ามีตามากจริงๆ
ทางเอสพีจีเองก็ได้เก็บเกี่ยวความรู้สึกที่ดีและความชื่นชอบจากสิ่งเหล่านี้ จำนวนแฟนคลับในบล็อกเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าในฉับพลันทันที!
แฟนคลับ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ หลายคน และก็ยังมีพวกแฟนคลับของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างทยอยไปทิ้งข้อความในบล็อกของ ‘สำรวจบันเทิง’
“รอเจ้าของบล็อกวิ่งแก้ผ้า!”
“เจ้าของบล็อก หยิบความจริงใจของคุณออกมา รีบไปวิ่งแก้ผ้าบนถนนเร็วๆ เลย!”
“เรตติ้ง 22.31% เมื่อไรเจ้าของบล็อกจะวิ่งแก้ผ้าล่ะ ตกลงกันแล้วนะว่าทุกคนจะไปมุงดู!”
“ฉันคิดว่าเจ้าของบล็อกน่าจะถูกตบจนหน้าบวมฉึ่ง คงไม่มีหน้ามาเจอใครแล้ว ทุกคนแยกย้ายเถอะ”
“เหอะๆ คราวนี้พูดไม่ออกแล้วละสิ”
บัญชีบล็อกนี้ตอนแรกได้ประกาศว่า ถ้าหากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งทะลุสิบเปอร์เซ็นต์ที่เกาหลีเขาก็จะวิ่งแก้ผ้าบนท้องถนน ตอนนี้เพิ่งจะออกอากาศไปแค่ครึ่งเดียว ก็ทะลุสิบขึ้นมาจริงๆ เขาถูกตบหน้าจนไม่รู้จะบวมอย่างไรแล้ว
นี่คือการอธิบายสาเหตุอย่างหนึ่ง นั่นก็คือในฐานะบุคคลสาธารณะ การระมัดระวังและรอบคอบเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่าพูดมากเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ตัวเองลงจากเวทีไม่ได้
แน่นอนว่าเขาเล่นบล็อกมานานแล้ว หน้าจึงหนาเป็นธรรมดา หลังจากเงียบไปสองสามวัน ‘สำรวจบันเทิง’ ก็โพสต์ข้อความใหม่ว่า รอให้ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกอากาศที่เกาหลีจบแล้ว เขาจะทำตามสัญญาของตัวเอง
และสิ่งที่ทำให้คนสำลักข้าวออกมาก็คือ ‘สำรวจบันเทิง’ เพิ่งจะแสดงตัวว่าจะทำตามสัญญาของตัวเอง ในบล็อกทางการของตำรวจชื่อไอดี ‘เมืองหลวงปลอดภัย’ ก็ตอบเขากลับว่า “โชว์ส่วนลับของร่างกายในที่สาธารณะ รวมทั้งการวิ่งแก้ผ้า เป็นการกระทำผิดกฎความสงบเรียบร้อยของสังคม จะถูกลงโทษควบคุมตัวสามวัน!”
เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องตลกในบล็อกล่างฉาวทันที
สื่อภายในประเทศจีนก็อยากฉวยโอกาสจากความคึกคักนี้ สื่อกระแสหลักมากมายต่างรายงานข่าวความร้อนแรงของการออกอากาศละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศเกาหลีใต้อยู่เรื่อยๆ โดยสรรเสริญว่าละครเรื่องนี้คว้าเกียรติยศมาให้ละครจีนได้สำเร็จ
อันที่จริงนี่คือความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติศักดิ์ที่เป็นประวัติการณ์ของตลาดภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ในประเทศจีน ซึ่งมีผลงานสร้างสรรค์ดีเยี่ยมให้เห็นไม่เยอะ โดยเฉพาะผลงานที่สามารถออกอากาศที่ต่างประเทศได้สำเร็จ นั่นคือสิ่งที่ล้ำค่าและหายาก
แบบนี้ไม่ชื่นชม แล้วจะให้ชื่นชมอะไร
เทียบกับการส่งเสริมของสื่อและความเจี๊ยวจ๊าวบนอินเทอร์เน็ต ปฏิกิริยาตอบสนองในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ของประเทศจีนกลับไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะมีเสียงอิจฉาอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาวิเคราะห์และพิจารณาว่า ทำไม ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถึงประสบความสำเร็จสูงเช่นนี้
หากจะพูดถึงการลงทุน เงินลงทุนของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ไม่เกินสิบล้าน
หากจะพูดถึงดาราดัง ตอนนั้นยกเว้นแค่เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ไม่มีดาราตัวท็อปคนอื่น และนักแสดงตัวประกอบก็เป็นเด็กหน้าใหม่ไร้ชื่อเสียงทั้งสิ้น
หากจะพูดถึงงานผลิต ฝ่ายผลิตก็คือกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สซึ่งเป็นรุ่นน้องในวงการที่มีประสบการณ์น้อยกว่า
หากจะพูดถึงเรื่องราว ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็เป็นละครเศร้า!
เป็นแค่ละครต้นทุนน้อย แต่กลับบดขยี้ละครฟอร์มใหญ่ที่มีดาราดังคับคั่งและใช้เงินลงทุนมหาศาลได้อย่างสิ้นเชิง
บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์หลายแห่งเริ่มเกิดความเคลื่อนไหว ความสำเร็จของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทำให้พวกเขามองเห็นเส้นทางทองคำเปล่งประกายระยิบระยับ นั่นก็คือการลอกเลียนแบบ!
การเลียนแบบผลงานดังของภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ในประเทศจีนมีมานานแล้ว ถูกคนมองว่าเป็นทางลัดในการหาเงิน ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งหรือละครที่ดังแล้ว มักจะมีผลงานเลียนแบบจำนวนมากออกมาเพื่อแย่งชิงตลาด
‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ หากไม่มีคนเลียนแบบคงเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก โดยเฉพาะลู่เฉินได้ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่า ละครเรื่องนี้จะไม่ทำภาคต่อ ดังนั้นคนอื่นจึงเหมือนกับเห็นชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ถูกโยนลงบนพื้น
ดังนั้นนักเขียนบทหลายคนในเมืองหลวงต่างก็ได้รับใบสั่งงาน ความต้องการของฝั่งนายจ้างคือเขียนละครเรื่องใหม่ออกมาโดยยึดรูปแบบตาม ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ยิ่งเร็วยิ่งดี รูปแบบโครงเรื่องยิ่งคล้ายก็ยิ่งดี!
ไม่เพียงเท่านี้ มีบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์สองสามแห่งได้ประกาศเริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่แล้ว หากดูการประกาศของพวกเขาอย่างละเอียดก็จะพบว่า ในนี้สามารถหาเงาของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้ทุกที่
แต่สำหรับแฟนคลับจำนวนมากของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ พวกเขาและพวกเธอไม่สนใจละครเลียนแบบพวกนั้นอย่างสิ้นเชิง แต่สนใจว่าละครเรื่องใหม่ของลู่เฉินจะออกมาเมื่อไร
ตอนแรกหลังจากออกอากาศละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จบแล้ว ลู่เฉินเคยออกตัวว่าจะทำละครเรื่องใหม่ในปีนี้ และละครเรื่องใหม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่ใช่ภาคต่อแน่นอน
นี่คือสิ่งที่ทำให้แฟนคลับรอคอยอย่างยิ่ง แต่ผ่านไปสองเดือนแล้ว สตูดิโอลู่เฉินกลับไม่ประกาศข่าวที่เกี่ยวข้องใดๆ และไม่ได้แจ้งว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์แห่งไหนจะได้ร่วมงานกับลู่เฉิน
ความอดทนของแฟนคลับมีขีดจำกัดเสมอ โดยเฉพาะตอนที่มีข่าวดีของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มาจากเกาหลีบ่อยๆ พวกเขาและพวกเธอก็ยิ่งอยากได้คำอธิบายที่ชัดเจนของลู่เฉิน…พวกเราต้องรอไปถึงเมื่อไร
แฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วนต่างพากันไปทิ้งข้อความที่บล็อกของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์
ความขุ่นเคืองเหล่านี้ยิ่งใหญ่มาก ลู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันขนาดใหญ่ จึงต้องออกมาพูดอย่างช่วยไม่ได้
ความจริงลู่เฉินไม่ได้ตั้งใจอยากให้ทุกคนรอนาน แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ เขามัวแต่ยุ่งกับงานใหญ่ของปีนี้ นั่นก็คืออัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์ออกอัลบั้มไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะเธอออกมามากกว่าสิบอัลบั้มแล้ว ทว่าอัลบั้มนี้กลับไม่ธรรมดา เนื่องจากเป็นผลงานที่เปลี่ยนลุคของเธอ
ที่ผ่านมา เฉินเฟยเอ๋อร์ได้ฉายาว่า ‘ราชินีเสียงหวาน’ มาโดยตลอด ฉายานี้เป็นทั้งเกียรติและภาระ โดยเฉพาะอายุของเธอในตอนนี้ บวกกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด การเปลี่ยนลุคและสไตล์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
การเปลี่ยนลุคจะสำเร็จหรือไม่ มีความเกี่ยวพันกับอาชีพทางดนตรีของเฉินเฟยเอ๋อร์ เธอจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ในสถานการณ์เช่นนี้ ลู่เฉินผู้ที่รับผิดชอบอัลบั้มนี้ครึ่งหนึ่งจะเอาตัวเองอยู่เหนือปัญหาได้อย่างไร ในฐานะผู้ควบคุมการผลิตอัลบั้มนี้คนหนึ่ง เขาจึงต้องขลุกอยู่ที่เฟยสือเรคคอร์ดโดยไม่สามารถผลักภาระให้ผู้อื่นได้
และเนื่องจากให้ความสำคัญสูง ความต้องการสำหรับอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ในระดับที่เข้มงวดมาก เพื่อทำอัลบั้มนี้ให้เสร็จ เธอปฏิเสธงานออกรายการและงานพรีเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก ขัดเกลาผลงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในห้องอัดเสียง โดยเฉพาะส่วนของการเรียบเรียงเพลงที่ต้องทำอย่างละเอียดและประณีตที่สุด งานจึงเสร็จล่าช้ามาก
ดังนั้นตอนที่อัดอัลบั้มชุดนี้เสร็จแล้ว ก็กลางเดือนเมษายนพอดี
โชคดีที่ระหว่างนี้ลู่เฉินยังพอเจียดเวลาได้ เขียนบทละครเรื่องใหม่เสร็จหมดแล้ว
เขาจึงมีคำอธิบายให้กับพวกแฟนคลับสักที
…………………………………………………………………………