Perfect Superstar - ตอนที่ 352 แฟนคลับที่พิเศษมาก
ตอนที่ 352 แฟนคลับที่พิเศษมาก
“…
ตอนที่ฉันเดินทางไปยังทิศทางตรงข้าม
ตามหาความกล้าหาญที่มุมบันได
ไหล่ที่กำลังสั่นร้องไห้
ถามตัวเองว่าอยู่ที่ไหน
เพื่อนที่เคยเดินทางเคียงข้างกัน
เข้าใจความกังวลใจของฉัน
เวลามักจะพูดโกหก
ฉันไม่เคยสูญเสียไหล่ที่เคยพึ่งพิงเหล่านั้น
…”
เฉินเฟยเอ๋อร์ถือไมค์ยืนอยู่บนเวทีรูปตัวทีดุจดวงดาวจรัสแสงเจิดจ้า ไฟสปอตไลต์สีฟ้าจางๆ ส่องกระทบบนตัวเธอ แสงที่หักเหออกมากระจายไปรอบๆ เหมือนเธอกำลังถูกคลุมด้วยผ้าม่านหมอกบางๆ งดงามดุจนางฟ้าที่ร่วงลงมาสู่ดินแดนมนุษย์
ด้านล่างเวที แฟนคลับนับพันคนฟังเพลงอย่างเคลิบเคลิ้ม
เพลง ‘สวัสดีวันพรุ่งนี้’ มีทำนองดนตรีที่งดงาม จังหวะเพลงนุ่มนวลแฝงไว้ด้วยความเศร้าเล็กน้อย เอ่ยถึงความลังเลสับสนและความยุ่งยากใจที่ได้พบเจอในกระบวนการเติบโตของชีวิต กับความกล้าและจิตใจที่เข้มแข็ง
ในอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ‘สวัสดีวันพรุ่งนี้’ เป็นเพลงเดียวที่ไม่ใช่เพลงรัก มันสามารถนับว่าเป็นผลงานให้กำลังใจและกระตุ้นให้เกิดความตื่นรู้ในชีวิต ให้กำลังใจผู้คนโดยเฉพาะหนุ่มสาววัยรุ่นที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความฝันใฝ่ในชีวิต!
นอกจาก ‘บุปผานารี’ แล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์ชอบ ‘สวัสดีวันพรุ่งนี้’ มากที่สุด เพลงนี้เขียนถึงประสบการณ์ในชีวิตของเธอ เธอจึงร้องเพลงได้อย่างซาบซึ้งใจทุกครั้ง
จากนักร้องตัวเล็กๆ ธรรมดาเดินมาถึงตอนนี้ มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ดีว่าเธอทุ่มเทความเพียรพยายามและผ่านความลำบากมามากมายเท่าไร กี่ครั้งที่แอบน้ำตาไหลในที่ที่ไร้ซึ่งผู้คน กี่ครั้งที่ต้องกัดฟันสู้งาน กี่ครั้งที่เคยยอมแพ้ แต่สุดท้ายก็ยืนหยัดมาจนได้
หลายคนกล่าวว่าในวงการบันเทิงนั้นสกปรก นอกเสียจากมีภูมิหลังที่สุดยอดเหนือใคร มิฉะนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แปดเปื้อนฝุ่น แต่เฉินเฟยเอ๋อร์สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจ คนอื่นทำไม่ได้ ฉันทำได้!
เพราะเธอมีความกล้าหาญมากพอ เข้มแข็งมากพอ และโชคดีมากพอ!
“หลังจากเป็นผู้ใหญ่ ฉันทำได้แค่วิ่ง ฉันกลัวเหลือเกินว่าจะล้มลงท่ามกลางความมืด สวัสดีวันพรุ่งนี้ ยิ้มทั้งน้ำตา!”
ตอนที่ร้องเพลงท่อนนี้อีกครั้ง นัยน์ตาของเฉินเฟยเอ๋อร์มีน้ำตาเป็นประกายวาววับ
ไม่ว่าจะผ่านความล้มเหลวและลำบากยากเข็ญมาเท่าใด ในที่สุดเธอก็ยืนอยู่บนเวทีที่โชติช่วงชัชวาล เธอสามารถแสดงลูกคอให้แก่ผู้ชมจำนวนมากที่มาฟังเพลงของเธอ
และการที่ได้เจอกับเพลงนี้ ได้ร้องเพลงนี้ คือความโชคดีอย่างใหญ่หลวงของเธอ
“ทุกครั้งที่ร้องไห้ ก็จะวิ่งพร้อมกับรอยยิ้ม สูญเสียพร้อมกับค้นหา สวัสดีวันพรุ่งนี้ เสียงของฉันช่างเล็กเหลือเกิน…”
ภายในเหมยข่าตี้เซ็นเตอร์ที่สามารถรองรับผู้ชมได้มากถึงหนึ่งพันห้าร้อยคนเงียบสนิท พวกแฟนๆ กลั้นลมหายใจ เบิกตาโต ใช้หัวใจฟังเสียงเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์
เสียงของเธอราวกับเสียงสวรรค์ เหมือนลำธารใสที่ไหลมาจากภูเขา เจาะลึกเข้าไปในหูลงสู่หัวใจ เกิดความเคลิบเคลิ้มหลงใหลโดยไม่รู้ตัว
ลูกคอของเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่เป็นสองรองใคร บวกกับร้องเพลงแสดงคอนเสิร์ตมานานสิบกว่าปี ความรู้สึกที่ได้ยินเสียงร้องของเธอสดๆ ในงานนี้คือความยอดเยี่ยมสุดที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ยิ่งประกอบกับผลงานเพลงที่โดดเด่นมาก ยิ่งสุดแสนเพลิดเพลินเจริญใจ
“…แต่กลับปลุกฉันให้ตื่น เข้าใจว่าความกล้าหาญคืออะไร!”
หนึ่งเพลงร้องจบแล้ว เสียงเพลงยังดังอ้อยอิ่งอยู่อีกชั่วครู่ ทั่วทั้งงานเงียบกริบ มีเพียงแท่งไฟแต่ละอันที่ยังโบกไปมาเป็นจังหวะ
เฉินเฟยเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น กะพริบตา แล้วน้ำตาหยดหนึ่งก็เปียกซึมขนตา
ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ และเอ่ยเบาๆ ว่า “สวัสดีวันพรุ่งนี้ ขอมอบให้กับเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ!”
ยามนี้พวกแฟนๆ ที่อยู่ในงานเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน ทันใดนั้นก็ปรบมือกันอย่างคึกคัก
พวกเขาและพวกเธอรักเธอมากจริงๆ!
“เฉินเฟยเอ๋อร์!”
เสียงโห่ร้องราวกับภูเขาคำรามท้องทะเลบ้าคลั่งดังกึกก้องขึ้นมาในฮอลล์อีกครั้ง เป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าความนิยมของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มีอยู่ในตอนนี้แข็งแกร่งมากเพียงใด…ที่นี่ไม่มีแฟนคลับปลอมแม้แต่คนเดียว
เฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นมือเช็ดน้ำตาที่หางตา และยิ่งยิ้มสดใสมากขึ้น
เธออดคิดไม่ได้ ถ้าหากยามนี้ลู่เฉินอยู่ข้างกายเธอ ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่มีความสุขเปรมปรีดิ์ของเธอ แบ่งปันเสียงเชียร์ที่คึกคักของเหล่าแฟนเพลง มันจะดีแค่ไหน!
โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นวันพิเศษ
“เฉินเฟยเอ๋อร์!”
มีแฟนเพลงสองสามคนที่นั่งอยู่ใกล้เฉินเฟยเอ๋อร์มากที่สุดเกิดความตื่นเต้น พุ่งเข้าไปอยากจะทำความใกล้ชิดกับไอดอล แต่โดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้างานขวางไว้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
“ขอบคุณ ขอบคุณทุกคนค่ะ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์โบกมือให้พวกแฟนคลับ เพื่อปลอบอารมณ์ของพวกเขาให้สงบลง
พิธีกรเถียนเถียนปรากฏตัวขึ้นมาพอดี เธอแสร้งทำเป็นนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์เฉินเฟยเอ๋อร์ และสิ่งที่ถามนั้นล้วนเป็นคำถามที่เหล่าแฟนคลับให้ความสนใจมากที่สุด อย่างเช่นอัลบั้มใหม่ ละครเรื่องใหม่ แล้วก็แฟนหนุ่ม
หลายคำถามของเธอค่อนไปทางหยอกเย้า และมีบางอย่างที่ถามขึ้นมาสดๆ ไม่มีการเตรียมล่วงหน้า เฉินเฟยเอ๋อร์แทบจะรับมือไม่ทัน แต่ผลที่ตามมากลับดีเกินคาด พวกแฟนๆ ชอบมาก
จนถึงตอนนี้ ‘บุปผานารี’ อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ยังจำหน่ายอยู่บนเฟยซวิ่นมิวสิคและเว็บไซต์ระดมทุน ถึงแม้กิจกรรมระดมทุนจะสิ้นสุดลงแล้ว การจำหน่ายล่วงหน้าของร้านหนังสือซินหวาก็ยังคงดำเนินต่อไป ยอดขายแผ่นเสียงรวมแล้วทะลุหนึ่งล้านสามแสนชุด คาดว่าสุดท้ายน่าจะถึงสองล้านชุดได้อย่างไม่มีปัญหา
ยอดขายสองล้านชุด นั่นคือรางวัล ‘ไดมอนด์ดิสก์อวอร์ดส์’ สองเท่า ในวงการเพลงป็อปทุกวันนี้ นี่คือผลงานที่น่าสะดุดตาอย่างยิ่ง สามารถทำให้นักร้อง 99.99% แหงนหน้ามองด้วยความเคารพ
แต่ความทะเยอทะยานของเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้พอใจแค่รางวัลไดมอนด์ดิสก์อวอร์ดส์สองเท่า เธออยากจะได้สามเท่าสี่เท่า จนถึงรางวัลอิมพีเรียลคราวน์ดิสก์อวอร์ดส์!
ดังนั้นการโปรโมตอัลบั้มพบปะแฟนคลับในงานนี้ เธอจะทำให้ดีที่สุด
บางครั้งพวกแฟนๆ ก็โง่มาก แต่บางครั้งก็มีความรู้สึกไวมากเช่นกัน มีเพียงปฏิบัติตัวอย่างจริงใจเท่านั้นถึงจะได้รับการยอมรับมากที่สุด เฉินเฟยเอ๋อร์ตั้งแต่เดบิวต์มา เรื่องการปฏิบัติตัวต่อแฟนคลับเธอไม่กล้าพูดว่าทำได้ดีที่สุด แต่ก็ได้รับการยอมรับที่ยอดเยี่ยมจากในวงการ
พูดไปร้องเพลงไป งานพบปะแฟนเพลงครั้งนี้ผ่านไปครึ่งทางอย่างรวดเร็ว และมาถึงช่วงทำกิจกรรมกับแฟนคลับ
พิธีกรเถียนเถียนปรากฏตัวอีกครั้ง
เธอเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวสีแดง ชายกระโปรงพลิ้วไหวสวยงาม เบี่ยงเบนความสนใจไปไม่น้อย
อดีตพิธีกรของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงคนนี้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์ เผยรอยยิ้มลึกลับออกมาจากใบหน้า เธอพูดกับไมค์ว่า “วันนี้เป็นวันที่ 29 เมษายน และยังเป็นวันพิเศษอีกวันหนึ่ง พวกคุณรู้ไหมคะว่าเป็นวันอะไร”
เถียนเถียนยังพูดไม่จบ แฟนคลับมากมายที่นั่งอยู่ก็ตะโกนเสียงดัง “วันเกิดเฉินเฟยเอ๋อร์!”
พวกแฟนๆ บางทีอาจจำวันเกิดของแฟนตัวเองไม่ได้ แต่จดจำวันเกิดของไอดอลตัวเองได้แน่นอน
วันที่สำคัญขนาดนี้ทุกคนจะลืมได้อย่างไร
ท่ามกลางกลุ่มผู้คนมีป้ายไฟเรียงกันเป็นแถวขึ้นมาทันที… Faye สุขสันต์วันเกิด!
Faye เฟย์เป็นชื่อภาษาอังกฤษของเฉินเฟยเอ๋อร์ มีความหมายว่านางฟ้าตัวน้อย
ในดวงใจของแฟนๆ เธอคือนางฟ้าตัวน้อยคนสุดท้ายที่ร่วงลงมายังโลกมนุษย์ ยากที่ใครจะเทียบได้
เฉินเฟยเอ๋อร์ดีใจมาก ถือไมค์แล้วเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณ ขอบคุณทุกคนค่ะ!”
“ถูกแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเฟย์ของพวกเรา…”
เถียนเถียนยื่นมือทำเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบก่อน จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า “ฉันรู้ว่าแฟนคลับจำนวนมากได้เตรียมของขวัญไว้ให้เธอแล้ว หนึ่งในนั้นมีแฟนคลับที่พิเศษมากคนหนึ่งขอร้องว่าอยากจะมอบของขวัญให้เฟย์ด้วยตัวเอง ภูมิหลังของเขาใหญ่เหลือเกิน ฉันทำอะไรไม่ได้จริงๆ จึงได้แต่ยอมตกลง”
เธอเผยสีหน้าที่น้อยเนื้อต่ำใจออกมา เหมือนได้รับแรงกดดันมาอย่างมหาศาล
มีแฟนคลับบางคนที่ความคิดไม่ซับซ้อนรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที…แม่งใครมันขี้อวดขนาดนี้วะ ทายาทข้าราชการทายาทเศรษฐีเรอะ
ความวุ่นวายพลันเกิดขึ้นในงาน เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาเป็นระลอก
แต่ก็มีแฟนคลับที่มากกว่านั้นกำลังรอชมความสนุก นี่จะเป็นกิจกรรมพบปะแฟนคลับที่น่าสนุก ประมาณว่าเป็นความตื่นเต้นช่วงท้าย
เฉินเฟยเอ๋อร์มองเพื่อนสนิทด้วยความตกใจ
เธอไม่รู้มาก่อนว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ เถียนเถียนมาไม้ไหนกันแน่
แน่นอนว่าไม่ได้หลอกขายเธอหรอก
เถียนเถียนใช้ลูกเล่นมากพอแล้ว จากนั้นจึงยิ้มพรายผายมือออกไปเป็นการเชื้อเชิญ “ขอเชิญแฟนคลับคนนี้ด้วยค่ะ!”
ไฟสปอตไลต์ดวงหนึ่งย้ายจากเวทีไปยังที่นั่งของผู้ชมอย่างรวดเร็ว เลนส์กล้องหน้างานก็ตามไปติดๆ แล้วภาพก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอด้านหลัง
สายตาของทุกคน รวมทั้งเฉินเฟยเอ๋อร์ ก็มองไปตามแสงไฟนี้
วินาทีต่อมา แสงไฟหยุดอยู่กับที่ และส่องไปที่มุมด้านซ้ายของเวทีรูปตัวที
มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น
เมื่อถูกไฟสปอตไลต์ส่อง เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า
และกล้องอีกตัวหนึ่งก็เสริมเลนส์ได้ทันเวลาพอดี รีบซูมเข้าไปใกล้ๆ
เกิดเสียงฮือฮาไปทั่วงาน!
“ลู่เฉิน!”
ชายหนุ่มที่ปรากฏในเลนส์กล้องไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะพวกแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์
ลู่เฉิน คือลู่เฉิน เขามาที่ฮู่ไห่ด้วย มาโผล่ที่งานพบปะแฟนเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์!
สิ่งที่ทำให้แฟนคลับพูดไม่ออกคือ ก่อนหน้านั้นไม่มีใครสังเกตเห็น
น่าจะเป็นเพราะความสนใจของพวกเขาล้วนอยู่ที่ตัวของเฉินเฟยเอ๋อร์ จึงไม่ได้สนใจคนที่อยู่ตรงมุมนั้นโดยสิ้นเชิง
แต่พอคิดอย่างละเอียดแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ในฐานะแฟนที่ดี เขาจะไม่ปรากฏตัวในวันเกิดของเฉินเฟยเอ๋อร์ได้อย่างไร
‘แฟนคลับ’ คนนี้มีเบื้องหลังที่ใหญ่จริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เถียนเถียนทำสีหน้าแบบนี้ o(∩_∩)o
เฉินเฟยเอ๋อร์แทบไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน เธอเบิกตาโตด้วยความลืมตัว
เซอร์ไพรส์ หวานชื่น…
ลู่เฉินมาจริงๆ เขาไม่ลืมวันเกิดของเธอ!
จริงๆ เมื่อครู่เธอน่าจะเดาออกแล้ว แต่เถียนเถียนอุบได้เก่งมาก จึงทำให้เธอเข้าใจผิด
เฉินเฟยเอ๋อร์อดขึงตาใส่เถียนเถียนไม่ได้
เถียนเถียนเม้มปาก แล้วส่งสายตาบอกเธอว่า ‘เธอเข้าใจอยู่แล้ว’
ลู่เฉินติดต่อเถียนเถียนเมื่อวาน จึงรู้ว่าเธอมาเป็นพิธีกรในงานพบปะแฟนเพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่ฮู่ไห่ ดังนั้นจึงขอให้เธอช่วยเป็นพิเศษ จัดเซอร์ไพรส์ให้กับเฉินเฟยเอ๋อร์
พูดตามจริง เถียนเถียนอิจฉาเพื่อนรักของตัวเองมาก เมื่อไรเธอจะโชคดีได้แฟนแบบนี้บ้าง
เถียนเถียนพลันนึกถึงตอนแรกที่อยู่หังโจว ภาพที่ลู่เฉินเข้าไปช่วยชีวิตเธอโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เธอในตอนนั้น…
เถียนเถียนห้ามตัวเองไม่ให้คิดต่อ เพราะตัวเอกในคืนนี้คือลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เท่านั้น
เธอยืนอวยพรอยู่ข้างๆ ก็พอ
ท่ามกลางแสงไฟสปอตไลต์และเสียงร้องเชียร์ของแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ลู่เฉินโบกมือให้ทุกคนก่อน จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดของเวทีที่อยู่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ดวงไฟทั่วทั้งฮอลล์ดับลง แม้แต่แสงไฟบนเวทีรูปตัวทีก็มืดลงมาก
เหมือนกับเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง พวกแฟนๆ จึงรีบปิดสวิตซ์แท่งไฟและป้ายไฟ เหม่ยข่าตี้เซ็นเตอร์ตกอยู่ท่ามกลางความมืด คลื่นเสียงสงบลงในทันที
…………………………………………………………………………