Perfect Superstar - ตอนที่ 383 ก้าวพลาด
ตอนที่ 383 ก้าวพลาด
ทำงานร่วมกันมาหลายปี เจ้าอ้วนเกาไม่เคยเห็นเซียวไห่เฉาอยู่ในสายตา
ในสายตาของเขา เซียวไห่เฉาเป็นเพียงเจ้าโง่ไร้สมองที่จบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเท่านั้น ไม่เข้าใจชีวิต มักมีแนวคิดที่น่าขัน ไม่อาจอยู่ในสังคมแบบนี้ให้เจริญได้แน่
ดังนั้นทุกครั้งที่เจ้าอ้วนเกาเหยียบย่ำเซียวไห่เฉาได้จะรู้สึกมีความสุข
วันนี้ได้พบกับเซียวไห่เฉาในภัตตาคารไป๋ลู่ เจ้าอ้วนเกาอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้ เขาคาดว่าเซียวไห่เฉาออกจากงานไปแล้วจะต้องได้ตำแหน่งดีๆ ในบริษัทที่ไม่เลวสักแห่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสิทธิ์มานั่งอยู่ในห้องเหมยหลันได้
ไม่ว่าเจ้าอ้วนเกาจะดูถูกเซียวไห่เฉาแค่ไหน ความสามารถของเซียวไห่เฉาก็เป็นที่ยอมรับไปทั่ว ตอนนี้เขาได้งานที่เงินเดือนสูง เจ้าอ้วนเกานึกแล้วก็ช้ำใจ จึงเกิดความคิดอยากจะหาเรื่องแกล้งเขา
จะให้ดีที่สุดต้องทำให้เซียวไห่เฉาได้อับอายต่อหน้าหัวหน้างานของบริษัทใหม่สักครั้ง เจ้าอ้วนเกาถึงจะรู้สึกสบายใจ!
ที่สำคัญคือ เจ้าอ้วนเกามีคนหนุนหลังเป็นหัวหน้าฉางแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตง เขาจึงชอบวางก้ามไม่เกรงกลัวใคร
บุกเข้าไปในห้องเหมยหลัน เขาเห็นเซียวไห่เฉากับจูลี่แล้ว รอยยิ้มได้ใจพลันปรากฏบนใบหน้าน้า
ให้ตายสิ เจ้าเซียวไห่เฉาวาสนาดีไม่เบา ได้เมียสวยขนาดนี้ แต่ถ้าเทียบกับอีกคนที่อยู่ข้างๆ แล้วสู้ไม่ได้เลย คนนั้นสวยสะดุดตาและดูคุ้นหน้ามาก…
แล้วสีหน้าของเจ้าอ้วนเกาก็แข็งค้าง
การกระทำอันไร้มารยาทของเขากับเพื่อนร่วมงานทำให้คนอื่นที่อยู่ในที่นั้นหันมามอง
ได้เห็นหน้าคนคนนี้แล้ว ความโกรธของเซียวไห่เฉาถาโถมขึ้นมา ลุกขึ้นยืนในทันที
เถียนเถียนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่พอใจว่า “คุณทำอะไรน่ะ”
ความไม่พอใจอันรุนแรงของเธอปลุกเจ้าอ้วนเกาให้รู้สึกตัว หันมามองเธอโดยสัญชาตญาณ
มองเพียงแวบเดียว เจ้าอ้วนเกาก็ถึงกับคางตกอ้าปากค้าง
เถียนเถียน!
อดีตพิธีกรสาวสวยแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตงคนนี้ เจ้าอ้วนเการู้จักแน่นอน
ถ้าเป็นพิธีกรทั่วไป หรือเป็นคนที่ลาออกไปแล้ว เจ้าอ้วนเกาจะไม่สนใจ แต่ไม่นานมานี้เขาได้ยินมาจากคนอื่นว่า ครอบครัวของเถียนเถียนนั้นไม่ธรรมดา ไม่ใช่คนที่ควรไปมีเรื่องด้วย
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เซียวไห่เฉาจะอาจเอื้อมไปผูกสัมพันธ์กับคนระดับเถียนเถียน
จากนั้นเจ้าอ้วนเกาถึงรับรู้ว่า สาวสวยสะดุดตาอีกคนที่เขารู้สึกคุ้นหน้าคือเฉินเฟยเอ๋อร์นี่เอง ส่วนคนที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเฉินเฟยเอ๋อร์และเถียนเถียน ไม่ใช่ลู่เฉินแล้วจะเป็นใคร
สองคนนี้มาที่เมืองหังโจวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เจ้าอ้วนเกาตะลึงตาค้าง
ส่วนเพื่อนร่วมงานจอมเจ้าเล่ห์ที่มาพร้อมกับเจ้าอ้วนเกาเห็นท่าไม่ดีรีบหลบออกไปจากห้องทันที ทิ้งเจ้าอ้วนเกาเอาไว้คนเดียว
ล้อเล่นน่า คนที่กินข้าวกับเซียวไห่เฉาคือเถียนเถียน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่เฉิน พวกเขาคิดจะทำให้เซียวไห่เฉาอับอายขายหน้า กลับกลายเป็นว่าพวกเขายื่นหน้าออกไปให้คนตบเองถึงที่!
ลำพังเถียนเถียนก็พอจะจัดการเก็บกวาดพวกเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว ส่วนลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ พวกเขาเป็นถึงดาราที่สถานีโทรทัศน์เจ้อตงประจบประแจงอยู่ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ละครเรื่องใหม่ของทั้งคู่ เป็นละครที่สถานีโทรทัศน์เจ้อตงทุ่มเทความคิดเพื่อแย่งชิงมา
ถ้าเขาไม่หนี แล้วจะรอให้ขายหน้าอย่างนั้นหรือ
จูลี่ยิ้มเย็น “โอ๊ะโอ นี่มันหัวหน้าเกาไม่ใช่เหรอ คุณดื่มหนักไปจนเข้าผิดห้องหรือเปล่า”
เธอเกลียดชังหัวหน้าเก่าของเซียวไห่เฉาคนนี้มาก ที่เธอสนับสนุนร้อยเปอร์เซ็นต์ให้เซียวไห่เฉาลาออกจากสถานีโทรทัศน์หังโจวหันมาทำงานให้กับเยวี่ยต้งมีเดียแทน เหตุผลหนึ่งก็เพราะรังเกียจเจ้าอ้วนเกาคนนี้เต็มทน
ตอนนี้เจ้าอ้วนเกาเข้ามาหาถึงที่ เธอไม่ลังเลที่จะตบหน้าเขาฉาดใหญ่
เจ้าอ้วนเกาที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทั้งเก้อเขินทั้งอับอายจนสีหน้าแดงคล้ำ แทบจะแทรกแผ่นดินหนี
เถียนเถียนไม่รู้จักเจ้าอ้วนเกา แต่เธอเคยได้ยินถึงคนคนนี้ ดังนั้นพอได้ยินคำเยาะเย้ยของจูลี่ก็เข้าใจทุกอย่างทันที
เถียนเถียนโบกมือโดยพลัน “หัวหน้าเกาที่ไหน ออกไป ออกไป บริกร…”
เธอตะโกนเรียกบริกร “พวกคุณดูดีๆ หน่อย อย่าให้ใครบุกเข้ามารบกวนพวกเรา”
ความจริงบริกรก็โดนว่าอย่างไม่เป็นธรรม รีบเปิดประตูทำหน้าดุใส่เจ้าอ้วนเกาแล้วบอกว่า “คุณผู้ชายเชิญค่ะ…”
เจ้าอ้วนเกาหมดท่า คิดว่าชาตินี้เขาคงไม่เคยเสียหน้าเท่านี้มาก่อน รีบหันหลังเดินจากไปทันที
ขืนอยู่ต่อ หนังหน้าของเขาคงจะถูกขูดลอกจนไม่เหลือ!
เพื่อนร่วมงานของเจ้าอ้วนเกาคนนั้นกลับไปถึงห้องอาหารส่วนตัวของตัวเองด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์หังโจวถามอย่างประหลาดใจว่า “เหล่าจาง นายกลับมาทำไม แล้วหัวหน้าเกาล่ะ”
เหล่าจางยิ้มแหย “อย่าพูดถึงเลยครับ พวกเราอยากจะไปหาเซียวไห่เฉา ผลปรากฏว่าในห้องเหมยหลัน เถียนเถียน เฉินเฟยเอ๋อร์ แล้วก็ลู่เฉินนั่งอยู่ด้วยกัน ผมเลยรีบกลับมารายงานท่านก่อน”
เถียนเถียน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่เฉิน?
ผู้บริหารหลายคนมองหน้ากันไปมา หัวหน้าฉางแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตงที่เงียบงันมาโดยตลอดตื่นตกใจ “เถียนเถียนอยู่กับสองคนนั้นในห้องเหมยหลันหรอกเหรอ งั้นผมต้องไปดูหน่อย”
เขารู้ดีถึงตำแหน่งของคนทั้งสาม โดยเฉพาะเถียนเถียน จึงรู้สึกร้อนรน
หัวหน้าเกานั้นเป็นคนของเขา ไม่แน่ว่าอาจจะไปหาเรื่องพวกเขา
หัวหน้าฉางไม่กลัวว่าเถียนเถียนจะทำอะไรเขา เพราะเขาก็เป็นคนที่มีรากฐานมั่นคง แต่ถ้าไปล่วงเกินคนเหล่านั้นโดยไม่มีสาเหตุ คนอื่นเอาไปนินทาก็ทำให้เขาสั่นคลอนได้เหมือนกัน
รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์หังโจวพูดขึ้นว่า “ผมไปด้วย!”
แล้วผู้บริหารทั้งสองก็ออกไปจากห้องพร้อมกัน
ตรงทางเดินมุ่งสู่ห้องเหมยหลัน ทั้งสองได้พบกับเจ้าอ้วนเกาที่มีสีหน้าโกรธแค้น
หัวหน้าฉางทำเป็นมองเขาเหมือนอากาศ ส่วนรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์หังโจวเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
คำทักทายของเจ้าอ้วนเกาติดอยู่ที่คอหอย เม็ดเหงื่อผุดออกมา
เดิมทีเขาคิดจะไปเหยียบย่ำคนอื่น สุดท้ายกลับถูกเหยียบย่ำเสียเองจนอยากฆ่าตัวตายแล้ว
“สวัสดีค่ะ คุณทั้งสองจะพบใครคะ”
หัวหน้าฉางกับรองผู้อำนวยการมาถึงห้องเหมยหลัน ถูกบริกรที่เพิ่งโดนสั่งสอนไปห้ามเอาไว้
สายตาของเธอฉายแววเตือนภัยเต็มที่
ทั้งสองมองหน้ากันไปมา ในใจคิดว่าจะต้องเป็นปัญหาที่เจ้าอ้วนเกาก่อขึ้นแน่นอน รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์หังโจวด่าเจ้าอ้วนเกาอยู่ในใจ แต่ท่าทางยังคงดูเกรงอกเกรงใจ “ช่วยแจ้งเข้าไปหน่อยว่า หัวหน้าฉางอีหมิงจากสถานีโทรทัศน์เจ้อตงของพวกเราอยากพบคุณเถียน”
บริกรของห้องเหมยหลันได้พบกับพวกผู้บริหารจนเคยชินแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าหัวหน้าคนหนึ่งจากสถานีโทรทัศน์เจ้อตงจะพิเศษตรงไหน แต่ก็ยังเข้าไปรายงานให้เถียนเถียนรับทราบ ถามว่าจะอนุญาตให้แขกเข้ามาหรือไม่
หลังจากได้รับการอนุญาตแล้ว หัวหน้าฉางและรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์หังโจวถึงได้เข้าไปในห้อง
“พี่ฉาง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”
เถียนเถียนรู้จักหัวหน้าฉาง เธอลุกขึ้นยิ้มทักทายต้อนรับ ไม่มีท่าทางเอาแต่ใจเหมือนคุณหนู
แม้ครอบครัวของเธอจะไม่ธรรมดา แต่ในเมื่อเปิดบริษัทสื่อแล้ว ต่อไปต้องได้ติดต่องานกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตงอีกหลายครั้งแน่นอน เพราะฉะนั้นเธอต้องรักษาความสัมพันธ์กับคนคุ้นเคยในที่ทำงานเก่าเอาไว้ให้ดี มีเพื่อนมากอีกขึ้นคนก็มีทางให้เดินมากขึ้นอีกทาง มีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกคนก็มีกำแพงขวางกั้นเพิ่มขึ้นอีกชั้น!
หัวหน้าฉางกับหัวหน้าเกาเป็นคนละเรื่องกัน
หัวหน้าฉางหัวเราะฮ่าๆ “เถียนเถียนสวยขึ้นทุกวันเลยนะ ได้ยินว่าคุณเปิดบริษัทของตัวเองเหรอ”
เถียนเถียนยิ้ม “ทำเล็กๆ น้อยๆ ให้พออยู่ได้ ต่อไปยังต้องให้พี่ฉางช่วยดูแลอีกเยอะ ฉันขอแนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักสักหน่อย…คนนี้คือลู่เฉิน…”
ไม่ต้องให้เธอแนะนำ หัวหน้าฉางมีหรือจะไม่รู้จักลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์
ขณะที่บอกว่าชื่นชมเลื่อมใสมานาน ในใจอดร้องอุทานไม่ได้
คนที่นั่งในโต๊ะนี้ถ้าไม่ใช่คนหนุ่มสาวที่มีความสามารถก็เป็นยอดคน ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองแก่เกินไปแล้ว
…………………………………………