Perfect Superstar - ตอนที่ 41 ใครก็อย่าคิดแย่ง
ตอนที่ 41 ใครก็อย่าคิดแย่ง!
เขาเผชิญหน้ากับสายตาของผู้ชมที่อยู่ข้างล่างเวทีนับพันคน บ้างก็ประหลาดใจ บ้างก็สงสัย บ้างก็จ้องมองเขาด้วยสายตาตกใจ
ลู่เฉินยิ้มอย่างสุขุมเยือกเย็น
เขาพูดว่า “ก่อนจะร้องเพลง ผมขออนุญาตเปลี่ยนกีตาร์ก่อนนะครับ”
มือของลู่เฉินจับไปที่หมอนรองกีตาร์แล้วยกกีตาร์ขึ้นมา หมุนตัวหันไปถามฉินฮั่นหยางที่ยืนอยู่ทางออกของหลังเวทีแสดง
“พี่ฉิน ผมขอยืมกีตาร์ไฟฟ้าของพี่ได้ไหมครับ”
“รอเดี๋ยวนะ!”
ฉินฮั่นหยางตอบรับเสียงดัง หันหลังเดินกลับไปข้างในอย่างไม่คิดมาก หยิบกีตาร์ไฟฟ้าตัวนั้นของตัวเองออกมา
จากนั้นจึงเดินออกมาอีกสามก้าว เดินขึ้นบันไดอีกสองก้าวขึ้นไปบนเวที
กีตาร์ไฟฟ้าตัวนี้ของเขาเป็นยี่ห้อเฟนเดอร์ที่ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา เฟนเดอร์มีคุณภาพที่โดดเด่นที่สุดในบรรดายี่ห้อที่คล้ายกัน แน่นอนว่าราคาก็น่าตกใจมาก หลังจากฉินฮั่นหยางซื้อมาแล้วก็มองเป็นของล้ำค่ามาตลอด ไม่เคยยอมให้คนอื่นใช้
แต่ตอนนี้เขากลับให้ลู่เฉินยืมกีตาร์ไฟฟ้าเฟนเดอร์ตัวนี้ใช้โดยไม่ลังเล
ไม่เพียงเท่านี้ ฉินฮั่นหยางยังต่อสายกีตาร์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง แล้วจึงยื่นไปให้ที่มือของลู่เฉิน
ลู่เฉินคาดไม่ถึงว่าฉินฮั่นหยางจะเอากีตาร์ไฟฟ้าของตัวเองมาให้เขา
เขารับกีตาร์ไฟฟ้ามาจากมือของฉินฮั่นหยาง แล้วจึงเปลี่ยนกีตาร์ไม้กับอีกฝ่าย จากนั้นพูดว่า “ผมขอแนะนำทุกคนหน่อยนะครับ คนนี้คือพี่ฉิน ฉินฮั่นหยางนักร้องนำวงเฮสิเทชั่นครับ!”
ฉินฮั่นหยางถูกแนะนำตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงรีบโบกมือไปทางผู้ชม “สวัสดีทุกคนครับ!”
ผู้ชมปรบมือตอบรับอย่างกระตือรือร้น มีเสียงผิวปากดังขึ้น
ลู่เฉินยิ้มพูดว่า “ขอบคุณพี่ฉินครับ อีกสักพักพี่ฉินก็จะขึ้นเวทีแสดงเหมือนกัน เดี๋ยวทุกคนจะได้เจออีกครั้งครับ”
“จากนั้น…”
“ผมต้องขอขอบคุณบาร์บลูโลตัสที่ให้โอกาสเหล่านักร้องร่อนเร่ในเมืองหลวงเหมือนอย่างผมอีกมากมายหลายคน ให้พวกเราได้รู้จักและรวมตัวกันในค่ำคืนที่สวยงามแบบนี้!”
“ชื่อเพลงที่จะร้องต่อไป มีชื่อว่าเดอะบลูโลตัส ผมขอมอบมันให้กับบาร์บลูโลตัสครับ และก็ขอมอบให้กับทุกคนที่อยากมีเสรีภาพ ไล่ตามความฝัน ซึ่งก็คือพวกคุณ!”
พอสิ้นเสียง ลู่เฉินจึงเงยหน้าขึ้น สายตาจ้องมองไปด้านหน้า แววตาแน่วแน่เป็นอย่างมาก!
“ไม่มีอะไรมาขัดขวางฉันได้…”
ขณะเดียวกับที่ร้องเนื้อเพลงประโยคแรกออกมา ลู่เฉินออกแรงเขย่าสายกีตาร์
เสียงบรรเลงโหมโรงที่ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงรุนแรงแต่แฝงไปด้วยพลัง พุ่งเข้าไปอยู่ในหูของทุกคน
“เดินไปข้างหน้าเพื่อเสรีภาพของตัวเอง
กับชีวิตที่ไม่แน่นอน
หัวใจของคุณไร้ความกังวล!
ข้ามผ่านช่วงเวลาที่มืดมิด
เคยรู้สึกถึงความเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
วินาทีที่คุณก้มหน้าลง
จะพบทางเดินที่อยู่ใต้เท้า
โลกอิสระเสรีที่อยู่ในใจ
สูงส่งและสดใสมากขนาดนี้
เบ่งบานตลอดไม่เคยโรยรา
บลูโลตัสเอย!”
เพลงนี้ไม่เหมือนเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ อย่างสิ้นเชิง ไม่มีความรู้สึกของคนที่ผ่านโลกมามาก ไม่มีความเศร้าระทมโหยหาเรื่องในอดีต ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวของเลือดร้อนที่พลุ่งพล่าน แต่นำพาทุกคนเข้าสู่พื้นที่ราบสูงที่ไร้จุดสิ้นสุด
ที่นั่นเป็นสถานที่ใกล้ท้องฟ้ามากที่สุด สะอาดบริสุทธิ์ สดใส เลอเลิศ สามารถชำระล้างจิตใจอย่างไร้ขีดจำกัด
โอบกอดอุดมการณ์ รักช่วงเวลาที่สวยงามของทุกอย่าง ยืนหยัด สุขุม เงียบสงบ ร้องเพลงขับขานเสียงดัง
“ไม่มีอะไรมาขัดขวางฉันได้
เดินไปข้างหน้าเพื่อเสรีภาพของตัวเอง
กับชีวิตที่ไม่แน่นอน
หัวใจของคุณไร้ความกังวล!
ข้ามผ่านช่วงเวลาที่มืดมิด
เคยรู้สึกถึงความเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
วินาทีที่คุณก้มหน้าลง
จะพบทางเดินที่อยู่ใต้เท้า
โลกอิสระเสรีที่อยู่ในใจ
สูงส่งและสดใสมากขนาดนี้
เบ่งบานตลอดไม่เคยโรยรา
บลูโลตัสเอย~”
ทุกคนฟังอย่างเงียบสงบ ราวกับกำลังอาบน้ำท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น พวกเขารู้สึกถึงพลังที่มาจากเสียงเพลงได้อย่างชัดเจน ความทรงจำที่สวยงามมากมายนับไม่ถ้วนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เนื้อเพลงของ ‘เดอะบลูโลตัส’ ไม่มีภาษาที่เกินจริงอลังการ ทำนองดนตรีก็ไม่ได้ขึ้นๆ ลงๆ ตลอด ทว่ากลับทำให้ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งและสะเทือนใจ ไม่ด้อยไปกว่าเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ เลยสักนิด
บทเพลงนี้คือการชำระบาปของจิตใจอย่างหนึ่ง!
ความเงียบสงบปกคลุมไปทั่วทั้งงานอีกครั้ง ผู้ชมที่มากกว่าสองพันคนก็นิ่งเหมือนรูปปั้นแกะสลักที่มีชีวิตชีวา ไม่มีใครพูดไม่มีใครปรบมือ แต่กำลังฟังและซาบซึ้งตามไปด้วย
จนกระทั่งเสียงตอนท้ายหายไป
ฉางเหว่ยรู้สึกเหมือนตื่นจากความฝันอย่างกะทันหัน เขาจับแขนของเฉินเจี้ยนหาวอย่างแรง ถามด้วยน้ำเสียงสงสัย “เหล่าเฉิน ฉันจะเอาเพลงนี้ ใครก็อย่ามาคิดแย่ง!”
เฉินเจี้ยนหาวถูกจับแขนจนเจ็บ ยิ้มพูดอย่างขมขื่นว่า “พี่ฉาง พี่ต้องไปคุยกับลู่เฉินเอง”
เฉินเจี้ยนหาวเข้าใจความตื่นเต้นของฉางเหว่ย
เพลงที่ดีเพลงหนึ่งใช่ว่าเจอแล้วจะครอบครองได้ โดยเฉพาะเพลงคลาสสิคที่สามารถร้องได้อีกนานแบบนี้ ฉางเหว่ยอยากได้เพลงนี้แน่นอนว่าตัวเองไม่ได้อยากมีชื่อเสียง แต่สำหรับบาร์ของเขาแล้ว เพลงนี้คือของล้ำค่าอย่างแท้จริง!
เขาลองนึกถึงภาพและบรรยากาศ ตอนที่วงดนตรีกำลังร้องเพลง ‘เดอะบลูโลตัส’ ในบาร์บลูโลตัสของเขา…
เฉินเจี้ยนหาวรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
ลู่เฉินเขียนเพลง ‘เดอะบลูโลตัส’ ให้บาร์บลูโลตัส ทำไมถึงไม่เขียนเพลง ‘ดอกลิลลี่’ ให้บาร์เดย์ลิลลี่บ้าง?
ฉางเหว่ยหัวเราะฮิๆ เขาปล่อยมือและเผยสายตาเจ้าเล่ห์ออกมา
“นายเป็นเถ้าแก่ของเขา เขาก็ต้องฟังนายอยู่แล้ว อีกอย่างเขาก็พูดแล้วว่ามอบเพลงนี้ให้บลูโลตัส”
เฉินเจี้ยนหาวมีหรือจะหลงกล จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เขายังพูดว่ามอบให้ทุกคนอีกนะ! ความจริงเสี่ยวลู่เขา…”
“ขาดเงินมาก ขอแค่นายยอมทุ่มเงิน…อืม นายอย่าไปบอกกับคนอื่นนะ นิสัยของเขาดื้อรั้นหัวแข็งนิดหน่อย!”
ฉางเหว่ยขึงตาใส่เฉินเจี้ยนหาว
ต่างก็เป็นจิ้งจอกอายุพันปี รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว!
คำพูดของเฉินเจี้ยนหาวแฝงไปด้วยความหมายที่เข้าใจได้ ขอแค่เขาฉางเหว่ยยอมทุ่มเงินก็จะได้เพลงมาแน่นอน ถ้าหากไม่อยากเสียทรัพย์ อย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว
นิสัยของลู่เฉินดื้อรั้นหัวแข็งนิดหน่อย!
ฉางเหว่ยครุ่นคิด ยื่นมือเรียกพนักงานคนหนึ่งมาแล้วสั่งว่า “นายรีบไปหลังเวที เชิญอาจารย์ลู่เฉินมาหาฉัน บอกว่าฉันมีธุระอยากปรึกษากับเขา”
พนักงานโน้มตัวตอบว่า “ครับเถ้าแก่ ผมจะรีบไปเชิญมาเดี๋ยวนี้ครับ!”
ฉางเหว่ยกำชับอีกหนึ่งประโยคอย่างไม่ไว้วางใจ “จำไว้นะต้องมีมารยาทหน่อย!”
“เอาอีก!” “เอาอีก!” “เอาอีก!”
และในเวลานี้เอง เสียงตะโกนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เพลงใหม่เพลงที่สองของลู่เฉินประทับใจคนดูอีกแล้วแต่ก็ยังฟังไม่หนำใจ ตรงกันข้ามยิ่งอยากได้ยินเพลงที่ไพเราะน่าอัศจรรย์อีกครั้ง!
เพียงแต่ความกระตือรือร้นของพวกเขาไม่อาจรั้งลู่เฉินได้
ลู่เฉินกอดกีตาร์ โน้มตัวให้กับผู้ชมอย่างมีมารยาท
“ขอบคุณทุกคนครับ ขอบคุณ!”
จากนั้นเขาก็เดินลงเวทีท่ามกลางเสียงโห่ร้องว่า “เอาอีก!”
เหล่าผู้ชมต่างเสียดาย จนปัญญา และทอดถอนใจ
เสียงปรบมือที่น่าอบอุ่นดังขึ้น อยากรั้งเขาไว้และชื่นชมเขา!
การแสดงร้องเพลงในคืนนี้ของลู่เฉินถือว่าสมบูรณ์มาก เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ กับเพลง ‘เดอะบลูโลตัส’ แย่งบรรยากาศในค่ำคืนนี้ไปทั้งหมด วงดนตรีกับนักร้องทั้งหมดที่แสดงไปก่อนหน้าก็ไม่อาจเทียบได้ เชื่อว่าคนที่มาข้างหลังก็ไม่อาจเทียบได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อยากแสดงอีกต่อไป ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่จัดงานหลักของบาร์เดย์ลิลลี่
ควรทราบว่าข้างหลังของเขาคือเสาหลักของบาร์บลูโลตัส วงจื่อเป่ยเจินที่เพิ่งเซ็นสัญญากับบริษัทชิงอวี่มีเดีย!
แต่สิ่งที่ลู่เฉินไม่รู้ก็คือ ขณะที่เขาเดินลงมาจากเวที กานหล่างนักร้องนำและทำหน้าที่หัวหน้าวงจื่อเป่ยเจินที่อยู่หลังเวทีการแสดง กำลังแบกรับความทรมานที่ไม่อาจอธิบายได้
เดิมทีเขามั่นใจในตัวเองกับวงจื่อเป่ยเจินมาก เชื่อว่าคืนนี้เพลงใหม่สองเพลงจะสามารถทำให้คนตื่นตะลึง กลาย เป็นตัวเอกบนเวทีอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับบริษัทใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญา
ผลลัพธ์คือลู่เฉินที่ขึ้นเวทีก่อน ใช้เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ บดขยี้ความมั่นใจของเขาจนแหลกสลาย และใช้เพลงที่สองอย่าง ‘เดอะบลูโลตัส’ ทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจ
ไม่สามารถเทียบได้ ถึงอยากเปรียบเทียบก็ไม่กล้าเปรียบเทียบ!
และสิ่งที่น่าขำมากที่สุดก็คือ ก่อนหน้านั้นกานหล่างยังแนะนำลู่เฉินเพราะคิดว่าตัวเองเหนือกว่า ไม่คิดว่าเขาจะพ่ายแพ้ดูไม่ได้ขนาดนี้
ตอนนี้เขาคิดดูแล้วรู้สึกว่าใบหน้าแก่ๆ ของตัวเองขายหน้ามาก
กานหล่างลุกยืนขึ้นพรวด พูดกับฉินฮั่นหยางและพี่น่าว่า “พี่ฉิน พี่น่า ต่อไปให้พวกพี่ขึ้นเวทีเถอะ ผม…ผมมีธุระขอตัวก่อน!”
ไม่รอให้ทั้งสองคนตอบ กานหล่างก็หันหลังเดินออกไปตรงช่องทางเดินของทีมงาน แม้แต่เพื่อนสมาชิกของวงตัวเองก็ยังไม่บอกลา!
เหล่าเพื่อนสมาชิกของเขาต่างก็นิ่งค้าง!
ฉินฮั่นหยางกับพี่น่าต่างมองหน้ากัน
ทั้งสองคนรู้อยู่แก่ใจ เห็นได้ชัดว่ากานหล่างถูกเพลงใหม่ของลู่เฉินโจมตีอย่างหนัก เสียสมดุลของจิตใจ การยอมทิ้งไม่ขึ้นเวทีภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ก็ถือว่าฉลาดมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถร้องเพลงให้ดีได้แน่นอน
เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นฉินฮั่นหยางหรือพี่น่าก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
โชคของกานหล่างแย่เกินไป หรือจะพูดว่าคู่ต่อสู้เลือกเพลงดีเกินไปก็ได้!
แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะ
“พี่ฉิน พี่น่า!”
ลู่เฉินกลับมาด้านหลังเวทีอย่างไม่รู้อะไรเลย ยิ้มถามว่า “พวกพี่กำลังคุยอะไรกันอยู่ครับ”
พี่น่าหัวเราะฮ่าๆ กางแขนทั้งสองข้างกอดลู่เฉิน “เสี่ยวลู่ ยินดีด้วย!
………………………………………………………………..
Ink Stone_Fantasy
ข้อความถึงนักอ่าน
Ink Stone_Fantasy
เพลง 蓝莲花 โดย 许巍 https://www.youtube.com/watch?v=yvfLQotTNmY&ab_channel=ZhanhongWang