Perfect Superstar - ตอนที่ 421 โลกที่แตกต่าง
ตอนที่ 421 โลกที่แตกต่าง
หลีเจินปีนี้อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยภาษาจีนเซียงเจียง มีประสบการณ์การทำงานสามปี เคยติดตามนักแสดงระดับสองคนหนึ่งของเซียงเจียง มีความน่าเชื่อถือในวงการไม่เลว จึงถูกวั่นเสี่ยวเฉวียนดึงตัวมาร่วมงาน
วั่นเสี่ยวเฉวียนไม่ใช่คนแปลกหน้าของเซียงเจียง เมื่อสิบปีก่อนเขาได้ทำบัตรกรีนการ์ดของที่นี่ไว้แล้ว ถึงขึ้นวางแผนว่าจะมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่เซียงเจียง มีความสัมพันธ์อันดีกับนักแสดงท้องถิ่นหลายคนในเซียงเจียง
ดังนั้นหลังจากหอบหิ้วเงินทุนของลู่เฉินมาถึงเซียงเจียง วั่นเสี่ยวเฉวียนก็ลงมือทำอย่างรวดเร็ว เขาได้คนเก่งมากลุ่มหนึ่งผ่านการดึงตัวและรับสมัครพนักงาน แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่นอกเหนือจากการเป็นผู้กำกับ
เพียงแต่ความสามารถด้านนี้ของวั่นเสี่ยวเฉวียนมีจำกัด เขาจึงอยากให้ลู่เฉินมานั่งบังคับบัญชา เพราะไม่ว่าอย่างไรงานที่เขารักและเป็นงานที่แท้จริงของเขาก็ยังหนีไม่พ้นการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์
หลีเจินเป็นผู้ช่วยและเลขาที่วั่นเสี่ยวเฉวียนเตรียมไว้ให้ลู่เฉินโดยเฉพาะ หญิงสาวรูปร่างบอบบางคนนี้มีใบหน้ารูปไข่และดวงตากลมโต เวลายิ้มบนแก้มข้างขวาปรากฏลักยิ้มน้อยๆ ยังไม่ต้องพูดถึงรายละเอียดว่าเธอเก่งแค่ไหน เพราะอย่างน้อยเธอก็ดูน่ามอง
“คุณลู่เฉินสวัสดีค่ะ ฉันคือหลีเจินผู้ช่วยของคุณ…”
หลังจากวั่นเสี่ยวเฉวียนแนะนำเสร็จแล้ว หลีเจินก็ก้มโค้งทักทายลู่เฉิน “กรุณาชี้แนะด้วยค่ะ”
หลีเจินเป็นคนเซียงเจียงแต่กำเนิด แต่เธอพูดภาษาจีนกลางได้ชัดเจน เกือบไม่เพี้ยนเลย
นี่เป็นอีกเหตุผลที่วั่นเสี่ยวเฉวียนเลือกเธอ
ทางรัฐบาลกลางของเขตปกครองพิเศษเซียงเจียงใช้ภาษาจีนและอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่ภาษาดั้งเดิมของคนที่นี่คือภาษากวางตุ้ง ดังนั้นคนท้องถิ่นส่วนใหญ่หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยยังพูดได้แต่ภาษากวางตุ้ง การพูดคุยกับคนท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องยาก
แน่นอนว่าเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่มีความสำคัญกับเซียงเจียงมาก กลุ่มคนที่พูดภาษาจีนกลางได้จึงยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจร่วมกับจีนแผ่นดินใหญ่ หากพูดจีนกลางไม่ได้จะยิ่งยากลำบาก
หลีเจินเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปพลางเอ่ยว่า “สวัสดีครับคุณหลี”
ชื่อนี้ทำให้เขานึกถึงพี่หลีที่เมืองปักกิ่ง ชื่อของทั้งสองต่างกันแค่ตัวอักษรเดียว ถือว่ามีวาสนาต่อกัน
“คุณเรียกฉันว่าอาเจินก็ได้ค่ะ”
หลีเจินหน้าแดงตอนที่จับมือกับลู่เฉิน หัวใจเต้นแรงขึ้นหลายเท่า
เธอไม่ใช่เด็กสาวที่เพิ่งออกมาเผชิญโลก ยิ่งไม่ใช่คนหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เพียงแต่เจ้านายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้หล่อเหลาเอาการ จนหัวใจของหญิงสาวอดหวั่นไหวไม่ได้
หลังจากเริ่มทำงานให้กับสตูดิโอแห่งนี้ หลีเจินได้สืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเจ้านายคนใหม่ของเธออย่างละเอียด จึงรู้ว่าลู่เฉินเป็นศิลปินชื่อดังที่กำลังมาแรงในวงการเพลงป็อปและวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ ยังรู้อีกว่าแฟนสาวของเขาคือเฉินเฟยเอ๋อร์
ถ้าบอกว่าตอนนี้ความนิยมของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ในจีนแผ่นดินใหญ่แตกต่างกันไม่มาก เช่นนั้นที่เซียงเจียงนี้ เขากับแฟนสาวเทียบกันไม่ติด แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ยังสู้ดาราดังของเซียงเจียงไม่ได้เช่นกัน
เรื่องนี้มีหลายเหตุผลที่ซับซ้อน
ถ้าหลีเจินไม่ได้เปลี่ยนมาทำงานนี้ เธอคงไม่รู้ว่าลู่เฉินเป็นใครเช่นกัน
แต่หลังจากฟังผลงานเพลงของลู่เฉิน และดูละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หลีเจินก็กลายเป็นแฟนคลับของลู่เฉินไปโดยปริยาย ดังนั้นเมื่อได้พบกับดาราไอดอลจึงอดตื่นเต้นไม่ได้
ต้องบอกไว้ก่อนว่า ปีที่แล้วละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ยังไม่ได้ออกอากาศที่เซียงเจียง
“อืม อาเจิน ต่อไปต้องลำบากคุณแล้ว”
ลู่เฉินพยักหน้า และแนะนำจางเสี่ยวฟางให้เธอรู้จัก “คนนี้เป็นผู้ช่วยของผม จางเสี่ยวฟาง”
เมื่อเผชิญหน้ากับจางเสี่ยวฟาง ท่าทางของหลีเจินเป็นธรรมชาติกว่ามาก “พี่จาง ต่อไปช่วยชี้แนะด้วยนะคะ”
จางเสี่ยวฟางพูดไม่ค่อยเก่ง ได้แต่จับมือเธอย่างประหม่า “สวัสดีครับ”
วั่นเสี่ยวเฉวียนกล่าวว่า “เอาละ พวกเราเอาไว้ขึ้นรถแล้วค่อยคุยกันต่อดีกว่า ไปที่สตูดิโอกันก่อน”
รถมาเทียบท่ารออยู่ด้านนอกแล้ว
รถเบนซ์คันนี้ซื้อไว้ให้สตูดิโอลู่เฉินในเซียงเจียงใช้งานโดยเฉพาะ สามารถนั่งได้เจ็ดคน ราคาย่อมไม่ธรรมดา
แต่นี่เป็นสิ่งที่ต้องยอมจ่าย การทำธุรกิจในเซียงเจียงไม่มีรถยนต์ไม่ได้ รถราคาถูกก็ไม่ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นขับออกไปคนจะดูถูกเอา เพราะเมืองใหญ่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของรถหรูทุกแบรนด์ทั่วโลก ทั้งยังมีรถโรลส์รอยซ์มากที่สุดอีกด้วย
ใช้รถเบนซ์ในการทำธุรกิจถือว่าถ่อมตัวมากพอแล้ว ต่อไปยังต้องเตรียมรถยนต์ให้ลู่เฉินอีกคัน ถึงจะคู่ควรกับสถานะและตำแหน่งของเขา
แม้เซียงเจียงจะกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ปี 1969 แต่นโยบายประเทศเดียวสองระบบทำให้เซียงเจียงสามารถพัฒนาก้าวหน้าได้อย่างโดดเด่น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นประเพณีท้องถิ่นหรือว่ากฎหมาย ล้วนแตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่มาก
หรือกล่าวได้ว่าเป็นคนละโลกกันเลยทีเดียว
ตำแหน่งที่ตั้งของสตูดิโอลู่เฉินเซียงเจียงฟิล์มแอนด์ทีวีอยู่ที่ซีอิ๋งผาน ซึ่งเป็นย่านธุรกิจในเขตตะวันตกของเกาะฮ่องกง ห่างจากมหาวิทยาลัยเซียงเจียงไม่ไกลนัก พื้นที่เขตนี้เป็นศูนย์รวมของสถานีโทรทัศน์ที่สำคัญในเซียงเจียง รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทั้งหลาย รวมถึงบริษัทผลิตภาพยนตร์และสตูดิโอเรคคอร์ดน้อยใหญ่อีกหลายแห่ง เป็นใจกลางของวงการบันเทิงแห่งเซียงเจียง
วิ่งไปตามทางหลวงเกาลูนตะวันตกข้ามอ่าววิคตอเรีย เข้าไปในย่านธุรกิจที่เป็นป่าตึกสูง รถของคณะลู่เฉินไปจอดลงที่หน้าตึกสูงห้าสิบกว่าชั้นแห่งหนึ่ง
สตูดิโอตั้งอยู่บนตึกหรงจิ่นชั้นห้าสิบเก้า มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณสองร้อยตารางเมตร
เทียบกับสตูดิโอลู่เฉินในเมืองหลวงแล้ว สตูดิโอในเซียงเจียงเล็กกว่ามาก แต่ค่าเช่าไม่ถูกเลย ทุกเดือนต้องจ่ายสูงกว่าหนึ่งแสนดอลลาร์ฮ่องกง เทียบเท่ากับค่าเช่าพื้นที่ห้าร้อยตารางเมตรเลยทีเดียว
แต่เมื่ออยู่ในทำเลทองของเซียงเจียงราคานี้ถือว่าถูกแล้ว ถ้าเป็นพื้นที่ที่เลยซีอิ๋งผานไปทางตะวันออกอย่างย่านเซิงหว่าน ย่านเซ็นทรัล และย่านแอดมิรัลตี้ ตึกออฟฟิศพื้นที่เท่ากันค่าเช่าปีหนึ่งแพงถึงสองสามล้านดอลลาร์ เป็นเขตที่ราคาค่าเช่าแพงงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
วั่นเสี่ยวเฉวียนมาที่เซียงเจียงได้สองเดือน ทั้งเช่าที่ ขอใบอนุญาต หาคน ซื้อรถ เป็นต้น ล้วนต้องเบิกจ่าย เงินหลายล้านไหลออกราวกับสายน้ำ
แน่นอนว่าเงินก้อนนี้ไม่ได้เสียเปล่า นอกจากต้องลงทุนแล้ว การลงทุนช่วงแรกยังทำให้ลู่เฉินได้บัตรกรีนการ์ดมาอย่างง่ายดาย ไม่อย่างนั้นต่อให้เขาเป็นนักแสดงดังในจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ต้องขออนุญาตตามขั้นตอน ต้องเสียเวลาและกำลังอีกนาน
สำหรับบุคคลทั่วไป ตอนนี้ขอบัตรกรีนการ์ดได้ยากมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการโอนย้ายสัญชาติเลย
ด้วยสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูกับประชากรที่ล้นเมือง ไหนจะนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเซียงเจียงอีก ส่งผลให้ตอนนี้ราคาที่ดินในเซียงเจียงแพงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แพงกว่าปักกิ่งเสียอีก
ออฟฟิศขนาดสองร้อยตารางเมตร อันที่จริงถือว่าหรูหรามากสำหรับสตูดิโอของศิลปินที่เพิ่งเข้ามาตั้งตัวที่นี่ นักแสดงศิลปินท้องถิ่นเปิดสตูดิโอเองไม่น้อย แต่ไม่มีใครสามารถเช่าออฟฟิศที่ ‘ใหญ่’ ขนาดนี้ในเขตธุรกิจได้
ส่วนพนักงานในสตูดิโอลู่เฉินตอนนี้ นอกจากวั่นเสี่ยวเฉวียนและหลีเจิน ยังมีพนักงานต้อนรับ เจ้าหน้าที่ธุรการ พนักงานบัญชี ผู้ดูแลเว็บไซต์ นักวางแผนการตลาด รวมทั้งหมดเจ็ดคน
และผู้จัดการสตูดิโออีกหนึ่งคน…เฉินเหวินเฉียง
……………………………………