Perfect Superstar - ตอนที่ 438 เหมือนจะคุ้นหน้า
ตอนที่ 438 เหมือนจะคุ้นหน้า
นักร้องที่สามารถเล่นเองร้องเองได้ มักจะถูกคนมองว่าเหนือชั้นกว่าเสมอ เพราะนักร้องแบบนี้มักจะมีฝีมือที่ไม่แย่นัก และหลายคนก็จะมีเอกลักษณ์และสไตล์เป็นของตัวเอง มักจะมอบความเซอร์ไพรส์ให้ผู้คนโดยไม่รู้ตัว
ส่วนนักร้องมือสมัครเล่นที่เล่นเองร้องเองที่กล้าขึ้นไปปรากฏตัวบนเวทีให้คนอื่นให้วิจารณ์ ถ้าหากไม่ใช่ความสามารถไม่ถึงแต่มีความมั่นใจเกินเหตุ ก็จะเป็นคนที่มีฝีมือจริงๆ
ลู่เฉินดูแล้วเหมือนจะมีฝีมือ เขาสุขุมไม่สะทกสะท้าน มั่นใจมากพอ ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาของคนในแวดวงก็คือ ‘ไม่ตื่นเวที’ ไม่ประหม่าเลย คนแบบนี้เจ็ดสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนมีความสามารถ มักจะโชว์พลังออกมาอย่างเต็มที่เสมอ
ดังนั้นแม้ว่าสุดท้ายจะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว แต่ทุกคนก็ยังรอคอยเขา และอยากฟังอย่างตั้งใจ
ลู่เฉินกอดกีตาร์กระแอมหนึ่งที จากนั้นก็พูดกับไมค์ว่า “ผมมาฮ่องกงครั้งแรก และก็มาลานไควฟงกับลาดอลเซ่วิต้า 97 เป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ ทุกอย่างที่นี่ทำให้ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก”
“น่าเสียดาย ครั้งนี้ไม่ได้พาแฟนมาด้วย ผมเชื่อว่าเธอก็น่าจะชอบที่นี่เหมือนกันครับ”
ทุกคนปรบมืออย่างให้เกียรติมาก เพราะเห็นด้วยกับคำชมบาร์ลาดอลเซ่วิต้า 97 ของลู่เฉิน
ไม่มีใครคาดคิดว่า ลู่เฉินไม่ใช่คนฮ่องกง และยังมาที่ลานไควฟงเป็นครั้งแรก
แบบนี้ก็น่าสนุกแล้ว
ลู่เฉินกล่าวต่อว่า “จากนั้นก็เห็นคู่รักหลายคู่ในบาร์แห่งนี้ ดังนั้นผมจะร้องเพลงรักแล้วกันครับ ขอให้คนที่มีรักแท้ได้ครองคู่กันตลอดไป ขอให้คนโสดหาครึ่งหนึ่งของชีวิตตัวเองได้เช่นกัน”
เสียงปรบมือดังมากขึ้น
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “เพลงนี้ชื่อว่า ‘รักที่สุดในชีวิต[1]’ ขอมอบให้กับคนที่มีแฟนทุกคนครับ”
เขาดีดสายกีตาร์เบาๆ แล้วเริ่มการแสดงของตัวเอง
บนเวทีที่ทั้งแปลกหน้าและคุ้นเคยด้วยเช่นกัน
“ถ้าหากรอคอยอย่างโง่เขลา จนวันหนึ่งสิ่งที่รอคอยมาถึงในที่สุด สิ่งที่รักที่สุดในชีวิต
ใครจะสนใจความรักของเธอกับฉัน ทุกครั้งที่เจอเรื่องไม่คาดฝัน อนาคตไม่ชัดเจน
เคยเต็มใจหรือ สิ่งที่รักสุดในหัวใจของฉัน
ต้องมองทะเลเพียงลำพังอยู่ทุกวัน
ยอมไม่พูดตลอดชีวิต
ก็ไม่อยากพูดโกหกหลอกลวงเธอ
สังเกตเห็นความรักของเธอกับฉัน
เธอจะรู้สึกถึงระยะห่างที่กั้นอยู่นิดหน่อย
ความรักไร้ซึ่งคำพูด
ฉันกลับไม่กล้าพูดมัน
พูดคำว่าอยากอยู่กับเธอ
วู้~”
เพลง ‘รักที่สุดในชีวิต’ เป็นเพลงจีนกวางตุ้ง และเป็นผลงานเพลงภาษากวางตุ้งชิ้นแรกที่เขาหยิบยกออกมา ร้องที่นี่เหมือนเล่นๆ แต่สามารถเรียกได้ว่าคำพูดสะท้อนเสียงหัวใจ ร้องเพลงนี้ด้วยความเต็มใจ อยากร้องเมื่อไรก็ร้อง ไม่ได้ร้องเพราะชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ นี่คือคุณสมบัติที่นักร้องตัวจริงคนหนึ่งพึงมี
‘รักที่สุดในชีวิต’ เป็นบทเพลงที่อ่อนหวานและลึกซึ้ง เป็นเพลงที่คนร้องแสดงออกถึงความปรารถนาในความรัก เป็นความดึงดันและรอคอยในความรัก คือบทเพลงรักที่สามารถเป็นเพลงระดับตำนานได้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ลู่เฉินร้องเพลงนี้ออกมาอย่างลุ่มลึกและเต็มไปด้วยความนัย แต่ละคำแต่ละประโยคแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากใจ นี่ทำให้เสียงเพลงของเขามีเสน่ห์ที่พิเศษเป็นของตัวเอง ทำให้คนตั้งใจฟังโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ถลำลึกลงไปอย่างไร้การตอบโต้ เหมือนติดเชื้ออย่างรุนแรง
ภายในบาร์ลาดอลเซ่วิต้า 97 พลันเงียบกริบ ทุกคนฟังเพลงที่ไม่เคยฟังมาก่อนอย่างตั้งใจ แต่ละคำแต่ละประโยคแต่ละเสียงแต่ละลมหายใจ ราวกับถูกคำสาปของพญามาร
ไม่มีใครพูด แม้แต่พวกพนักงานหญิงก็หลบอยู่ตรงมุมข้างๆ สายตาจ้องมองไปที่ตัวของลู่เฉิน
หลีเจินกัดริมฝีปาก ไม่อยากเผยความตื่นเต้นในใจของตัวเองออกมา
เธอรู้ว่าลู่เฉินสุดยอดมาก แต่ความรู้สึกยามที่ได้ฟังลู่เฉินเล่นและร้องเพลงบนเวทีแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เนื้อหาข้อมูลสองสามหน้ากระดาษบางๆ จะอธิบายและแบกรับได้อย่างสิ้นเชิง
เฉินเจียหมิงทำสีหน้าเหมือนเห็นผี
เขาพยายามประเมินระดับความสามารถของลู่เฉินอย่างสูงที่สุดแล้ว โดยเฉพาะยามที่ลู่เฉินขอยืมกีตาร์ ทว่าความจริงมักโหดร้ายกว่าที่จินตนาการไว้เสมอ ลู่เฉินไม่เพียงไม่ถูกบดขยี้โดยเยี่ยเซวียน ตรงกันข้ามกลับกำลังบดขยี้อีกฝ่าย
แล้วจะให้เฉินเจียหมิงทนรับการโจมตีได้อย่างไร
เมื่อครู่กลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ของเขา มันช่างน่าขันมากแค่ไหน!
ใบหน้าของเฉินเจียหมิงร้อนวูวาบ คนที่อยู่ในบาร์ บางทีคงมีเพียงเขาที่รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
โชคดีที่ไม่มีคนสนใจเขา
ส่วนคนที่โต๊ะของเยวี่ยเซวียน ส่วนใหญ่ล้วนตกใจทั้งสิ้น
พวกเขาเดิมทีคิดว่าตัวเองชนะขาดลอยแล้ว เยี่ยเซวียนสามารถสยบทั้งหมดได้อย่างไร้ความกังวล แต่กลับคาดคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีหนุ่มหล่อที่เล่นและร้องเพลงได้โผล่พรวดออกมาเช่นนี้ แถมยังร้องได้ดีมากขนาดนี้
คนที่พอเข้าใจอยู่บ้าง สามารถวิเคราะห์ออกว่าระดับฝีมือการเล่นกีตาร์ของลู่เฉินสูงมาก เส้นเสียงของเขามีคุณสมบัติเฉพาะตัว พลังในการร้องเพลงยิ่งไม่ด้อย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนลมหายใจหรือการจัดการรายละเอียดต่างๆ ก็ควบคุมได้อย่างคล่องแคล่วมาก
และที่ยากจะได้เห็นที่สุดคือ ความจริงใจและความเร่าร้อนของอารมณ์รักที่แฝงอยู่ในเสียงเพลง ซาบซึ้งกินใจผู้คนได้อย่างง่ายดาย
การโชว์ความสามารถระดับนี้ เกรงว่านักร้องมืออาชีพส่วนใหญ่ก็ไม่อาจเปรียบเทียบได้ หรือว่าเดี๋ยวนี้เพลงป็อปในประเทศจีนพัฒนาไปถึงขั้นที่น่ากลัวมากแล้ว มาแค่คนเดียวก็สามารถทำให้คู่แข่งอายจนแทรกแผ่นดินหนีแทบไม่ทัน
หนึ่งคนในนั้นรู้สึกเหมือนจะคุ้นหน้าลู่เฉิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
สีหน้าของเยี่ยเซวียนเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมมาก เขาจ้องมองลู่เฉินที่นั่งอยู่บนเวทีอย่างเหม่อลอย ตกอยู่ในภวังค์
“…
เหมือนจริง เหมือนปลอม
จะแยกร่างแสดงเป็นตัวเองได้อย่างไร
มอบความอ่อนโยนที่อยู่กลางใจให้เธอที่รู้ใจแต่เพียงผู้เดียว
เหมือนโง่เขลา เหมือนหลงใหล
แต่ก็ยังหวังให้เธอรู้จักทะนุถนอมตัวเอง
หากวันหนึ่งแม้ว่าต้องแยกจากกันฉันก็จะคิดถึงเธอ
ฉันคิดถึงเธอจริงๆ
ถ้าหากรอคอยอย่างโง่เขลา จนวันหนึ่งสิ่งที่รอคอยมาถึงในที่สุด
สิ่งที่รักที่สุดในชีวิต!”
ท่อนเสียงสูงของเพลงนี้คือไฮไลต์ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ด้านหน้าพูดเสียงกระซิบเบาๆ อย่างอ่อนโยน พอถึงท่อนฮุก อารมณ์และความรู้สึกถูกยกระดับขึ้นมาทันที เสียงที่โดนใจอย่างสุดซึ้ง กระทบความรู้สึกของทุกคนอย่างรุนแรง
ถ้าหากคนหนึ่งรอคอยอย่างโง่งมงาย จะมีสักวันไหม ที่พวกเรารอคอยจนได้เจอคนที่รักสุดใจในชีวิต เมื่อพวกเราเจอคนที่ใช่ของชีวิตแล้ว ยามที่เผชิญหน้ากับความยากลำบาก ทั้งๆ ที่ไม่เห็นอนาคตชัดเจน แต่ยังจะจับมือกันและกันจนถึงวันที่แก่เฒ่าได้หรือไม่!
บทเพลงนี้ร้องให้ทุกคน เป็นความรู้สึกที่แท้จริงอย่างสุดซึ้ง
หลังจากที่ลู่เฉินดีดโน้ตตัวสุดท้าย ผ่านไปสักพักหนึ่ง เสียงปรบมือภายในบาร์พลันระเบิดขึ้นมา
ปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ ผิวปาก…คนหนุ่มสาวมักแสดงทัศนคติความชอบของตัวเองออกมาโดยตรงเสมอ
และยังมีสาวๆ อีกสองสามคนหยิบดอกกุหลาบที่เสียบอยู่ในแจกันบนโต๊ะ แล้วแย่งกันเอาไปให้ลู่เฉินบนเวที
นี่หมายความว่าพวกเธอยอมรับลู่เฉินแล้ว ดอกไม้หนึ่งดอกก็คือหนึ่งคะแนน
ในบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก่อนหน้านั้น มีเพียงเยี่ยเซวียนเท่านั้นที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เพราะเขาเป็นดารานักร้อง!
เสวี่ยนีอ้าปากหวออย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วพึมพำว่า “จริงหรือหลอกเนี่ย อาเจิน เพื่อนร่วมงานของเธอเก่งเกินไปแล้วมั้ง ทำไมเขาไม่ไปเป็นดารา จะต้องดังไปครึ่งฟ้าอย่างแน่นอน!”
สาวฮ่องกงคนนี้พลันรู้สึกว่า ถึงแม้ลู่เฉินจะเกาะผู้หญิงกิน เขาก็ต้องอาศัยความสามารถเช่นกัน
หลีเจินลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังเป็นฝ่ายคลายปมปริศนาเสียเอง “ความจริงลู่เฉินไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของฉัน แต่เป็นเจ้านายคนใหม่ของฉันต่างหาก เขาเป็นนักร้องหนุ่มที่มีชื่อเสียงมากในประเทศจีน และยังรับบทนักแสดงนำของละครโทรทัศน์ที่มีเรตติ้งสูงถึงสองเรื่อง ที่จีนเขาเป็นดาราระดับแถวหน้า และเวลาแต่งเพลงให้คนอื่นยังเสนอราคาเป็นล้าน!”
“อ๋า!”
เสวี่ยนีกับเฉินเจียหมิงและคนอื่นๆ ล้วนงงเป็นไก่ตาแตก
………………………………………………………………………..
[1] 一生中最爱หรือ รักที่สุดในชีวิต เนื้อร้องโดย เสี้ยงเสวี่ยไหว (向雪怀) ทำนองโดย อู่ซือข่าย (伍思凯)