Perfect Superstar - ตอนที่ 511 หลิวกั่งเซิง
ตอนที่ 511 หลิวกั่งเซิง
หอนาฬิกาเพลงซาลอนเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของคนดนตรีชาวฮ่องกง ไม่เพียงแต่เชิญคนดนตรีในฮ่องกงเท่านั้น นอกจากศิลปินนักร้องและคนแต่งเพลงแล้ว ยังมีสื่อและนักธุรกิจของบริษัทเอเจนซี่บันเทิงหรือบุคคลชั้นสูงอีกมากมาย
พวกเขามีตำแหน่งที่สูงมากในวงการบันเทิงของฮ่องกงอย่างไม่ต้องสงสัย
บรรยากาศในงานเพลงซาลอนผ่อนคลายมาก ไม่มีกฎระเบียบจำกัดเป็นข้อๆ ผู้ก่อตั้งซาลอนเลือกหัวข้อ จากนั้นผู้ที่มาร่วมงานก็สามารถแสดงออกได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะพูดคุย วิจารณ์ แม้กระทั่งขึ้นไปบรรยายหรือแสดงบนเวทีก็ได้ เจตนาหลักของการพูดคุยแลกเปลี่ยนไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ทว่าคนอย่างคุณนายจิน แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนในงานนี้ นั่นเป็นสิ่งที่พบเห็นน้อยมาก
และความคิดเห็นนี้ก็สัมผัสจุดอ่อนไหวของทุกคนเป็นอย่างมาก
นับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษใหม่ อุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศจีนพัฒนาอย่างก้าวไกล ได้รับอิทธิพลจากกระแสบันเทิงของยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รายการประกวดเรียลลิตี้โชว์ของประเทศจีนเกิดขึ้นไม่ขาดสาย แม้ว่าจะมีเสียงของนักวิจารณ์เกิดขึ้นมากมาย แต่ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้มีดาราที่มาจากรายการประกวดเหล่านี้กลุ่มใหญ่ สุดท้ายก็ถูกดันจนขึ้นไปเป็นดาราแถวหน้า ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจนคนอิจฉาริษยา
ศิลปินของฮ่องกงและไต้หวันหลายคนเห็นแล้วจึงอิจฉาตาร้อน รีบเคลื่อนตัวเข้ามาดิ้นรนต่อสู้ในประเทศจีน
หากมองเพียงผิวเผิน วงการบันเทิงของฮ่องกงเหมือนไม่สนใจเรื่องนี้ กระทั่งดูถูกเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงบริษัทบันเทิงมีเดียหลายแห่งได้ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงเปิดตัวรายการแข่งขันร้องเพลง แต่หากไม่จบด้วยความพ่ายแพ้ก็ต้องขายหน้ากลับไป ไม่มีอิทธิพลมากนัก
เมื่อสืบหาต้นเหตุ จึงรู้ว่าเงินลงทุนไม่พอ การโปรโมตของสถานีโทรทัศน์ไม่เอื้ออำนวย และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญ
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ ในฐานะนักวิจารณ์ของรายการประกวด ค่าออกรายการมักจะต่ำเสมอ ยากที่จะดึงดูดเบอร์ใหญ่ให้มาเข้าร่วมได้อย่างแท้จริง หรือไม่ก็มาร่วมงานแล้วแต่ไม่ทำให้เต็มที่
ส่วนผู้ชนะที่ได้รับรางวัล หากเทียบกับแชมป์ประกวดของประเทศจีนไม่มีค่าควรที่จะกล่าวถึงด้วยซ้ำ
ปัญหาต่างๆ มากมาย ทำให้รายการประกวดของฮ่องกงนอกจากมิสฮ่องกงกับมิสเอเชียแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรดี ไม่มีอิทธิพลต่อประเทศจีนอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นคุณนายจินจึงแสดงความคิดเห็นออกมา ถึงแม้ความคิดจะล้ำมาก แต่กลับทำให้ทั้งงานเงียบกริบ
ทุกคนต่างมองหน้ากัน และเกรงใจที่จะแสดงท่าทีออกมาโดยตรง
พวกเขาก็มีจุดยืนของตัวเอง แต่ละคนก็มีผลประโยชน์ที่ต่างกัน ถ้าอยากจะให้ร่วมมือกันผลิตรายการประกวดเพื่อกระตุ้นและสนับสนุนการสร้างสรรค์งานเพลงต้นฉบับ ยากที่จะเป็นไปได้
ความคิดของคุณนายจิน ดูจะเลยเถิดไปนิดหน่อย
ใช่ว่าทุกคนไม่อยากไว้หน้าคุณนายจิน แต่เรื่องนี้หากทำขึ้นมาแล้วมันซับซ้อนมากจริงๆ
เสียงที่เห็นด้วยจึงน้อยมาก
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ คุณนายจินจึงแอบถอนหายใจเล็กน้อย นัยน์ตาเผยแววตาผิดหวังออกมา
อิทธิพลของหอนาฬิกาเพลงซาลอนมีกำลังอ่อนลงอย่างต่อเนื่องในวงการบันเทิงฮ่องกง ผู้ที่ร่วมงานส่วนใหญ่จะพูดคุยกันเท่านั้น แต่ไม่ลงมือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกันมากนัก ตอนนี้หลักๆ แล้วจึงกลายเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ทางสังคมของคนวงในมากกว่า
เช่นนั้นมีความแตกต่างกับงานเลี้ยงที่อื่นตรงไหน
เธอขลุกอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายสิบปี เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของวงการอย่างถ่องแท้ เมื่อครู่ตอนที่ได้ยินคำพูดของลู่เฉิน เธอจึงอดไม่ได้ที่จะก้าวออกมาอยากจะทำอะไรสักนิดเพื่อเพลงป็อปฮ่องกงอย่างแท้จริง
ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้คนรู้สึกผิดหวัง
ลู่เฉินกล่าวว่า “ผมคิดว่าข้อเสนอของคุณนายจินดีมากครับ สตูดิโอลู่เฉินของพวกเรายินดีช่วยออกแรงอีกคนครับ”
คุณนายจินยิ้มให้ลู่เฉินเพื่อขอบคุณที่ช่วยพูดแก้สถานการณ์ให้ตนเอง
เสียดายที่ลู่เฉินมาจากประเทศจีน และไม่ใช่คนฮ่องกง ไม่อย่างนั้น…
“เพิ่มผมด้วยอีกคนนะครับ!”
ในเวลานี้ เสียงที่อ่อนโยนไม่ทิ้งความหนานุ่มดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้คน
ใครกัน
ลู่เฉินสนับสนุนคุณนายจินทุกคนก็พอเข้าใจ เพราะถึงอย่างไรคนหลังก็เพิ่งสนับสนุนคนหน้า ทั้งสองคนจึงสนับสนุนซึ่งกันและกัน
แต่มีใครอีกที่สนับสนุนความคิดไม่ค่อยน่าเชื่อถือของคุณนายจิน
ทุกคนอยากจะเห็นนัก
ผลสรุปคือเมื่อมองไปแล้ว แต่ละคนต่างงงเป็นไก่ตาแตก!
คนที่พูดว่า ‘เพิ่มผมด้วยอีกคน’ ดูเหมือนจะอายุประมาณสี่สิบกว่าปี เขาไม่ใช่คนสูงมาก ใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ แต่ทุกคนที่อยู่ในงานนี้ไม่มีใครดูถูกเขาสักคน
เพราะผู้ชายวัยกลางคนผู้นี้ เป็นดาราดังอันดับต้นของวงการบันเทิงฮ่องกง เป็นบุคคลระดับราชาของวงการที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด…หลิวกั่งเซิง!
ใครก็คาดคิดไม่ถึงว่า หลิวกั่งเซิงจะมาร่วมงานเพลงซาลอนครั้งนี้ด้วย แต่การปรากฏตัวที่นี่ของเขาอันที่จริงก็เป็นเรื่องปกติ เพราะหลิวกั่งเซิงก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหอนาฬิกาเพลงซาลอน
ตอนนั้นหลิวกั่งเซิงยังเป็นหนุ่ม แต่ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่เป็นผู้นำวงการเพลงป็อปฮ่องกงไปแล้ว
ผู้เป็นราชาเพลง ผู้นำไอดอลแห่งเอเชีย ผู้พิพากษาความเป็นธรรมอย่างไม่เป็นทางการของฮ่องกง เป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งในวงการเพลง ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์…
ในตัวของบุคคลผู้นี้มีตำแหน่งและเกียรติยศมากมายนัก เสียงที่เขาเปล่งออกมา ในความหมายอีกแง่หนึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจของวงการบันเทิงฮ่องกง ยากที่ใครจะเปรียบเทียบได้!
“พี่เซิง!” “คุณกั่ง!” “คุณหลิว!”
ไม่ว่าจะเป็นคนในวงการหรือคนนอกวงการ ไม่ว่าฐานะจะสูงหรือต่ำ ทุกคนที่อยู่ในงานนี้ต่างเข้ามาทักทายหลิวกั่งเซิง
หลิวกั่งเซิงยิ้ม…แล้วขานรับ
ท่ามกลางสายตาที่จดจ้องของทุกคน เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลู่เฉิน และเป็นฝ่ายยื่นมือไปหาคนหลังก่อน“สวัสดีครับ”
ลู่เฉินรีบจับมือกับเขา “พี่เซิงสวัสดีครับ!”
คนผู้นี้เป็นไอดอลวัยเด็กของเขา วันนี้ได้เจอตัวจริง ในใจรู้สึกตื่นเต้นมากจริงๆ
หลิวกั่งเซิงยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ที่ผมมาวันนี้ ก็เพราะอยากมาเจออัจฉริยะทางดนตรีแบบคุณเนี่ยแหละ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ”
เสียงตกใจเบาๆ ดังขึ้นรอบตัว
อัจฉริยะทางดนตรี!
หลิวกั่งเซิงให้คำประเมินแก่ลู่เฉินสูงไม่ธรรมดา
ลู่เฉินถ่อมตัวว่า “พี่เซิงชมเกินไปแล้วครับ ผมยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ครับ”
หลิวกั่งเซิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงมองเฉินเฟยเอ๋อร์ “คุณเฉิน พวกเราเจอกันอีกแล้วนะครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นมือ “พี่เซิงสวัสดีค่ะ!”
ในจีนแผ่นดินใหญ่เธอเป็นราชินีแห่งวงการเพลง แต่หากพูดถึงอิทธิพล กลับเทียบกับคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้
ทั้งสองคนเคยร่วมงานแสดงศิลปะบนเวทีขนาดใหญ่และได้เจอกันตอนนั้น
สุดท้ายสายตาของหลิวกั่งเซิงจึงมองไปที่คุณนายจิน “คุณจิน การแข่งขันนี้คุณเป็นคนตั้งทีม ผมจะเคลียร์ตารางว่างออกมาแล้วรับผิดชอบเป็นคณะกรรมการครับ”
คุณนายจินดีใจมาก “ขอบคุณค่ะ คุณกั่ง”
ทั้งสองคนถือว่ารู้จักกันนานแล้ว แต่ไม่นับว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ
หลิวกั่งเซิงออกมาสนับสนุนเธอ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่ไม่ได้ลึกซึ้งนัก แต่เกิดจากความต้องการสนับสนุนและความหลงใหลในเพลงป็อปฮ่องกง
ถ้าบอกว่าข้อเสนอแนะของคุณนายจินก่อนหน้านี้เป็นเพียงแนวคิดที่ดีแต่ไม่มีทางเป็นจริงได้ เช่นนั้นตอนนี้มีหลิวกั่งเซิงเข้ามาร่วมทีมแล้ว ความคิดนี้จึงกลายเป็นความจริงในฉับพลัน สามารถดำเนินการได้สูงมาก
หลายคนที่อยู่ในงานเริ่มใช้ความคิดขึ้นมาทันที
หลิวกั่งเซิงมองลู่เฉินอีกครั้ง แล้วเอ่ยว่า “ลู่เฉิน ในเมื่อความคิดของคุณนายจินมาจากคุณ งั้นคุณก็เป็นคนคิดชื่อรายการประกวดเพลงป็อปต้นฉบับรายการนี้จะดีกว่า และผมหวังว่าคุณจะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเช่นกัน!”
ภายในชั่วพริบตา ราวกับมีระเบิดลูกหนึ่งระเบิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้คน หลายคนรู้สึกตกใจไม่น้อย
…………………………………………………………………………