Perfect Superstar - ตอนที่ 545 เอฟเฟกต์ไม่เลว

ตอนที่ 545 เอฟเฟกต์ไม่เลว

ถนนเรดโรสทอดยาวจากตะวันออกไปถึงตะวันตก ตรงสุดถนนมีโรงหนังโรสเธียร์เตอร์ตั้งอยู่

ในบรรดาโรงภาพยนตร์น้อยใหญ่เป็นร้อยแห่งทั่วเกาะฮ่องกง โรงหนังโรสเธียร์เตอร์ไม่ใช่โรงหนังที่ใหญ่ที่สุด ไม่ได้มีอุปกรณ์นำสมัยที่สุด ในนั้นมีโรงหนังเพียงห้าโรงเท่านั้น ไม่มีโรงหนัง 3D เป็นโรงหนังคนละระดับกับโรงหนังออเรนทอลฮอลลีวูดเธียร์เตอร์

แต่ถ้าเป็นเรื่องชื่อเสียง โรงหนังโรสเธียร์เตอร์ไม่ได้ด้อยไปกว่าออเรนทอลฮอลลีวูดเธียร์เตอร์เลย และถ้าพูดถึงกระแสตอบรับของคู่รัก โรงหนังโรสเธียร์เตอร์เป็นที่นิยมมากกว่า

เพราะในโรงหนังโรสเธียร์เตอร์เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้คู่ หรือก็คือที่นั่งแบบสวีท ทั้งกว้างขวาง สะดวกสบาย และเป็นส่วนตัว นอกจากจะฉายหนังดีๆ จากฮอลลีวูดแล้ว ยังมีหนังรักโรแมนติกเป็นหลัก จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคู่รักหนุ่มสาว

เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ โรงหนังยังมอบป็อปคอร์นรสช็อกโกแลตเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย โรงหนังทั้งห้าโรงถูกจองจนเต็มตั้งนานแล้ว

ตั๋วของลู่เฉิน เฉินเหวินเฉียงได้มาจากการใช้เส้นสาย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางซื้อได้ทัน

ตั๋วนี้เป็นตั๋ววีไอพี ที่นั่งเป็นที่นั่งสวีทในห้องส่วนตัวเล็กๆ ที่เป็นส่วนตัวมากกว่า

หนังจะเริ่มตอนสองทุ่มสิบนาที ลู่เฉินพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาถึงตอนใกล้สองทุ่มตรง เขากวาดตามองที่จอด้านนอกโถงโรงหนังอย่างรวดเร็ว พบว่า ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ มีสัดส่วนการฉายอย่างน้อย 35%!

นี่มันยอดเยี่ยมไปเลย ปกตินอกจากหนังฮอลลีวูด หนังฮ่องกงหรือหนังร่วมทุนระหว่างฮ่องกงกับจีนที่เพิ่งเข้าโรงมีสัดส่วนการฉายอยู่ระหว่าง 10-30% เท่านั้น จากนั้นจึงจะปรับเปลี่ยนตามตลาดในภายหลัง

เริ่มต้นก็ 35% แล้ว เป็นระดับเดียวกับหนังใหญ่ฮอลลีวูด เมื่อคิดถึงหนังเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องที่ลงโรงในวันนี้ นับว่าโปรดิวเซอร์ของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ อย่างหวาก้วนพิคเจอร์สและซิงอี้เอนเตอร์เทนเมนต์ใช้ความพยายามมากในการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้กับเครือโรงภาพยนตร์จนประสบความสำเร็จตั้งแต่แรก

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อคู่แข่ง

‘โปเยโปโลเย’ ของลู่เฉิน จากความพยายามและการประสานงานของเจียหยางพิคเจอร์ส ได้สัดส่วนการฉายในวันที่ 21 ไม่เกิน 20% เท่านั้น ยังไม่รับประกันด้วยซ้ำ

เพราะการเปลี่ยนแปลงของตลาดผันผวนเหมือนสภาพอากาศ แม้จะคาดเดาล่วงหน้าได้ แต่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ‘โปเยโปโลเย’ ที่เปิดตัวหลังจาก ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ต้องเผชิญกับความกดดันจากฝ่ายหลัง

หาก ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ขายดี เครือโรงภาพยนตร์ก็จะเพิ่มสัดส่วนการฉายให้สูงขึ้น ภาพยนตร์เรื่องอื่นที่ฉายในช่วงเวลาเดียวกันรวมถึง ‘โปเยโปโลเย’ ต้องหลีกทางให้…จะไปขัดขวางการหาเงินของโรงหนังก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?

นี่เป็นเหตุผลที่ลู่เฉินพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาดูหนัง ได้ทั้งความโรแมนติกและเรื่องงานไปพร้อมกัน เขาไม่ได้กังวลถึงผลสำเร็จแพ้ชนะของ ‘โปเยโปโลเย’ แต่ก็จะไม่ประมาทคู่แข่งเช่นกัน

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์นั่งลงในห้องส่วนตัวเล็กๆ พนักงานบริการในโรงหนังเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มกับของขวัญเล็กน้อยแล้วจากไป เหลือพื้นที่ให้ทั้งสองได้สวีทกัน

ตอนที่จะจากไป พนักงานคนนั้นหันมามองลู่เฉินด้วยแววตาสงสัย

เธอรู้สึกว่าชายหนุ่มรูปหล่อตัวสูงคนนี้ดูคุ้นมาก เหมือนจะเป็นดารา เพียงแต่ปกติแล้วมีดารามาดูหนังในโรงหนังโรสเธียร์เตอร์อยู่บ้าง เธอจึงไม่ได้สนใจนัก

เฉินเฟยเอ๋อร์ซบอยู่ในอ้อมอกของลู่เฉิน เอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก “นายกำลังสอบทานกำลังของคู่แข่งอยู่เหรอ”

ลู่เฉินหลุดขำ “ไม่ได้เวอร์ขนาดนั้นหรอก…”

เงียบไปพักหนึ่ง เขาพูดต่อว่า “ความจริงโดยส่วนตัวแล้ว ยังหวังว่าจะได้ถ่ายหนังดีๆ อีกหลายๆ เรื่องทั้งในจีนและในฮ่องกงด้วย แย่งตลาดที่พวกเราสูญเสียไปกลับคืนมา”

ตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษใหม่ ตลาดภาพยนตร์ในประเทศยังคงร้อนแรง ยอดขายในบ็อกซ์ออฟฟิศเพิ่มสูงขึ้น กลายเป็นแหล่งบ็อกซ์ออฟฟิศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากอเมริกา ทั้งยังคาดการณ์ว่าจะแซงหน้าในอีกห้าปีข้างหน้า

แม้ตลาดจะมีขนาดใหญ่ แต่ส่วนแบ่ง 50% ของตลาดเป็นของภาพยนตร์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูด ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์อีก ซึ่งอย่างหลังมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90%

ยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับหนังฮอลลีวูดสามารถทำให้รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศได้กำไรสุทธิเกิน 200%

เทียบกันแล้ว ในด้านนี้หนังที่ผลิตในประเทศด้อยกว่าจนน่าสงสาร

นี่ทำให้คนที่รู้เรื่องภาพยนตร์ในประเทศทอดถอนใจเสียงดัง การจะทำให้ภาพยนตร์ของประเทศรุ่งโรจน์ ยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น กลายเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของคนทำภาพยนตร์หนุ่มสาวยุคใหม่

ในเรื่องนี้ ลู่เฉินที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ไม่นานก็เริ่มเข้ามาลิ้มลองแล้ว โมเดลตัวละคร โปสเตอร์ อุปกรณ์ประกอบฉาก เครื่องประดับ ของเล่นจากเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ จัดทำขึ้นในฮ่องกง และจะนำออกจำหน่ายที่โรงภาพยนตร์ในวันที่หนังเข้าโรง

ก่อนหน้านี้ตอนที่เข้ามา ลู่เฉินตั้งใจไปเดินดูมุมที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับภาพยนตร์ในโถงใหญ่ของโรงหนัง พบว่านอกจากโปสเตอร์ของ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นอีก

แม้บอกว่าหนังใหญ่ฮอลลีวูดนั้นเหนือกว่าในด้านนี้ แต่บริษัทภาพยนตร์ท้องถิ่นห้ามเคยชินกับข้อได้เปรียบนี้ ห้ามเอาตัวเองไปอยู่วงนอก ไม่พยายามทำอะไรเลยเพราะกังวลว่าจะขาดทุน

ในอีกแง่มุมหนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มั่นใจในตัวเองเต็มที่

คำพูดของลู่เฉิน ไม่ใช่เพื่อให้เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกว่าตัวเขามีคุณธรรมเพียงใด แต่มันออกมาจากใจจริง…ยิ่งเข้าสู่วงการภาพยนตร์ เขายิ่งรู้สึกมากยิ่งขึ้น

เฉินเฟยเอ๋อร์จับมือเขาไว้ จ้องมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายวิบวับ

เธอชอบที่ลู่เฉินเป็นแบบนี้!

บรรยากาศในห้องส่วนตัวเปลี่ยนเป็นอบอุ่นหวานแหวว จากนั้นหนังก็ได้เริ่มฉาย

เฉินเฟยเอ๋อร์ปรับท่านั่งใหม่ ให้อิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของลู่เฉินสบายขึ้น ลู่เฉินโอบเอวบางของเธอ ทั้งสองชมภาพยนตร์เรื่อง ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ผลงานของหวาก้วนพิคเจอร์สและซิงอี้เอนเตอร์เทนเมนต์เงียบๆ

หนังความยาว 110 นาทีฉายจบ ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว

เฉินเฟยเอ๋อร์บิดขี้เกียจ แล้วหาวอย่างน่ารัก ดูท่าทางง่วงนอนงัวเงีย

เธอหันมาจุ๊บลู่เฉินบนใบหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ดูจบแล้ว เรากลับกันเถอะ”

ลู่เฉินพยักหน้า ถามว่า “รู้สึกยังไงบ้าง”

เฉินเฟยเอ๋อร์ “เหอะๆ”

อาจเป็นเพราะคำตอบนี้ดูเรียบง่ายเกินไป เธอจึงเสริมขึ้นอีกว่า “เอฟเฟกต์ไม่เลวนะ”

เอฟเฟกต์ไม่เลว…

คำวิจารณ์นี้ลู่เฉินเห็นด้วย ไม่เสียแรงที่เป็นบริษัทสร้างเอฟเฟกต์หนังที่เก่งที่สุดในฮ่องกง แม้ยังไม่อาจเทียบมาตรฐานกับหนังฮอลลีวูดได้ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นมาตรฐานระดับแนวหน้า

ในฐานะที่เป็นภาพยนตร์แฟนตาซี แค่ด้านเอฟเฟกต์อย่างเดียว ลู่เฉินให้แปดคะแนน

เต็มสิบคะแนน

เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ พวกเราไปหาที่นั่งดื่มกันหน่อย”

วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เป็นค่ำคืนอันแสนโรแมนติก เสียเวลาอันมีค่าอยู่ที่นี่ถึงสองชั่วโมงก็มากพอแล้ว

ต่อไปควรจะเป็นช่วงเวลาสวีทของทั้งสองคน

……………………………………