Perfect Superstar - ตอนที่ 548 ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์ (2)
ตอนที่ 548 ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์ (2)
หลิวกั่งเซิงมาแล้ว
ลู่เฉินคิดไม่ถึงเลยว่าจะเชิญซูเปอร์สตาร์แห่งเกาะฮ่องกงคนนี้มาได้ เพราะฝ่ายนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ปกติตารางงานก็แน่นอยู่แล้ว อยากจะพบสักครั้งยังยากเลย
เขาเพียงแต่ทำตามมารยาท ให้คนนำบัตรเชิญไปมอบให้
สุดท้ายเหนือความคาดหมายของลู่เฉิน หลิวกั่งเซิงได้มาปรากฏตัวในงานฉายภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์จริงๆ ด้วย แล้วยังโพสต์ลงในบล็อกส่วนตัวของตัวเองด้วย
ในบล็อกเกาะฮ่องกงหลิวกั่งเซิงมีแฟนคลับมากที่สุด ในบรรดาคนบันเทิงเขามีอิทธิพลสูงที่สุด ดังนั้นคืนนี้จึงมีแฟนคลับมากมายมารอพบไอดอลของพวกเขา
หลิวกั่งเซิงต้องรู้ในจุดนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปทางที่จอดรถวีไอพีชั้นใต้ดินของโรงภาพยนตร์ข่ายเสวียน แต่กลับเลือกทางที่จะได้พบกับทุกคน ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังกลับไป
ในด้านการปฏิบัติต่อแฟนคลับ ชื่อเสียงของหลิวกั่งเซิงดีเสมอมา
เขาจึงได้รับความชื่นชอบและบูชาจากเหล่าแฟนคลับ และช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับ ‘โปเยโปโลเย’ โดยไม่รู้ตัว
ตั้งแต่มีคนเริ่มตะโกนชื่อ ‘หลิวกั่งเซิง’ จนกระทั่งตัวเขาเดินมาถึงหน้าประตูโรงภาพยนตร์ใช้เวลานานถึงสิบกว่านาทีเต็ม!
“พี่เซิง!”
ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์รอต้อนรับอยู่พร้อมกัน
คืนนี้หลิวกั่งเซิงยังคงสวมชุดสูทสีกรมท่ากับเสื้อเชิ้ตสีขาว เมื่อเห็นลู่เฉิน เขายิ้มให้อย่างอบอุ่นคุ้นเคยยิ่งกว่าแฟนคลับเสียอีก “พวกเราไม่ได้มาสายใช่ไหม”
หลิวกั่งเซิงไม่ได้มาเพียงลำพัง ยังมีหญิงสาวอีกคนเคียงข้าง
หญิงสาวคนนี้อายุประมาณสี่สิบปี รูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดราตรีสีม่วง ดูมีสง่าและงดงาม ผมยาวสีน้ำตาลเข้มปล่อยประบ่า
แม้เธอจะดูไม่เด็กอีกแล้ว เวลายิ้มมีรอยตีนกาพาดตรงหางตา แต่เมื่อยืนอยู่เคียงข้างหลิวกั่งเซิงก็ไม่มีใครมองข้ามเธอไปได้
ชื่อของเธอมีหลายคนที่ตะโกนเรียกออกมาแล้ว
หลิวกั่งเซิงแนะนำ “คนนี้คือธีน่า เป็นเพื่อนสนิทของผม คนนี้คือลู่เฉิน”
ดวงตาของเธอส่องประกาย เธอยื่นมือออกไปให้ลู่เฉินจับก่อน ยิ้มแย้มพูดว่า “ได้ยินกั่งเซิงพูดถึงคุณหลายครั้งแล้ว เป็นคนหล่อคนหนึ่งจริงๆ”
ลู่เฉินรีบจับมือกับเธอพลางตอบว่า “พี่ธีน่า สวัสดีครับ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาด้วย”
ชื่อภาษาจีนของธีน่าคือซือฟาง เธอกับหลิวกั่งเซิงเป็นศิลปินที่เข้าวงการพร้อมกัน และเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ทั้งร้องเพลงเล่นละครและภาพยนตร์สามแนวทาง เป็นบุคคลระดับราชินีแห่งวงการตัวจริง
ตั้งแต่เข้าวงการมา ซือฟางออกอัลบั้มส่วนตัวมาแล้วถึงสิบสองชุด ยอดขายแผ่นเสียงรวมแล้วหลายสิบล้าน เพลงของเธอไม่น้อยที่กลายเป็นตำนานได้เผยแพร่เข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ แฟนคลับมีอยู่นับไม่ถ้วน
ซือฟางยังเคยเล่นละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง เธอเคยได้รับรางวัลในด้านดนตรีและภาพยนตร์ไม่น้อยไปกว่าที่หลิวกั่งเซิงเคยได้รับ แต่ด้านดนตรีมากกว่าด้านอื่นเล็กน้อย
เมื่อห้าปีก่อนซือฟางป่วยหนักจนต้องออกจากวงการบันเทิงเพื่อไปรักษาและฟื้นฟูร่างกาย เธอไม่ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน แต่อิทธิพลของเธอยังดำรงอยู่ วันนี้เธอมาร่วมงานเปิดตัว ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์พร้อมกับหลิวกั่งเซิง พรุ่งนี้จะต้องได้เป็นข่าวใหญ่พาดหัวแน่นอน
สีหน้าของซือฟางดูไม่เลว เคยมีข่าวลือว่าเธอป่วยเป็นโรคที่ไร้ทางรักษา ตอนนี้ต้องฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงแล้วเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสแบบนี้
ลู่เฉินแนะนำเฉินเฟยเอ๋อร์ให้ซือฟางรู้จัก
เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นแฟนคลับของซือฟาง พอได้เจอไอดอลแล้วเธอตื่นเต้นมาก ส่วนซือฟางเองก็ชอบเฉินเฟยเอ๋อร์ ทั้งสองคนพูดคุยสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ปล่อยทิ้งลู่เฉินกับหลิวกั่งเซิงไว้ด้านข้าง
หลิวกั่งเซิงส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ถามลู่เฉินว่า “เจ้าเฉิน สะดวกคุยหน่อยไหม”
ลู่เฉิน “ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ”
หลิวกั่งเซิงคงไม่ได้พาซือฟางมางานนี้เปล่าๆ แน่นอน เรื่องที่เขาจะคุยกับลู่เฉินนั้นไม่ซับซ้อน แค่หวังว่าลู่เฉินจะช่วยเขียนเพลงให้กับอัลบั้มใหม่ของซือฟางสักสองสามเพลง
เพราะเธอหายจากวงการไปห้าปี ซือฟางเตรียมตัวจะหวนคืนสู่วงการอีกครั้ง เธอต้องมีอัลบั้มใหม่เพื่อเรียกความนิยมกลับคืน
แต่ด้านดนตรี ราชินีแห่งวงการคนนี้พิถีพิถันมาก เธอจบจากวิทยาลัยการดนตรีฮ่องกง ทั้งความรู้เฉพาะด้านและความสามารถในการแยกแยะดนตรีล้วนไม่ขาด ตั้งเป้าหมายไว้สูงมากกับผลงานเพลง เธอยังเขียนเพลงและบรรเลงเปียโนเอง เป็นหญิงสาวมากความสามารถจริงๆ
วงการเพลงป็อปฮ่องกงในวันนี้ขาดคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เหล่าผู้อาวุโสที่เก่งกาจถ้าไม่ออกจากวงการก็ล้มหายตายจากไปหมด หรือไม่ก็ไม่มีแรงบันดาลใจ ซือฟางเลือกแล้วเลือกอีกอยู่หลายเพลงก็ยังไม่เป็นที่พอใจ
ด้วยชื่อเสียงของเธอ บริษัทเอเจนซี่สามารถขอเพลงใหม่มาได้มากมาย แต่จำนวนมากไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ดี
หากซือฟางไม่พอใจเธอก็จะไม่จ่าย ราชินีแห่งวงการคนนี้นิสัยดื้อรั้น ใครพูดก็ไม่ฟัง
ด้วยเหตุนี้หลิวกั่งเซิงที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอในวงการจึงแนะนำลู่เฉิน
ลู่เฉินในวันนี้ไม่เหมือนกับตอนที่มาฮ่องกงใหม่ๆ ที่รู้จักคนในวงการเพียงไม่กี่คน
ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์ ผลงานเพลงมีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ฉายา ‘นักแต่งเพลงมือทอง’ แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการ และมีนักร้องกับบริษัทเอเจนซี่มากมายที่มาขอเพลงจากเขา
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือซูจิ้ง ตอนนี้อัลบั้ม ‘วันคืนสงบสุข’ ของเธอกำลังทำยอดขายได้ดีทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ อาศัยแค่เพลง ‘ลมฤดูร้อน’ และเพลง ‘กล้าหาญ’ ที่ลู่เฉินแต่งให้สองเพลงก็ติดอันดับนักร้องหญิงชั้นแนวหน้าของฮ่องกงแล้ว
หลังจากซือฟางได้ฟังเพลงที่ลู่เฉินร้องเองและผลงานเพลงที่เขาแต่งหลายเพลงแล้ว เธอก็ตัดสินใจทันที
คืนนี้เธอถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่
หลังจากได้รู้ที่มาที่ไปแล้ว ลู่เฉินตอบกลับอย่างไม่ลังเลว่า “พี่เซิงครับ เอาไว้เราค่อยนัดเวลาคุยกันอีกที”
หลิวกั่งเซิงชื่นชมลู่เฉินมาโดยตลอด ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากราชาแห่งวงการคนนี้ ลู่เฉินคงไม่อาจก้าวหน้าอย่างราบรื่นในฮ่องกง และหลอมรวมเข้าสู่วงการได้อย่างรวดเร็วเท่านี้
มีความสัมพันธ์แบบนี้ ลู่เฉินจะไม่ไว้หน้าเขาได้อย่างไรกัน
อีกอย่างการเขียนเพลงให้กับซือฟาง ถือเป็นเกียรติอย่างสูงเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีนักแต่งเพลงมากมายขนาดไหนที่อยากทำแต่ไม่ได้ทำ!
ได้ยินลู่เฉินรับปากแล้ว หลิวกั่งเซิงยิ้ม “ขอบใจมาก!”
คำขอบคุณของเขาออกมาจากใจจริง ทำให้ลู่เฉินหวั่นไหว
ในวงการบันเทิงฮ่องกง หลิวกั่งเซิงกับซือฟางเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมีมานมนานตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อน กลายเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อมา
ทั้งสองคนเคยมีข่าวฉาวด้วยกัน แต่สุดท้ายไม่เป็นความจริง แฟนหนุ่มที่ซือฟางเคยคบหาทั้งสองคนต่างเลิกราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และยังโสดจนถึงทุกวันนี้
ส่วนหลิวกั่งเซิงมีภรรยาและลูกแล้ว
ทางนี้ซือฟางกับเฉินเฟยเอ๋อร์พูดคุยกันพอสมควร ก็ได้เวลาเกือบสองทุ่มตรง ทุกคนจึงเดินเข้างานพร้อมกัน
ภายในโรงหมายเลข 1 ของโรงภาพยนตร์ข่ายเสวียนแทบไม่เหลือที่นั่งว่างแล้ว งานเปิดตัว ‘โปเยโปโลเย’ รอบปฐมทัศน์เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการโดยไม่มีพิธีรีตรองใดๆ เป็นพิเศษ
…………………………………………