Perfect Superstar - ตอนที่ 601 ความฝันของอันซิน (1)
ตอนที่ 601 ความฝันของอันซิน (1)
ฮู่ไห่ เขตตงอัน
ตอนที่อันซินกลับมาถึงที่พักเป็นเวลาตีสามแล้ว
เธอไขกุญแจเปิดประตูอย่างระมัดระวัง เมื่อเข้าไปในห้องก็ไม่เปิดไฟ ใช้เพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องเท่านั้น จากนั้นก็เดินย่องเข้าไปในห้องพักผ่อนของตัวเองเบาๆ
ห้องชุดขนาดเจ็ดสิบตารางเมตรนี้ถูกแบ่งเป็นสี่ห้อง รวมอันซินเข้าไปด้วยมีคนพักอยู่ในนี้ทั้งหมดเจ็ดคน เธอกับเพื่อนอีกคนหนึ่งพักอยู่ห้องเดียวกันมาเกือบสองปีแล้ว
อันซินถือว่าโชคดีมาก สองปีก่อนมาสู้ชีวิตในฮู่ไห่เพียงลำพัง เจอคนบ้านเดียวกันบนรถไฟใต้ดินโดยบังเอิญ วันที่สองก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ประหยัดเงินและความยุ่งยากได้ไม่น้อย
ปีนี้อันซินอายุยี่สิบสามปีเป็นนักร้องคนหนึ่ง เธอเป็นนักร้องเพลงบัลลาดแนวเพลงรัก ตอนนี้เธอร้องประจำอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งในเขตสัมปทานฝรั่งเศสเดิมของฮู่ไห่และร้องเพลงที่อื่นไปด้วย ถือว่าเป็น ‘คนหลงกรุงในฮู่ไห่’ คนหนึ่ง
ใช้ชีวิตในเมืองหลวงเรียกว่าคนหลงกรุง ใช้ชีวิตในฮู่ไห่เรียกว่าคนหลงกรุงในฮู่ไห่ อันซินเคยอยู่ที่เมืองหลวงแต่อยู่ไม่ไหว จึงย้ายมาสู้ชีวิตที่ฮู่ไห่แต่ก็ไม่ดีเหมือนกัน ถึงแม้คนมากมายจะชื่นชมความสามารถในการร้องเพลงและลูกคอของเธอ แต่รูปร่างและหน้าตาธรรมดา ทำให้เธอไม่สามารถโดดเด่นขึ้นมาจากแวดวงที่เต็มไปด้วยคนมากความสามารถ
หรือจะพูดน่าเกลียดหน่อย ต่อให้เธอขายตัวก็ไม่มีใครซื้อ ดังนั้นนอกจากรักษาเงินเดือนที่รับประกันขั้นต่ำไว้ ปกติเธอก็ไม่ได้ทิปอะไรมากนัก ฮู่ไห่เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยเยอะที่สุดในโลก จึงได้แต่ฝืนใช้ชีวิตกันไป
นี่คือยุคที่มองหน้าตา อันซินไม่เหมาะกับยุคนี้
“เธอกลับมาแล้วเหรอ…”
เธอเพิ่งจะวางกระเป๋า ก็ได้ยินเสียงสะลึมสะลือดังมาจากข้างหลัง
อันซินหันกลับไปโดยไม่ตกใจ แล้วตอบว่า “อืม ปลุกเธอตื่นเลย เธอนอนต่อเถอะ”
อีกฝ่าย ‘อืม’ หนึ่งที แล้วก็ไม่มีเสียงใดๆ อีก
การเคลื่อนไหวของอันซินยิ่งระวังมากขึ้น ถอดเสื้อโค้ต กางเกงขายาว และรองเท้าออกแล้วก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม
เรื่องล้างหน้าแปรงฟัน เธอทำเสร็จตั้งแต่อยู่ที่บาร์แล้ว แบบนี้จะได้ไม่รบกวนคนอื่นที่พักอยู่ด้วยกัน ห้องชุดห้องนี้มีห้องน้ำห้องเดียว ห้องรับแขกถูกแบ่งเป็นห้องพัก ฉนวนกันเสียงรบกวนแย่มาก
ด้วยเพราะเหตุนี้ การมีปากเสียงกันระหว่างเพื่อนบ้านจึงเกิดขึ้นง่ายมาก อันซินไม่ชอบทะเลาะกับคนอื่นยอมที่จะให้ตัวเองยุ่งยากหน่อย แต่ไม่ยอมที่จะมีปัญหาเยอะ
เธอเหนื่อยมากแล้ว
ผ้าห่มร้อนกำลังดีมอบความอบอุ่นให้อันซิน ปกติเธอแค่หลับตาก็ผล็อยหลับแล้ว แต่คืนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เธอยังมีสติดีมาก
สองสามวันที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดยาว ‘วันแรงงาน’ มีนักท่องเที่ยวต่างเมืองเข้ามาเยอะมาก กิจการในบาร์ดีเป็นพิเศษ เธอวิ่งงานเพิ่มอีกสองสามที่ ได้เงินมากถึงสองพันหยวน
แต่เงินพวกนี้ก็เก็บไว้ไม่ได้ เมื่อวานที่บ้านเพิ่งโทรมา วันนี้จึงจำเป็นต้องส่งเงินกลับไป
เธอเป็นพี่คนโตของครอบครัว ยังมีน้องชายกับน้องสาวอีกสองคน ค่าเล่าเรียนทุกปีเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสุขภาพของพ่อแม่ก็ไม่ค่อยดี หาเงินได้ไม่เยอะและต้องกินยาบ่อยๆ
อันซินคิดอยู่ว่าควรจะหางานพาร์ตไทม์ทำตอนกลางวันหรือไม่ ไม่อย่างนั้นคงประคองต่อไปไม่ไหว
เมื่อคิดไปมาความง่วงก็บุกโจมตี เธอผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เธอนอนหลับสนิท จนกระทั่งปลายจมูกรู้สึกคันแปลกๆ ทำให้อันซินต้องสะดุ้งตื่นจากฝัน
“ฮัดชิ่ว!”
เธอจามอย่างแรง แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังจากข้างหู “หมูน้อยจอมขี้เกียจ รีบตื่นเร็วเข้า!”
อันซินไม่สนใจพลิกตัวจะนอนต่อ ผลปรากฏว่ามือเย็นข้างหนึ่งสอดเข้าไปในอ้อมอก
“นี่ เธออยากตายใช่ไหม!”
คราวนี้อันซินนอนไม่หลับแล้ว ลุกขึ้นนั่งด้วยความขุ่นเคืองเตรียมจะโต้กลับ
คนที่ก่อกวนเธอแน่นอนก็คือคนบ้านเดียวกันกับเธอ ทั้งสองคนตอนนี้เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เพื่อนสนิทไม่กลัว “จะเที่ยงแล้ว ฉันซื้อเคเอฟซีมาให้เธอ ซาบซึ้งไหมล่ะ”
เธอส่ายถุงพลาสติกที่ตุงๆ ยัดใส่มือของอันซิน ถุงสีขาวที่มีผู้พันเคเอฟซีกับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ‘KFC’ สีแดงสามตัวสะดุดตาเป็นอย่างมาก และเย้ายวนมากเป็นพิเศษ
อันซินที่ได้กลิ่นหอมของอาหารตกใจมาก “เลี้ยงเคเอฟซีเกรงใจกันขนาดนี้เลยเหรอ!”
สาวคนบ้านเดียวกันกับเธอคนนี้เป็นพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ฐานะทางบ้านพอๆ กับเธอ ปกติจะใช้เงินประหยัดมาก โดยทั่วไปแล้วจะไม่เสียเงินซื้อเคเอฟซี…แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นเดียวที่กินไม่อิ่มแพงกว่าข้าวราดแกงเสียอีก
เพื่อนสนิทคนบ้านเดียวกันหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “คนอื่นเลี้ยงต่างหาก ฉันเลยเอามาให้เธอหนึ่งชุด ซาบซึ้งละสิ งั้นก็มอบตัวและหัวใจเธอมา!”
“ขอแค่เธอชอบก็พอ!”
อันซินรับถุงอาหารมาด้วยจิตใจเบิกบาน แล้งส่งสายตาที่ยั่วยวนให้เพื่อนสาวคนสนิท “วันนี้ฉันจะเป็นของเธอ”
“อี๋…”
เพื่อนสนิททำท่าขนลุกไปทั้งตัว เอ่ยว่า “ขนลุกไปหมดเลย ฉันไม่มีบุญที่จะได้รับ!”
ทั้งสองคนหัวเราะพูดคุยกัน แบ่งปีกไก่กินด้วยกันอย่างมีความสุข
อันซินนั่งกินบนเตียงจนอิ่ม รู้สึกพอใจมาก “เธออยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่ ตอนบ่ายไม่ต้องไปทำงานเหรอ”
เพื่อนสนิทคนบ้านเดียวกันพยักหน้า กล่าวว่า “ตอนบ่ายฉันหยุด สองสามวันนี้เหนื่อยมากจริงๆ อ้อใช่…”
เธอควักโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดเล็กน้อย และเอ่ยว่า “วันนี้ฉันเห็นรายการประกวดร้องเพลงในเน็ตชื่อว่า‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ บอกว่าพรุ่งนี้จะเริ่มทำการออดิชันทั่วประเทศ ฮู่ไห่ก็คือจุดออดิชัน เธอไม่ลองดูเหรอ”
เดอะวอยซ์ไชน่า?
อันซินไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ตอนนี้รายการประกวดผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด มีทุกรูปแบบเลยทีเดียว
เธอตระหนักได้แล้วจึงส่ายหน้า
อันซินก็เคยมีความฝันอยากจะเป็นดาราดัง และเคยเข้าร่วมรายการประกวด แต่ไม่เคยเข้ารอบแข่งขันอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง เพราะว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอมันธรรมดาเกินไป ไม่เหมาะสมกับความต้องการของคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
รายการประกวดตอนนี้ คนที่สามารถปรากฏตัวบนเวทีได้นอกจากภูมิหลังและความสัมพันธ์แล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย มากหน่อยก็ต้องมีความสามารถแต่งเพลงได้ นักร้องที่มีพลังเสียงในการร้องเพลงแต่ไม่มีความพิเศษอะไรอย่างเธอนอกจากความโชคดีพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ก็คงไม่มีโอกาสได้ออกหน้าออกตา
เจออุปสรรคสองสามครั้ง อันซินก็รู้สึกท้อแท้เหมือนกัน จึงกลบฝังความฝันของตัวเองไว้ในก้นบึ้งหัวใจ
“ไม่อยากไปจริงๆ เหรอ”
เพื่อนสาวคนบ้านเดียวกันพูดอย่างเสียดาย “ฉันคิดมาตลอดว่าความสามารถของเธอแข็งแกร่งกว่าดาราเยอะแยะ ไม่ลองก็น่าเสียดายแย่! ฉันเห็นในเน็ตพูดว่า ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ได้เชิญลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาเป็นโค้ชและกรรมการตัดสินด้วย นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญผู้มีเกียรติลึกลับอีกสองคน เธอนับถือลู่เฉินมากไม่ใช่เหรอ”
ลู่เฉิน!
อันซินตกใจมาก “จริงหรือหลอกเนี่ย”
ในบรรดานักร้องทั้งหมดของประเทศจีน อันซินชอบและนับถือเลื่อมใสลู่เฉินมากที่สุด ผลงานเพลงสร้างสรรค์ของลู่เฉินส่วนใหญ่แล้วเธอสามารถร้องได้เกือบทั้งหมด ผลงานเพลงบัลลาดที่เธอร้องคัฟเวอร์สองสามเพลงในบาร์ได้รับการต้อนรับที่ดีพอสมควร
เธอคิดมาตลอดว่า ลู่เฉินเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงที่โดดเด่นที่สุดในประเทศจีน
ถ้าหากลู่เฉินเป็นกรรมการ เช่นนั้นรายการประกวดนี้เธอจะไม่รู้ได้อย่างไร
เพื่อนสนิทยื่นโทรศัพท์ให้อันซินตรงหน้า “เธอดูเองก็แล้วกัน!”
อันซินเบิกตาโตอย่างช่วยไม่ได้ เพ่งสมาธิจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์เล็กๆ อย่างตั้งใจ!
…………………………………………………………………………