Perfect Superstar - ตอนที่ 624 แย่งชิงเงินทอง

ตอนที่ 624 แย่งชิงเงินทอง

ที่จริงเมื่อเดือนก่อน นั่นก็คือเดือนพฤษภาคม รายได้จากการขายไอเทมต่างๆ ของเกม ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ ก็ทะลุห้าสิบล้านไปแล้ว กำไรสุทธิไม่เพียงแต่เพียงพอที่จะชดเชยการลงทุนครั้งก่อนๆ ของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์เท่านั้น ยังทำให้เกิดผลกำไรขึ้นอย่างมหาศาลอีกด้วย

เกมเล็กๆ ที่ไม่ซับซ้อนนี้มีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนต่างหลงใหล ระดับความเหนียวแน่นของผู้ใช้งานนั้นสูงมาก และขอบเขตของกลุ่มผู้ใช้งานนั้นก็กว้างมากด้วย อายุมากอย่างคุณตาคุณยายที่อายุเจ็ดสิบแปดสิบ หรือแม้กระทั่งเด็กอายุไม่กี่ขวบก็เล่นเกมนี้กันทั้งนั้น

แม้ว่าสินค้าที่เรียกเก็บเงินในร้านขายไอเทมของเกม ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ จะมีราคาถูกมาก ส่วนใหญ่จะมีราคาเพียงหนึ่งหยวนหรือสองหยวน กระทั่งไม่กี่เหมาก็ยังมี บางทียังมีการมอบรางวัลการเติมเงินก้อนใหญ่ให้ด้วย แต่เพราะมีผู้ใช้มากเกินไป จึงเกิดผลกำไรที่น่าอัศจรรย์มาก

การตกเป็นเป้าของนักล่า เป็นเรื่องปกติมากๆ

“หลายวันก่อน ผู้จัดการแผนกลงทุนท่านหนึ่งของบริษัทเกมเฟยซวิ่นบินมาจากเซินไห่…”

เกาเฮ่อพูดต่อ “เขาได้เสนอราคาการซื้อขายเกมให้พวกเรา”

ลู่เฉินถาม “พวกเขาเสนอเงื่อนไขอะไรมาบ้าง”

เกาเฮ่อพูดตอบ “ทางบริษัทเกมเฟยซวิ่นมีทั้งหมดสองแผน หนึ่งคือซื้อหุ้น 90% ของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยเงินสองร้อยล้านหยวน อีกข้อหนึ่งคือ ซื้อเกม ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ ด้วยเงินหนึ่งร้อยแปดสิบล้านหยวน”

เสียงของพี่เกาดูเหมือนจะไม่มั่นใจนัก

ในคราแรกที่เขากับหวังเสี่ยวหลิงกัดฟันนำเงินเก็บของที่บ้านออกมาลงทุนก่อตั้งบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ มันเหมือนฝันไปเลยจริงๆ

เงินลงทุนช่วงแรกของบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์นั้นมีเพียงห้าล้านหยวนเท่านั้น ภายหลังลู่เฉินได้ลงทุนเพิ่มอีก แต่คิดอย่างไรก็ไม่ถึงสิบล้านหยวน ต่อให้รวมเงินที่ลงทุนโปรโมต ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ ด้วย อย่างไรก็ไม่มีทางเกินสิบห้าล้าน

แต่ตอนนี้ แค่หุ้นในส่วนของลู่เฉินก็มีมูลค่าถึงสองร้อยล้านหยวนแล้ว หากขายออกไปก็เท่ากับได้กำไรถึงสิบกว่าเท่า หาเงินได้เร็วกว่าไปปล้นธนาคารเสียอีก

หุ้นของเขากับหวังเสี่ยวหลิงเอง ก็ยี่สิบล้านแล้ว

นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไรเอง ไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ

ทางเฟยซวิ่นทราบว่าบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์มีหุ้นส่วนใหญ่อย่างลู่เฉินอยู่ เสียเงินไม่เสียดายอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะต้องการการลงทุนจากภายนอกมาเจือจางให้หุ้นของตนน้อยลง ดังนั้นจึงเสนอเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อเสีย อยากจะเอาเงินฟาดให้ลู่เฉินมึนงงไปเลย

เกาเฮ่อเวียนหัวขึ้นมาแล้วจริงๆ

เมื่อเห็นแววตาสับสนของเกาเฮ่อแล้ว หวังเสี่ยวหลิงก็หยิกเขาไปเต็มแรงด้วยอยากให้เขาได้สติ “ดูท่าทางที่ไม่เอาไหนของนายนี่สิ รายรับของพวกเราแต่ละเดือนตอนนี้ก็เกินร้อยล้านหยวนแล้ว จะเอาเงินแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านมาซื้อ ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ หรือ ฝันไปเถอะ!”

บริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่มีทางขายแน่นอน เมื่อตอนจัดตั้งบริษัทลู่เฉินได้พูดไว้ชัดเจนแล้วว่า เขาจะทำให้บริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์กลายเป็นบริษัทเกมอันดับหนึ่งในประเทศให้ได้ เพื่อส่งเสริมโครงการผลงานลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่ของเขา

แต่ว่าเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ นั้นสามารถขายได้

ในโปรเจกต์นี้ เดิมทีลู่เฉินอยากจะโกยเงินสักก้อนเสียก่อน แล้วค่อยเอาเงินที่หามาได้มาลงทุนในบริษัทต่อ สิ่งที่เขาอยากทำจริงๆ ก็คือ เกมออนไลน์ ทำเกมที่มีโปรดักชันยิ่งใหญ่ขึ้นมา

เพียงแต่รายรับของเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ ในตอนนี้แข็งแกร่งมาก หากจะขายออกไป หวังเสี่ยวหลิงเองก็ตัดใจขายไม่ลง นี่เป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ทองคำเชียวนะ หากขายไปจะไม่เป็นการฆ่าไก่เพื่อเอาไข่หรือ ต่อให้ขายจริงๆ ก็ต้องไม่ใช่แค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านแน่ๆ นี่คิดว่าพวกเราเป็นขอทานหรืออย่างไร

ลู่เฉินหัวเราะก่อนพูด “พี่สะใภ้พูดถูก หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านอยากจะซื้อเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ พวกเขาหวังสวยเกินไปมั้ง”

เกาเฮ่อเกาศีรษะ “อย่างนั้นนายอยากขายเท่าไร”

ลู่เฉินพูดคร่าวๆ ว่า “ยังไงก็ต้องสามร้อยสี่ร้อยล้านละ”

เขารู้ดีว่า เกมอย่าง ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ นี้ แม้ว่าจะสามารถโด่งดังในเวลาอันสั้นได้ แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นาน มันเทียบไม่ได้เลยกับเกมออนไลน์ ดังไปสักพักก็คงต้องปล่อยมือแล้ว

แน่นอน หากอยากจะซื้อไปถูกๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก เดือนนี้รายรับก็เกินร้อยล้านไปแล้ว ต่อให้มันจะดังแค่ไม่กี่เดือนมันก็เพียงพอแล้ว…ลงทุนไปเท่าไรกันเชียว

ว่ากันตามจริง หากบริษัทที่มาเจรจาไม่ใช่เฟยซวิ่น ลู่เฉินอาจจะไม่ยินดีขายก็ได้

ตั้งแต่เข้าวงการมา ลู่เฉินเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางเฟยซวิ่นมาตลอด อัลบั้มดิจิทัลของเขาก็ออกกับเฟยซวิ่นมิวสิคเช่นกัน ละครออนไลน์สองเรื่องออกอากาศครั้งแรกก็ที่เฟยซวิ่นวิดีโอ อีกอย่างเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ เองก็มีสมาชิกของเฟยซวิ่นอยู่จำนวนมาก

ลู่เฉินยินดีที่จะรักษาความร่วมมือนี้ไว้ตลอดไป ดังนั้นการขายเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ ให้แก่บริษัทเกมเฟยซวิ่นนั้นเป็นสิ่งที่รับได้อยู่แล้ว เหลือเพียงความเหมาะสมของราคาเท่านั้นในตอนนี้

เฉินเฟยเอ๋อร์ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ กำลังตกใจอย่างมาก

ตัวเธอรู้ว่าเกมที่ลู่เฉินลงทุนไปดังมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจะดังมากขนาดนี้ ถึงกับว่าถ้าเปลี่ยนมือจะขายได้ถึงหลายร้อยล้านเลย

แน่นอนว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ต้องเคยเห็นเงินมาก่อนอยู่แล้ว ในวงการนี้ชื่อเสียงของเธอที่เชี่ยวชาญในด้านการลงทุนนั้นโด่งดังมาก โดยเฉพาะการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ คนในวงการหลายคนเองก็นับถือเธอมากๆ

แต่เมื่อเทียบกับลู่เฉินแล้ว ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แทบจะไร้ค่าไปเลย ต่อให้อสังหาริมทรัพย์ในประเทศราคาขึ้นแค่ไหน ก็ไม่มีทางขึ้นไปหลายเท่าในหนึ่งปีแน่นอน

แต่การลงทุนด้านเกมของลู่เฉินนี้ ในหนึ่งปีสามารถเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าเลย!

เกาเฮ่อถาม “อย่างนั้นพวกเราจะไปเจรจากับพวกเขายังไงดี”

ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “เรื่องที่เป็นเรื่องเฉพาะทาง แน่นอนว่าก็ต้องให้คนที่มีความรู้เฉพาะทางมาเจรจา พวกเราตั้งทีมมาเจรจากับทางเฟยซวิ่นแล้วกัน”

เมื่อเกี่ยวข้องกับการซื้อขายมูลค่าหลายร้อยล้าน ตัวลู่เฉินเองก็ไม่มีความสามารถที่จะไปเจรจากับทางบริษัทเกมเฟยซวิ่น นี่ไม่ใช่การต่อราคาผักผลไม้ในตลาดสด มันเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นเยอะมากเกินไป ต้องให้คนที่มีความสามารถเฉพาะทางออกหน้า จึงจะสามารถการันตีผลประโยชน์สูงสุดได้

ในบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่มีคนที่มีความสามารถด้านนี้ ที่เฉินเฟยมีเดียเองก็ไม่มี แต่ลู่เฉินสามารถเชิญจากภายนอกได้

เขาโทรศัพท์หาหลี่มู่ซือ

ช่วงนี้หลี่มู่ซือกำลังทำเรื่องเอาเว็บไซต์ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก แน่นอนว่าต้องมีคนมีความสามารถด้านนี้แน่

แต่เมื่อหลี่มู่ซือเข้าใจเจตนาของลู่เฉิน ปฏิกิริยาแรกของเธอกลับเป็น “ที่แท้เกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ นี้เป็นของนายเหรอ ทำให้พนักงานในบริษัทฉันคลั่งไคล้เสียจนไม่เป็นอันทำงาน นายว่ามาก่อนดีกว่าว่าจะชดใช้ยังไง”

ลู่เฉินหัวเราะก่อนจะเอ่ยว่า “พี่มู่ซือ พี่จะให้ชดใช้อย่างไรได้ทั้งนั้น ผมเอาตัวเองชดใช้ก็ยังได้เลย”

“ถุย!”

หลี่มู่ซือถ่มน้ำลายไปหนึ่งทีแล้วพูดว่า “ฉันไม่ต้องการผู้ชายแย่ๆ อย่างนายหรอก ส่งเฉินเฟยเอ๋อร์มาชดใช้ดีกว่า”

ลู่เฉินหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ผู้หญิงอันธพาลนี่ยั่วยุไม่ได้เลยจริงๆ !”

หลังจากสวนลู่เฉินไปแล้ว หลี่มู่ซือก็ลำพองใจใหญ่ “เป็นใบ้แล้วหรือ ครั้งนี้พูดไม่ออกเลยสินะ รู้อยู่แล้วเชียวว่านายทำใจไม่ได้หรอก อยากจะให้ฉันช่วยก็ได้ ครั้งหน้าหากมีโปรเจกต์อะไรดีๆ อย่างนี้ จำไว้ว่าต้องเก็บไว้ให้ฉันส่วนหนึ่งด้วยนะ”

ลู่เฉินถึงกับลอบถอนใจ “นั่นไม่มีปัญหาแน่นอน”

เมื่อวางสายจากหลี่มู่ซือแล้ว ลู่เฉินก็แกว่งโทรศัพท์ในมือครู่หนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มพลางเอ่ยว่า “เรียบร้อย ทางปักกิ่งจะส่งทีมมา เพื่อมาช่วยพวกเราเจรจากับเฟยซวิ่น”

เกาเฮ่อยิ้มพลางกล่าวว่า “อย่างนั้นก็ดีเลย

เรื่องที่บริษัทเกมเฟยซวิ่นต้องการซื้อเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ นี้ ทำให้เขายุ่งยากใจมาหลายวันแล้ว

ทันใดนั้นจู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถาม “น้องสาม นายคิดจะซื้อบ้านในเมืองหัวโจวไหม”

……………………………………