Perfect Superstar - ตอนที่ 654 โชคดี
ตอนที่ 654 โชคดี
“ผู้หญิงเบอร์ 17 ไม่เลวเลยนะ ผู้ชายเบอร์ 47 ก็เหมือนกัน แล้วก็…”
ระหว่างเดินทางกลับจากวิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่ง ฟางฮุ่ยนั่งอยู่บนรถเปิดดูข้อมูลในมือที่จดไว้ เธอบอกกับลู่เฉินว่า “คนสุดท้ายที่ชื่อเจียงหยางซวี่ ฉันรู้สึกว่าเขาเหมาะจะแสดงเป็นหูหลีนะ อีกอย่าง…”
เธอยิ้มเล็กน้อย “ผู้ชายคนนี้เหมือนนายในตอนแรกนิดหน่อยด้วย”
เจียงหยางซวี่คนที่สัมภาษณ์เป็นคนสุดท้ายได้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับฟางฮุ่ย อย่างแรกการแสดงบนเวทีของเขาทำได้ดีมาก บทที่พูดออกมาแสดงได้อย่างสมจริง แม้จะมีความเคร่งเครียดเล็กน้อย แต่ยังฉายแววความเป็นดาวเด่นออกมา
ฟางฮุ่ยค่อนข้างพอใจผู้ชายคนนี้
จากการที่เธอสังเกตเจียงหยางซวี่ เธอรู้สึกเหมือนตอนที่พบลู่เฉินเป็นครั้งแรก ทั้งสองคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือ อ่อนเยาว์ สูงใหญ่ หล่อเหลา เพียงแต่ลู่เฉินดูมีวุฒิภาวะมากกว่า เจียงหยางซวี่ดูเหมือนเด็กใสซื่อมากกว่า มีความเป็นหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเหมือนกัน
หูหลีเป็นบทบาทสมทบชายลำดับที่สาม เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยพอดี
ลู่เฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ผมว่าได้ บทหูหลีเลือกเขาก็แล้วกัน ส่วนอีกสองคนที่อยู่ในรายชื่อผู้เข้ารอบ ถ้าไม่มีคนอื่นที่ดีกว่านี้ก็เลือกพวกเขาได้”
“ได้ค่ะ”
ฟางฮุ่ยพยักหน้า วาดวงกลมสีแดงลงบนชื่อของเจียงหยางซวี่
เด็กหนุ่มผู้โชคดี เธอกล่าวอยู่ในใจ
แม้การคัดเลือกนักแสดงในเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จะมีเธอเป็นผู้ตัดสินใจหลัก แต่ฟางฮุ่ยรู้แจ้งแก่ใจว่า เธอเป็นเพียงผู้คัดกรองเท่านั้น คนตัดสินใจเป็นลู่เฉินต่างหาก
ฟางฮุ่ยไม่ได้รู้สึกว่าเธอถูกละเมิดอำนาจ เพราะละครเรื่องนี้ลู่เฉินเป็นทั้งนักแสดงหลัก เป็นทั้งผู้เขียนบท แล้วยังเป็นนายทุนรายใหญ่อีกด้วย มีสิทธิ์มีเสียงในการออกความเห็นโดยชอบธรรม
แค่ได้เป็นผู้กำกับละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เธอก็พอใจมากแล้ว จึงไม่สนใจ ‘เรื่องเล็กน้อย’ พวกนี้
นอกจากนี้สายตาของลู่เฉินก็สูงส่งเหมือนกัน ทั้งละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และ ‘ฟูลเฮ้าส์’ สร้างนักแสดงหน้าใหม่ให้โด่งดังไปแล้วกี่คน? เธอรู้ดี
ฟางฮุ่ยเหมือนกำลังมองเห็นดาวดวงใหม่อีกดวง กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ตอนนี้เองเจ้าของชื่อที่ถูกวงกลมแล้ว กำลังกลับไปสู่ที่ซุกหัวนอนของตัวเองอย่างกระวนกระวาย
รุ่นพี่ยังอยู่
เมื่อเห็นเจียงหยางซวี่กลับมา เขากระโดดเด้งขึ้นมาจากที่นอนรุดเข้ามาซักว่า “เป็นไงบ้าง”
เจียงหยางซวี่ยิ้มแห้ง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รอฟังข่าวเถอะ”
รุ่นพี่รู้สึกว่าตัวเองเสียท่าไป จึงกล่าวอย่างเก้อเขินว่า “ก็จริง ผลไม่ออกเร็วขนาดนี้หรอก”
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ต่อให้เขาได้รับคัดเลือก ก็ยังต้องรอเวลาอีกสองสามวัน ยังมีการสัมภาษณ์รอบสองอีก…เฉินเฟยมีเดียไม่ใช่ทางเดินที่โรยด้วยกลีบดอกไม้
เจียงหยางซวี่ผ่อนคลายลง เขาตบบ่ารุ่นพี่บอกว่า “รุ่นพี่ กินข้าวหรือยัง เที่ยงนี้ผมเลี้ยงเอง พวกเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารเล็กๆ ข้างนอกกันสักมื้อ!”
รุ่นพี่ยิ้มแย้มดีใจ “กำลังรอประโยคนี้ของนายอยู่เลย!”
เจียงหยางซวี่หัวเราะออกมา
ทั้งสองคนออกมาจากหอพัก ไปรับประทานอาหารกันข้างนอก
เดินไปถึงกลางทาง เจียงหยางซวี่ได้พบกับหญิงสาวหลายคน หนึ่งในนั้นทักทายเขา “เจียงหยางซวี่ พวกนายจะไปไหนกัน”
เจียงหยางซวี่อึ้ง ตอบกลับด้วยสำเนียงท้องถิ่นว่า “ออกไปกินข้าว…”
ขณะที่ตอบ สายตาของเขาตกไปอยู่ที่สาวสวยข้างกายฝ่ายตรงข้ามอย่างอดไม่ได้
สาวคนนี้เป็นรุ่นน้องในสาขาของเขา รู้จักกันมาเป็นปีแล้ว เขารู้สึกดีกับเธอมาก เพียงแต่ไม่กล้าจีบไม่กล้าสารภาพรัก แอบชอบอยู่ในใจเท่านั้น
เจียงหยางซวี่รู้สถานภาพของตัวเองดี เขาไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในวิทยาลัยภาพยนตร์ที่มีแต่คนเก่งแห่งนี้ ในกระเป๋าก็มีเงินไม่มาก ยังต้องออกไปทำงานพิเศษ ขาดคุณสมบัติพื้นฐานในการจะมีแฟน
ฝ่ายหลังถูกเจียงหยางซวี่จ้องจนหน้าแดง แต่ก็ยังพยักหน้าให้เขา
หญิงสาวที่ทักทายเจียงหยางซวี่นั้นหน้าตาธรรมดา แต่นิสัยซุกซนมาก ถามยิ้มๆ ว่า “เจียงหยางซวี่ นายจ้องน้องหงซิ่วของเราแบบนี้ หมายความว่าไง”
เจียงหยางซวี่หน้าแดง ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไรดี
โชคดีที่มีเพื่อนมาด้วย รุ่นพี่ยิ้มตาหยีตอบว่า “ยังมองไม่ออกอีกเหรอ หยางซวี่ของเราบอกว่าจะเลี้ยงข้าวทุกคนน่ะสิ ไม่รู้ว่าน้องคนสวยจะให้เกียรติไหมครับ”
หญิงสาวในกลุ่มนั้นมองหน้ากันไปมา ยิ้มแล้วตอบตกลง
ทุกคนล้วนเป็นหนุ่มเป็นสาว ทั้งยังเป็นเพื่อนนักเรียน แม้จะเรียนกันคนละสาขาวิชา แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเรื่องคุย
จากสองคนเพิ่มเป็นหนึ่งกลุ่ม ร่วมกันรับประทานอาหารในห้องส่วนตัวของร้านอาหารเล็กๆ นอกรั้ววิทยาลัย หลังจากสั่งอาหารเจ็ดแปดอย่างและเบียร์อีกหนึ่งลัง ทุกคนพูดคุยหัวเราะกันดื่มกินอย่างสนุกสนาน
หญิงสาวที่ชื่อหงซิ่วถูกจัดให้นั่งข้างเจียงหยางซวี่ ปากกระจุ๋มกระจิ๋มของเธอจรดอยู่ที่ปากแก้วเบียร์ เธอมองดูเจียงหยางซวี่แล้วถามว่า “เจียงหยางซวี่ วันนี้นายขึ้นเวทีเป็นคนสุดท้ายเลยใช่ไหม”
เจียงหยางซวี่พยักหน้า “ใช่…ฉันเห็นเธอด้วย เธอแสดงได้ดีนะ”
การสัมภาษณ์ในวันนี้มีคนเข้าร่วมมาก ซูหงซิ่วได้ขึ้นเวทีแสดงในคิวแรกๆ
เธอรู้สึกเก้อเขิน “ขอบใจ”
คุยถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็พูดขึ้นมา
“ลู่เฉินนี่หล่อจริงๆ เลย แต่ดูไม่ค่อยเหมือนกับในทีวีเท่าไหร่”
“ครั้งนี้ไม่รู้เขาจะเลือกใคร อาจารย์เฉินอาจจะเลือกไปสักสองสามคน คนที่ถูกเลือกโชคดีมาก!”
“เมื่อคืนเพิ่งดูในอินเทอร์เน็ต แฟนคลับในบัญชีทางการของละครเรื่องนี้เกินล้านไปแล้ว ยังไม่ทันได้เปิดกล้องเลย ในบล็อกก็ไม่มีข่าวหลุด สุดยอดจริงๆ!”
“ต้องได้แชมป์เรตติ้งอีกแน่นอน!”
พูดไปพูดมา ทุกคนก็หันเหประเด็นมาที่ซูหงซิ่วและเจียงหยางซวี่
เพราะทั้งสองเรียนสาขาการแสดง ทั้งยังไปเข้าร่วมการสัมภาษณ์ในวันนี้
“เจียงหยางซวี่ ซูหงซิ่ว พวกเธออาจจะได้รับเลือกก็ได้นะ!”
“เหอะๆ ถ้าพวกเธอกลายเป็นดาราแล้ว ต้องดูแลเพื่อนฝูงอย่างพวกเราด้วยนะ!”
ทั้งสองคนหน้าแดงขึ้น เจียงหยางซวี่โบกมือ “ล้อเล่นน่า ฉัน…”
กริ๊งๆๆ
เขากำลังจะพูดว่า ‘ฉันจะโชคดีขนาดนั้นเลยเหรอ’ แต่ถูกเสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะเอาไว้ก่อน
เจียงหยางซวี่รับโทรศัพท์ “ฮัลโหล สวัสดีครับ”
เขาคิดว่าเป็นกองถ่ายที่เขาไปทำงานพิเศษอยู่โทรมา น่าจะมีเรื่องเร่งด่วน
กองถ่ายห่วยแตก เรื่องห่วยแตกก็มีเยอะ
แล้วสีหน้าของเจียงหยางซวี่ก็เปลี่ยนไป “ครับ ได้ครับ ไม่มีครับ ไม่มีปัญหาครับ! ขอบคุณครับ!”
วางสายโทรศัพท์ เขายังอึ้งอยู่
ผ่านไปครู่ใหญ่ เจียงหยางซวี่ถึงรู้สึกว่าทุกคนกำลังจ้องเขาอยู่
รุ่นพี่ถามอย่างสงสัยว่า “หยางซวี่ เป็นอะไร”
เจียงหยางซวี่ลูบหน้าตัวเอง ตอบด้วยท่าท่างที่ไม่อยากจะเชื่อว่า “คน…คนของเฉินเฟยมีเดียโทรมาหาผม บอกให้พรุ่งนี้ไปสัมภาษณ์”
พูดจบ ตอนแรกในห้องอาหารเล็กๆ เงียบกริบไร้เสียง จากนั้นเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่น!
……………………………………