Perfect Superstar - ตอนที่ 670 เรื่องดี
ตอนที่ 670 เรื่องดี
เมื่อคืนนี้ สวนสาธารณะสู่ซานในเมืองเทียนฝู่ ผมได้เป็นประจักษ์พยานในการถือกำเนิดของวงดนตรีใหม่
ความจริงจะบอกว่าเป็นการถือกำเนิดก็ไม่ถูก เพราะวงที่ชื่อว่า ‘นิพพาน’ นี้ได้ก่อตั้งมานานแล้ว ทั้งยังมีชื่อเสียงในวงการอยู่บ้าง เพราะมันเป็นวงของลู่เฉิน
แต่เมื่อคืนนี้ หลังจากเล่นดนตรีประกอบให้กับลู่เฉินสองเพลงแล้ว วงนิพพานในฐานะวงดนตรีเอกเทศก็ได้นำผลงานเพลงเพลงแรกที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ซึ่งมีชื่อเพลงว่า ‘ความรักของพวกเรา’ มาแสดง
เพลงนี้ทำให้ผมได้ทำความรู้จักวงนิพพานใหม่อีกครั้ง ได้รู้จักนักร้องนำของวง…หวังจิ้ง
หญิงสาวที่ทั้งสะสวย เข้มแข็ง และเฉียบขาดปราดเปรียว!
ผมไม่ได้พูดเล่น…
เนื้อหาข้อความด้านบนนั้น มาจากเจ้าของบล็อกคนหนึ่งที่มีแฟนคลับติดตามจำนวนสามล้านกว่าคนในบล็อกล่างฉาว เจ้าของบล็อกนี้เป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และเป็นคอลัมนิสต์ด้วย เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการ
เขามาร่วมงานเทศกาลดนตรีเทียนฝู่ในฐานะแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ ทั้งยังได้เขียนบทความหลายบทลงในบล็อก จากงานเทศกาลดนตรีครั้งนี้ บทความนี้เป็นบทความที่ยาวที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ในบทความยาวเหยียดนี้ เขามอบคำชมเชยผ่านปลายปากกาอย่างอบอุ่นให้กับการแสดงครั้งแรกที่เพิ่งจบลงของวงนิพพาน คิดว่าวงนิพพานเป็นวงดนตรีป็อปที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ธรรมดา และยกย่องนักร้องนำอย่างหวังจิ้ง ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าคนดนตรีคนนี้รับเงินค่าจ้างจากเฉินเฟยมีเดียหรือไม่
ความจริงก็คือไม่
หลังจากคลิปวิดีโอของงานเทศกาลดนตรีเทียนฝู่ในคืนวันที่ 8 สิงหาคมถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ หัวข้อที่เหล่าแฟนเพลงพูดถึงนอกจากผลงานเพลงใหม่ของลู่เฉินอย่าง ‘ความเสียใจหมื่นครั้ง’ แล้ว ก็คือเพลง ‘ความรักของพวกเรา’ ของวงนิพพาน
เหมือนที่เจ้าของบล็อกได้กล่าวเอาไว้ เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้ได้รู้จักกับวงนิพานอย่างแท้จริง และได้รู้จักนักร้องนำของวงนิพพานอย่างหวังจิ้ง
เพลงเดียวโด่งดัง!
สี่คำข้างต้นสามารถนำมาใช้กับวงนิพานและตัวหวังจิ้งได้เป็นอย่างดี
คลิปวิดีโอเพลง ‘ความรักของพวกเรา’ ถูกแชร์ต่ออย่างมหาศาล อันดับแรกได้รับความชื่นชอบและแนะนำต่อจากแฟนคลับของลู่เฉิน เพราะเพลงนี้ออกมาจากมือของลู่เฉิน และวงนิพพานเองก็เซ็นสัญญากับบริษัทเฉินเฟยมีเดีย
เป็นความสัมพันธ์แบบสายตรง
และลู่เฉินก็แนะนำวงนิพพานในบล็อกส่วนตัวของเขาเองในขณะเดียวกัน
ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ เมื่อคืนวานบัญชีทางการของวงนิพพานที่เพิ่งเปิดใช้ ภายในคืนเดียวมีคนติดตามจากศูนย์เพิ่มเป็นมากกว่าหนึ่งล้าน แม้ไม่ได้ทุบสถิติการมีแฟนคลับติดตามทะลุล้านเร็วที่สุดของบล็อกล่างฉาว แต่การโด่งดังแบบก้าวกระโดดก็ทำให้คนอดปากอ้าตาค้างไม่ได้
นี่ทำให้คนในวงการไม่รู้ตั้งเท่าไรพากันอิจฉาตาร้อน วงดนตรีในประเทศมีไม่น้อย แต่ที่โด่งดังจริงๆ นั้นมีไม่มาก วงดนตรีส่วนใหญ่ล้วนดิ้นรนวิ่งรอกออกงานเพื่อหาเลี้ยงชีพหรือไม่ก็รักษาความฝันเอาไว้ แต่กลับมีไม่กี่คนที่รู้จักชื่อของพวกเขา
เยี่ยงวงนิพพานที่ได้โด่งดังในค่ำคืนเดียว นั่นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก
ฉะนั้นจึงมีคนออกมาเหน็บแนมว่า ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาช่างเย็นสบายเหลือเกิน แต่ไม่ว่าจะอิจฉาก็ดี ริษยาก็ช่าง วงนิพพานในวันนี้ได้กลายเป็นวงดนตรีเกิดใหม่ที่โด่งดังวงหนึ่งแล้ว
ฉายา ‘นักปั้นมือทอง’ และ ‘นักปั้นดาราหน้าใหม่’ ของลู่เฉิน ยิ่งโด่งดังมากขึ้นในวงการ!
วันรุ่งขึ้นหลังจากไปร่วมงานเทศกาลดนตรีเทียนฝู่ ลู่เฉินก็พาผู้ช่วยกลับมาถึงเมืองปักกิ่ง
วงนิพพานยังอยู่ต่อ พวกเขานอกจากแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมวงการแล้ว ยังต้องร่วมแสดงในวันสุดท้ายของเทศกาลดนตรีอีกครั้ง ระหว่างนั้นยังมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ และมีคำเชิญจากรายการต่างๆ เป็นต้น
ทางเฉินเฟยมีเดียได้ส่งผู้จัดการส่วนตัวกับผู้ช่วยมาให้ด้วย เพื่อดูแลเรื่องงานประจำวันของวงนิพพาน
ตอนนี้สิ่งที่ลู่เฉินทำให้วงนิพพานได้ มีเพียงเท่านี้ วงดนตรีวงนี้อนาคตจะพัฒนาต่อไปอย่างไร ต้องอาศัยความพยายามและการตัดสินใจของพวกเขาเป็นสำคัญ
เหมือนกับนกอินทรีหนุ่มที่ทะยานออกจากรัง สุดท้ายต้องอาศัยกำลังของตัวเองบินขึ้นสู่ท้องฟ้า!
เพราะเที่ยวบินดีเลย์ ลู่เฉินจึงมาถึงเมืองหลวงในวันที่ 9 ตอนบ่าย กว่าจะถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว
จากนั้นเขาก็ได้พบกับแขกที่คาดไม่ถึงอยู่ในบ้าน
“เธอมาได้ยังไง”
แขกที่คาดไม่ถึงคือเถียนเถียน ตอนลู่เฉินเดินเข้าบ้านมา เธอสวมผ้ากันเปื้อนกำลังช่วยงานวุ่นอยู่ในครัว โต๊ะอาหารด้านนอกถูกจานอาหารต่างๆ วางจนเต็ม
ลู่เฉินประหลาดใจ เพื่อนรักของเฉินเฟยเอ๋อร์คนนี้ไม่อยู่ที่หังโจว กลับมาทำอาหารอยู่ในบ้านของเขา?
ว่างมากเกินไป?
เอาเถอะ ประโยคนี้อาจจะไม่ถูก
เถียนเถียนกับเฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นหน้าออกมาจากห้องครัว ทั้งสองเหมือนพี่สาวน้องสาวแสนสวย ฝ่ายแรกหัวเราะคิกๆ ถามว่า “ฉันมาไม่ได้เหรอไง”
เฉินเฟยเอ๋อร์อธิบายว่า “เถียนเถียนมาปักกิ่งเพื่อคุยสัญญากับเคจีเอส”
“เคจีเอส?”
ลู่เฉินยิ่งประหลาดใจ “สตาร์แฟคตอรีกับเคจีเอสไปมาหาสู่เรื่องงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
เคจีเอสเป็นสถานีโทรทัศน์อันดับสามของประเทศเกาหลี มีการร่วมงานกับลู่เฉินในระยะราว ละครสองเรื่องที่แล้วของลู่เฉินล้วนถูกเคจีเอสนำไปออกอากาศ และได้รับเรตติ้งสูงมาก
การถ่ายทำละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ครั้งนี้ เคจีเอสได้ร่วมผลิตด้วย ทั้งยังแนะนำนักแสดงชาวเกาหลีมาให้หนึ่งคน
ตอนนี้เคจีเอสเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับเฉินเฟยมีเดีย แต่กับสตาร์แฟคตอรีที่อยู่ไกลถึงเมืองหังโจวไม่มีความเกี่ยวข้องกันสักนิด
เถียนเถียนแหว “เมื่อก่อนไม่มี ตอนนี้มีไม่ได้หรือไง”
ลู่เฉินยอมแพ้ “มีได้”
ปากของอดีตพิธีกรชื่อดังแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตงคนนี้ร้ายกาจมาก เขาไม่กล้ารับรองว่าจะเถียงชนะเธอได้
ประหยัดแรงเอาไว้ดีกว่า ไม่สู้นั่งลงกินอะไรก่อน ลู่เฉินหิวจนท้องร้องไส้กิ่วแล้ว
อย่างว่าอย่างนั้นเลย อาหารที่เถียนเถียนกับเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมกันปรุงออกมานั้นรสชาติไม่เลว ลู่เฉินขยับตะเกียบไปมาจัดการอาหารตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ
หลังจากเฉินเฟยเอ๋อร์กับเถียนเถียนทำอาหารทุกเมนูเสร็จแล้ว ก็นั่งลงร่วมรับประทานด้วยกัน
ทุกคนกินไปคุยไป ลู่เฉินถึงได้รู้ว่าเถียนเถียนมาเจรจากับเคจีเอสถึงเมืองปักกิ่งด้วยเรื่องอะไร
เพราะเรื่องลิขสิทธิ์ของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’!
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ทางเคจีเอสชื่นชอบศักยภาพในการดึงดูดความนิยมและรูปแบบของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ จึงมีความคิดว่าจะนำรายการนี้ไปผลิตที่ประเทศเกาหลีบ้าง เพราะรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ได้จดลิขสิทธิ์ในหลายประเทศแล้ว ดังนั้นทางเคจีเอสจึงติดต่อมาทางสตาร์แฟคตอรี
เถียนเถียนจึงต้องเดินทางมาปักกิ่ง
ลู่เฉินเข้าใจแล้วก็หัวเราะพูดว่า “นี่เป็นเรื่องดีทีเดียว!”
เฉินเฟยมีเดียได้ส่งออกละครโทรทัศน์ไปที่เกาหลี สตาร์แฟคตอรีส่งออกรายการบันเทิง เรียกได้ว่าชนะทั้งสองเรื่อง
“เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว!”
เถียนเถียนยกฝ่ามือซ้ายขึ้น แล้วฟันฉับลงมาอย่างดุเดือด “ครั้งนี้ฉันจะต้องฟันคนเกาหลีเข้าสักที!”
ลู่เฉินเหลือบตามอง “โหดน่าดู…”
เถียนเถียนได้ใจ “แน่นอนสิ คนถ้าไม่โหดก็ยืนไม่มั่นคง!”
ลู่เฉินพูดไม่ออก ประโยคนี้เขาได้เคยพูดกับเถียนเถียนมาก่อนแล้ว
แต่นี่ก็เป็นเรื่องดีจริง
…………………………………………