Perfect Superstar - ตอนที่ 693 คุณเป็นคนดี
ตอนที่ 693 คุณเป็นคนดี
คอนเสิร์ต ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ครั้งแรกถูกจัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์เจ้อตง ซึ่งเท่ากับเป็นงานเลี้ยงฉลองของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’
ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากออกอากาศเดอะวอยซ์ซีซันแรกจบแล้วจะจัดงานคอนเสิร์ตหนึ่งครั้ง กำลังสำคัญของคอนเสิร์ตคือโค้ชทั้งสี่บวกกับเด็กนักเรียนที่แข็งแกร่งอีกสิบคน และเพิ่มแขกรับเชิญอีกสามคน ใช้เวลานานประมาณสามชั่วโมง
สำหรับเด็กนักเรียนที่แข็งแกร่งทั้งสิบคนของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ งานคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็เหมือนหน้าที่ของพวกเขาและจำเป็นต้องมาร่วมงาน
อันซินที่เป็นแชมป์ของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ งานคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นโอกาสโชว์หน้าตาที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับเธอ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะพลาดอย่างแน่นอน และยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัญญาที่ตกลงกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตง
ทว่าเธอกลับผิดนัด!
“เกิดอะไรขึ้น”
ลู่เฉินประหลาดใจมาก ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องการเซ็นสัญญา เขาที่เป็นตัวแทนของเฉินเฟยมีเดียได้เกิดข้อขัดแย้งกับอันซิน แต่ถ้าอันซินไม่มาร่วมงานคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ครั้งนี้ เช่นนั้นคงน่าเหลือเชื่อเกินไป
หรืออยากจะใส่ร้ายเฉินเฟยมีเดีย บอกว่าเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์จงใจกดดัน ไม่ยอมให้อันซินขึ้นแสดง?
แบบนี้มันไร้สาระเกินไป!
เถียนเถียนยิ้มเจื่อนๆ เอ่ยว่า “เธออยู่ที่โรงพยาบาล…”
อันซินพักอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองหลวง สาเหตุของการป่วยคือเลือดออกในกระเพาะกับพิษสุราเล็กน้อย…ดื่มเหล้ามากเกินไป
และไม่ใช่คนอื่นคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม แต่เป็นเธอเองที่อยากดื่มเหล้าย้อมใจ
เถียนเถียนบอกว่า “ผู้ช่วยของเธอโทรมาหาฉัน บอกว่าอันซินแตกหักกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจมาก ไม่น่าเชื่อคำพูดบ้าบอของผู้จัดการคนนั้น ทำให้ตัวเธอไม่ใช่คน”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้…
ลู่เฉินเข้าใจแล้ว ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “งั้นผมจะพูดกับบริษัท ส่งคนไปเยี่ยมเธอ”
เนื้อแท้ของอันซินไม่ใช่คนเลวร้าย และพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของเธอก็ยอดเยี่ยมมาก ไม่อย่างนั้นจะได้เป็นแชมป์ของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ได้อย่างไร ทว่าการได้รับความสนใจอย่างมหาศาลที่มาอย่างกะทันหันทำให้เธอเสียความสมดุล บวกกับคำยุยงของผู้จัดการ ดังนั้นจึงเดินผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนจะมาหังโจว ลู่เฉินได้ทำความเข้าใจกับทางรถยนต์จงหวาแล้ว รถยนต์จงหวาเลิกจ้างอันซินเป็นพรีเซ็นเตอร์รถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขา และเตรียมสัญญาพรีเซ็นเตอร์ให้ถงซินเหยาที่เพิ่งเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียรับงานแทน
รถยนต์จงหวาหลังจากรู้ข่าวว่าอันซินปฏิเสธการเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้ จะว่าไปแล้วมีความเกี่ยวข้องกับลู่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะลู่เฉินถือว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ดาราดังเบอร์ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของรถยนต์จงหวาเลยก็ว่าได้ ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีการร่วมงานที่ดีต่อกันเป็นอย่างยิ่ง
ในละครเรื่องใหม่ของลู่เฉิน ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ รถยนตร์จงหวาเป็นรถยนต์แบรนด์เดียวที่ได้โฆษณาแฝงในเรื่อง อาศัยความดังของละครโทรทัศน์ระดับตำนานเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
โดยเฉพาะรถยนต์จงหวาสปอร์ตรุ่น GPK350 ทำยอดขายสองสามเท่าภายในครึ่งเดือน!
มีเรื่องราวภูมิหลังแบบนี้ รถยนต์จงหวาละทิ้งอันซินจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีการสนับสนุนของลู่เฉิน อันซินผลักดันแบรนด์รถยนต์จงหวาไม่ได้…เธอไม่มีแม้แต่ผลงานของตัวเอง
เทียบกันแล้ว ถงซินเหยาที่มาแทนที่อันซินได้ร่วมทัพกับเฉินเฟยมีเดีย จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และหากพูดถึงหน้าตา ถงซินเหยาแข่งแกร่งกว่าอันซินหลายเท่า!
ลู่เฉินเปลี่ยนมุมมองความคิด ถ้าหากตัวเองเป็นอันซิน เกรงว่าคงรู้สึกท้อในชีวิตสุดๆ
ควรทราบว่าสัญญาพรีเซ็นเตอร์ของรถยนต์จงหวา ไม่เพียงแต่สามารถยกระดับของตัวเองได้เท่านั้น ยังได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ทว่าเนื่องจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดจึงกลายเป็นฟองอากาศ ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
เธอดื่มเหล้าย้อมใจจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทว่าดื่มหนักไปหน่อยเท่านั้นเอง
“จริงๆ ฉันดูถูกเธอมาก ที่อกตัญญู…”
เถียนเถียนถอนหายใจเอ่ยว่า “แต่ตอนนี้รู้สึกเห็นใจเธอนิดหน่อย ได้ยินผู้ช่วยของเธอพูดว่า เธอไล่ผู้จัดการคนนั้นไป ยอมที่จะฟ้องคดีแต่ไม่อยากทำผิดอีกต่อไป”
ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดเธอรู้ดี และรู้สึกเสียดายแทนอันซินเป็นอย่างยิ่ง
เพราะสาเหตุจากเฉินเฟยเอ๋อร์ เถียนเถียนถึงได้รู้จักอันซินก่อนที่จะผลิต ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ดังนั้นอันซินจึงมีเบอร์ส่วนตัวของเธอ ผู้ช่วยถึงได้โทรมาหาเธอเพื่อขอลาหยุด
เซินเยวี่ย!
มุมปากของลู่เฉินแสยะยิ้มอย่างเย็นชา ทางเซินเยวี่ยน่าจะร้อนใจมาก แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว อันซินถ้าอยากจะฉีกหน้าทำเรื่องใหญ่โต เกรงว่าทางเซินเยวี่ยก็คงปวดหัวสุดๆ เหมือนกัน
ฟ้องคดีไม่น่าเป็นไปได้ ยกเลิกสัญญาไม่มีปัญหา เพราะถึงอย่างไรมูลค่าทางการค้าของอันซินในตอนนี้ก็ลดต่ำลงมาก
เซินเยวี่ยถือว่าฉวยโอกาสไม่สำเร็จแถมยังขาดทุนอีกต่างหาก นี่คือผลของการทำตัวเองแท้ๆ!
เมื่อคิดแล้ว ลู่เฉินหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง ค้นเบอร์จากรายชื่อผู้ติดต่อแล้วโทรออก
ฝ่ายนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว “เอ๊ะ คนดัง มีเวลาว่างโทรมาหาข้าน้อยได้ยังไงคะ”
เสียงของอีกฝ่ายยั่วยวนมาก แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงต่อว่า ดูเหมือนเป็นผู้หญิงที่ถูกลู่เฉินทอดทิ้ง
ลู่เฉินจนใจมาก หยุดไปชั่วขณะหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ผู้อำนวยการซู ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณครับ!”
เขาโทรศัพท์ครั้งนี้คือโทรหาซูชิงเหมยผู้อำนวยการของชิงอวี่มีเดีย
จะว่าไปแล้ว ลู่เฉินกับซูชิงเหมยรู้จักกันนานแล้ว รู้จักมานานกว่าเฉินเฟยเอ๋อร์เสียอีก
ซูชิงเหมยถือว่าตาแหลมนัก ตอนที่ลู่เฉินร้องเพลงอยู่ในบาร์เดย์ลิลลี่ก็อยากจะให้เขาเซ็นสัญญาด้วยแล้ว เสียดายที่ยอมทิ้งการเซ็นสัญญาศิลปินหน้าใหม่กับลู่เฉิน ผลสุดท้ายกลับพลาดหุ้นที่มีศักยภาพอย่างแท้จริงไปอย่างเสียเปล่า
อันที่จริงตอนนั้นด้วยสถานภาพของลู่เฉิน ถ้าหากซูชิงเหมยหยิบสัญญาที่มีค่าตอบแทนมหาศาลมายั่วเขา ลู่เฉินไม่แน่อาจจะเซ็นจริงๆ
ไม่ว่าอย่างไรก็ถือว่าทั้งสองฝ่ายมีวาสนาต่อกัน หลังจากนั้นซูชิงเหมยเซ็นสัญญากับวงเฮสิเทชั่น ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังในวงการ และยังร่วมงานกับสตูดิโอลู่เฉินมาตลอด
เมื่อได้ยินลู่เฉินพูดเรื่องงาน ซูชิงเหมยจึงตั้งใจทันที “เรื่องอะไรคะ”
เมื่อก่อนตอนที่เพิ่งรู้จักลู่เฉิน เธอนั้นก้มมองลู่เฉินลงมาจากที่สูง ตอนนี้แทบจะต้องแหงนหน้ามองแล้ว พูดล้อเล่นนิดหน่อยได้ แต่จะเล่นเกินไปไม่ได้
ลู่เฉินถามว่า “อันซินคุณรู้จักไหม”
ซูชิงเหมยประหลาดใจ “แชมป์เดอะวอยซ์?”
ในฐานะคนวงใน ข่าวสารของเธอถือว่าไวมาก “ได้ยินว่าเป็นเพราะเรื่องเซ็นสัญญาจึงแตกหักกับพวกคุณ”
ลู่เฉินไม่ปฏิเสธ จากนั้นจึงเล่าสถานการณ์ของเธอในตอนนี้อย่างคร่าวๆ
ซูชิงเหมยฉลาดมาก เข้าใจในทันที “คุณอยากให้พวกเราเซ็นสัญญากับอันซิน”
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ถึงยังไงเรื่องก็เป็นแบบนี้ เซ็นไม่เซ็นพวกคุณตัดสินใจเองครับ”
ซูชิงเหมยพูดอย่างไม่ลังเล “เซ็น พวกเราต้องเซ็นอยู่แล้ว!”
ในฐานะแชมป์ของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ตอนนี้ความนิยมของอันซินสูงมาก ต่อให้มีผลกระทบที่ใหญ่มากเพราะเรื่องเซ็นสัญญาก็ตาม แต่ถ้าหากไม่มีปัญหาละก็ จะถึงตาของชิงอวี่มีเดียได้อย่างไร!
นี่เท่ากับได้ของมาฟรีเลยก็ว่าได้!
ลู่เฉินเอ่ยว่า “งั้นคุณก็ติดต่อกับพี่สาวของผม ถึงตอนนั้นคุณก็ตามไปเยี่ยมเธอด้วยกัน”
ซูชิงเหมยกล่าวด้วยความความเบิกบานใจ “ขอบคุณคุณนะคะ กลับมาเมืองหลวงฉันจะเลี้ยงข้าวคุณค่ะ”
ลู่เฉินหัวเราะ
เขาเตรียมจะวางสาย ก็ได้ยินซูชิงเหมยพูดว่า “ลู่เฉิน คุณเป็นคนดีนะคะ”
……………………………………………….