Perfect Superstar - ตอนที่ 700 เข้าสู่ยุทธภพอีกครั้ง

ตอนที่ 700 เข้าสู่ยุทธภพอีกครั้ง

แนวคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่โดดเด่นเฉพาะตัว พล็อตเรื่องน่าสนใจบวกกับการผลิตด้วยใจที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สองดาราไอดอลชื่อดังกับฝีมือการแสดงที่ดีเยี่ยม ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ นับตั้งแต่ที่ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เรตติ้งดีตลอด กวาดตลาดละครโทรทัศน์ในประเทศจีนจนเกลี้ยง

พอลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์กลับจากหังโจวมาถึงเมืองหลวง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ได้ออกอากาศเป็นตอนที่ห้าแล้ว เรตติ้งเฉลี่ยมากถึง 5.78% เรตติ้งสูงสุดที่เกาหลีทะลุ 35% พุ่งทะยานสู่ด่าน 40%!

เนื่องจาก ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เป็นละครรายสัปดาห์ใช้รูปแบบการถ่ายทำไปพร้อมกับออกอากาศ และออกอากาศสองตอนต่อหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นจึงมีความต้องการสูงสำหรับการถ่ายทำ นักแสดงหลักทั้งสองคนไปร่วมงานคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ที่หังโจวทำให้ล่าช้าไปสองสามวัน จึงจำเป็นต้องรีบชดเชยความคืบหน้าหลังจากนี้

ดังนั้นลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์พอถึงเมืองหลวง ก็ไม่ได้สนใจที่จะพักผ่อน รีบยุ่งอยู่กับงานถ่ายทำทันที มองโรงถ่ายไหวโหรวเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองไปแล้ว

จนกระทั่งประมาณวันที่ 10 สิงหาคม ในที่สุดทั้งสองคนได้ถ่ายช็อตที่ตัวเองค้างไว้เสร็จเสียที สามารถพักผ่อนหายใจหายคอได้สองวัน ไม่อย่างนั้นต่อให้แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าก็ไม่อาจทนทำงานหนักได้เป็นเวลานานเช่นนี้

“ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!”

พอกลับถึงบ้านที่จื่อเฉิงย่วน เฉินเฟยเอ๋อร์ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง แล้วบ่นว่า “ต่อไปจะไม่ทนเหนื่อยขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าต้องลำบากไปทำไม!”

คำบ่นของเฉินเฟยเอ๋อร์จริงๆ แล้วก็มีเหตุผลมาก เพราะสำหรับเธอ หาเงินได้เยอะพอแล้ว ลำพังรายได้พรีเซ็นเตอร์โฆษณาทุกปีก็หลายสิบล้าน บวกกับค่าตัวนักแสดงก็เกินร้อยล้านแน่นอน

และเงินที่เธอหามาได้ส่วนใหญ่ก็จะนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และห้างร้าน หลายปีที่ผ่านมานี้ราคาบ้านในประเทศพุ่งสูงมาก ถึงแม้เธอไม่ขายอสังหาริมทรัพย์ แค่ปล่อยเช่าก็มากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายไร้กังวล

ลู่เฉินยิ้มแต่ไม่พูด นั่งลงบนโซฟาแล้วสวมกอดเธอ นวดไหล่ของเธอเบาๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์หลับตาอย่างสบาย พลางพูดพึมพำว่า “นายคิดว่ารอให้ถ่ายละครเรื่องนี้จบแล้ว ฉันออกจากวงการบันเทิงดีไหม อยู่บ้านทำกับข้าวถูบ้านให้นาย ให้นายเลี้ยงฉันเป็นยังไง”

ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ดีครับ!”

“ดีอะไร!”

เฉินเฟยเอ๋อร์รีบเอ่ยอย่างแง่งอนทันที “ฉันอยู่บ้านกลายเป็นอีแก่ แล้วนายก็จะไปจีบสาวๆ ข้างนอกใช่ไหม อย่าคิดว่าฉันไม่รู้…”

นี่ไม่มีเหตุผลอย่างสิ้นเชิง!

ลู่เฉินกระอักกระอ่วน แต่เขารู้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ก็แค่ใช้อารมณ์บ้างเป็นบางครั้ง ความไร้เหตุผลเหล่านี้แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น อย่าคิดจริงจัง

ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนรักกันมา เฉินเฟยเอ๋อร์ได้ถอดเสื้อของราชินีออกไปยามเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เผยนิสัยแท้ๆ ของผู้หญิงที่ต้องการความรักออกมาเป็นประจำ อันที่จริงก็เป็นเรื่องสนุกระหว่างคนรักกัน

ด้วยเหตุนี้ลู่เฉินจึงมีประสบการณ์ในการรับมือ ก้มหน้าจูบปากของเฉินเฟยเอ๋อร์ กดทับเธอไว้ใต้ร่าง

ภายในห้องรับแขก บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมา

ทำให้คนรู้สึกถึงเสียงเลือดสูบฉีดขึ้นๆ ลงๆ และไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง อารมณ์เร่าร้อนภายในห้องนอนได้สงบลงอย่างช้าๆ

บนเตียงใหญ่ที่นุ่มสบาย เฉินเฟยเอ๋อร์หลับไปแล้ว ใบหน้ายังเหลือรอยแดงระเรื่อน่าหลงใหล

ลู่เฉินรู้สึกสบายไปทั้งตัวก้มศีรษะจูบใบหน้าของเธอ จากนั้นจึงห่มผ้าห่มปรับอุณหภูมิให้เธออย่างระมัดระวัง ก่อนจะลุกขึ้นออกไปจากห้องนอน

ถึงแม้จะทำรักหลายครั้ง แต่ลู่เฉินในเวลานี้ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย ร่างกายที่แข็งแรงถูกสร้างมาจากการออกกำลังกายระยะยาว ทำให้บางด้านที่ไม่อาจอธิบายได้ของเขามีกำลังเหลือเฟือ ดังนั้นตอนนี้กลับรู้สึกกระฉับกระเฉงเป็นอย่างมาก

ลู่เฉินรีบเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำให้สบายตัว เปลี่ยนใส่เสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งแล้วมาที่ห้องหนังสือ

หลังจากนั่งลง เขายื่นมือเปิดคอมพิวเตอร์ ไม่ช้าก็เลือกไฟล์ที่ตัวเองต้องการออกมาจากฮาร์ดดิสก์

นื่คือไฟล์งานเขียน หัวข้อของไฟล์งานปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ‘มังกรหยก’!

และในโปรแกรมที่ใช้ทำงานเขียนนั้นก็แสดงว่า มีจำนวนเนื้อหาถึงห้าหมื่นคำแล้ว มันเป็นผลงานกำลังภายในเรื่องที่สองที่ลู่เฉินขุดค้นมาจากโลกในความทรงจำต่อจาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เมื่อสองสามเดือนก่อนเริ่มนำมาเขียนซ้ำ จนถึงตอนนี้เสร็จไปแล้วเกือบครึ่ง!

ถึงแม้จะมีความทรงจำที่สมบูรณ์แบบจากโลกความฝัน แต่การนำตัวหนังสือที่สลักฝังอยู่ในหัวออกมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะลู่เฉินที่ปกติแล้วงานยุ่งมาก ไม่อาจเจียดเวลาได้มากพอเพื่อผลงานเรื่องนี้

แต่ ‘มังกรหยก’ สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากจะพูดว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นผลงานทดลองเขียน เช่นนั้น ‘มังกรหยก’ ก็คือผลงานที่เป็นรากฐานอันแท้จริงของโปรเจกต์นิยายกำลังภายในอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงสำคัญยิ่ง

และหลังจากที่เงียบไปนาน ‘อี้จินกู่’ ก็ควรโผล่หน้าอีกครั้ง!

เมื่อคิดได้ดังนี้ ลู่เฉินไม่ได้รีบพิมพ์หนังสือทันที แต่เปิดเบราว์เซอร์ล็อกอินเข้าบล็อกล่างฉาว

คลิกเปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ เขาพิมพ์ชื่อบัญชีและรหัสผ่านที่ใช้น้อยมาก

ไอดีนี้ คือบัญชีสัญลักษณ์ตัววีของ ‘อี้จินกู่’ ซึ่งตอนนี้ถูกแฟนๆ นิยายกำลังภายในมากมายในประเทศมองว่าเป็นไอดอล!

ถึงแม้สัญลักษณ์ตัววีรับรองว่าเป็นบุคคลมีตัวตนจริง แต่งานลงทะเบียนได้กระทำโดยเฉินเฟยมีเดีย บัญชีและรหัสผ่านมีลู่ซีกับลู่เฉินที่รู้กันสองคนเท่านั้น แม้แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ภายในบริษัทก็ไม่มีเก็บเอาไว้

แม้แต่ภายในเฉินเฟยมีเดียเอง ก็มีไม่กี่คนที่รู้ว่า ‘อี้จินกู่’ คือตัวลู่เฉินเอง

สำหรับโลกภายนอก ‘อี้จินกู่’ มีความลึกลับยิ่งกว่า เขาเริ่มมีชื่อเสียงจาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งในปี 2016 ได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

จวบจนวันนี้ ยอดขายเล่มจริงของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ทะลุหนึ่งล้านชุดไปแล้ว ถึงแม้ว่าไม่อาจเทียบเล่มอื่นที่เป็นระดับชั้นนำได้ แต่ในฐานะหนังสือของคนกลุ่มน้อย ความสำเร็จของมันนั้นไม่ต้องสงสัยเลย!

ทว่านักเขียน ‘อี้จินกู่’ ไม่เคยเผยโฉมหน้ามาก่อน ไม่รับการสัมภาษณ์ของนักข่าว และไม่ทำกิจกรรมแจกลายเซ็น ทำให้พวกแฟนหนังสือของเขารู้สึกจนใจที่ไม่ได้เห็นหน้า

ส่วนข่าวลือในอินเทอร์เน็ตที่พูดกันว่า ‘อี้จินกู่’ มีหน้าตาอัปลักษณ์ หลีกเลี่ยงการเปิดเผยเพราะกลัวว่าแฟนคลับจะน้อยลง ดังนั้นถึงจงใจทำตัวลึกลับ

คำพูดที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิงแบบนี้ กลับยังมีตลาดส่วนนี้อยู่

นอกจากนี้ยังมีคนกล่าวว่า ‘อี้จินกู่’ เป็นผู้หญิง เหตุผลก็เพราะการบรรยายเล่งฮู้ชงตัวเอกของเรื่อง กำหนดไปตามความต้องการที่อยากได้แฟนแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่กล้าเปิดเผยหน้าตา เฉกเช่นเดียวกันกลัวว่าจะถูกเปิดโปง

เหตุผลนานาประการทำให้ลู่เฉินหัวเราะคิกคัก แต่ในเมื่อตอนแรกเขาเลือกที่จะไม่เปิดเผย ก็ไม่คิดจะเปิดเผยตอนนี้ ปล่อยให้ความลับนี้ถูกเก็บไว้ต่อไป

ส่วนคนอื่นอยากจะพูดอะไร ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไปเถอะ มีการถกถียงกันไม่ถือว่าเป็นเรื่องแย่

ไม่มีใครถามถึงกลับเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด

และบล็อกของ ‘อี้จินกู่’ กลับเงียบเหงามาก สามารถพูดได้ว่าเงียบเฉียบ สาเหตุนั้นง่ายมาก เพราะบล็อกนี้ไม่ค่อยโพสต์อะไร ตั้งแต่ลงทะเบียนจนถึงตอนนี้เพิ่งโพสต์แค่ห้าข้อความเอง ไม่เงียบคงแปลก!

วันนี้ ลู่เฉินจะใช้โพสต์ที่หกประกาศการกลับมาของ ‘อี้จินกู่’

เข้าสู่ยุทธภพอีกครั้ง!

………………………………………………..